icon member

เสน่ห์นางงิ้ว

ตอนที่ 11

แสงเดือนกับล้วนพาชายฉกรรจ์มาสองคน ล็อกตัวตรึงจิตกับนกขมิ้นฐานหลอกเอาเงินโกหกว่าชยุติอยู่ขอนแก่น ทั้งสองหน้าซีดสัญญาจะหาเงินมาคืน แสงเดือนปัดเศษเงินแค่นั้นขนหน้าแข้งตนไม่ร่วง ทั้งสองต้องทำงานให้พวกตน แล้วยังจะได้เงินเพิ่มอีก ตรึงจิตตาโต

พอตรึงจิตกับนกขมิ้นรู้จุดประสงค์ก็กลับมานั่งปรึกษากัน นกขมิ้นไม่อยากทำแต่ตรึงจิตจะทำเพราะต้องการเงิน นกขมิ้นคิดว่าทำแบบนี้รุนแรงเกินไปที่จะให้ไปฉุดบัวมาให้คนข่มขืน ตรึงจิตปะเหลาะว่าถ้าไม่ทำพวกเราก็จะโดนซ้อมจนตาย

“แต่พี่ว่ามันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเกินไปนะ อีกอย่างถ้าป๊ารู้ ป๊าไม่ยอมให้อภัยพวกเราแน่”

“พี่จะไปอะไรกับป๊านักหนา ทำอย่างกับป๊าสนใจเรานักนี่ คนที่ป๊ารักน่ะอีไหมโน่น ส่วนเราน่ะก็แค่หมา ไม่มีราคาอะไรสำหรับป๊าหรอก”

“น้องตรึง พี่ไม่เคยขัดใจน้องตรึงเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้พี่นกขมิ้นคนนี้ขอค้านหัวชนฝา ยังไงพี่ก็ไม่เอาด้วย”

ตรึงจิตร้อนใจบอกเรารับปากเขาไปแล้ว นกขมิ้นเสนอว่ารับปากก็ไม่จำเป็นต้องทำ โยนให้คนอื่นทำแทน ตรึงจิตฉงนหมายถึงใคร...สุดท้ายตรึงจิตก็มากล่อมธานีให้ทำแทน เขาจะได้ได้ตัวบัวอย่างที่เคยหวัง ขวดยุแยงจนธานีฮึกเหิมตัดสินใจทำ

วันต่อมา ธานีกับขวดมาหาแสงจันทร์กับล้วนที่บ้าน สองสามีภรรยามองธานีเหยียดๆว่าแค่เดินไปตลาดก็เหนื่อยแล้วจะฉุดบัวไหวหรือ ขวดช่วยพูดจนทั้งสองยอมเชื่อว่าทำได้ ล้วนจึงจ่ายเงินมัดจำให้ครึ่งหนึ่งก่อน อ้างว่าผู้ว่าจ้างให้มาแค่นี้ ธานีแปลกใจถามใครเป็นคนจ้าง

“ยัยคุณนายวลีต่างหาก เขาอยากกำจัดลูกสะใภ้ตัวเองจะตาย พวกเราก็แค่ช่วยรับหน้าที่หาคนให้แค่นั้นแหละ” แสงเดือนโบ้ยความผิดให้วลีเต็มเปา

ระหว่างที่แผนร้ายดำเนินไป ชยุติตรวจเอกสารพบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปมากทำให้เพิ่มกำลังผลิตไม่ได้ ไชโยรับว่าเอาเงินไปลงทุนกับแสงเดือน ชยุติท้วงทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ใจหรือรอให้ธนาคารอนุมัติโครงการก่อน ไชโยหาว่าชยุติไม่ไว้ใจครอบครัวนั้น

“การตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ไว้ใจเขานะครับ แล้วยิ่งถ้าเขาเครดิตดีอย่างที่ป๊าว่าจริง เขาก็ยิ่งต้องไม่กลัวการตรวจสอบ จริงไหมครับ”...ไชโยฉุกคิดตาม

ในขณะที่วลัยนั่งเศร้าคิดถึงมาลัยจับใจ กนกวิภากำลังจะออกไปข้างนอก วลีบ่นออกไปไหนได้ทุกวัน เธอประชดว่าไม่ต้องสนใจเพราะตนเป็นลูกสาวที่ไม่น่าห่วง วลีหน่ายใจหันมาเห็นน้องสาวนั่งซึมก็เอ่ยถามคิดว่าแปลกไหม วลัยบอกไม่มีความเห็น วลีหมั่นไส้รู้ว่าอยากไปเยี่ยมอาม้า จึงมีข้อแม้ต้องทำงานแลกเปลี่ยน

วลัยเดินบ่นมากับจี๊ด ทำไมวลีต้องให้ตามดูกนกวิภาด้วย หลานจะไปช็อปปิ้งหาเพื่อนก็เรื่องของหลาน ไม่ทันขาดคำ วลัยกับจี๊ดก็ตะลึงเมื่อเห็นกนกวิภาหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับดำเกิง ช่วยกันจัดร้านขายบะหมี่ดูมีความสุขราวคู่รักกัน

ooooooo

วลัยกลับมารายงานวลีว่ากนกวิภาไปช่วยดำเกิงขายบะหมี่ วลีเข่นเขี้ยวเจ็บใจหาว่าพวกงิ้วคิดจองเวรลูกตนทั้งพี่ทั้งน้อง จะไม่มีวันยอม

บัวเห็นวลัยนั่งมองผักที่มาลัยปลูกเศร้าๆก็เข้ามาคุยด้วยอย่างห่วงใย จะจัดอาหารเย็นมาให้กลัวว่าเจ็บไข้ วลัยเริ่มเห็นความหวังดีของบัวก็หลุดคำว่าขอบใจออกมา...วลัยคิดถึงเมื่อกลางวันที่ไปเยี่ยมมาลัย ตัวเธอกอดแม่ร้องไห้อย่างรู้สึกผิด มาลัยกลับปลอบใจ

“สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ ดีหรือชั่วอยู่ที่เราเลือกคนเราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรไม่ดี เพราะฉะนั้นอะไรที่เราเลือกแล้วทำให้เราเป็นทุกข์ เราก็ควรจะปล่อยมันซะ”

วลัยทวนคำของมาลัยแล้วตัดสินใจ อะไรที่เราเลือกแล้วทุกข์ ก็ควรปล่อยมันเสีย...เช้าวันใหม่ บัวเดินออกมาส่งชยุติที่รถ เขาโอบกอดแล้วขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ เธอตีแขนเขากลัวคนมาเห็น เขาโอดครวญว่า เรามีเวลาอยู่กันตามลำพังก็ตอนนี้ กลางคืนเธอก็ต้องไปนวดให้อาม้า วลียืนมองอยู่มุมหนึ่งด้วยความไม่พอใจ รีบเข้ามาขัดจังหวะ ทำทีเข้ามาบ่นว่า

“แหม ม้ายืมตัวหนูบัวมาแค่คืนสองคืน ทำเป็นน้อยใจนะตาติ...คืนนี้ม้ายอมเมื่อยก็ได้ หนูบัวไม่ต้องมาปรนนิบัติม้าแล้วดีไหมตาติ”

ชยุติรับว่าดี บัวขัดว่าไม่ดีเพราะตนมีหน้าที่ดูแลอาม้า เขาจำต้องยอมบอกวลีว่าให้ยืมตัวบัวได้จนกว่าจะพอใจ แล้วหันมากระซิบบัวว่าหาเวลานวดตนบ้าง บัวยิ้มขำ

วลีหมั่นไส้เร่งให้รีบไปทำงาน และบอกเมื่อคืนเห็นสีหน้าไชโยเครียดไม่รู้ว่าเป็นอะไร ชยุติรับคำขึ้นรถขับออกไป

วลีหันมาบอกบัวว่าวันนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวัน เพราะตนจะออกไปข้างนอกกับกนกวิภา บัวจึงขอกลับไปเยี่ยมบ้าน วลีพยักหน้ายิ้มเหยียด ในใจคิดว่าจะสลัดเธอให้หลุดให้ได้

ชยุติมาถึงโรงงานเข้ามาในห้องทำงาน เห็นไชโยหน้าเครียดก็ถามว่าโรงงานมีปัญหาหรือ ไชโยส่ายหน้าบอกที่คุยกันเมื่อวาน ตนโทร.ไปถามธนาคาร เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีการขอสินเชื่อจากโครงการอะไรทั้งนั้นของล้วน และถ้ามีการยื่นขอก็ไม่อนุมัติ เพราะเครดิตล้วนแย่จนถูกขึ้นบัญชีดำไว้...ไชโยเครียดที่เสียเงินให้ล้วนไปสามก้อนเป็นเงินหลายล้าน ชยุติปลอบว่าตีโพยตีพายไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเขาไหวตัวทันจะหนีไปเสียก่อน เราต้องสืบให้ได้หลักฐาน

ในขณะที่กนกวิภานั่งบ่นในร้านอาหารว่าวลีนัดไปช็อปปิ้งก็เบี้ยวแล้วยังนัดให้มารอที่ร้านอาหาร จะเบี้ยวอีกหรือไม่ จังหวะนั้น ฮั้ว...หนุ่มหน้าตี๋เข้ามานั่งตรงข้าม กนกวิภางงถามเขาเป็นใคร ฮั้วยิ้มตาหยีตอบเล่นลิ้นเป็นคนที่เธอก็รู้ว่าใคร ก่อนจะแนะนำตัวเป็นทางการ

“ผมฮั้ว หลีฮวด ลูกชายเจ้าของโรงงานเกลือสมุทรฮวดหลี...”

“คุณพูดอะไร ฉันว่า...ฉันไม่รู้จักคุณ เราไม่เคยรู้จักกัน”

ฮั้วอ้างว่ากนกวิภายอมมากินข้าวด้วย กนกวิภาสวนว่าตนนัดกับอาม้า ฮั้วเอ่ยชื่อวลีและย้ำ

“คุณอาวลีเป็นคนนัดผมให้มากินข้าวกับคุณวันนี้ ...หมายความให้ง่ายกว่านั้นก็คือ คุณอาวลีนัดให้ผมมาดูตัวคุณ นัดเรามาดูตัวกันไงครับ”

กนกวิภาอึ้ง พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว...ขณะเดียวกัน ชยุติพาบัวมาหาดำเกิง เห็นใจลอยจนทำน้ำซุปลวกมือตัวเอง บัวแซวใจลอยไปถึงไหน ดำเกิงเป่ามือแล้วถามมากันได้อย่างไร ชยุติบอกว่าอยากพาเมียมากินบะหมี่ที่อร่อยที่สุดในย่านนี้ ดำเกิงทำหน้าหมั่นไส้ประชด

“ทีหลังว่างๆก็วานแกมาช่วยฉันต้มน้ำซุปทีนะไอ้ตี๋...น้ำซุปจะได้หวานแบบไม่ต้องใส่กระดูกหมูลงไปต้มเลยไง หมั่นไส้”

บัวเอ็ดว่าพูดมากให้รีบทำบะหมี่มาให้กินเร็วๆ ดำเกิงชะเง้อมองไปรอบๆ บัวรู้ทันบอกตนมากันสองคน เสร็จแล้วจะซื้อไปฝากคนที่เขามองหา ดำเกิงยิ้มเขินที่บัวรู้ทัน ชยุติบอกกนกวิภาออกไปกับอาม้า คงไปช็อปปิ้งตามประสา บัวแอบยิ้มอย่างรู้ใจว่าดำเกิงชอบกนกวิภาแน่

ด้านกนกวิภากลับมาโวยวายต่อว่าวลีที่คิดจับคู่ตน วลีจึงบอกว่าต้องการให้ได้ผัวดีๆ ไม่ใช่พ่อค้าบะหมี่กระจอกๆ กนกวิภาสะอึกที่อาม้ารู้ แต่ก็ยืนกรานว่าตนจะแต่งงานกับผู้ชายที่ตนเลือกเท่านั้น วลีเจ็บใจเรียกวลัยไปสั่งการ วลัยแปลกใจมีอะไรจะให้ทำอีก

ชูดวงกำลังทำสวนอยู่ เห็นวลีกับวลัยเดินออกมาคุยกันที่ศาลา วลีเอ่ยปากบอกมีเรื่องให้ช่วย วลัยดักคอว่าถ้าเป็นเรื่องจับคู่กนกวิภา ตนไม่ขอยุ่งด้วย วลีกราดเกรี้ยวตนสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ วลัยพยายามเตือนสติพี่สาว

“น้องกำลังรู้สึกผิด น้องรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาทั้งหมดมันผิด ผิดมาก เราเลิกล้มยังทันนะคะคุณพี่ เราหยุดมันได้...”

“หุบปาก! ฉันไม่มีวันหยุด ถ้าฉันยังไม่ได้สิ่งที่ฉันต้องการ”

“แม้ว่ามันจะต้องทำร้ายความรู้สึกของลูกหลาน หรือแม้กระทั่งอาม้าของเราเหรอคะ...ตาติต้องระเห็จออกจากบ้าน อาม้าก็ถูกส่งไปอยู่บ้านพักคนชรา คุณพี่ยังมีสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่รึเปล่าคะ” ขาดคำวลัยก็หน้าชาจากการฟาดฝ่ามือผัวะลงมาของวลีพี่สาวฝาแฝด

“ถึงเราจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ฉันเป็นพี่ แกเป็นน้อง แกไม่มีสิทธิ์มาด่าฉัน แกอย่าลืมสิวลัย ทุกวันนี้แกพึ่งพาฉันทุกอย่าง ทั้งกินทั้งอยู่ ทั้งเงินเดือน แกเคยทำอะไร สร้างอะไรให้เกียรติกำจรบ้าง เพราะฉะนั้น ฉันสั่งให้ทำอะไรแกก็ต้องทำ!”

วลัยถามอย่างเจ็บปวดว่าถ้าไม่ทำ วลีสวนทันควันว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก วลัยรวบรวมความกล้าพูดออกมาว่าตนจะทำตามคำสั่ง จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าอีก วลีอึ้งไม่คิดว่าน้องสาวที่ไม่เอาไหนจะกล้าตัดสินใจแบบนี้...

ชูดวงหน้าเหวอเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

ooooooo

เย็นวันนั้นวลัยหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านอย่างเด็ดเดี่ยว จี๊ดกับจ๊าดพยายามห้ามก็ไม่เป็นผล วลัยมาหามาลัยที่บ้านพักคนชรา โผซบตักร้องไห้ มาลัยพอจะเดาออกว่าทะเลาะกับพี่สาวมา

ชยุติกับบัวถือถุงบะหมี่กลับเข้าบ้าน แปลกใจที่บ้านเงียบ วลียิ้มแย้มเข้ามาบอกว่าวลัยออกไปสมาคมกับเพื่อน กนกวิภาอิ่มข้าวกลางวันจึงไม่ลงมากินข้าวเย็น ชยุติบ่นเสียดายที่ไม่มีใครอยู่กินบะหมี่ที่อร่อยที่สุด

บัวจะเอาไปเก็บใส่ตู้เย็น ไว้อุ่นทานมื้ออื่น วลีเจ็บใจลืมตัวกระชากถุงบะหมี่จากมือบัวมาอย่างแรง พอรู้ตัวก็ทำทีบอกว่าให้จ๊าดเอาไปเก็บไม่ใช่หน้าที่บัว แล้วถามถึงไชโย ชยุติบอกว่าป๊าคุยอยู่กับลูกค้า น่าจะกำลังกลับ วลีฝืนยิ้ม

“ดีจ้ะ กลับกันมาพร้อมหน้าเมื่อไหร่ ม้าจะได้ปรึกษาเรื่องงานทีเดียว”

ชยุติสบตาบัวอย่างอยากรู้ว่างานอะไร...ผ่านการสนทนาแล้ว ชยุตินั่งมองบัวที่กำลังจัดที่นอน ไม่อยากเชื่อว่าวลีจะจัดงานเลี้ยงฉลองรับขวัญบัว บัวเองก็ไม่อยากให้สิ้นเปลือง ชยุติส่ายหน้าบอกตนคิดว่าอาม้าไม่เคยลงทุนอะไรโดยไม่หวังผล บัวติงอย่ามองแง่ร้าย ท่านอาจจะเห็นเป็นความสุขของเขาก็ได้ ชยุติฉวยโอกาสกอดบัวบอกความสุขของเราต่างหาก บัวเอ็ดว่าเขาฉวยโอกาสชยุติแกล้งเปรยว่าไม่ให้กอดเมียก็จะได้ไปกอดผู้หญิงอื่น บัวเผลอเหวี่ยงด้วยความหึง

“คุณกำลังหึงผม...” บัวปฏิเสธ เขาอ้อน “หึงหน่อยเถอะนะ ผมชอบ...”

บัวชะงักสบตาชยุติที่จ้องลึกเข้ามาในดวงตา เขากระซิบแปลกใจที่วันนี้วลีไม่มาตามบัว บัวนึกได้จะไปถาม ชยุติรีบดึงเธอมากอดไม่ให้ไป แล้วอาศัยทีเผลอจูบประกบปากเธอนิ่งนาน

บัวตีแขนเขาต่อว่า “คุณนี่มันเจ้าเล่ห์ คอยจะเอาเปรียบฉันอยู่เรื่อย ฉันไม่ยอมให้คุณนอนกอดฉันแล้วคืนนี้”

“ถ้าไม่ให้กอด ผมจะจูบคุณอีกนะ”

บัววิ่งหนี ชยุติวิ่งไล่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ทำให้วลีซึ่งแอบฟังอยู่ที่หน้าห้องเข่นเขี้ยว...คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่บัวจะได้เริงร่าอยู่ที่นี่

วลีกลับมาที่ห้อง เห็นไชโยนั่งหน้าเครียด เขาเอ่ยถามจะจัดฉลองทำไม มีอะไรแอบแฝง วลียอมรับว่ามีเซอร์ไพรส์รออยู่ แต่ไม่บอกว่าอะไร ไชโยจึงถามทำไมต้องเชิญครอบครัวยิ่งจันทร์ วลียิ้มกริ่ม ไชโยอึดอัดใจอยากจะบอกเรื่องราวแต่คิดว่ารอหลักฐานก่อน


เสน่ห์นางงิ้ว

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด