ตอนที่ 1
นวลวิ่งกลับไปเจอจักรที่มาด้วยกัน เธอจับต้นชนปลายไม่ถูกกับเรื่องที่พบเจอจนไม่รู้จะเล่าอย่างไรให้จักรฟัง ได้แต่ตามเขากลับไปที่บ้านเช่า
ส่วนเกรียงไกรที่กลับถึงบ้านพร้อมสวาทก็ตั้งท่าจะเอาผิดลูกสาวที่ขัดคำสั่ง แต่กลายเป็นภุมวารีหัวไวแต่งเรื่องหลอกได้แนบเนียนโดยขู่บังคับคนรับใช้ในบ้านให้เป็นพยานว่าตนอยู่บ้านทั้งวัน หัดทำขนมกับยายเฟื้อ งานนี้สวาทเลยตกที่นั่งปั้นน้ำเป็นตัว
หลังจากเกรียงไกรกลับไปทำงานแล้ว สวาทยังไม่ยุติเรื่องนี้ ไล่บี้เอากับคนรับใช้ที่รวมหัวกับภุมวารีโกหกเกรียงไกร...ในเมื่อสวาทไม่ยอมจบ ภุมวารีจึงไม่จำเป็น ต้องทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมเหมือนอยู่ต่อหน้าพ่อ เธอเล่นงานสวาทจนเกือบตกบันได แถมยังขู่ว่าคราวหน้าจะไม่ปรานีอย่างนี้อีก
ด้านชายใหญ่ที่ยังกลับไม่ถึงวังเทวฉัตร แต่มีแขกสาวสวยขับรถคันใหญ่โก้หรูเข้ามาในเขตวัง เธอคือดาริกาเพื่อนสนิทของหญิงเล็ก เป็นลูกสาวเจ้าสัวฐานะร่ำรวยเลยได้ไปเรียนปีนังตั้งแต่เด็ก จึงกลายเป็นหญิงสาวเปรี้ยว มั่นใจในตัวเองสูง มีความกล้าเกินผู้หญิงไทยทั่วไป ทะเยอทะยาน ชอบเอาชนะ ต้องการแต่งงานกับชายใหญ่เพราะอยากยกระดับตัวเองให้เป็นชนชั้นสูง
ขิมสาวใช้คนสนิทของหญิงเล็กต้อนรับดาริกาแต่ไม่ทันบอกว่าชายใหญ่ไม่อยู่ หญิงสาวเดินลิ่วไปที่สนาม ทึกทักชายคนหนึ่งเป็นชายใหญ่ ที่แท้เขาคือภัทรยศ เพื่อนรุ่นน้องของชายใหญ่ที่เนื้อหอมในวงสังคม ครอบครัวทำกิจการหลายอย่างล้วนแต่เกี่ยวกับความบันเทิง ทำให้เขาเป็นคนรักสนุก อารมณ์ดี ปากหวาน เจ้าชู้ ชอบผูกมิตร
การพบกันครั้งแรกระหว่างดาริกากับภัทรยศเกิดความเข้าใจผิดโดยฝ่ายหญิงเอง แต่ภัทรยศก็สวมรอยเป็นชายใหญ่หน้าตาเฉย แกล้งเธออยู่นานกว่าชายใหญ่กับหญิงเล็กจะมาเจอ ดาริกาเคืองภัทรยศมาก ก่อนจะกลับออกจากวังเธอเลยเอาคืนเขาอย่างสาสม...
ตกเย็นเกรียงไกรกลับจากทำงาน สวาทยังพยายามชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้โกหก ลูกสาวของเขารวมหัวกับบ่าวปิดบังความจริง
“นี่เธอคิดว่าฉันไม่รู้จักลูกตัวเองหรือไง ก็รู้อยู่แล้วว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ยายผึ้งก็ไม่มีวันจะยอมรับ”
“แล้วคุณจะไม่ทำอะไรเลยเหรอคะ จะปล่อยให้คุณผึ้งเตลิดไปกับผู้ชายที่มีแต่ตัวอย่างนั้น อีกหน่อยก็คงมารุมกันผลาญสมบัติเรา...เอ่อ...สมบัติคุณจนหมดเกลี้ยงแน่ๆ”
เกรียงไกรฟังแล้วหนักใจ เวลาเดียวกันตัวก่อเรื่องอยู่ในห้องกับสาวใช้ ภุมวารีตวาดเอื้อยเสียงเขียวเมื่อได้ยินคำว่ากลัวหลุดจากปาก
“แกกลัวนังสวาทมากกว่าฉันหรือไง”
“พวกเรากลัวคุณเกรียงไกรต่างหากค่ะ ถึงเธอรู้ว่าคุณผึ้งโกหก เธอก็ไม่ทำอะไรคุณผึ้งหรอกค่ะ แต่พวกบ่าวไพร่ในบ้านโดนกันเรียงตัวแน่ๆ แล้วถ้าวันดีคืนดีคุณเกรียงไกรสะกดรอยตามไปเห็นคุณผึ้งจริงๆ จะอ้างยังไง คุณผึ้งก็ไม่มีฝาแฝดซักหน่อย”
ภุมวารีนึกถึงผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนตนมาก ถามเอื้อยว่าตนมีฝาแฝดหรือเปล่า เอื้อยพูดขำๆว่าจะมีได้ยังไงในเมื่อคุณผึ้งเป็นลูกคนเดียว
“ถ้างั้นผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ภุมวารีรำพึงเสียงแผ่ว...
เวลานั้นเอง นวลกับจักรกำลังสำรวจสภาพแวดล้อมบริเวณที่อยู่ใหม่ จักรเลือกบ้านเช่าแถวตลาดเพราะจะได้หางานทำเพื่อเลี้ยงตัวเองและนวล
ห่างออกไปเล็กน้อยมีชายฉกรรจ์กำลังชกต่อยกัน จักรจับตามองอยู่พักหนึ่งก่อนจะโดดเข้าช่วยเมื่อเห็นชายสองคนโดนคนกลุ่มหนึ่งรุมยำ ส่วนนวลก็ร้องเรียกตำรวจว่ามีคนถูกทำร้าย นักเลงกลุ่มนั้นเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีไปโดยมีตำรวจไล่กวด
ชายสองคนที่โดนรุมทำร้ายคือชาติกับมิ่ง เป็นบริวารคนสนิทของเสือเมฆ พวกเขาขอบใจชายหนุ่มกับหญิงสาวและเข้าใจว่าเป็นผัวเมียกัน นวลทำท่าจะปฏิเสธแต่จักรชิงพูดเสียก่อน
“เมียฉันชื่อนวล ตัวฉันชื่อจักร เราอพยพมาจากสุพรรณ ตั้งใจจะมาทำมาหากินแถวนี้”
“เอ็งสองคนเป็นคนดี ข้าขออวยพรให้เจริญๆ ส่วนน้ำใจในครั้งนี้เราสองคนจะไม่มีวันลืม ถ้ามีอะไรที่พวกเราจะตอบแทนได้ก็บอก” ชาติพูดยิ้มแย้ม จักรกับนวลยิ้มตอบอย่างถูกชะตา