ตอนที่ 1
ณ ชุมชนต่างจังหวัดห่างไกลความเจริญ...ท้องฟ้ายามโพล้เพล้ครึ้มฝนเป็นเงาทะมึน ลมกระโชกรุนแรงน่ากลัว พัดลู่ต้นไม้ใบหญ้า ทันใดนั้นเสียงหวีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นแข่งกับเสียงฟ้าร้อง
ภายในบ้านไม้สภาพกลางเก่ากลางใหม่ เทพ... นักเลงโต ลูกชายของกำนัลประจำหมู่บ้านกำลังยื้อยุดฉุดกระชากนวล โดยมีจันคอยห้ามปราม
นวลเนื้อทอง...หญิงสาวลูกชาวนายากจนอาศัยอยู่กับแม่จันและจักร ชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนพี่ชายบุญธรรม นวลมีนิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อยอ่อนโยน ไม่มีปากมีเสียง อดทน เจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว สู้ชีวิต ขยันขันแข็ง
เทพพึงพอใจนวลมานานและอยากได้เธอเป็นเมีย แต่หญิงสาวไม่เล่นด้วย เย็นย่ำใกล้ค่ำวันนี้เทพจึงบุกมาพร้อมลูกน้องเพื่อฉุดนวลโดยอ้างว่าเอาไปขัดดอกเพราะจันไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่นาให้พ่อของตน
นวลดิ้นรนไม่ยินยอม ขณะที่จันผู้เป็นแม่ก็ไม่ยอมเช่นกัน จันใช้เคียวเกี่ยวข้าวเป็นอาวุธช่วยเหลือลูกสาวจากเงื้อมมือเทพ แต่โดนเทพผลักจนเคียวสะบัดย้อนเข้าฟันคอจันเลือดสาดล้มลงแน่นิ่งดวงตาเบิกโพลง!
เทพไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องพานวลไปให้ได้ เขาชกท้องเธออย่างแรงจนสลบแล้วแบกร่างออกมาจากบ้าน ลูกน้องสี่คนวิ่งกรูจากใต้ถุนถามลูกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“นังจันมันตายแล้ว พวกเอ็งจุดไฟเผาเรือนนี้ให้วอด”
“แต่ฝนจะตกนะพี่”
“ชาวบ้านมันจะได้คิดว่าฟ้าผ่าไงล่ะวะ ส่วนนังนวล ข้าจะพาไปเข้าหอ” เทพแสยะยิ้มแล้วแบกนวลออกไป ลูกน้องรีบกระจายตัวก่อไฟตามมุมต่างๆ
เทพแบกนวลเข้ามาในป่า ฟ้าร้องครืนๆเป็นระยะก่อนที่ฝนจะเทลงมาจนนวลรู้สึกตัวเพราะสายฝนกระทบร่างกาย หญิงสาวดิ้นรนขัดขืนและทุบตีชายโฉดที่พยายามปลุกปล้ำเธอ
“อยู่เฉยๆสิโว้ย...ข้าจะพาไปห้องหอนอนเตียงนุ่มๆ สะอาดๆ แต่เอ็งคงจะชอบตรงนี้มากกว่าสินะนังนวล”
นวลกรีดร้องหวาดกลัวสุดชีวิต ฉับพลันมือใครคนหนึ่งกระชากไหล่เทพแล้วซัดเปรี้ยงเข้าหน้าเต็มๆ
จักรนั่นเอง! ชายหนุ่มพเนจร เป็นเด็กกำพร้าเร่ร่อนจนได้มาอาศัยอยู่กับนวลและจัน จักรผูกพันจนหลงรักนวลยิ่งกว่าพี่ชายน้องสาว มีนิสัยซื่อตรง รักความถูกต้อง อ่อนน้อม จริงใจ กล้าหาญ ขยันขันแข็ง ทุ่มเททุกอย่างได้เพื่อความรัก
แน่นอนว่าเมื่อโดนจักรเข้ามาขัดขวาง เทพไม่พอใจอย่างมาก พยายามเอาชีวิตจักรด้วยมีดคมกริบ แต่แล้วเทพเองที่ต้องตายเพราะฟ้าผ่ามีดในมือ เมื่อลูกน้องวิ่งมาเห็นสภาพลูกพี่ก็ตกใจและไล่ล่าตามฆ่าจักรกับนวล
นวลเป็นห่วงแม่รีบวิ่งนำหน้าจักรกลับมาที่บ้านโดยมีลูกน้องของเทพไล่ตามไม่ลดละ เมื่อพบว่าจันตายแล้วจักรบอกนวลว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว พวกเทพมีอิทธิพลมันต้องฆ่าเราแน่
จักรพานวลวิ่งหนีคมกระสุนไปบนสะพานข้ามแม่น้ำแล้วตัดสินใจดึงแขนนวลกระโดดพุ่งตัวลงน้ำจมดิ่งหายไป ดีกว่าอยู่ให้ลูกน้องของเทพกับตำรวจที่กำลังกรูกันมาจับตัวได้
ooooooo
คืนเดียวกันที่โรงเรียนเบญจกัลยาณี โรงเรียนสตรีมีชื่อในพระนคร ภายในหอประชุมคลาคล่ำด้วยผู้ปกครองและศิษย์เก่าที่มาชมการแสดงของบุตรหลาน
เอื้อย...สาวใช้คนสนิทของภุมวารีกำลังร้อนรนกระวนกระวายตามหานายสาวเพราะใกล้ถึงเวลาขึ้นแสดงบนเวที แต่ภุมวารีกลับไม่ใส่ใจ ดอดไปนั่งพลอดรักกับภาสกรในมุมลับตาหลังหอประชุม
เสียงเรียกของเอื้อยทำให้ภุมวารีหงุดหงิดหันขวับมาจ้องสาวใช้ตาขุ่นขวาง...ใบหน้าภุมวารีเหมือนนวลราวคนเดียวกัน!
ภุมวารีหรือผึ้งเป็นลูกสาวของเกรียงไกร เศรษฐีใหญ่เมืองนครปฐม มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เจ้าอารมณ์ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ก้าวร้าวไม่ยอมลงให้ใคร ทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ เป็นเด็กขาดความอบอุ่นจึงบูชาความรัก รักแรงเกลียดแรง
ส่วนภาสกรคู่รักของภุมวารีมีเชื้อสายหม่อมหลวงราชสกุลอภัยรัตน์ แต่เป็นราชนิกุลตกอับต้องปากกัดตีนถีบทำงานหนักเพื่อเลี้ยงตัวเองกับน้องชายที่ป่วยด้วย
โรคภูมิคุ้มกันเป็นพิษ ภาสกรรักภุมวารีเพราะหวังทรัพย์สินเงินทอง แม้จะรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ก็แพ้ให้แก่ความโลภเพราะเป็นคนจิตใจอ่อนแอ โลเลไม่หนักแน่น
ภุมวารีไม่อยากแสดงเต้นรำบนเวทีเพราะพ่อของเธอติดธุระไม่มาดู แต่พอภาสกรบอกว่าอยากดูเธอจึงเปลี่ยนใจให้เอื้อยไปเตรียมชุดและรองเท้า
เอื้อยกรีดร้องเพราะโดนเศษแก้วในรองเท้า
ภุมวารีบาดนิ้วมือ ภุมวารีรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร จึงแก้แค้นเอาคืนผู้กระทำให้อับอายขายหน้าด้วยการแอบเลาะตะเข็บชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่แสดงบนเวที
หญิงเล็ก หรือหม่อมราชวงศ์ภรณ์ภิรมย์ ธิดาองค์เล็กของหม่อมเจ้าภานุดิษฐ์ เจ้าของวังเทวฉัตรเธอคือผู้บงการให้ขิมสาวใช้นำเศษแก้วใส่ในรองเท้าของภุมวารี... หญิงเล็กกับภุมวารีเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่เล็กจนโต ต่างคนต่างแรงไม่ยอมแพ้กัน
หญิงเล็กมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ ขี้อิจฉา ไม่ชอบให้ใครเด่นกว่า เย่อหยิ่งถือตัวกับคนที่มีฐานะต่ำกว่า เกลียดภุมวารีเพราะอิจฉาที่อีกฝ่ายร่ำรวยจนข่มบารมีของตน
เมื่อภุมวารีแสดงเต้นรำราบรื่น แต่ถึงคิวของหญิงเล็กกลับเสื้อผ้าขาดหลุดบนเวทีเป็นที่อับอาย แน่นอนว่าหญิงเล็กไม่ปล่อยผ่าน สองสาวตบตีกันโดยมีสาวใช้ของแต่ละคนร่วมวง เสียงเอะอะหลังหอประชุมทำให้ครูและนักเรียนวิ่งออกไปดู รวมทั้งท่านชายภานุดิษฐ์ท่านพ่อของหญิงเล็กด้วย
“หญิงเล็ก! หยุดนะ! ทำไมถึงได้ทำกิริยาต่ำทรามขนาดนี้”
“ก็นังผึ้งมันทำหญิง มันฉีกเสื้อผ้าหญิง ให้หญิงอับอายบนเวที”
“บอกท่านพ่อของเธอด้วยสิว่าเพราะเธอเอาเศษแก้วไปซ่อนไว้ในรองเท้าฉัน”
ทุกคนตกตะลึง เอื้อยรีบยกมือที่พันแผลขึ้นยืนยันว่าหญิงเล็กทำจริง ท่านชายภานุดิษฐ์ถามลูกสาวว่าจริงหรือเปล่า หญิงเล็กหน้าเสียแต่พยายามแถ
“แต่ก็ไม่เป็นอะไร ขณะที่ฉันต้องขายหน้าเพราะแก นังบ้า”
หญิงเล็กจะเข้าไปตบภุมวารีอีก แต่ท่านชายกระชากไว้ ตวาดเสียงขุ่น
“พอได้แล้วภรณ์ภิรมย์ เธอก็กำลังทำให้พ่อขายหน้าเหมือนกัน กลับบ้าน!”
ท่านชายดึงแขนหญิงเล็กออกไปโดยมีขิมก้าวตาม ภุมวารีมองตามทั้งสามด้วยสีหน้าทั้งสะใจและชิงชัง เอื้อยจัดแจงเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าตาให้นายสาว พลางบ่นกระปอดกระแปดถึงหญิงเล็กว่า
“คุณหญิงเล็กก็เหลือเกิน ไม่ถูกกันก็น่าจะอยู่ห่างๆ นี่คอยหาเรื่องคุณผึ้งอยู่ได้”
“มันอิจฉาที่ฉันสวยกว่า เด่นกว่า แถมพ่อฉันก็รวยกว่าพ่อมัน”
“ไม่เอาค่ะคุณผึ้ง ยังไงท่านชายก็ทรงเป็นเพื่อนของคุณผู้ชายนะคะ ถ้าท่านมาได้ยินเข้าเดี๋ยวจะไม่พอใจ”
“ก็แล้วพ่อฉันมาไหมล่ะ”
ภุมวารีสะบัดหน้าหนีอย่างรำคาญใจ เมื่อเหลือบเห็นภาสกรตรงหน้าต่างก็ไล่เอื้อยกลับไปก่อน
“แล้วคุณผึ้งจะไปไหนคะ”
หญิงสาวชักสีหน้า เดินฉับๆออกไปโดยไม่สนใจจะตอบคำถามของเอื้อย
ooooooo
ท่านชายภานุดิษฐ์พาหญิงเล็กกลับวังเทวฉัตรแล้วตำหนิติเตียนการกระทำของลูกสาวอย่างไม่พอใจ
“หนูผึ้งเขาทำอะไรให้หญิงนักหนา ถึงกับต้องวางแผนให้เขาบาดเจ็บอย่างนั้น”
“มันถือตัวว่าเป็นลูกสาวเศรษฐี ชอบวางท่าใหญ่โตโอ่อ่า ทั้งที่มันควรจะเคารพหญิงเพราะหญิงเป็นเจ้าเป็นนาย แต่มันก็ไม่ทำ หญิงเกลียดมัน”
“พ่อไม่เคยเลี้ยงลูกให้ทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง
คุณเกรียงไกรก็เป็นเพื่อนของพ่อ แต่พ่อก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าเขา”
“ท่านพ่อจะทรงนับเจ้าหนี้เป็นเพื่อนก็เชิญเถอะค่ะ แต่หญิงไม่นับ”
“หญิงเล็ก!”
“หญิงพูดไม่ถูกหรือคะ เพราะท่านพ่อทรงหยิบยืมเงินจากพวกมัน นังผึ้งถึงได้ผยองกับหญิง ส่วนนายเกรียงไกรนั่นก็ได้ทีตีเสมอท่านพ่อ”
“แต่ถ้าพ่อไม่ทำ เราจะมีหน้ามีตา มีวังให้อยู่ถึงทุกวันนี้ไหม”
หญิงเล็กหงุดหงิดแต่เถียงไม่ออก จังหวะนี้ชายใหญ่ส่งเสียงเข้ามาจนสองคนพ่อลูกตกใจ
“แสดงว่าที่คนซุบซิบกันเป็นเรื่องจริง”
ชายใหญ่ ม.ร.ว.ภักดีนภดล โอรสคนโตของท่านชายถูกส่งไปเรียนต่างประเทศแต่เลือกกลับเมืองไทยเมื่อรู้ว่าครอบครัวเป็นหนี้ เป็นคนมีความรับผิดชอบ ยอมเสียสละเพื่อครอบครัว มีความเป็นผู้นำ จริงจังกับชีวิต บางครั้งดูเข้มงวดแต่ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ ปากแข็งใจอ่อน รักศักดิ์ศรี เกลียดการถูกดูหมิ่น เชื่อมั่นในตัวเองสูง
ชายใหญ่นั่งหน้าเครียดคุยกับท่านพ่อ โดยมีหญิงเล็กร่วมรับฟังและคอยผสมโรง
“ที่ผ่านมาเรามีรายจ่ายมาก แต่รายรับไม่เข้าเป้า เพราะที่ดินกับตึกแถวของเราทำเลสู้ที่ใหม่ๆไม่ได้ เดี๋ยวนี้ใครมีเงินก็ปลูกตึกอาคารให้เช่าเกลื่อนพระนคร ส่วนไร่ของเราก็กิจการไม่ดีเท่าไร”
“ก็ไม่ผิดจากที่ผมได้ยินว่าครอบครัวเรากำลังแย่”
“ใครช่างเอาไปพูดถึงที่อังกฤษ มันน่าตบให้ปากฉีกนัก”
“เขาพูดก็ดีแล้ว ไม่งั้นพี่ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองสุขสบายอยู่บนความลำบากของท่านพ่อ เธอเองก็น่าจะกระซิบบอกพี่บ้าง”
“ก็ท่านพ่อทรงห้ามหญิง”
“พ่ออยากให้ชายได้เรียนหนังสือจนจบ โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เมืองไทย”
“แล้วให้ผมกลับมาพบว่าท่านพ่อกับหญิงเล็กหนี้ท่วมหัวงั้นหรือครับ ผมทำไม่ได้”
“ถ้าชายยังเรียนไม่จบ ก็คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้อยู่ดีแหละลูก”
ชายใหญ่เชื่อว่าต้องมีหนทางซึ่งเขาจะลองหาทางดู แต่อยากรู้ว่าเจ้าหนี้ของท่านพ่อคือใคร?
ooooooo
คฤหาสน์ทรงฝรั่งโอ่อ่าตั้งตระหง่านอยู่ในความมืด รถยนต์เก่าๆจอดข้างรั้ว ชายหญิงคู่หนึ่งกอดจูบกันในรถ เขาและเธอคือภาสกรกับภุมวารีนั่นเอง
“ผมต้องไปแล้วล่ะครับคุณผึ้ง ผมต้องแวะไปดูนายโรจน์ที่โรงพยาบาล”
“ทำไมคุณภาสไม่จ้างพยาบาลซักคนให้คอยดูแลน้องชายล่ะคะ จะได้ไม่เป็นภาระ”
“คุณผึ้งก็รู้ว่าผมไม่มีเงิน ลำพังแค่ค่าหมอกับค่ายาก็แทบจะชักหน้าไม่ถึงหลัง”
ภุมวารีเห็นหน้าภาสกรเศร้าหมองก็เห็นใจ เปิดกระเป๋าหยิบเงินปึกหนึ่งใส่มือเขาให้เอาไว้ใช้ ชายหนุ่มเห็นเงินจำนวนมากก็ละอายไม่กล้ารับไว้เต็มมือ
“ผมรับไม่ได้หรอกครับ คุณผึ้งช่วยผมมาเยอะแล้ว”
“ช่วยแล้วก็ช่วยอีกจะเป็นอะไรไป ผึ้งไม่ลำบากหรอก เอาไปเถอะค่ะ ถ้ายังไม่พอค่อยบอก”
“ผมเป็นหนี้คุณผึ้งไม่รู้เท่าไรแล้ว”
“หนี้อะไรกันคะ ผึ้งให้ด้วยความเต็มใจ ยังไงเราก็เป็นคนคนเดียวกันแล้ว” ภุมวารีบีบมือภาสกร เอนตัวซบอก ลูบแก้มไล่มาที่คางอย่างรักใคร่
“แต่...” ภาสกรละอายใจ เมื่อนึกถึงว่าตัวเองเกินเลยกับภุมวารีไปแล้ว
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นค่ะ ผึ้งให้คุณภาสได้ทุกอย่าง เพราะว่าผึ้งรักคุณ ความทุกข์ของคุณ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน มันก็คือความทุกข์ของผึ้งด้วย ผึ้งขอให้คุณภาสคิดอย่างเดียวกันเท่านั้นก็พอ ถ้าอยากจะตอบแทนผึ้ง”
ภาสกรอดซึ้งใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าภุมวารีทุ่มเทความรักให้ขนาดนี้ เขาก้มหน้าจะจูบเธอ แต่สะดุ้งเมื่อเห็นไฟหน้าบ้านสว่าง เกรียงไกรก้าวออกมาจากรั้วบ้านมองมา
ที่รถยนต์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ooooooo