ตอนที่ 13
“จะว่าผู้หญิงคนเดียวก็ไม่ยุติธรรมนะครับ ผู้ชายเราเดี๋ยวนี้ก็ใช่ย่อย ชอบแอบกินในที่ลับแล้วสร้างภาพว่ารักครอบครัว คนเป็นเมียก็ต้องยอมน้ำตาตกเพื่อลูก เพื่อหน้าตา ชื่อเสียงในสังคม”
ท้ายประโยคนาบุญแอบประชดรัตตวัลย์...ทักษิณาสะใจ ปารเมศไม่พอใจแต่ยังเก็บอาการได้ดี ขณะที่รัตตวัลย์หมั่นไส้นาบุญ เลยแกล้งทำเป็นช่วยพับปกเสื้อให้ปารเมศ ราวกับเมียที่ใส่ใจดูแลสามี
นาบุญไม่สบอารมณ์ เดินออกไปพร้อมทักษิณา ส่วนรัตตวัลย์พูดเบาๆกับปารเมศว่า “มาคุยกันหน่อยค่ะ”
ทักษิณามองตามสองคนด้วยความหมั่นไส้ บ่นให้นาบุญฟังว่า
“ทำเป็นรักกันจี๋จ๋า เนี่ยทักว่าผู้หญิงคงโดนปอกลอกให้ใช้หนี้แทนไปเรียบร้อย...โง่!” หลุดปากไปแล้วเห็นนาบุญมองหน้า ทักษิณารีบกลับคำสร้างภาพเป็นคนดี ว่าเห็นใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน ไม่อยากให้โดนหลอก
ooooooo
ที่มุมโซฟารับแขก ปารเมศเอาใจผายมือให้รัตตวัลย์นั่ง แต่เธอกลับยืนเฉยเหมือนไม่ได้ยิน
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ เมื่อกี้คุณยังห่วงใยผม ช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่เลย คุณรู้ไหมผมคิดถึงตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ๆ ตื่นเช้ามาคุณก็คอยเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ผมทุกเช้า”
“มันก็แค่หน้าที่”
“วัลย์...คุณให้อภัยผมอีกสักครั้งไม่ได้หรือ ผมจะไม่มีใครอีก”
“ฉันจะให้คุณพักที่เพนต์เฮาส์ไปก่อน จนกว่าคุณจะหาที่อยู่ใหม่ได้ ฉันคงช่วยคุณในฐานะที่เป็นพ่อของมันปูได้แค่นี้” พูดแค่นั้นเธอเดินหนีไปทันที ปารเมศยิ้มกริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่ารัตตวัลย์เริ่มใจอ่อน
ส่วนนาบุญกับทักษิณามาถึงหน้าห้องพักแล้ว หญิงสาวอยากอยู่ร่วมห้องกับเขาจึงหาเหตุผลมาออดอ้อน
“อย่าว่าทักใจกล้าหน้าด้านเลยนะคะ ทักแค่ไม่อยากให้บอสสิ้นเปลืองเงิน ความจริงเราน่าจะย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน ทักนอนโซฟาก็ได้”
“ผมไม่อยากให้คุณโดนคนครหา พนักงานที่นี่ก็รู้จักคุณทั้งนั้น ผมอยากให้เกียรติคุณ”
ทักษิณาปลื้มสุดๆ บอกว่าเป็นบุญวาสนาของตนเหลือเกินที่ได้เจอกับคนดีๆอย่างเขา ที่ผ่านมาตนเจอแต่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคิดแต่จะเอาเปรียบ
“เดินทางมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำให้ชื่นใจก่อนดีกว่า แล้วเย็นๆค่อยลงไปกินข้าวกัน”
ทักษิณาทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย ทำให้นาบุญโล่งใจ หลังจากนั้นเขาติดต่อไผทเพื่อวางแผนเข้าไปในห้องเพนต์เฮาส์ที่ปารเมศเคยอยู่เผื่อจะได้หลักฐานเกี่ยวกับพิลาสลักษณ์บ้าง โดยมีสนคอยดูต้นทาง
นาบุญเข้ามาได้แต่ไม่คิดว่าจะเจอรัตตวัลย์ที่ตามมาทีหลัง สองคนเผชิญหน้าพูดแขวะกันไปมาเรื่องปารเมศ แต่สักครู่ก็ต้องรีบหลบเพราะปารเมศเดินคุยโทรศัพท์เข้ามา...การสนทนาของเขากับเจ้าของบ่อนพนันทำให้ผู้ซ่อนตัวทั้งสองได้ยินถนัดชัดเจน และเมื่อหนีรอดออกจากห้องนั้นมาได้ทางประตูเชื่อมอีกห้อง นาบุญก็ระเบิดเสียงใส่รัตตวัลย์อย่างไม่พอใจ