icon member

ระเริงไฟ

ตอนที่ 14

หลักฐานจากกสิณใช้เป็นหลักฐานมัดตัวดิลกได้อย่างแน่นหนา ชาคริตเบาใจได้เรื่องหนึ่ง แต่ไม่วายเป็นกังวลเรื่องญาดาที่จนป่านนี้ยังติดต่อไม่ได้

แล้วก็เหมือนฟ้าจะเห็นใจ เขมิกาเป็นคนแรกที่เปิดฉากโทร.หาชาคริตตามแผนของญาดา

“คุณอยู่ไหนคะตอนนี้”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ”

“พูดดีๆหน่อยก็ไม่ได้ เขมอุตส่าห์หวังดีโทร.มาส่งข่าว กลัวคุณจะไปส่งพี่ดาที่สนามบินไม่ทัน”

“ดาจะไปไหน”

“เจอหน้าก็ถามกันเองนะคะ อีกสิบนาทีพี่ดาจะออกจากบ้านแล้ว หวังว่าคงมาทันนะคะ”

คำพูดทิ้งท้ายของญาดาครั้งสุดท้ายที่เจอกันทำให้ชาคริตสติแตก พุ่งไปบ้านเมธาสิทธิ์ทันที เขมิกาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ออกมารับหน้าด้วยท่าทางยิ้มแย้มผิดสังเกต

“ดาไปหรือยัง”

“เข้าไปคุยในบ้านดีกว่านะคะ”

“ผมถามว่าดาไปหรือยัง!”

“ยังค่ะ...แต่พี่ดาคงไม่อยากบอกลาคุณแน่”

“ดาจะไปไหน”

“ถามว่าพี่ดาจะไปทำอะไรดีกว่า”

“เลิกกวนประสาทซะที”

“ไม่ได้กวน...จุดหมายไม่สำคัญเท่าเป้าหมายว่าพี่ดาไปต่างประเทศทำไม พี่ดาเคยบอกนี่...คุณคงเดาไม่ยาก”

“ผมไม่เชื่อ ดาก็แค่ขู่”

“แค่ขู่...คงไม่ลงทุนไปไกลหรอกนะคะ อยากฟังชัดๆเคลียร์ๆใช่ไหมคะ...พี่ดากำลังไปจัดการลูกในท้อง!”

ชาคริตส่ายหน้าไม่เชื่อ พลันต้องชะงักเมื่อเห็นไตรทศขับรถออกไปพร้อมญาดา เขารีบตามแต่ไม่ง่ายเลย ไตรทศมีฝีมือในการซิ่งรถพอตัวทีเดียว กว่าจะตามทันญาดาก็ถึงสนามบินแล้ว

“ลงมาคุยกันให้รู้เรื่อง!”

“เรามีอะไรจะต้องคุยกันอีกเหรอ”

“คุณไม่มีสิทธิ์!”

“มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม”

ญาดาไม่ต่อปากต่อคำด้วย สีหน้ารำคาญจนชาคริต เริ่มใจไม่ดี ยอมอ่อนท่าทีลง

“ถ้าคุณไม่ต้องการลูก...อดทนรอจนลูกคลอดได้ไหม ผมจะเลี้ยงลูกเอง”

“ขอมากไปเปล่า ให้ฉันอดทนเพื่อคุณนี่นะ เด็กคนนี้ควรจะมีโอกาสไปเกิดเป็นลูกพ่อแม่ที่เขาเต็มใจให้เกิดมา”

“ผมนึกว่าคุณพร้อมที่จะเป็นแม่”

“ตอนนั้นฉันมันโง่ที่เชื่อคุณ ถ้าเด็กต้องเกิดมาแล้วรู้ว่าพ่อทำแต่เรื่องเลวๆไว้ อย่าเกิดมาซะดีกว่า”

ไตรทศเห็นท่าไม่ดี พยายามช่วยขวางชาคริต

“คุณกลับไปดีกว่า คุณเปลี่ยนใจพี่ดาไม่ได้หรอก”

แต่ชาคริตไม่สนใจ โพล่งใส่หน้าญาดาเสียงดัง

“ผมจะไม่ยอมให้คุณทำลายลูก”

“คุณหยุดฉันไม่ได้หรอก!”

ญาดาประกาศกร้าวแล้วจะผละไป ชาคริตจะตามไปขวาง แต่ถูกบอดี้การ์ดของเธอจับตัวไว้ ญาดาหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าสามีอีกครั้ง เอ่ยเสียงเย็น

“ลูกฉัน...ปัญหาของฉัน กำจัดทิ้งเมื่อไหร่ ฉันจะได้เป็นอิสระซะที เข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันต้องทำ!”

พูดจบก็ผละไป พร้อมกับไตรทศที่กำชับบอดี้การ์ดทิ้งท้ายไม่ให้ซ้อมชาคริตเพราะไม่ชอบความรุนแรง ชาคริตได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจที่ห้ามหรือทำอะไรญาดาไม่ได้...

ooooooo

สถานการณ์ของชาคริตไม่ดีเลย ไม่ต่างจากทัศนะ ต้องหนักใจอาการดื้อเงียบของเพ็ญขวัญที่ประท้วงเขาด้วยการอยู่เฉยๆ ไม่ยอมจัดของหรือเตรียมตัวย้ายบ้าน

เพ็ญขวัญอาลัยบ้านเก่ามาก ไม่อยากย้าย เลยอ้างกับพี่ชายว่าไม่สบาย ทัศนะไม่เชื่อ ดุน้องสาวที่ทำตัวเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กๆ เพ็ญขวัญเลยต้องหยิบกระเป๋าเดินทางมาเก็บของแบบไม่เต็มใจนัก

ท่าทางของเพ็ญขวัญทำให้ทัศนะอ่อนใจ แกล้งถามทั้งที่รู้สาเหตุดี

“เป็นอะไร...ไม่สบายจริงๆเหรอ”

“ขวัญไม่อยากย้ายบ้าน”

“ใครๆก็อยากไปอยู่เมืองนอกทั้งนั้น ที่นั่นจะมีศูนย์บำบัดดีๆ”

“ขวัญไม่ต้องการ ขวัญรักบ้านหลังนี้ นี่เป็นโลกของขวัญ ขวัญไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ ไปเจอคนแปลกหน้า ภาษาก็พูดไม่เป็น แค่นี้ชีวิตขวัญยังเหงาไม่พออีกเหรอพี่นะ”

“เราตัดสินใจกันไปแล้วนะ”

“พี่นะเป็นคนตัดสินใจคนเดียว ไม่ถามความเห็นขวัญสักคำ”

“แล้วมาโวยวายอะไรตอนนี้  รู้ไว้ด้วยนะ...ไม่ว่าพี่จะทำอะไร พี่นึกถึงขวัญก่อนเสมอ ไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย”

“ถ้าไม่มีขวัญ พี่นะจะได้มีชีวิตของตัวเองใช่ไหม”

พูดจบก็ผลุนผลันออกจากบ้าน ทัศนะต้องวิ่งตามด้วยความหัวเสีย แต่เพียงไม่นานก็ต้องเครียดจริงๆเมื่อพบว่าเพ็ญขวัญหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!

ทัศนะพยายามตามหาน้องสาวทุกหนทุกแห่งที่คิดว่าเธอจะไป แต่ก็ไม่พบ สุดท้ายต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเขมิกาที่ตัดสินใจมาช่วยแบบไม่ลังเล

“ผมหาทุกซอยแล้ว ถามทุกบ้าน ไม่มีใครเห็นขวัญ ผมไม่รู้จะทำไงดีแล้ว”

“ใจเย็นๆนะคะคุณนะ ขวัญไปไหนไม่ไกลหรอกค่ะ เดี๋ยวก็เจอ”

“เราไม่มีเวลาแล้ว”

“ขวัญอยู่ข้างนอกได้นานแค่ไหนคะ”

“แดดแรงอย่างนี้ อยู่ได้ไม่เกินอีกสิบห้านาที แล้วมาเจอฝุ่นเจอเกสรดอกไม้ โรคภูมิแพ้จะยิ่งกำเริบ”

คำบอกเล่าของเขาทำให้เขมิกาใจไม่ดี แต่ต้องทำเป็นเข้มแข็งเมื่อเห็นสภาพคอตกของทัศนะ

“ความผิดของผมเอง...ผมทำให้น้องหนีไปตาย!”

ระหว่างที่ทัศนะกับเขมิกาช่วยกันตามหาเพ็ญขวัญ ชาคริตไปดักเจอไตรทศเพื่อคาดคั้นเรื่องญาดา ชญานีที่แอบมาพบไตรทศตามนัดถึงกับหน้าซีด กลัวพี่ชายบุญธรรมจะซ้อมไตรทศอีก แต่ต้องผิดคาดเพราะนอกจากชาคริตจะไม่สนใจเรื่องนัดเจอกันแล้ว ยังพะวงแต่เรื่องญาดาที่บินไปเมืองนอกมากกว่า

“สายไปแล้วล่ะครับคุณชาคริต”

“ไม่สาย! ดาต้องใช้เวลาตัดสินใจ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”

“พี่ดานัดกับหมอแปดโมงเช้า...ผมหมายถึงเวลาที่นิวยอร์ก ตอนนี้ที่นี่บ่ายสาม ที่โน่นก็ตีสาม อีกไม่กี่ชั่วโมง ปัญหาของพี่ดาก็จะหมดไป”

ชื่อเมืองนิวยอร์ก รัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เปิดให้ทำแท้งอย่างเสรีทำให้ชาคริตใจหายวาบ ไตรทศเห็นใจไม่น้อยแต่จำต้องพูดตามที่เตี๊ยมไว้กับพี่สาวทั้งสองคน

“คุณไม่มีทางไปห้ามได้ทัน ผมถึงได้บอกว่า... สายไปแล้ว”

ooooooo

ระเริงไฟ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด