ตอนที่ 1
ญาดายังไม่เชื่อว่าชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นจะเป็นชาคริต แต่ไม่มีหลักฐาน ได้แต่ปล่อยให้ไตรทศระบายความอัดอั้น โดยไม่รู้เลยว่าชาคริตแอบมองตามสองพี่น้องจากมุมไกลๆ...นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น!
กมลพรรณกับปาริฉัตรรับหน้าที่เฝ้าดิลกที่ยังพักฟื้นในห้องไอซียู สองแม่ลูกไม่ได้สนใจไยดีอะไรรอบตัวนัก นอกจากก้มหน้าก้มตาค้นหาข่าวฉาวงานแต่งของเขมิกาล่มบนโลกโซเชียล แต่อิทธิพลของเมธาสิทธิ์ก็ทำให้ข่าวดังถูกปิด ทำให้สองแม่ลูกเซ็งจัดเพราะไม่มีเรื่องเม้าท์
จบเรื่องเขมิกาที่ไม่มีอะไรให้ขุดและแฉ ปาริฉัตรจึงหันไปสนใจเรื่องดิลกแทน
“แม่ว่าเป็นสารพัดโรคอย่างคุณอานี่จะอยู่ได้อีกกี่ปี”
“ถ้ากินยาคุมความดัน คุมเบาหวานไว้ก็อยู่ได้อีกนาน”
“อยู่ได้อีกนานเลยเหรอ ไหนหมอบอกแม่ว่าหัวใจคุณอาเริ่มมีปัญหาแล้ว”
“ก็เป็นเรื่องปกติ โรคพวกนี้มาเป็นแพ็กเกจ ความดัน เบาหวาน หัวใจ แกแช่งให้ท่านตายไวก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ฉันกับท่านไม่ได้จดทะเบียนกัน”
“แล้วเราจะไม่ได้อะไรเลยเหรอแม่ แม่ดูแลคุณอามาเป็นสิบปี”
สองแม่ลูกมัวถกเรื่องผลประโยชน์ ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าญาดากับไตรทศเดินมาถึงตัวและได้ยินทุกอย่าง
“อยากได้เท่าไหร่ล่ะฉัตร”
ญาดาถามเสียงเรียบ ปาริฉัตรหน้าเจื่อน รีบขอตัวกลับออฟฟิศ ทิ้งกมลพรรณให้เผชิญหน้าสองพี่น้องตามลำพัง โชคดีที่ญาดากับไตรทศเป็นห่วงดิลก ไม่มีใคร อยากใส่ใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง กมลพรรณเลยรอดตัว
ooooooo
อาการของดิลกไม่ดีขึ้น ความเสียใจที่เขมิกาหายตัวไปทำให้หัวอกคนเป็นพ่อแทบสลาย ญาดากับไตรทศเป็นห่วงมาก แต่ก็ทำได้แค่ปลอบและกำชับพยาบาลไม่ให้พ่อมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ
เขมิกาจมปลักกับความทุกข์ตัวเอง ไม่สนและไม่แคร์ ว่าใครต้องเป็นห่วง และบ้านทัศนะก็เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี อย่างน้อยเธอก็ไม่เหงาเพราะมีเพ็ญขวัญเป็นเพื่อนคุย
เพ็ญขวัญชวนเขมิกาไปช็อปปิ้งข้างนอก แต่คุณหนูคนสวยปฏิเสธเพราะไม่อยากอับอาย
“คุณเขมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องตัวหลบๆซ่อนๆ คนที่ต้องอาย เจอผู้คนไม่ได้อีกต่อไปมันควรจะเป็น...”
ชื่อชาคริตไม่ทันหลุดจากปากเพ็ญขวัญ เขมิกาก็โพล่งออกมาทั้งน้ำตา
“แต่เขมอาย...เขมไม่กล้ามองหน้าใครอีกแล้วเขมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทิ้งกลางงานแต่งงาน”
“อย่าร้องไห้อีกเลยค่ะ คุณเขมร้องไห้มาพอแล้ว เดี๋ยวขวัญจะทำให้คุณเขมยิ้มให้ได้”
วิธีของเพ็ญขวัญคือเปลี่ยนจากออกข้างนอกเป็นช็อปปิ้งออนไลน์ ทัศนะผู้ดูแลกิจการเว็บไซต์ทีมาร์ทถึงกับถลึงตาใส่เมื่อน้องสาวตัวแสบให้เขมิกาใช้เครดิตวงเงินของเธอ เขมิกาเห็นสองพี่น้องเถียงกันไปมาก็อดยิ้มไม่ได้ แต่เพียงไม่นานก็น้ำตาคลอเบ้าใหม่ เมื่อเห็นภาพแหวนแต่งงานที่เหมือนของเธอบนเว็บไซต์ทีมาร์ท...
บาดแผลในใจเขมิกาลึกและสร้างรอยร้าวมากกว่าที่คิด ญาดากับไตรทศรู้ดี และเพื่อรับมือคนเจ้าแผนการอย่างชาคริต สองพี่น้องจึงต้องหาข้อมูลแวดล้อมของอีกฝ่ายให้มากที่สุด
ไตรทศแค้นใจมาก เขาบอกพี่สาวถึงข้อสันนิษฐานของตนว่าชาคริตตั้งใจล้มงานแต่งงานตั้งแต่แรก
“งานแต่งงานใช้เวลาเตรียมงานแค่สองอาทิตย์ แต่ทุกอย่างลงตัวราวกับเตรียมงานมาเป็นปี ทั้งชุดเจ้าสาว ห้องจัดเลี้ยง ทุกอย่างเหมือนงานแต่งงานในฝันของพี่เขม ยกเว้น...ไม่มีรูปพรีเวดดิ้งหรือวีดิโออะไรทั้งนั้น”
“แล้วมีอะไรที่ผิดปกติอีก”
“มันบอกว่ามันไม่มีญาติที่ไหน นอกจากพ่อบุญธรรมที่อยู่ฮ่องกง เราก็เลยจองห้องพักไว้ให้ แต่นอกจากคุณทัศนะแล้ว ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนของมันมาแม้แต่คนเดียว”
“พ่อบุญธรรมนายนั่นชื่ออะไร ทำธุรกิจอะไร”
“ไม่รู้ครับ...เรารู้แต่ว่านายชาคริตเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัททีมาร์ท”
“แล้วทำไมทุกคนถึงได้ยอมตามใจเขม”
“พี่เขมขู่ว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงานจะหนีไปจดทะเบียนกันเงียบๆ ก็คงเป็นความคิดของไอ้ชาคริตนั่นแหละ”
“ถ้าเขมรักนายนั่นจนหัวปักหัวปําอย่างนี้ เขมคงไม่ได้หนีไปไหนไกล นอกจากไปตามหาไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น เราเจอนายชาคริตที่ไหนก็ต้องเจอเขมที่นั่น!”
ญาดากับไตรทศเดินหน้าตามหาข้อมูลของชาคริตอย่างเต็มที่ แต่เจ้าตัวคนถูกสืบข้อมูลกลับไม่เดือดร้อน แถมทำตัวปกติเดินเข้าออฟฟิศเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชญานีแอบหลงรักชาคริตพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง มานาน เธอแอบโล่งใจและสะใจที่งานแต่งล่ม แต่กระนั้นก็เป็นกังวลเพราะดูท่าแผนของเขาจะทำให้หลายคนเคียดแค้น โดยเฉพาะไตรทศที่จ้องจับผิดเธอตั้งแต่เมื่อคืน
ชาคริตยักไหล่ไม่แยแส ก่อนถามถึงทัศนะ เพื่อนสนิทและผู้บริหารที่เขาแต่งตั้งให้ดูแลทีมาร์ทแทน ส่วนเขาต้องดูแลกิจการของพ่อบุญธรรมชาวฮ่องกงที่ต่างประเทศ ชญานีบอกว่าทัศนะไม่เข้าออฟฟิศ คงไปช่วยพวกญาดาตามหาตัวเขมิกาที่หายตัวจากโรงแรม
“ยัยเขมหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่า คุณดิลกถึงกับช็อกต้องถูกตัวหามส่งโรงพยาบาลไงคะ บ้านโน้นคงส่งรูปพี่คริตติดประกาศจับตายทุกโรงพักแล้วมั้ง”
ชญานีเป็นห่วง อยากให้ระวังตัว แต่ชาคริตยิ่งสนุก เปลี่ยนใจจากเข้าออฟฟิศไปป่วนญาดาที่โรงพยาบาล
ไตรทศแวะมาออฟฟิศทีมาร์ทเพื่อดักรอชาคริต แล้วก็ไม่ผิดหวัง เขาเห็นหลังไวๆของอีกฝ่ายตรงทางออกลานจอดรถชั้นผู้บริหาร ชญานีช่วยพี่ชายเต็มที่ ทั้งกวนทั้งป่วนจนเขาตามไม่ทัน
ooooooo
คำบอกเล่าของชญานีเรื่องเขมิกาหายตัวไปทำให้ชาคริตคิดแผนป่วนพวกเมธาสิทธิ์ได้อีกเรื่อง และครั้งนี้เขาก็เลือกจะปั่นหัวญาดาให้ประสาทเสียเรื่องเขมิกา
ญาดาแปลกใจระคนดีใจได้เห็นชายแปลกหน้าที่เจอกันบ่อยอีกครั้ง ชาคริตแกล้งออกจากห้องพักพิเศษข้างๆห้องพักของดิลก และปั้นหน้าเศร้าเล่าเรื่องน้องสาวบุญธรรมว่าอกหักและคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย
“ผมเห็นแต่เลือด...เลือดเต็มไปหมด หัวใจผมแทบหยุดเต้น ผมเสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว”
ชาคริตไม่ได้โกหกทุกอย่าง ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงของชญานีที่เขารับเป็นน้องบุญธรรมด้วยความสงสารและความผูกพันที่มีมานานตั้งแต่ตอนเจอกันที่บ้านเด็กกำพร้า
สีหน้าและแววตาสะเทือนใจเหมือนคนตีบทแตกของเขาทำให้ญาดาเชื่อสนิท สงสารและเห็นใจเขามาก
“แต่แกปลอดภัยดีแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ...ผู้หญิงเวลาอ่อนแอ รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง...แม้แต่ทำร้ายตัวเอง ผมล่ะกลัวใจผู้หญิงจริงๆ ผมขอโทษนะครับที่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้คุณฟัง”
เรื่องเล่าของชาคริตทำให้ญาดาร้อนรน บุกไปหาทัศนะถึงบ้านเพราะเดาว่าชาคริตอาจไปซ่อนตัว เพ็ญขวัญเห็นท่าไม่ดี ปล่อยให้พี่ชายรับหน้าญาดา ส่วนตัวเองหลบไปคุยกับเขมิกาในห้อง
เขมิกาเห็นหน้าพี่สาวก็ตัวสั่น พร่ำบอกเพ็ญขวัญจะไม่ยอมกลับบ้าน
“ไม่กลับก็ไม่กลับค่ะ ขวัญกับพี่นะตกลงกันแล้วว่าเราจะรอจนกว่าคุณเขมจะพร้อม”
“ไม่ได้โกหกเขมนะ”
“เราไม่โกหกคุณเขมอยู่แล้ว”
“คนที่เขมรักที่สุด...ยังโกหกเขมได้ แล้วอย่างนี้เขมจะเชื่อคำพูดใครได้อีก”
สภาพขวัญเสียของเขมิกาทำให้เพ็ญขวัญพูดไม่ออก แม้จะอยากส่งตัวคืนแค่ไหน แต่เธอคิดว่าเขมิกายังไม่พร้อม คงต้องให้เวลาปรับตัวปรับใจอีกสักพัก ค่อยกล่อมให้กลับบ้านอีกที
ทัศนะลำบากใจไม่แพ้น้องสาว ญาดามีท่าทีตึงเครียดกว่าวันก่อนมาก กลัวเขมิกาจะตามหาตัวชาคริตและคิดสั้น ความกังวลของญาดาทำให้ทัศนะสะดุ้ง ภาพเหตุการณ์เขมิกาจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำและจะพุ่งตัวให้รถชนผุดในหัวเขาอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ไม่กล้าบอกความจริงกับญาดา
ท่าทางอึกอักของทัศนะทำให้ญาดาเอะใจ แต่เขาก็กลบเกลื่อนจนเธอเลิกสงสัยและเปลี่ยนมาถามเรื่องชาคริตแทนว่าเป็นใคร มาจากไหน เพราะเธอหาข้อมูลของเขาแทบไม่ได้
“นายคริตใช้ชีวิตที่ฮ่องกงเป็นส่วนใหญ่ ทำงานให้กับพ่อบุญธรรมที่โน่น ส่วนบริษัทที่นี่เขาให้ผมเป็นผู้บริหาร”
“คงเป็นความคิดเขาสินะที่ให้บริษัทเราร่วมลงทุนกับบริษัทคุณ แล้วเขาใช้โอกาสนี้เข้ามาในครอบครัวฉัน”
ทัศนะกลืนน้ำลาย เขารู้แผนการของชาคริตดีแต่ก็จำต้องโกหก
“ผมรู้แต่เรื่องงาน เรื่องอื่น...ผมไม่รู้จริงๆ ผมเองก็อยากเจอมัน อยากถามว่ามันทำกับคุณเขมอย่างนี้ได้ยังไง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันขอจัดการเพื่อนคุณด้วยตัวของฉันเอง!”
ooooooo
ญาดากลับไปแล้ว เพ็ญขวัญไปบอกเขมิกาให้เบาใจ ก่อนปลอบไม่ให้คิดมาก เธอรู้จักนิสัยช่างเอาอกเอาใจของชาคริตดี แม้แต่เธอยังอดรักเขาในฐานะพี่ชายไม่ได้
เรื่องราวของชาคริตจากปากเพ็ญขวัญทำให้เขมิกาสะเทือนใจ พลางย้อนคิดถึงอดีตเมื่อหลายเดือนก่อน...
วันที่เธอเจอเขาเป็นครั้งแรก เขมิกาจำได้ดี ดิลกเป็นปลื้มชาคริตหุ้นส่วนหนุ่มจากทีมาร์ทมาก ไม่เว้นแม้แต่เธอกับปาริฉัตรที่แทบละสายตาจากเขาไม่ได้ และเขาก็ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง เมื่อเขาแสดงท่าทีชัดเจนว่าอยากสานสัมพันธ์กับเธอ
ทัศนะเป็นอีกคนที่ทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ท่าทางของเขมิกาในวันนี้ทำให้เขาคิดถึงอดีต เขายอมรับว่ารู้ตื้นลึกหนาบางแผนของชาคริตดี...เพื่อนรักจงใจเข้าหาพวกเมธาสิทธิ์เพื่อล้างแค้น!
ชาคริตกับทัศนะเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับพ่อของพวกเขา แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเก่งกาจ พ่อของชาคริตนำเงินของพ่อทัศนะไปร่วมลงทุนกับดิลกแต่ถูกโกงหมดตัว
ครอบครัวของทัศนะสิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนเก่งกาจถูกดำเนินคดีติดคุกถึงทุกวันนี้ ชาคริตแค้นดิลกและพาลไปถึงทุกคนในครอบครัวเมธาสิทธิ์ และเขาก็ปฏิญาณจะทำทุกทางให้พวกนั้นชดใช้อย่างสาสม!
การล้างแค้นของชาคริตเริ่มต้นหลังจากนั้น เขาตัดสินใจไปทำงานที่ฮ่องกงจนได้เป็นลูกบุญธรรมของมาเฟียที่นั่น หนทางดำมืดของพวกมาเฟียเป็นทางลัดที่ทำให้เขามีทุกอย่างเช่นวันนี้...อำนาจและเงินตรา เก่งกาจที่ยังอยู่ในคุกไม่เคยเห็นด้วยกับทางเลือกของชาคริต และประท้วงด้วยการไม่ยอมรับสิ่งใดจากลูกชายคนเดียว
แต่กระนั้นชาคริตก็ไม่สน เขาชดใช้ให้ทัศนะกับเพ็ญขวัญด้วยบ้านหลังงาม ทัศนะจะไม่รับ แต่ชาคริตยืนกรานจนเขาต้องยอมพบกันครึ่งทาง คือเขาจะจ่ายค่าบ้านครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งถือเป็นของขวัญจากชาคริตให้เพ็ญขวัญ
ชาคริตใช้เวลาร่วมยี่สิบปีก่อร่างสร้างตัวและฐานอำนาจเพื่อเอาคืนพวกเมธาสิทธิ์ และวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกนั้นจะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดแสนสาหัสแบบที่เขากับพ่อเคยเจอ!
ooooooo