ตอนที่ 14
พุฒิเมธขับรถไปได้ไม่นานก็เหลือบเห็นกล่องนาฬิกาที่ให้เป็นของขวัญบุญสิตาตกอยู่ที่เบาะรถ
เขาหยิบขึ้นบ่นๆ
“ลืมของเราได้ยังไงเนี่ย” แล้วรีบขับรถย้อนกลับไป
คนร้ายพาบุญสิตาเข้าบ้านไปค้นหารูปแต่ไม่เจอ บุญสิตาพยายามต่อสู้จะวิ่งออกมา ถูกมันเหวี่ยงจนล้มเป็นลมหมดสติไป พวกมันกลัวเรื่องจะแดงเพราะกันต์สั่งให้ทำแค่ขู่จึงรีบหนีกลับ พุฒิเมธมาเห็นพวกมันออกมาขับรถหนีไปอย่างเร็วก็เป็นห่วงวิ่งเข้าไปในบ้าน เห็นบุญสิตานอนหมดสติเหมือนคนตายอยู่ที่มุมห้อง
พุฒิเมธรีบเข้าไปเรียกและพาขึ้นนอนบนเตียง ขณะเดียวกันณฤทธิ์ก็ปรากฏขึ้นบ่นว่าตนไม่อยู่แป๊บเดียวเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง นึกถึงเวลาที่บอกว่า “เพราะเธอดึงเขาเข้าไปอยู่ในโลกความตายมาก...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆซินอาจต้องตายไปพร้อมกับเธอ” ณฤทธิ์ตกใจพยายามเรียกซินให้รู้สึกตัว
พอซินรู้สึกตัวเธอบอกพุฒิเมธว่าตนไม่เป็นอะไรแค่สลบไปเฉยๆ คนร้ายไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตน แค่มาหารูปของกันต์กับไฮโซที่มาร์คกำลังรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น พุฒิเมธเชื่อว่าเป็นฝีมือกันต์แน่ๆ
เมื่อกันต์รู้ว่าไม่ได้รูปที่ต้องการก็สั่งคนร้ายไม่ต้องทำอะไรแล้วเดี๋ยวเรื่องวุ่นวาย พอวางสายจากคนร้ายกันต์ก็ได้รับโทรศัพท์ทวงหนี้ เขาพูดอย่างหัวเสียว่าเพิ่งจ่ายไปสามล้านทวงอีกแล้วหรือ ฟังปลายสายแล้วบอกว่ากำลังรีบหาเงินไปให้
วางสายทวงหนี้ก็มีสายจากวัฒน์เข้ามา กันต์
ปรับเสียงทันทีปั้นเสียงสุภาพ แต่แล้วก็ผิดหวังเมื่อวัฒน์บอกว่าไม่ซื้อหุ้นบริษัทแล้วเพราะรอไม่ไหวจะต้องลงทุนอย่างอื่นแทน
กันต์หงุดหงิดมาก พอดีสาวแก่ไฮโซเจ้าของร้านมาเห็นถามว่ามีเรื่องอะไรหน้าเครียดเชียว กันต์เปลี่ยนสีหน้าปั้นยิ้มบอกว่า “ผมกำลังพยายามหาทางขายหุ้นบริษัทน่ะครับ”
“งั้นพี่จะช่วยดูให้ก็แล้วกัน เผื่อเพื่อนพี่มีใครอยากลงทุนธุรกิจบันเทิง พี่จะบอกให้นะ”
“ขอบคุณมากนะครับ” กันต์ยิ้มสดชื่นเป็นมิตร เอื้อมมือจับมือหญิงเจ้าของร้าน หญิงนั้นเห็นกันต์เอาใจก็ยิ้มพอใจ
เมื่อเรื่องบานปลาย ณฤทธิ์เตือนบุญสิตาช่วงนี้ให้ระวังตัวด้วย เสนอว่าถึงเวลาที่เมธต้องบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อแล้ว ท่านอาจจะช่วยอะไรพวกเราได้
เมื่อสมบัติรู้ว่ากันต์เป็นคนฆ่ามาร์คก็ถึงกับช็อก และไม่รู้ว่าการพยายามทำร้ายซินวันนี้จะเกี่ยวกับกันต์
ด้วยหรือเปล่า สมบัตินิ่งเครียดไปครู่หนึ่งจึงบอกพุฒิเมธว่า
“พ่อจะหาทางกำจัดกันต์ พ่อจะไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายใครหรืออยู่ใกล้บริษัทของมาร์คอีกแล้ว” บอกวรรณนาที่ถามว่าเขาจะขายบริษัทหรือว่า “ถ้าต้องขายบริษัทหรือเสียเงินมากแค่ไหน แต่ถ้ามันซื้อความปลอดภัยของคนที่ผมรักได้ผมก็ยอม”
“แต่เฮียมาร์ครักบริษัทนี้มากนะครับ” พุฒิเมธท้วงติง
ooooooo
เช้าวันใหม่ กันต์ก็ได้รับการติดต่อเรื่องการซื้อหุ้นและให้ราคาดีมาก เขาดีใจมากบอกว่าจะรีบคุยกับหุ้นส่วนดู ซาร่าแนะว่าเขาควรคุยกับพ่อมาร์คดูอีกที ถ้าได้ราคาดีเขาอาจเปลี่ยนใจขายก็ได้
กันต์นัดคุยกับสมบัติก็ได้รับคำตอบว่าเดี๋ยวเจอกัน และเมื่อเจอกันสมบัติบอกทันทีว่า
“ผมจะขายหุ้นบริษัททั้งหมดให้...แต่มีข้อแม้ ผมไม่อยากให้เด็กๆในบริษัทตกงานหรือมีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ผมอยากให้คุณช่วยคุยกับ
ผู้บริหารคนใหม่ว่าให้ดูแลเด็กๆที่มาร์คปั้นมา พนักงานบริษัทที่เคยช่วยงานมาร์คต่อจากเราด้วย”
“ไม่มีปัญหาครับ”
“ที่สำคัญ ผมขอให้คุณเลิกยุ่ง เลิกวุ่นวายกับทุกคนในบริษัท และถอนตัวจากบริษัทไป”
“ผมแค่ต้องการเงิน ถ้าได้เงินผมจะไปทันที”
“หวังว่าคุณจะรักษาสัญญานะ...ผมจะให้ทนายเตรียมเรื่องทั้งหมด คุณพร้อมเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาได้เลย”
สมบัติพูดแล้วเดินออกไปเลย กันต์ยิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของตน เขารีบโทร.หานายหน้าบอกว่าตนรวบรวมหุ้นที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว จะซื้อเมื่อไหร่ให้นัดวันมาเลย
กันต์บอกซาร่าอย่างย่ามใจว่า ได้ยินว่าผู้ถือหุ้นคนใหม่เป็นผู้หญิงไม่ค่อยรู้เรื่องในวงการ ตนเลยจะต่อรองว่าจะเข้ามาบริหารแทนให้เขาดู
บุญสิตาถามพุฒิเมธว่าคุณพ่อเขาจะขายหุ้นจริงๆ หรือ เขายืนยันว่าใช่เพราะวิธีนี้จะช่วยเด็กๆในบริษัท ที่เฮียปั้นมาได้ ทุกคนจะมีงานทำเหมือนเดิม ณฤทธิ์เองก็รับได้ขอแค่ให้เด็กๆมีงานทำเหมือนเดิมก็พอ
“ขอให้ทุกคนในบริษัทเปิดใจรับผู้บริหารคนใหม่ด้วย ผมกลัวทุกคนจะรับไม่ได้นี่สิ” พุฒิเมธกังวล
จริงดังที่พุฒิเมธกังวล ศรันย์เชื่อว่าต้องเป็นบริษัทของวัฒน์แน่ที่ซื้อหุ้นไป ประกาศว่าถ้าจริงตนจะลาออก บริษัทประกาศหยุดงานสามวันเพื่อจัดการภายใน จัสติน
บอกศรันย์ว่าอีกสามวันก็รู้ว่าใครมาบริหารต่อ
ooooooo