ตอนที่ 9
เจียง หลอและบัวพยายามห้ามดำเกิงไม่ให้ทำร้ายชยุติ ดำเกิงโวยวายจะเอาเลือดหัวชยุติออกให้ได้ เจียงตวาด หมาที่ไหนบอกจะใจเย็นลง ที่สัญญาไว้ลืมแล้วหรือ ดำเกิงไม่ยอมหยุด
“ไม่ต้องห้ามเกิ่งหรอกครับ ผมมันไม่ดีจริงๆ” ชยุติแทรกขึ้น
“แต่มันไม่เกี่ยวกับลื้ออาเกิ่ง มันเป็นเรื่องของคุณกับอาบัวสองคนผัวเมีย”
ดำเกิงชะงักกับคำพูดของเจียง หลอสำทับว่าเรื่องของผัวเมียต้องให้เขาปรับความเข้าใจกันเอง คนนอกเข้าไปยุ่งจะไปกันใหญ่ ดำเกิงเสียงอ่อยลงว่าชยุติทำให้บัวร้องไห้ เจียงถามแล้วที่ต่อยเขามันทำให้บัวยิ้มได้ไหม ดำเกิงหันมองบัวที่หน้าตื่นน้ำตาไหลไม่หยุด
“ให้อีสองคนคุยกันเองเถอะนะอาเกิ่ง ชีวิตคู่ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ผ่านไปไม่ได้หรอก ถ้ามันไม่เป็นเรื่องของคนแค่สองคน...อาบัว ไปคุยกับคุณตี๋ซะ อย่าทิ้งไว้ให้มันเรื้อรังเลย” เจียงพูดจบเดินเข้าบ้าน หลอสะกิดดำเกิงให้ตามเข้าไป เขาจำยอมอย่างไม่ค่อยพอใจ
เสียงฟ้าร้องครืนๆ ชยุติแทรกเอ่ยขอโทษบัวที่ดูแลเธอไม่ดี ขอโทษแทนครอบครัวที่คอยทำร้ายเธอ บัวถามเขาเชื่อไหมว่าตนไม่ได้ผลักยิ่งจันทร์ตกบันได ชายหนุ่มพยักหน้า
“ทำไมคุณถึงเชื่อฉันล่ะ”
“ผมรู้จักคุณดี ว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ และสักวันป๊าม้า อาอี๊ ยัยหนกจะต้องเข้าใจ”
“อาจไม่มีวันนั้นก็ได้...”
“ใช่ อาจไม่มีวันนั้น ถ้าเราคนใดคนหนึ่งยอมแพ้ไปเสียก่อน” ชยุติดึงมือบัวมากุม “กลับบ้านด้วยกันนะบัว ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้ง ผมจะพยายามทำทุกทาง
ให้ทุกอย่างดีขึ้น จะไม่ยอมให้คุณต้องเจ็บอย่างนี้อีก...”
บัวมองหน้าชยุติที่มีรอยฟกช้ำแล้วบอกเขาว่าเขาก็เจ็บเหมือนกัน ชายหนุ่มบอกตนเจ็บน่ะดีแล้ว เป็นการเตือนสติว่ายังปกป้องเธอไม่ดีพอ ต้องขอบคุณดำเกิงที่ให้สติ...ดำเกิงแอบมองทั้งสองปรับความเข้าใจกัน
ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดกว่าใคร
บัวตัดสินใจเข้ามาลาเจียงกับหลอ ชยุติสัญญากับเจียงว่าจะดูแลบัวให้ดีกว่านี้ เจียงยิ้มรับและสอนบัวว่า การแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เท่ากับโตเป็นผู้ใหญ่อีกหนึ่งก้าว จะทำอะไรอย่าใช้อารมณ์ จงมีสติให้มากอย่าให้ใครว่าได้ว่าเราเหยาะแหยะไม่มีน้ำยา บัวรับคำ ต่อไปจะสู้ไม่หนีปัญหาอีก ดำเกิงทนไม่ไหวทะลุกลางปล้องขึ้น
“จะกลับไปอีกทำไมบัว จะกลับไปให้พวกมันเหยียบจมดินรึไง”
“กลับไปพิสูจน์ตัวเองต่างหากไอ้เกิ่ง” เจียงตอบแทน
ดำเกิงไม่เชื่อหาว่าคนที่เกลียดเราไม่ยอมฟังอะไรแน่ เจียงเน้นว่าเขาไม่ฟังก็ต้องทำให้เขาเห็น คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ ดำเกิงหันมาเหน็บชยุติด้วยคำของเจียง
“ใช่ คำพูดจะไปมีความหมายอะไร ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้!”
“ฉันจะทำให้ได้ คำพูดของฉันจะไม่ใช่แค่ลมปากแน่นอน” ชยุติก้าวเข้าหาดำเกิง
หลอเห็นว่าฝนกำลังจะตกจึงให้ทั้งสองรีบกลับบ้าน ดำเกิงอดเหน็บแนมอีกไม่ได้ว่า เจ็บแล้วไม่จำ ระวังจะเจ็บซ้ำอีก...เจียงกับหลอส่ายหน้าระอาใจ
ชยุติขับรถพาบัวกลับเข้าบ้าน วลีให้จ๊าดถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาใส่รถ บอกชยุติต้องไปดูแลยิ่งจันทร์ เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่บัวทำให้ยิ่งจันทร์
ต้องเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทั้งไชโย กนกวิภาและวลัยสำทับว่าเขาจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ บัวอาสา
ไปเฝ้าไข้แทน วลีโวย
“ยอมรับแล้วเหรอว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะฝีมือแกนังบัว”
บัวสะอึกพูดไม่ออก ชยุติตัดบทยอมไปเฝ้าไข้ยิ่งจันทร์แต่จะพาบัวไปด้วย ไชโยกับวลีไม่ยอมอ้างให้เขาไว้หน้ากันบ้าง บัวจึงให้ชยุติไปคนเดียวไม่ต้องเป็นห่วงตน วลีเหยียดเมียไม่ว่าอะไรแล้วก็อย่ายึกยัก ชยุติจำใจขึ้นรถขับออกไป
ooooooo
ยิ่งจันทร์นอนอ่านนิตยสารอย่างสบายใจในห้องพักฟื้นโรงพยาบาล แสงเดือนนั่งกินอาหารโรงพยาบาลอย่างตะกละตะกลาม ล้วนเดินงุ่นง่านรอชยุติ แสงเดือนเชื่อว่าวลีกับไชโยต้องทำให้ชยุติมาได้ กำชับยิ่งจันทร์รวบหัวรวบหางให้สำเร็จ ตนจะเรียกนักข่าวมาดู ล้วนแย้ง
“ไม่ดีมั้ง ถ้าจะรวบหัวรวบหางก็ให้ห่างจากโรงพยาบาลจะเหมาะสมกว่า”
“จะเลวทั้งทียังมีจรรยาบรรณ ป๊าจันทร์นี่บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนจริงๆเลย”
ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกหัวเราะร่วน เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยิ่งจันทร์รีบเก็บหนังสือล้มตัวนอนสลบ ล้วนกับแสงเดือนทำหน้าเศร้า ชยุติเปิดประตูเข้ามาคิดว่า
ยิ่งจันทร์ไม่เป็นอะไรแล้วเพราะได้ยินเสียงหัวเราะ
แสงเดือนรีบบอกว่ายังไม่ฟื้น ล้วนกลัวเขาไม่เชื่อ จับแขนลูกสาวยกขึ้นแล้วปล่อยลงมา เผอิญกระแทกหน้าเธอเอง เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ชยุติมองออกทำทีเป็นเชื่อ
แสงเดือนรีบขอให้ชยุติอยู่เป็นเพื่อนยิ่งจันทร์
ตนกับล้วนต้องกลับไปสะสางงานต่อ “อาเปิดโอกาส เอ๊ย! อาฝากลูกสาวด้วยนะ ให้สิทธิ์คุณติดูแลเต็มที่จ้ะ”
ชยุติหน่ายใจทำไมทั้งสามคนต้องทำขนาดนี้...
ในขณะเดียวกัน บัวกำลังจะเข้านอน แต่โดนวลี วลัยและกนกวิภาขวาง ด่าว่าโดนตบนิดหน่อยทำเป็นเรียกร้องความสนใจหนีกลับบ้านให้ชยุติตามง้อ ไม่มีศักดิ์ศรี
บัวสะกดความโกรธไม่ตอบโต้ ขอตัวเข้าพักผ่อน วลัยโวยหาว่าไล่ กนกวิภาสำทับ กล้าดีอย่างไรเป็นแค่ผู้อาศัย พวกตนต้องหายใจร่วมด้วยก็แย่เต็มทน
วลีถากถางซ้ำ “ผิดหวังมากสินะ คงคิดว่าสร้างเรื่องล่อหลอกให้ตาติงอนง้อแล้ว คืนนี้จะได้นอนกกกอดตาติ ทำมารยาสาไถยให้ตาติปลอบใจทั้งคืน...ขอโทษที่ดับฝันแก”
“ฉันไม่เคยมีความคิดพวกนี้อยู่ในหัวเลยสักนิดค่ะ เท่าที่ผ่านมาเป็นพวกคุณทั้งนั้นที่คิด”
วลีร้องกรี๊ดหาว่าด่า กนกวิภายุต้องจัดการ คิดว่าชยุติให้ท้ายจนไม่เกรงกลัว บัวพยายามเคลียร์ตัวเองว่าไม่เคยคิด ป๊าสอนเสมอให้เคารพรักและเชื่อฟัง ปฏิบัติต่อครอบครัวสามีให้ดีที่สุด วลีได้ทีเอาคำนี้มาสั่งให้พิสูจน์ว่าทำได้ทุกอย่างจริง บัวตั้งรับอย่างหวั่นใจว่าจะมาไม้ไหน
ที่ระเบียงบ้าน จ๊าดโยนหมอนและผ้าห่มลงพื้น ขณะที่ฝนกำลังเทลงมา วลีสั่งให้บัวนอนตรงนี้ทั้งคืน วลัยหวั่นใจกลัวชยุติรู้แล้วจะเอาเรื่อง วลีไม่กลัว
ถือว่าให้นอนใต้หลังคาดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าทนไม่ไหวก็กลับบ้านไป กนกวิภายิ้มเยาะสะใจกับการกระทำของแม่
ด้านชยุติยืนมองสายฝนผ่านหน้าต่างคิดถึงบัว ยิ่งจันทร์ลืมตามองอย่างขัดใจ แกล้งละเมอร้องว่า
บัวอย่าทำ ตนกลัวแล้วๆ...ชยุติเข้ามายืนมองข้างเตียงนิ่งๆ ยิ่งจันทร์ทำทีหายใจไม่ออกร้องให้เขาช่วย เขาจึงทักว่าเธอฟื้นแล้วหรือ หญิงสาวทำหน้างอนบ่นอุบ
“จันทร์ร้องเรียกพี่ติอยู่ตั้งนาน พี่ติไม่สนใจ จันทร์เลย จันทร์จะตายอยู่แล้วนะคะ”
“ขอโทษที แล้วนี่จันทร์เป็นอะไร”
ยิ่งจันทร์นึกได้ทำทีหายใจไม่ออกต่อ จะตายเสียให้ได้ ชยุติรู้ทันจะออกไปตามหมอ เธอคว้าแขนเขาดึงเข้ามารวบคอร้องลั่นว่าไม่ต้อง แล้วทำท่าพะงาบๆ
ขอให้เขาช่วยผายปอดเติมลมหายใจให้ตน ชยุติพยายามดันตัวออกบอกให้เธอปล่อย
“ไม่ค่ะ จันทร์กลัวพี่ติจะทิ้งจันทร์ไป ตอนนอนในฝันจันทร์ยังว้าเหว่ ตื่นมาจันทร์ก็ไม่อยากเหว่ว้าอยู่คนเดียวโดยไร้เงาพี่ตินะคะ”
“ถ้าจันทร์ไม่ปล่อยพี่ แล้วพี่จะผายปอดจันทร์ได้ไงกัน ท่านี้ไม่สะดวกหรอก”
ยิ่งจันทร์คิดว่าชยุติเล่นด้วยรีบปล่อยคอเขา หลับตาพริ้มทำปากจู๋รอ ชยุติเห็นอาการหื่นของ
หญิงสาวแล้วปลดปลง หันหลังเดินออกจากห้องไป ยิ่งจันทร์รออยู่นานจึงค่อยๆปรือตามอง ไม่พบเขา
อยู่ในห้องแล้วก็ร้องกรี๊ด เรียกให้เขากลับมา...ฝนยังตกกระหน่ำ ชยุติกลับไม่ได้นั่งรอจนเช้า ในใจคิดถึงและเป็นห่วงบัวอย่างมาก
รุ่งเช้า ชยุติพบหมอเจ้าของไข้ยิ่งจันทร์ พอแยกกับหมอก็เจอล้วนกับแสงเดือนเดินสวน ทั้งสองถามว่ายิ่งจันทร์ฟื้นแล้วหรือ เขารับว่าใช่แล้วเห็นทั้งสองไม่ตกใจหรือดีใจ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นแผนการหลอกตนให้มา แสงเดือนทำหน้าเศร้ารำพันว่าคนดีผีคุ้ม
“คงไม่ใช่ผีหรอกครับ เพราะผมเพิ่งคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ เขาบอกว่ายิ่งจันทร์ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว” ไชโยอ้างอาการภายใน “อาการภายในก็ไม่น่าห่วงนะครับ คุณหมอยืนยันแล้ว ทั้งร่างกายของยิ่งจันทร์สมบูรณ์ดีทุกอย่าง ยกเว้น...”
“ยกเว้นอะไรจ๊ะ...” แสงเดือนสงสัย
ชยุติเน้นชัดถ้อยชัดคำว่า...สติ...ทั้งสองทำหน้าเหวอ ชยุติพูดใหม่ว่า ยิ่งจันทร์เพิ่งฟื้น สติยังไม่คงที่เท่าไหร่ แสงเดือนไม่ละความพยายามบอกที่ลูกสาวอาการดีขึ้นเพราะเขามาอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มเอือมตัดบทขอตัวกลับ แสงเดือนท้วงยิ่งจันทร์คงอยากได้กำลังใจจากเขา ถ้าเขาไม่อยู่อาการอาจทรุดลง ชยุติ
ตอกกลับให้เรียกหมอได้เลยเพราะหมอเรียนมา
น่าจะช่วยเธอได้ดีกว่าตน พูดจบเดินไปไม่ฟังคำทัดทานจากใครทั้งสิ้น ล้วนกับแสงเดือนขัดอกขัดใจอย่างมาก
ooooooo
กนกวิภาเห็นว่าสายแล้วบัวยังไม่ตื่นจึงออกมาปลุกกับจ๊าด แต่เรียกเท่าไหร่บัวก็ไม่รู้สึกตัว วลีกับวลัยตามมาดู ต่อว่าเป็นสะใภ้อะไรตื่นสาย เรียกให้ลุกไปทำงานบ้านเดี๋ยวนี้ มาลัยโผล่มาเห็นสภาพบัวก็เอ็ดลูกหลานให้หยุดแล้วเดินนำจี๊ดกับชูดวงเข้าขวาง
“ม้าอย่ามายุ่งเรื่องหนูกับลูกสะใภ้ของหนูจะดีกว่า” วลีโวย
“ทีอย่างนี้รับอาบัวอีเป็นสะใภ้ อั๊วคงจะไม่ยุ่งไม่ได้หรอก เพราะพวกลื้อทำเกินไปแล้ว”
กนกวิภาแทรกถามเกินไปอย่างไร บัวตื่นสายแบบนี้ มาลัยสวนว่าเธอก็ตื่นสายบ่อย วลีหาว่ามาลัยปกป้องบัว มาลัยต่อว่าวลีใจดำอำมหิตให้บัวนอนตากฝนทั้งคืน ขู่ว่าพวกเธอต้องติดคุก วลัยขยาดออกตัวว่าไม่เกี่ยวแล้วเดินหนีไป กนกวิภาเสียงอ่อยลงบอก
อาม่าอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ วลีเสริมว่าแค่นี้ไม่ถึงตาย หนังหนาหน้าด้านอย่างกับอะไร มาลัยส่ายหน้าอ่อนใจหันมาดูบัว พอจับตัวก็รู้ว่าตัวร้อนจัด รีบสั่งชูดวงเอารถออก แล้วให้จี๊ดช่วยประคองบัวไปโรงพยาบาล
ไม่ทันไรชยุติกลับมาบ้าน กนกวิภาร้อนรนถามวลีว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดชูดวงวิ่งมาบอกชยุติให้รีบไปดูบัว เขาพุ่งตัวขึ้นไปข้างบนทันที เห็นมาลัยกับจี๊ดประคองบัวก็ตกใจมาก
“บัวเป็นอะไรครับอาม่า!”
“ไม่ต้องถามแล้ว รีบพาอาบัวไปโรงพยาบาลเถอะ”
ชยุติเข้าอุ้มบัวไปทันที กลุ่มวลีมองตามอย่างขัดใจ...
ooooooo
เช้าวันนั้น เจียงตัดสินใจเอาเงินสินสอดมาประกันตัวไหมฟ้าออกจากห้องขัง เธอดีใจระคนเสียใจที่คนที่ช่วยเธอคือคนที่เธอทำร้ายมาตลอด หลอย้ำให้เธอสำนึกเสียทีกับคำว่าบุญคุณ แต่เจียงกลับบอกว่า อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้แต่ปัจจุบันเราทำให้ดีได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอเอง
ตรึงจิตเห็นไหมฟ้านั่งกินข้าวในบ้านเจียงก็ด่าทอว่า เอางูพิษกลับมาระวังจะแว้งกัดอีก หลอปรามให้หยุด
แต่ตรึงจิตไม่หยุด ด่าว่าจนไหมฟ้าร้องไห้ ดำเกิงไม่ค่อยพอใจเช่นกันแต่เมื่อเจียงเป็นคนตัดสินใจก็ต้องยอมรับ จึงไล่ตรึงจิตให้ไปอาละวาดที่อื่น ไหมฟ้าเสียใจบอกตรึงจิต ไม่ต้องไปไหน ตนไปเองแล้วร้องไห้โฮวิ่งไป
เจียงหน่ายใจไม่ทันไร จี๊ดวิ่งมาส่งข่าวเรื่องบัวป่วยเข้าโรงพยาบาลก็ตกใจ...ระหว่างที่เจียง หลอและดำเกิงไปโรงพยาบาล ตรึงจิตยังหัวฟัดหัวเหวี่ยงเรื่องไหมฟ้า บ่นกับนกขมิ้นเสียงลั่น ขวดผ่านมาได้ยินถามจนรู้แจ้งว่าเจียงประกันตัวไหมฟ้าออกมา รีบกลับไปรายงานธานี
ธานีหาว่าเจียงทำแบบนี้เป็นการหยามกัน ถือว่าล่ำซำขึ้นทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา ขวดยุแยงให้โกรธมากขึ้นว่าต่อไปเสี่ยคงต้องไปกู้ยืมเงินเจียง ธานีตบหัวเขาผัวะ ย้ำไม่มีวัน...
ที่โรงพยาบาล ชยุตินั่งเฝ้าบัวอยู่ข้างเตียงอย่างห่วงใย พยาบาลฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือแล้วบอกว่า เป็นยาบำรุงร่างกายเพิ่ม ให้คนไข้พักผ่อนมากๆแล้วจะดีขึ้น...ชยุติลูบไล้แก้มบัวรำพัน ทำไมทุกคนถึงใจร้ายกับบัวขนาดนี้ มาลัยถอนใจเปรยว่า
“ความรักของพ่อแม่ที่มันมีให้ลูกมากเกินไปมันก็ทำให้ขาดสติ และความรักก็กลายเป็นอาวุธทำลายทุกอย่างที่มาขวาง โดยไม่ทันได้คิดว่าสิ่งนั้นมันดีหรือร้าย”
ชยุติถามตนควรทำอย่างไร มาลัยบอกไม่ต้องห่วง บัวแข็งแกร่งกว่าที่พวกเราคิด พลันเจียง หลอและดำเกิงเปิดประตูเข้ามา ชยุติบอกทุกคนว่าบัวมีไข้นิดหน่อย หมอให้ยาเพิ่งหลับไป
ดำเกิงโวย “หมาที่ไหนบอกว่าจะดูแลบัวอย่างดีวะ นี่แค่ข้ามวัน บัวก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลซะแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น!”
ชยุติอึกอัก หลอบอกร้อยวันพันปีบัวไม่เคยเจ็บไข้ ทำไมถึงขั้นหามส่งโรงพยาบาล ชยุติขอโทษ ดำเกิงโวยเอาแต่ขอโทษ ดีแต่ปาก เจียงปรามให้หยุด มาลัยแทรกไม่ต้องห้ามดำเกิง ลูกผู้ชายถ้ามีเรื่องค้างคาใจก็ควรจะสะสางให้จบ แต่...ควรออกไปเอาเรื่องกันข้างนอก ให้คนไข้ได้พักผ่อน ดำเกิงชะงักจ้องหน้าชยุติเขม็ง
สองหนุ่มออกมาสะสางกันที่ลับตาคนภายในโรงพยาบาล ดำเกิงโกรธผลักชยุติติดผนังถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชยุติแก้ตัวว่าเป็นความผิดของตน ดำเกิงยิ่งโกรธที่เขาไม่ยอมรับว่าดูแลบัวไม่ได้ กนกวิภาโผล่มาตวาดดำเกิงที่มาทำร้ายพี่ชาย ดำเกิงชี้หน้าคาดโทษสองพี่น้องก่อนผละไป
“คอยดูนะ ถ้าบัวเป็นอะไรไปจริงๆ ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่”
กนกวิภาพยายามพูดปั่นหัวชยุติว่า ดำเกิงทำท่าเหมือนหึงหวงมากกว่าพี่ห่วงน้อง ชยุติเอ็ดบอกทั้งสองเป็นพี่น้องกัน หญิงสาวย้ำว่าไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนิดๆ
ดำเกิงกลับเข้ามาในห้องด้วยอาการหงุดหงิด
เจียงคุยกับมาลัยจนเข้าใจกันดี ชวนกันกลับ ดำเกิงขออยู่ดูแลบัว ชยุติตามเข้ามาบอกตนเป็นสามีจะดูแลเอง ดำเกิงจะค้าน มาลัยรีบบอกว่ามีตนดูแลด้วยอีกคน ดำเกิงฮึดฮัดเดินตามเจียงออกไป
ชยุตินั่งกุมมือบัวรำพัน ตนเป็นต้นเหตุทำให้บัวต้องลำบาก มาลัยปลอบใจว่านี่เป็นบททดสอบบทหนึ่งเท่านั้น สำคัญที่พวกเขาต้องผ่านมันไปให้ได้ ชยุติรับคำแต่อดสงสารบัวไม่ได้