ตอนที่ 1
พอตรึงจิตรู้จากนกขมิ้นว่าบัวจะเล่นบทไป๋ซู่เจิน ก็ไม่พอใจ เพราะควรเป็นตนได้เลื่อนขั้นมาเล่นบทนางเอกแทนไหมฟ้า นกขมิ้นพยักพเยิดเห็นด้วยไปอย่างพวกใกล้ไหนเอนทางนั้น
ด้านบัวเริ่มประหม่ากลัวตัวเองเล่นไม่ได้ ดำเกิงคอยเป็นกำลังใจและยุให้บัวสู้ บอกถ้าคณะล้ม คนที่ไม่เป็นอะไรคือบัวคนเดียวเพราะมีความรู้ แต่ตนและคนอื่นๆจะทำมาหากินอะไร
แต่แล้วเจียงประกาศว่าให้ตรึงจิตเล่นบทไป๋ซู่เจิน ตรึงจิตดีใจออกนอกหน้า ดำเกิงแขวะเกิดการเถียงกันไปมา บัวต้องปรามดำเกิง หลอกำชับตรึงจิตให้ท่องบท แม่นๆอย่าให้งานล่ม
คืนนี้ชยุติพามาลัยมาดูงิ้วที่ศาลเจ้า มาลัยหน้าตาแจ่มใสเพราะไม่ได้มานานมากแล้ว ชยุติยังเตรียมเม็ดกวยจี๊ไว้ให้อาม่าด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมงิ้ว...
ภายในงาน เจ้าภาพที่แก้บนจุดพลุเสียงดังสว่างไสวบนท้องฟ้า ดำเกิงชวนบัวออกไปดู แต่บัวกำลังช่วยตรึงจิตติดจุ่ยปิงที่มวยผมจึงออกไปไม่ได้ หลอกำชับเรื่องบท ตรึงจิต ลุกยืนอย่างมาดมั่นจำได้แน่ แต่พอก้าวเดินก็ร้องกรี๊ด
นกขมิ้นร้องลั่นว่าเธอโดนตะปูตำเท้า ตรึงจิตเห็นเลือดแทบเป็นลม ในขณะเดียวกัน ไหมฟ้านั่งอยู่ร้านกระเพาะปลารอเยาะเย้ยว่าใครจะเล่นบทไป๋ซู่เจินแทนตนได้ แม่ค้าถามงิ้วจะเริ่มแล้วทำไมไม่ไปแต่งตัว ไหมฟ้าบอกลาออกแล้ว และเยาะว่าคืนนี้มีแต่หมาหอนแน่
บัวทำแผลให้ตรึงจิต ดำเกิงเห็นที่ตะปูเป็นสนิมก็ร้องบอกระวังจะเป็นบาดทะยักถูกตัดขา ตรึงจิตกลัวรีบให้คนในคณะพาไปฉีดยาที่โรงพยาบาล...เจียงเครียดหนักที่ขาดนางเอกไปอีก หลอจึงสั่งให้บัวเตรียมตัวแสดงแทน โดยไม่สนใจสีหน้าเจียงอีกต่อไป
ตรึงจิตถูกหามออกมาเจอไหมฟ้าเยาะเย้ยถากถางว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ ตรึงจิตแค้นใจแต่ต่อปากต่อคำนานไม่ได้กลัวโดนตัดขาจึงรีบไป
เสียงคนดูเริ่มฮือฮาทำไมงิ้วไม่เริ่มเล่น เจียงออกมาจะประกาศงด แต่ดนตรีประโคมขึ้นกลบเสียง ตามด้วยบัวในชุดไป๋ซู่เจินวาดลวดลายนางพญางูขาวออกมาอย่างสวยงาม เสียงปรบมือดังกระหึ่ม ทุกคนตะลึงมองการแสดงของบัว มาลัยออกปากว่านี่แหละไป๋ซู่เจินจริงๆ
ไหมฟ้าเห็นบัวแสดงแทนตนก็เข่นเขี้ยวด้วยความริษยา ชยุติมองบัวตาไม่กะพริบราวต้องมนตร์...ธานีเดินแทรก ผู้คนเข้ามาดูแล้วต้องตะลึงไปอีกคน ก่อนจะร้องว่านั่นบัวลูกสาวเจียง
ด้านชยุติหยิบสมุดบันทึกออกมาวาดรูปบัวเป็นลายเส้นในท่วงท่าต่างๆ กระทั่งบัวมองมาเห็นสายตาเขาเกิดอาการประหม่า ผ้าเช็ดหน้าปลิวหลุดมือลงมา ชยุติจะ เอื้อมไปเก็บแต่ธานีชิงไปเสียก่อนแล้วสูดดมก่อนจะยื่นคืนให้บัว เธอชะงักชั่วครู่จำต้องรับผ้ากลับมาร่ายรำต่อ
ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเต็มโรง เจียงมองอย่างมีความสุขระคนความกังวลใจ...พอเสร็จการแสดง นักแสดงกลับมาหลังโรง ดำเกิงเอาน้ำเก๊กฮวยให้บัว หลอแกล้งบ่นว่าเอาใจแต่บัว น่าน้อยใจจริงๆ ดำเกิงเขินรีบเอาน้ำมาให้หลอและเจียง...เจียงเสียงเครียดต่อว่า
“ป๊าสั่งไม่ให้ลื้อเล่นงิ้วทำไมลื้อยังกล้า”
“บัวขอโทษจ้ะป๊า แต่ถ้าบัวไม่เล่น เถ้าแก่นั้งที่ดูแลศาลเจ้าต้องไม่พอใจแน่ๆ บัวไม่อยากให้คณะของเราต้องเสียชื่อ เสียสัจจะ...”
“แสดงว่าคำสั่งป๊ามันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม”
บัวโอดครวญอยากรู้เหตุผล แต่เจียงประกาศกร้าว ไม่ให้เล่นงิ้วอีกเป็นอันขาด...ธานีดอดเข้ามาหลังเวที หลอโวยว่าเข้าไม่ได้ แต่เขาชูแบงก์ยี่สิบหราบอกว่าจะตบรางวัลบัว ขวดแอบเหน็บเจ้านายตัวเองว่าเงินแค่นี้เอง นึกว่าจะร้อยสองร้อย
เจียงไม่อยากมีเรื่องบอกให้บัวเข้าไปรับ ธานีคว้ามือเธอหมับ เธอรีบกระชากมือกลับอย่างรังเกียจ
เจียงไล่ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า บัวรีบเดินไป ดำเกิงวิ่งเข้ามาบอกบัวว่ามีคนอยากรู้จัก แต่ชนธานีเข้าอย่างจัง ดำเกิงไม่สนใจดึงบัวออกไป เจียงกับหลอรีบตาม พอเจียงเห็นว่าเป็นอาม่ามาลัยก็ยิ้มแย้มให้บัวมาไหว้ มาลัยเพ่งพินิจกว่าจะจำได้ว่าคือบัว เจียงถามจำได้ด้วยหรือ
“จำได้สิ ตอนเด็กๆอาตี๋ชอบมาเล่นซ่อนแอบกับอีที่โรงงิ้วเป็นประจำ โตแล้วเหงียเงี่ย สวยขึ้นผิดหูผิดตา จริงไหมวะอาตี๋” มาลัยโยนลูกให้หลานชาย
“ครับ...อาม่าช่างสังเกต ขนาดผมเห็นทีแรกยังจำบัวแทบไม่ได้”
มาลัยบอกตายังดี ต่อให้แต่งหน้าเป็นไป๋ซู่เจินก็จำได้ ชยุติชมแสดงดีมาก บัวเขินอายไม่กล้าสบตา มาลัยบอกเจียงว่าคณะจะต้องกลับมาโด่งดังอีกแน่ เจียง อมยิ้มอย่างไม่ได้ภูมิใจเพราะมีปมในใจ มาลัยให้รางวัล ด้วยแบงก์ห้าร้อยสองสามใบ บัวอิดออดไม่กล้ารับ ดำเกิงตาโตยินดีไปกับบัว...ธานียืนมองอย่างเจ็บใจ บ่นงึมงำว่าแบงก์สีอะไรมันก็เงินเหมือนกันแล้วฮึดฮัดกลับไป
เจ้าของศาลเจ้ายอมให้เจียงแสดงงิ้วต่อไป
แต่กำชับอย่าให้เกิดเรื่องอีก พร้อมชมเปาะว่าลูกสาวเล่น ได้ดีมาก...ส่วนมาลัยบอกชยุติให้พาไปดูงิ้วอีก คราวหลังจะเอาเงินมาเยอะๆเป็นการแจกจ่ายให้คนจน ดีกว่าให้ป๊าม้าเขาเอาไปทำหน้าใหญ่อวดร่ำอวดรวย แล้วบ่นออกมา
“อั๊วไม่ชอบไอ้บ้านหลังนี้เลยว่ะไอ้ตี๋ อยู่มา
สิบกว่าปีอั๊วไม่เคยชอบมันสักวัน อั๊วว่ามันใหญ่ไป เหมือนไม่ใช่บ้านคน ให้อาม่าเลือกนะ อาม่าขอไปอยู่ในสลัมนั่นยังจะดีซะกว่า มีเพื่อนบ้านตั้งเยอะแยะ ได้ดูงิ้วทุกคืนอีกต่างหาก”
ชยุติเข้ากอดมาลัยบอกมีตนแล้วไม่ต้องเหงาอีก มาลัยจึงขอให้เขาพาไปเที่ยวต่อ อยากซิ่ง หลานชาย ทำตาโตทึ่งกับความต้องการของอาม่า
ooooooo
วลีบ่นห่วงลูกชายกับอาม่าที่ป่านนี้ยังไม่กลับ กนกวิภาบอกไม่เห็นน่าห่วงเพราะอาม่าไปกับชยุติ วลัยลูบหัวหลานสาวอย่างเห็นด้วย วลีหมั่นไส้น้องสาวฝาแฝด ที่ชอบทำท่าเหมือนหลานเป็นลูกตัวเอง แม้แต่สามีของตนก็ทึกทักเป็นสามีตัวเองอยู่เรื่อย
ที่หลังโรงงิ้ว บัวเอาเงินที่ได้จากมาลัยให้เจียงไว้เป็นค่าใช้จ่ายในคณะ แต่เขาไม่รับ บัวจึงขอยกเป็นเงินกองกลาง มีความจำเป็นเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาใช้ หลอเห็นว่าดี บอกทุกคนในคณะว่าต่อไปให้ทุกคนบริจาคเงินเข้ากองกลางอย่างบัว เพื่อไว้ใช้เวลาที่ใครเดือดร้อน ดำเกิงปรบมือนำ ทุกคนทำตามแสดงความชื่นชมกับการกระทำของบัว
เจียงกลับเข้าบ้าน แอบหยิบรูปในวัยหนุ่มที่ถ่ายกับภรรยาซึ่งเป็นนางเอกงิ้วขึ้นมาดู แล้วถอนใจพึมพำกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
เมื่อชยุติพามาลัยกลับเข้าบ้านก็โดนวลีกับวลัยบ่นว่ากลัวอาม่าไม่สบาย อาม่ามีหลายโรคทั้งความดัน เบาหวาน โรคหัวใจและยังเกาต์อีก มาลัยประชดว่าตนจะตายเพราะพวกเธอ วลีกับวลัยหน้าเสีย วลีสั่งห้ามพาอาม่าไปไหนโดยพลการ ให้เห็นหัวผู้หลักผู้ใหญ่บ้าง มาลัยสวนแล้วที่สั่งข้ามหัวตนนี่ เคยเห็นหัวตนบ้างไหม วลีเงียบเถียงไม่ออก วลัยพามาลัยเข้านอน ชยุติบ่น
“สงสารอาม่ามากเลย ม้ารู้ไหมครับ วันนี้อาม่า
มีความสุขมากๆเลยนะครับที่ได้ไปดูงิ้ว”
“งั้นสิ มิน่าเราถึงขันอาสาไป ติเอ๊ย ม้าให้แกไปเรียนเมืองนอกเพื่อที่จะให้แกทำงานสำคัญๆนะ”
“แล้วมันมีอะไรสำคัญกว่าการที่ทำให้อาม่ามีความสุขล่ะครับ”
“แต่ก็ไม่ได้ให้แกเที่ยวเร่ร่อนไปวันๆแบบนี้ แกจะต้องดูแลบริษัทแทนม้าแล้วก็แต่งงาน”
ชยุติตกใจเมื่ออาม้าพูดเรื่องแต่งงาน กนกวิภาได้ยินก็อึ้งไปเหมือนกัน...ชยุติกลับเข้าห้อง เอาภาพที่ตัวเองสเกตช์รูปบัวออกมาดูแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
ดำเกิงต่อว่าบัวไม่น่ารับผ้าจากธานีให้มันแต๊ะอั๋งเอา บัวว่าจะให้ทำอย่างไรในเมื่อต้องแสดงต่อ ดำเกิงเปลี่ยนเรื่องถามพรุ่งนี้อยากกินอะไรจะทำให้เป็นของขวัญวันเกิด บัวเพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดตัวเอง บอกเขาทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น ดำเกิงเกิดอาการเขินหน้าแดงจนเธอขำ
บัวเข้านอนพยายามข่มตาหลับ แต่กลับนึกถึงสายตาชยุติที่มองตาไม่กะพริบ เผลอยิ้มออกมาอย่างชื่นมื่นหัวใจ
ooooooo