ตอนที่ 3
คิงเฮนรี่คงเข้าใจความอึดอัดนี้ดีเลยฝากจดหมายไว้ให้ดวิน
“ผู้พันดวิน...เราขอบใจอีกครั้งที่รับทำภารกิจนี้ ที่ผ่านมาอาจมีการจัดฉากบ้างแต่เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อคุณที่เราเล่าให้ฟังเป็นความจริงทุกอย่าง พ่อคุณเป็นทหารกล้าหาญ เสียสละ...ความกล้าหาญและเกียรติยศยังอยู่ในความทรงจำเราตลอดไป...เราเคยฝากชีวิตและเชื่อมั่นในพ่อคุณ และตอนนี้เราเชื่อมั่นในตัวคุณเช่นกัน...ฝากดูแลอลิซด้วย”
ดวินตัดสินใจยอมรับภารกิจนี้เพื่อปกป้องเจ้าหญิงอลิซและตามรอยพ่อแท้ๆ ศักดิ์ชายโล่งใจมากแต่ไม่วายหนักใจเพราะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากเสาวนีแม่แท้ๆของดวิน
“เขาไม่ยอมอยู่แล้ว ผมรู้จักแม่คุณดี ผมอยู่ในเหตุการณ์วันที่แม่คุณสูญเสียพ่อคุณ มันไม่ง่ายเลย ถ้าเขารู้ว่าคุณกำลังเดินตามรอยเท้าพ่อทำในสิ่งที่พ่อคุณเคยทำ...แม่คุณไม่ยอมแน่ๆ”
สิ่งที่ศักดิ์ชายคิดไม่ต่างจากที่ดวินคาดการณ์เลยอยากขอให้ช่วยเก็บเป็นความลับซึ่งอีกฝ่ายเข้าใจดี
“ผมจะไม่บอกเรื่องแต่งงานกับแม่คุณเพราะตอนนี้แม่คุณไปราชการต่างประเทศ ผมคิดว่า...ภารกิจนี้น่าจะใช้เวลาไม่นาน ถ้าทางโน้นหาตัวคนร้ายได้ทุกอย่างก็จบ เจ้าหญิงเดินทางกลับประเทศ ชีวิตคุณก็กลับสู่สภาวะปกติ”
“ขอบคุณครับนาย...หวังว่าเราจะได้ตัวคนร้ายก่อนที่แม่จะกลับมา”
เมื่อตัดสินใจได้ดวินจึงเริ่มภารกิจซ่อนตัวของเจ้าหญิงอลิซด้วยการหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับฮรีสอซ แพนรับหน้าที่หลักในฐานะคลังข้อมูลของทีม สมาชิกดีทีมทั้งหมดจึงได้รู้จักราชวงศ์ของฮรีสอซอย่างละเอียด ทั้งประวัติ ความสัมพันธ์และความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะเรื่องแต่งตั้งรัชทายาทที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เวลานี้
“ข่าวลือการลอบเป็นชู้ของเจ้าฟ้าชายอังเดรและเจ้าฟ้าหญิงโมนาทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับคิงเฮนรี่จึงแต่งตั้งเจ้าหญิงอลิซเป็นองค์รัชทายาทแทนที่จะเป็นเจ้าฟ้าชายอังเดร”
“แต่ถ้าไล่ตามลำดับจริงๆ ต่อจากเจ้าฟ้าชายอังเดรก็ต้องเป็นเจ้าหญิงเคธไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ...ตามลำดับที่ถูกต้อง...คนแรกที่จะได้ขึ้นครองราชย์คือเจ้าฟ้าชายอังเดร คนที่สองคือเจ้าหญิงเคธ คนที่สามคือเจ้าชายอลันและคนที่สี่คือเจ้าหญิงอลิซ แต่เพราะประชาชนไม่ยอมรับและอคติกับเจ้าหญิงเคธทำให้ตำแหน่งรัชทายาทตกมาเป็นของเจ้าหญิงอลิซ หลายคนเรียกเจ้าหญิงเคธว่า...เจ้าหญิงที่ถูกลืม”
ประเด็นเรื่องเจ้าหญิงเคธไม่อาจตัดทิ้งได้ทีเดียวแต่สมาชิกดีทีมเกือบทุกคนรวมทั้งเจ้าหญิงอลิซเชื่อว่าการลอบสังหารครั้งล่าสุดน่าจะเป็นแผนของเจ้าฟ้าชายอังเดรกับเจ้าฟ้าหญิงโมนามากกว่า เพราะการแต่งตั้งเจ้าหญิงอลิซเป็นรัชทายาทอันดับหนึ่งน่าจะทำให้ทั้งสององค์ไม่พอใจ
ดวินรับฟังเรื่องราวเจ้าหญิงอลิซ...ว่าที่เจ้าสาวของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อดเห็นใจราชนิกุลสาวไม่ได้ที่ไว้ใจใครไม่ได้แม้แต่คนในครอบครัว อคติที่เคยมีลดหายกว่าครึ่งและคิดว่าจะทำหน้าที่ครั้งนี้ให้ดีที่สุด...อย่างน้อยก็เพื่อสัมพันธภาพอันดีงามระหว่างประเทศไทยกับฮรีสอซ...ไม่ใช่เพราะห่วงใคร!
ooooooo