ตอนที่ 12
วริศรายอมเต้นด้วยแบบเสียไม่ได้ กษมากับปกรณ์เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อดทึ่งกับลีลาจีบสาวของตรินไม่ได้
“ไอ้ตรินมันเก่งว่ะ ได้เต้นรำกับคุณพี่เก๋”
ปกรณ์พยักหน้าเห็นด้วย “ฉันกับแกก็ได้เต้นรำกับอีกสองคน”
“คุณน้องพัดผมยาว แกรีบไปเลย กำลังมีคนจะมาตัดหน้าแล้ว”
“จริงด้วย แกก็รีบไปหาคุณอี๊ดสุดเซ็กซี่เลย”
ooooooo
กษมากับปกรณ์ไปโค้งขอมารตีกับพัชรีเต้นรำจนได้ เดือนดาราสังเกตการณ์จากมุมไกลๆ กระซิบกระซาบถามสำลีเรื่องตรินหรือเสริมในอดีตชาติ
“บอกมาซิลุงว่าทำยังไงคุณเสริมจะใกล้ชิดฉันได้”
“กระผมคิดออกแล้วขอรับ...ทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยจงใจ”
เดือนดาราลอบเบ้หน้า “อุบัติเหตุไม่จงใจมันเพิ่งเกิด ยัยพัดเป็นลม คุณเสริมเลยเจอนังพลอย ไอ้อ่ำเจอนังดาวเรือง นายสนเจอเมียเก่านังชื่น”
“หาทางให้คุณเสริมไปรีสอร์ตของคุณหญิงให้ได้ขอรับ”
“ลุงสำลีหาทางให้ฉันด้วย ต้องคืนนี้นะ ถ้าเกินกว่านี้ฉันก็อาจไม่ได้พบเขา”
สำลีรับปากแข็งขัน วริศราไม่ได้สังเกตอากัปกิริยาแม่บุญธรรมกับผู้ติดตาม มัวหงุดหงิดตรินที่กวนประสาทและพูดจาหยอกเย้าเธอตลอดเวลา
“คุณนี่เฟอะฟะมาก ลืมกระเป๋าได้ทั้งใบ”
“น้องสาวฉันเป็นลม ฉันเลยลืม”
“แต่กระเป๋ามันสำคัญมากนะคุณ แบบนี้ถ้าน้องเป็นลมอีก คุณคงลืมกระเป๋าอีกแน่ๆ”
“นี่คุณ...แค่เจอกระเป๋าแล้วเอาส่งคืนให้ไม่ได้แปลว่าสามารถมาตำหนิติเตียนกันได้ มากไปไหม”
“ผมเตือนสติต่างหาก รู้ไหมมันอันตรายบางคนได้ไปเขาไม่คืนด้วยซ้ำ”
“ไม่คืนฉันก็ซื้อกระเป๋าใหม่ ทำบัตรใหม่ทั้งหมด”
“อ้อ...เศรษฐีใหญ่”
“ฉันเบื่อมากแล้ว ไม่อยากเต้นรำ!”
พูดจบก็ผละหนีแต่ตรินกระชากเธอมาโอบไว้
“นอกจากจะขี้หลงขี้ลืมของยังขี้ลืมมารยาทด้วย รอเพลงจบก่อนดีไหม”
“ไม่ดี เพราะฉันเบื่อคุณ!”
“ก็ต้องทนไปก่อนนะคนขี้โมโห”
ตรินชอบใจได้ต่อปากต่อคำกับวริศรา กษมาก็ได้ทำความรู้จักมารตีมากขึ้น สี่หนุ่มสาวเต้นรำด้วยกันอย่างราบรื่น มีเพียงพัชรีที่ตื่นกลัวไม่หาย เต้นรำกับปกรณ์ได้ไม่นานก็เป็นลมอีกครั้ง!
ooooooo
เดือนดาราฉวยโอกาสที่พัชรีเป็นลมชวนสามหมอ ตริน กษมาและปกรณ์ไปกินข้าวที่บ้านตอบแทนน้ำใจ วริศราไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดความ ต้องการของแม่บุญธรรมไม่ได้
ตรินหรือเสริมในอดีตชาติดีใจได้ยืดเวลาใกล้ชิดวริศรา ตอบตกลงไปนั่งรถคันเดียวกับสามสาว โดยไม่ลืมโทร.บอกพ่อแม่ว่าจะกลับบ้านช้า วิลาสินีกับชลิตมองหน้ากันงงๆหลังวางสายลูกชายคนเดียว
“หรือว่านายตรินลูกเรามันติดใจคุณหญิงคนสวยนั่นเข้าให้แล้ว”
“ไม่นะ! อย่าพูดบ้าๆ คุณหญิงนั่นมีลูกสาวสามคน ต้องแก่ขนาดเป็นแม่ของลูกเราได้ เรื่องอะไรตรินจะไปติดใจ”
“ก็เธอสวยมะลังมะเลืองขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนมันก็ชอบผู้หญิงสวยทั้งนั้น”
วิลาสินีหรีือคุณหญิงตรึงตราในอดีตชาติชักสีหน้า “เอ๊ะ! คุณนี่ ฉันยิ่งไม่ค่อยพอใจยัยคุณหญิงนั่น เรื่องอะไรมาชวนลูกเราไปกินข้าวด้วย หรือจะอ่อยเหยื่อลูกเรา โอ๊ย...ไม่น่ายอมให้ไปเลย”
“ก็ไปแล้วน่ะ ทำไงได้”
“อย่าให้มีอีกครั้งทีเดียว ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!”
นอกจากเปิดโอกาสให้ตรินเข้าใกล้วริศรา เดือนดารายังเจ้ากี้เจ้าการให้เบอร์มือถือลูกสาวกับตรินด้วย ตรินพอใจมากแต่ยังเก็บอาการทำทีเหมือนว่าไม่ตื่นเต้น
เดือนดาราไม่ยี่หระท่าทางไม่พอใจของวริศรา เมื่อกลับถึงบ้านก็สั่งลูกสาวทั้งสามต้อนรับบรรดาแขกหนุ่มๆที่โต๊ะอาหาร ส่วนตัวเองปลีกตัวไปคุยกับสำลีในมุมลับตา
“สำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เรารู้จักคุณเสริมโดยมีไอ้อ่ำกับนายสนเป็นเนื้องอกไส้ติ่งพ่วงเข้ามา”
“ดีกว่าไม่มีคุณเสริมนะขอรับ เราจะใช้มันสองคนให้เกิดประโยชน์ได้ขอรับ สังเกตไหมขอรับ...
ทั้งสามคนติดใจคุณหนูทั้งสามเข้าให้แล้ว ยกเว้นคุณพลอยยังปั้นปึ่ง”
“หมั่นไส้จริงๆ ฉันต้องรีบโน้มน้าวคุณเสริม หรือเราจะพบเขาได้แค่นี้เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะกลับเชียงรายแล้ว”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณหญิงขอรับ”
ooooooo
ตรินหรีือเสริมในอดีตชาติชอบใจได้ใกล้ชิดวริศรา แม้เจ้าตัวจะทำเหมือนไม่ชอบหน้า เขาก็ไม่คิดยอมแพ้และแกล้งกวนประสาทเธออีกรอบที่โต๊ะอาหาร
“น่ากินมาก อยากกินแล้ว...หิว”
“ตะกละ! คุณแม่มาก็ได้กิน กลัวไม่ได้กินหรือไง”
“ผมรู้จักมารยาทดีมากครับ ผมใจเย็นไม่ฉุนเฉียว แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร”
“บอกตรงๆเลยนะว่าฉันไม่ต้องการกินข้าวกับนาย”
“แล้วใครว่าผมมานี่เพื่อมากินกับคุณ”
“แล้วรับปากมาทำไม”
“ผมจะมากินกับคุณหญิงเดือนดารา ไม่ใช่มากินกับคุณพี่เก๋”
“ขอสาปแช่งให้เจอผีหลอก”
“กลัวตัวสั่นแล้วครับ”
กษมากับปกรณ์หรืออ่ำกับสนก็พยายามทำความรู้จักมารตีกับพัชรีหรือดาวเรืองกับชื่น โดยเฉพาะกษมาคุยกับมารตีอย่างถูกคอ เดือนดารามาถึงโต๊ะกินข้าวเห็นหกหนุ่มสาวเข้ากันได้ก็เอ่ยปากชวนสามหนุ่มไปเที่ยวไร่ที่เชียงราย
วริศราจะค้านเหมือนเคยแต่ตรินก็ตัดหน้าตอบตกลง อ้างว่าพวกเขาเพิ่งเรียนจบและยังไม่อยากทำงาน จะขอเที่ยวให้จุใจก่อน เดือนดาราลอบยิ้มร้ายกับสำลีแต่ไม่มีใครสังเกต ยินดีมากที่แผนพวกตนได้ผล