icon member

ระเริงไฟ

ตอนที่ 11

ขาดคำของชาคริต ญาดาก็สะบัดตัวหลุดและลั่นปืนโดยไม่ตั้งใจ ชาคริตตกใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าภรรยา และผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจจะกล้าทำแบบนี้ แต่กระนั้น ...ความแค้นเคืองที่พึงมีก็ค่อยๆเจือจางเมื่อเห็นสีหน้าแตกตื่นและแววตาเป็นห่วงเป็นใยของเธอ อย่างน้อยเขาก็มั่นใจได้ว่าเธอยังรักเขา...

หลังเหตุการณ์ที่สนามแข่งรถ ทุกคนที่เกี่ยวข้องอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ยับเยินทั้งกายและใจ...ไตรทศไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เก็บตัวในบ้านเพราะไม่มีแก่ใจพบผู้คน เขมิกาเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด แต่ด้วยทิฐิทำให้ไม่ยอมขอโทษและปรับความเข้าใจกับน้องชาย

ญาดาจมกับภาพชาคริต ทั้งตอนมีช่วงเวลาดีๆและตอนพลั้งมือยิงเขา ยิ่งคิดยิ่งเครียด ทำอย่างไรภาพและความรู้สึกที่มีต่อเขาก็ไม่จางหาย เช่นเดียวกับชาคริตที่ปัดภาพเธอทิ้งจากใจไม่ได้จนต้องย้ายไปอยู่โรงแรม

ทัศนะถูกเรียกตัวสัมภาษณ์ ตำแหน่งงานและเงินเดือนไม่ได้ทำให้เขาตื่นเต้น แต่ที่ทำให้เขายอมพิจารณาข้อเสนอจากบริษัทล่าสุดคือการได้ย้ายไปทำงานต่างประเทศที่มีโรงพยาบาลทางเลือกสำหรับเพ็ญขวัญ

ดิลกยังกบดานไม่เผยตัว แต่ชาคริตไม่ยอมแพ้ กำชับปิงให้สืบหาตัวพ่อตาให้ได้ ก่อนที่มิสเตอร์โจว

คนสนิทของพ่อบุญธรรมจะทนไม่ไหวและลงมือแทน

“ฉันต้องการจัดการนายดิลกด้วยวิธีของฉันเอง!”

ปิงรับคำสั่ง ก่อนจะรายงานเรื่องทัศนะกำลังหางานใหม่และเวลานี้นั่งอยู่ในร้านกาแฟเดียวกัน

“ระวังตัวด้วยนะครับนาย คุณทัศนะไม่ใช่คนเดิมแล้ว เขาเข้าข้างศัตรู เขาไม่ใช่...เพื่อนแล้ว”

ชาคริตขบกรามแน่น ช้ำแทบกระอักแต่ยังเชื่อใจเพื่อนรัก

“ยังไงไอ้นะก็เป็นเพื่อนฉัน...ไม่มีวันเปลี่ยน!”

ooooooo

ญาดาตัดสินใจเปิดศึกกับชาคริต จ้างบอดี้การ์ดส่วนตัวและเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดีเมื่อยี่สิบปีก่อน และคนแรกที่เธอต้องเค้นข้อมูลคือทัศนะ

ทัศนะไม่มีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นญาดามาดักรอที่ร้านกาแฟที่เขามานั่งคุยเกี่ยวกับงานใหม่

“เรื่องที่คุณควรรู้...ผมบอกคุณไปหมดแล้ว”

“คุณพ่อไม่เคยทำธุรกิจกับคุณกาจ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย”

“คุณคิดเองว่าไม่เกี่ยว”

“คุณบอกว่าคุณพ่อฉันมีหุ้นในบริษัทที่เป็นคดีจนคุณกาจติดคุก แต่ฉันเช็กแล้ว...ไม่มีชื่อคุณพ่อเลย”

“คนไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน...ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้จักกันนี่ครับ”

พูดจบก็จะผละไป ญาดาขู่จะไม่ให้เจอเขมิกาอีก แต่กลับถูกทัศนะตอกหน้าหงาย

“อย่าขู่ผม! คุณกำลังเหมือนใครรู้ไหม...เหมือนคนที่คุณเกลียดไง”

ชาคริตคือคนที่ทัศนะหมายถึง และคนคนเดียวกันก็มาดักรอเจอเขาอีกต่อหน้าร้านเดียวกัน พร้อมข่มเรื่องงานใหม่ว่าจะไม่มีวันได้ไป

ทัศนะโกรธมาก แต่ไม่ทันเอาเรื่อง ญาดาก็โผล่มาและทำให้ชาคริตพูดไม่ออก!

ทัศนะแยกตัวกลับไปแล้ว ชาคริตได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะตามไปวอแวญาดา

“คุณมาเจอนายนะทำไม”

“ไม่เกี่ยวกับคุณ!”

ชาคริตโมโห เอื้อมไปคว้าตัวเธอ

“ผมยังมีสิทธิ์ในตัวคุณ”

“อย่าแตะต้องตัวฉัน!”

“ไม่งั้นจะทำไม...จะยิงผมทิ้งหรือไง”

ท้าทายพลางดึงเธอเข้าหา แต่บอดี้การ์ดของญาดาก็ถลามาขวาง ปิงที่ตามประกบเจ้านายเตรียมควักปืน แต่ชาคริตไม่อยากมีเรื่องยกมือห้าม ยอมผละไปแต่ไม่วายทิ้งท้ายกวนประสาท

“ผมไม่กล้าแตะคุณแล้ว...ไว้คราวหน้าผมจะทวงสิทธิ์ของผม!”

ญาดาเกลียดใจตัวเองเหลือเกินที่หวั่นไหวกับคำพูดของชาคริต แต่ไม่นานก็ต้องปัดความว้าวุ่นใจทิ้งและตั้งหน้าตั้งตาค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของพ่อและเก่งกาจพ่อของชาคริต จนกระทั่งไปพบภาพถ่ายเก่าๆ

สมัยเรียน...หลักฐานชิ้นสำคัญว่าดิลกกับเก่งกาจเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน...

ooooooo

เพ็ญขวัญตื่นเต้นมากเมื่อพี่ชายบอกว่าได้งานใหม่ แต่เงื่อนไขคือต้องย้ายบ้านและอพยพไปอยู่ต่างประเทศทำให้เธอทำใจไม่ได้ และคิดว่าพี่ชายอาจมีเหตุผลมากกว่านั้น

ทัศนะส่ายหน้า ยืนยันไม่ได้พูดเล่น ข้อเสนอที่ว่าเป็นผลดีต่อทั้งเขาและเธอ แต่เพ็ญขวัญไม่เชื่อ

“ถ้าพี่นะต้องการหนีพี่เขมก็ไม่ต้องหนีไปไกลขนาดนั้นก็ได้”

“พี่ไม่ได้หนี พี่ทำเพื่อขวัญ ที่นั่นอากาศดี มีศูนย์การแพทย์ทางเลือกดีที่สุด นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเราสองคน”

เพ็ญขวัญเครียดมาก ตัดสินใจสร้างเรื่องโกหกโทร.หาเขมิกาเพื่อขอความช่วยเหลือ คุณหนูคนสวยกำลังปวดหัวกับความดื้อรั้นของไตรทศที่จะออกจากบ้านให้ได้ จึงกำชับบอดี้การ์ดที่ญาดาหามาให้เฝ้าน้องชายดีๆ ส่วนตัวเองรีบไปบ้านทัศนะด้วยใจร้อนรนและเป็นห่วงเพ็ญขวัญ

แต่นอกจากคนที่เป็นห่วงจะไม่เป็นอะไร เขมิกายังพบว่าตัวเองถูกหลอกให้มาเจอทัศนะในเวลาต่อมา เพ็ญขวัญถูกต่อว่าอย่างหนัก โทษฐานโกหกคำโต ทัศนะต้องมาห้ามและพาเขมิกาไปเคลียร์อีกทาง

“ไม่คิดว่าทำเกินไปเหรอ”

“ฉันเกลียดการถูกหลอก...เกลียดที่สุด”

“คุณเกลียดผม ก็ไม่ควรจะไปลงกับขวัญ”

“ที่จริง...เด็กขี้โรคอย่างขวัญคงคิดแผนนี้ไม่ได้ คงเป็นคุณที่ใช้ความน่าสงสารของน้องเป็นเครื่องมือ”

“ผมไม่คิดจะพบคุณอีก...”

เขมิกาถึงกับอึ้ง เริ่มรู้สึกผิดที่พูดแรง แต่ทัศนะไม่สน เอ่ยเสียงเย็น

“น้องผมไม่เคยทำตัวน่าสงสาร แกขี้โรคก็จริง แต่แกเข้มแข็งแล้วก็เป็นผู้ใหญ่กว่าคุณมาก ถ้าคุณยังจำได้ว่าแกเคยดูแลคุณได้ดีแค่ไหน...ผมขอโทษแทนน้องแล้วกันที่คิดแผนไม่เข้าท่า”

“คุณนะ...จริงๆฉันไม่ได้โกรธขวัญ เขมไม่ทันคิด”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไปรบกวนคุณอีก ผมบอกคุณคนแรกเลยแล้วกัน...ผมจะย้ายไปทำงานที่มิวนิค”

ระเริงไฟ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด