ตอนที่ 10
ขณะที่พุฒิเมธคุยกับบุญสิตาอยู่ด้วยความรู้สึกดีๆต่อกันนั้น อีกมุมหนึ่งนักสืบที่กันต์จ้างมาก็รายงานกันต์ ถามว่าจะให้ตนทำยังไงต่อไป กันต์ให้ตามต่อไปและรายงานมาเป็นระยะ
พอบุญสิตาแยกจากพุฒิเมธเดินอารมณ์ดีจะกลับบ้านก็ถูกณฤทธิ์ออกมาขวาง เธอถามว่าเขาหายไปไหนมา ณฤทธิ์บอกว่าเห็นเธอกำลังคุยมุ้งมิ้งกับน้องชายตนเลยไม่อยากมาเป็นก้างขวางคอ บุญสิตาบอกว่าพุฒิเมธขอบคุณตนที่ช่วยเหลือบริษัท คำพูดของเขาทำให้ตนรู้สึกว่าตัวเองมีค่า แล้วเล่าเขินๆว่า
“ก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำอะไรก็ไม่เคยดี ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่ตั้งแต่คุณเข้ามาฉันได้ทำอะไรหลายอย่าง ถ้าคุณเมธขอบคุณฉัน ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณด้วยเหมือนกัน ขอบคุณนะที่เข้ามาในชีวิตฉัน ตอนแรกฉันอาจจะกลัวคุณ ระแวงคุณ ไม่อยากให้คุณใช้ร่างฉัน แต่ตอนนี้ฉันเชื่อว่าคุณไม่มีทางทำร้ายฉัน ร่างของฉันแน่นอน”
“ฉันจะทำร้ายร่างทรงหนึ่งเดียวของฉันทำไมล่ะ ถึงร่างจะไม่เป๊ะ ไม่เด้ง ไม่โดน แต่ก็เพราะร่างเธอเลยทำให้ฉันมีเวลาทำอะไรดีๆบนโลกนี้อีกครั้ง ขอบคุณนะ”
บุญสิตากับณฤทธิ์ต่างมีความรู้สึกที่ได้เติมเต็มสิ่งดีๆให้กัน แต่ไม่ทันไรบุญสิตาก็ได้รับโทรศัพท์จากซันว่าพวกเจ้าหนี้บุกไปค้นบ้านและห้องนอนของพี่ ข้าวของพังหมด และซันก็ถูกซ้อมสะบักสะบอม บุญสิตากับณฤทธิ์จึงรีบไปที่บ้าน
ซันถูกซ้อมบาดเจ็บ และพวกนักเลงก็เข้าไปรื้อข้าวของกันโครมคราม บุญสิตาพุ่งเข้าถามว่าทำอะไร นักเลงบอกว่าหาของไปขายแทนหนี้แม่เธอ สั่งพรรคพวกให้เข้าค้นตัวบุญสิตาเผื่อจะมีของมีค่า
“ออกไปนะ” บุญสิตาถอยกรูดตะโกนลั่น ถูกพวกมันผลักกระเด็นไปที่พื้น ณฤทธิ์ตกใจเข้าไปช่วยทันที พอบุญสิตาเงยหน้าลืมตามองมันอีกที แววตากลายเป็นณฤทธิ์จ้องพวกมันจนนักเลงขนลุก บุญสิตาประกาศว่าพวกมันบุกรุกตนจะทำอะไรพวกมันก็ได้ พวกนักเลงตกใจจึงพากันหนีไป
ooooooo
ต่อมาบุญสิตาได้รับการติดต่อจากช่างภาพนัดพบกันที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง เขามอบซองสีน้ำตาลให้บอกว่า
“เป็นภาพถ่ายตอนกันต์จ้างผม เอาเงินให้ผมและรับรูปไปจากผม ผมไม่ไว้ใจใครเลยให้คนแอบถ่ายเก็บ เอาไว้” บุญสิตาบอกว่าไหนๆจะช่วยแล้วก็ขอให้ไปเป็นพยานให้ด้วย “ผมไม่อยากเดือดร้อน ไม่อยากวุ่นวาย คงช่วยคุณได้แค่นี้จริงๆ ที่เหลือคุณไปจัดการเองเถอะ”
บุญสิตาขอบคุณ เขาบอกว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณที่ส่งเมลรูปภาพผม ผลงานของผม คำขอบคุณจากลูกค้าของผม มาเตือนสติผม”
นักสืบรายงานกันต์ทันที พอบุญสิตาเดินทางกลับบ้านก็เจอกันต์มาดักต่อรองว่าจะโอนเงินให้เธอไปใช้หนี้ให้แม่แลกกับรูปที่ช่างภาพเอามาให้ ให้เวลาถึงพรุ่งนี้จะเลือกทางไหนก็บอกมา ระหว่างบริษัทที่ไม่ใช่ของตัวเองกับความเป็นความตายของครอบครัว
ซันแอบได้ยิน เมื่อบุญสิตากลับถึงบ้านจึงบอกให้รับข้อเสนอช่างภาพเพื่อช่วยครอบครัวเราก่อน ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาจึงเสนอให้ซันมาเข้าสังกัดบริษัทมาร์คเพื่อหารายได้มาแก้ปัญหาหนี้ของแม่ แต่อาการหลีเด็กหนุ่มของณฤทธิ์ในร่างบุญสิตา ทำให้ซันกระอักกระอ่วนใจจนคืนนี้ขอไปนอนบ้านเพื่อน
“แล้วเราล่ะ จะไปนอนที่ไหน” ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาคิด...สุดท้ายก็ไปที่บริษัทกลางดึกทำเอาพวกศรันย์ตกใจ เธอบอกว่า “ซินมีปัญหาที่บ้านนิดหน่อยน่ะ เลยต้องมาค้างที่นี่กะทันหัน”
เอกับศรันย์บอกว่าพวกตนเพิ่งทำงานกลับมาและมีงานต่อ เราต้องหานายแบบกันคืนนี้มีหวังไม่ได้นอน
“งั้นเดี๋ยวคืนนี้ซินอยู่ช่วยเองค่ะ”
ทุกคนหนักใจที่ลูกค้าระบุมาว่าต้องการนายแบบหน้าใหม่ไม่เคยมีผลงานในวงการบันเทิง เล่นดนตรีเป็นภายในอาทิตย์นี้ ถ้าหาได้ งานถึง คุณภาพดี เด็กเกิดแน่นอน
บุญสิตาเข้ามาเตือนให้พวกเขาไปกินอาหารกันก่อน ก็พอดีซันโทร.มา ศรันย์นึกได้ว่าเคยเห็นและรู้ว่าซันเล่นดนตรีได้ จัสตินบอกว่าน้องของซินก็ตรงกับลักษณะที่ลูกค้าบรีฟมา
“เป๊ะเลย” ศรันย์ดีใจ พอถามบุญสิตาเธอบอกให้ศรันย์คุยกับซันเองก็แล้วกัน
ooooooo
เช้าวันใหม่ บุญสิตานั่งในร้านอาหารตามสั่งกับณฤทธิ์ พอดีโทรทัศน์รายงานข่าวรถบรรทุกชนกัน พอณฤทธิ์เห็นรถบรรทุกชนกันก็ช็อก ภาพความทรงจำแทรกขึ้นมาทันที
ขณะกำลังช็อกก็ได้ยินเสียงใครบางคนคุยกันว่า
“ผมทำตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว...ผมกลัว...”
ณฤทธิ์สะดุ้งจากความทรงจำรู้สึกปวดหัวมาก บอกบุญสิตาว่าอยู่ดีๆก็คิดถึงวันที่ตัวเองตาย แล้วขอยืมร่างเธอ แต่บุญสิตาก็มีเรื่องเจ้าหนี้ที่จะต้องไปจัดการ ณฤทธิ์บอกว่าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงตนจัดการเรียบร้อย แล้ว โดยเขารับข้อเสนอของกันต์ถ้ากันต์โอนเงินมาให้ตนภายในวันนี้ แต่เขาไม่บอกบุญสิตา กลัวเธอจะไม่สบายใจ บอกแต่เพียงว่า
“เดี๋ยวถ้าทุกอย่างโอเคแล้วฉันจะบอก ไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้ ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เธอเอง” แล้วขอเข้าร่างเธอเลย ปรากฏว่าเข้าได้ บุญสิตาสงสัยว่าวันนี้จะมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า
ขณะเดียวกัน ซาร่าถามกันต์ว่าบุญสิตายอมขายรูปให้เขาแล้วหรือ กันต์บอกว่ามันจนตรอกไม่มีทางเลือก แต่ตนไม่ได้อยากได้รูป ทำเพราะอยากให้พวกนั้นแตกคอกับเมธเท่านั้น กันต์ถามว่างานเดินแบบวันนี้เมธไปด้วยไหม ซาร่าบอกว่าไปหมดทั้งเมธและเจนนี่
“ก็ดี อยากสนิทคอยช่วยกันดีนัก งานนี้พวกมันได้แตกคอกันแน่” กันต์จิกตาอย่างหมายมาด
ครู่หนึ่ง พุฒิเมธเดินออกมาขึ้นรถพลางคุยโทรศัพท์กับช่างภาพ ถามว่าเขาให้รูปกับซินไปแล้วหรือ
“ใช่ ซินเขาไม่ได้บอกเหรอ ผมให้เขาไปเมื่อวานแล้ว ให้รูปแอบถ่ายของกันต์กับผู้หญิงของเขาไปด้วย”
“เขาไม่ได้บอกอะไรผมเลย อาจเพราะผมยังไม่ได้เจอเขามั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะครับ”
พอวางสายจากช่างภาพ เขาก็โทร.หาเอถามว่าซินอยู่ที่ออฟฟิศหรือเปล่า เอบอกว่าออกไปกับรันแล้ว เขาวางสายงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมบุญสิตาจึงไม่บอกตน เรื่องรูป แต่คิดว่าเดี๋ยวเธอคงบอก แล้วรีบออกไป
ooooooo
ที่งานเดินแบบ...บุญสิตายืนมองกันต์กับซาร่า อยู่ใกล้ๆด้วยสายตาเคียดแค้นพึมพำ
“วันนี้ทุกคนจะได้รู้ธาตุแท้ของแก”
ไม่นาน รูปซาร่ากับกันต์โอบกอดกันในคอนโดก็ถูกส่งเข้าอีเมลของบริษัท แต่เห็นหน้าซาร่าไม่ชัด เอถามโหน่งว่าใช่ซาร่าหรือเปล่า โหน่งบอกให้รีบส่งไปให้ศรันย์ดูเร็ว
เมื่อศรันย์ไปถึงห้องแต่งตัวก็เปิดรูปซาร่ากับกันต์จากมือถือให้ดู ถามว่า
“นี่มันรูปเธอกับพี่กันต์ใช่ไหม เธอสองคนคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แบบนี้แปลว่าเธอสวมเขาให้มาร์คเหรอ” จัสตินถาม เจนนี่บอกว่ารูปเบลอๆอาจไม่ใช่ซาร่าก็ได้ ซาร่าได้ทีบอกว่าไม่ใช่ “ถ้าไม่ใช่ก็ดี ถ้าใช่ฉันคงรับไม่ได้” ศรันย์พูดอย่างไม่เชื่อ
ครู่เดียวก็มีข้อความส่งเข้ามือถือของซาร่าโดยเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกว่า
“ฉันรู้นะว่าคนในรูปเป็นเธอ ถ้าเธอยังวุ่นวายทำร้ายคนในบริษัท เธอถูกแฉแน่นังสะตอ!”
ooooooo
บุญสิตาเดินเข้าไปที่มุมด้านหลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในงานเดินแบบ กันต์พุ่งไปดักหน้าโวยวายว่า
“เรื่องรูปที่หลุดออกมา ฝีมือคุณใช่ไหม คุณต้องการแก้แค้นผม” บุญสิตางงถามว่ารูปอะไร “ก็รูปหลุดผมกับ ซ...ผู้หญิงคนหนึ่งไง” กันต์เกือบหลุดชื่อซาร่าแต่ยั้งปากไว้ทัน
“ฉันจะทำอย่างนั้นกับคุณทำไม เมื่อวานเราเพิ่งตกลงเป็นพันธมิตรกันไปเองนะ ฉันเพิ่งยอมรับความช่วยเหลือจากคุณ ยอมหักหลังบริษัทร่วมมือกับคุณ แล้วฉันจะปล่อยรูปให้คุณระแวงฉันทำไม”
พุฒิเมธผ่านมาได้ยินจึงหยุดฟัง เขาผิดหวังเสียใจมาก แต่อดทนฟังต่อไป ได้ยินกันต์ถามบุญสิตาว่าจัดการเรื่องหนี้สินเรียบร้อยไหม พอบุญสิตาบอกว่าเรียบร้อย ก็พูดอย่างลำพองว่า
“คุณตัดสินใจถูกแล้ว ร่วมมือกับผม ผมให้มากกว่าไอ้เมธเยอะ”
“อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้เลือกคุณ ฉันเลือกปากท้องของครอบครัว”
กันต์บอกว่าถ้าเดือดร้อนอะไร มีอะไรให้ตนช่วยก็บอก พอดีซาร่าเดินมา บุญสิตาเห็นเลยแกล้งกระซิบ กระซาบขอบคุณกันต์ ซาร่าตรงเข้าไปผลักบุญสิตาออกถามว่าทำอะไรกัน บุญสิตาบอกว่าไม่ได้ทำ ก็ตวาดใส่ว่าก็เห็นอยู่ว่ากอดกัน เลยถูกย้อนถามว่า
“แล้วเธอล่ะโมโหเรื่องอะไรคะ หรือว่ารูปหลุดของคุณกันต์จะเป็นเธอจริงๆ”
ซาร่าร้อนตัวปรามว่าอย่ามาหาเรื่องกัน บุญสิตาลอยหน้าบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อน แล้วขอตัวไป ถูกซาร่าขัดขาเซจะล้มก็คว้าซาร่าล้มไปด้วย ซาร่าทำเจ็บหนักพุฒิเมธรีบเข้าไปดู บุญสิตาด่าว่าไม่ต้องสำออย
ถ้าไม่สะตอได้โล่อย่างเธอก็คงไม่สามารถสวมเขาให้มาร์คได้หรอก
ซาร่าทำหน้าตายขู่จะฟ้องบุญสิตา วิญญาณมาร์คที่สิงบุญสิตาโต้ว่า
“ฉันรู้ ฉันเห็นทุกอย่าง เพราะว่าฉันคือมาร์...” บุญสิตาพูดไม่ทันจบเสียงนาฬิกาก็เตือนว่าทำผิดกฎ
บุญสิตาปวดหัวมากแล้วก็เป็นลมหมดสติไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน
ณฤทธิ์ถูกเวลาเรียกไปตำหนิว่าทำผิดกฎที่บอกคนอื่นว่าตัวเองเป็นใคร ปรามเตือนว่ามีความสุขกับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์จนลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองตายไปแล้ว เตือนว่า
“เวลาของเจ้าเหลือน้อยมากแล้ว คงไม่ลืมนะ ที่สำคัญมีเรื่องบางอย่างที่เจ้าควรรู้เอาไว้...เจ้าไม่ควรเข้าร่างมนุษย์คนนั้นบ่อยๆโดยไม่จำเป็น หากเจ้ายังทำแบบนี้ต่อไป จะเกิดผลร้ายกับตัวเจ้าของร่างได้”
“หมายความว่าไง”
“ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง ข้าคงเตือนเจ้าได้แค่นี้”
ooooooo
ซาร่าสำออยกับพุฒิเมธว่าตนเจ็บตัวขนาดนี้เขาต้องจัดการ เจนนี่ยุให้ไล่ซินออกไปเลย ศรันย์ติงว่าเท่าที่ตนเห็นก็ผิดทั้งสองฝ่าย เจนนี่เถียงแทนว่าซาร่าไม่มีเรื่องอะไรกับมันสักหน่อย ซารายื่นคำขาดว่า
“ไม่รู้แหละ เมธก็เลือกเอาก็แล้วกัน ว่าจะเลือกให้มันทำงานที่นี่ต่อ หรือจะให้ซาร่าออกไป ถ้ามีมันก็ต้องไม่มีซาร่า”
พุฒิเมธเรียกบุญสิตามาถามว่าไปมีเรื่องกับซาร่าทำไม ซ้ำยังด่าว่าเธอหักหลังตน ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินทำไมไม่บอกกันตรงๆ เอารูปพวกนั้นมาขายตนก็ได้แต่เธอกลับเลือกที่จะทรยศตน
บุญสิตาไม่รู้เรื่อง เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นขณะถูกวิญญาณณฤทธิ์สิง แต่พุฒิเมธไม่เชื่อพูดอย่างผิดหวังว่าตนไว้ใจคนผิด “ถ้าไว้ใจกันไม่ได้ก็ไม่ควรอยู่ที่บริษัทนี้ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”
ไล่บุญสิตาออกแล้ว พุฒิเมธเดินหงุดหงิดมาเจอจัสติน จัสตินถามว่าที่โกรธซินเพราะเรื่องรูป เรื่องที่มีปัญหากับซาร่า หรือไม่พอใจที่ซินไปสนิทกับพี่กันต์ พุฒิเมธถูกถามแทงใจดำก็โมเมว่าก็ทั้งหมดนั่นแหละ
“ถ้าเรื่องรูปและเรื่องพี่กันต์ ซินต้องมีเหตุผลแน่ๆ ที่ซินไม่ได้บอกพวกเรา” พุฒิเมธถามเสียงขุ่นว่าเหตุผลอะไร “ไม่รู้สิ แต่เราควรเชื่อใจซิน...ที่ผ่านมาก็เห็นซินหวังดีกับบริษัทไม่ต่างจากมาร์คเลย ซินไม่มีทางหักหลังพวกเราหรอก”
ขณะซินเดินเสียใจที่ถูกไล่ออกโดยไม่รู้สาเหตุนั้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากซันบอกว่าตนเอาเงินที่พี่โอนให้ไปใช้หนี้หมดแล้วเดี๋ยวแม่กับพี่ทรายก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว บุญสิตาจึงรู้ว่าตนหักหลังพุฒิเมธจริงๆ ตะโกนถามว่า
“ฝีมือคุณมาร์คใช่ไหม คุณทำอะไรกับร่างฉัน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ หายไปไหน คุณทำชีวิตฉันเป็นแบบนี้แล้วหายไปได้ยังไง”
เวลาปล่อยณฤทธิ์กลับมา เขาพรวดไปดักบุญสิตา ขอโทษสิ่งที่ตนทำไป บอกว่าตนทำเพื่อเธอจริงๆ เพราะไม่อยากให้เธอลำบาก สารภาพน้ำตาคลอว่า
“ถ้าจะผิดก็ผิดที่ฉันบอกเธอช้า ต่อให้ถ้าย้อนเวลาได้ฉันก็คงทำแบบนี้อยู่ดี มันเป็นทางเดียวที่วิญญาณไร้ร่าง ไร้ประโยชน์อย่างฉันจะทำเพื่อช่วยคนที่ฉันรักทุกคนได้”
ทีแรกบุญสิตาก็ทำเป็นไม่เห็นไม่พูดด้วยแต่เมื่อณฤทธิ์สารภาพความจริงเธอใจอ่อนยอมพูดด้วยแต่ขู่ว่าอย่าทำแบบนี้อีก ต่อไปมีอะไรให้บอกตนทุกเรื่อง
“นี่เธอเห็นฉันเหรอ...ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไม่บอกเธอนะแต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยบอกเธอทีหลังก็ได้ ไม่คิดว่าคำนี้จะทำให้เกิดเรื่องขนาดนี้”
“คุณพลาดเพราะคำว่าเดี๋ยวมากี่ครั้งแล้ว”
ณฤทธิ์รีบสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่เดี๋ยวอีกแล้ว บุญสิตาปรามว่าครั้งหน้าตนจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ
“เธอก็อย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว แค่ฉันตายไปก็น่ากลัวแล้ว แต่เธอที่เป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกของฉัน ยังเมินฉันอีก...ฉันเหมือนตายทั้งเป็น...”
พอบุญสิตาขอโทษ ณฤทธิ์ก็โผกอดด้วยความดีใจ แล้วต่างก็ผงะเมื่อร่างสัมผัสกันได้ บุญสิตาตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตนยังไม่ตายใช่ไหม
“จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าดีแล้ว ฉันรู้สึกดีมาก ฉันไม่ได้สัมผัสใครแบบนี้มานานแล้ว อย่างน้อยบนโลกนี้ก็ยังมีคนหนึ่งที่ฉันสามารถจับมือหรือกอดได้แบบนี้”
ณฤทธิ์กอดเธอแน่นอย่างโหยหาสัมผัสนี้จนบุญสิตาบอกให้พอแล้วตนหายใจไม่ออก ถูกเขาแซวว่าเธอคงอยากให้น้องชายตนกอดมากกว่า บุญสิตาจึงถามว่าสรุปแล้วตนผิดที่หักหลังคุณเมธ ตนต้องไปขอโทษเขาไหม ณฤทธิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์บอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวเมธก็รู้ว่าเธอทำแบบนี้เพราะอะไร แล้วเล่าว่า
“ความจริงเรื่องนี้เป็นแผนที่ฉันวางไว้เพื่อเล่นงานกันต์น่ะ คุณพ่อก็รู้เรื่อง เดี๋ยวท่านคงเล่าให้เมธฟังเอง”
ooooooo
ที่บ้านณฤทธิ์...พุฒิเมธตกใจเมื่อสมบัติกับวรรณนาเล่าว่าเรื่องนี้เป็นแผนของซินที่ตั้งใจทำให้กันต์ตายใจว่าตนได้หลักฐานไปแล้ว แต่หลักฐานที่ได้เป็นเพียงคลิปเสียงไม่ใช่รูปภาพอย่างที่กันต์เข้าใจ
สมบัติเปิดคลิปเสียงให้พุฒิเมธฟัง เป็นเสียงกันต์บอกช่างภาพว่า
“อยากจ้างให้คุณตามคนในบริษัทผม เพื่อถ่ายภาพหลุดพวกมัน อยากได้ภาพที่ทำให้พวกมันไม่ได้เกิดในวงการนี้เลย” ช่างภาพถามว่าใครบ้าง “เจนนี่ เมธ จัสติน ดล”
สมบัติปิดคลิปเสียงบอกพุฒิเมธว่า พ่อต้องการรวบรวมให้ได้เยอะกว่านี้ก่อน ค่อยจัดการให้กันต์ออกไปจากบริษัททีเดียว วรรณนาเสริมว่า เมธไม่น่าใจร้อนไล่หนูซิน ออกเลย นี่คงไม่ได้ฟังที่หนูซินเขาอธิบายด้วยใช่ไหม พุฒิเมธมองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองงงๆ บอกว่าตนงงไปหมดแล้ว สมบัติจึงเล่าอีกว่า
“ซินเขาขอให้ช่างภาพช่วยถ่ายรูปเจนนี่กับแฟนคลับเพราะอยากเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำ” แล้วเปิดคลิปเสียงบุญสิตาคุยทางโทรศัพท์กับช่างภาพให้ฟัง...“ถ้ากลับมาถ่ายรูปวันนี้ แล้วคุณยังรู้สึกเหมือนเดิม ยังคิดจะกลับไปทำงานแบบเดิมอีก ฉันก็จะไม่ห้าม”