ตอนที่ 1
เวลาเดียวกันที่บ้านไม้ชั้นเดียวเก่าๆเล็กๆของบุญสิตา บ้านนี้มีสมศรีแม่เลี้ยงที่มีลูกติดคือทรายวัย 27 ปีกับซันวัย 19 ปีอยู่บ้านเดียวกัน แต่ซินนอกจากทำงานเลี้ยงคนทั้งบ้านแล้วยังต้องทำงานบ้านทุกอย่าง
สมศรีติดการพนันและเกลียดซินเพราะพ่อรักซิน มาก ส่วนทรายก็ทะเยอทะยานแต่งตัวเปรี้ยวจัดจ้าน คิดว่าตัวเองฉลาดจึงข่มซินทุกอย่าง มีแต่ซันที่หล่อหน้าตาดีแต่ออกจะเกเร แต่ซันเป็นคนเดียวในบ้านที่ดีกับซิน
ซินทำงานบ้านซักผ้าทำกับข้าว หุงข้าวเสร็จแล้วจะไปทำงาน แต่เพราะไปสายเสมอจนจะถูกเจ้านายไล่ออกอยู่แล้ว วันนี้ซินจึงต้องรีบไปให้ทันเวลา
ออกจากบ้านไม่ทันขึ้นรถก็ได้รับโทรศัพท์เร่งมา ซินรีบบอกว่าวันนี้ไม่สายแน่นอน ดูนาฬิกาแล้วเหลือเวลาอีกชั่วโมงเดียว ซินผ่านชายขอทานไปแล้วนึกได้รีบกลับมาเอาขนมให้อย่างที่เคยทำทุกวัน ขอทานขอบคุณและอวยพรให้คุณหนูโชคดี
ซินโบกเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ผ่านมาบอกอย่างรีบร้อน “ไปเอกมัยค่ะ”
พี่วินเร่งให้สมใจปาดซ้ายแทรกขวาทำเวลาให้เต็มที่
ที่ถนนสายเดียวกัน เมธขับรถอย่างรีบเร่งเช่นกัน รถติดจนหงุดหงิด ซ้ำมาติดไฟแดงอีก พอไฟเขียวเมธก็พุ่งรถออกไปทันที
ที่ทางม้าลาย หญิงท้องแก่กำลังข้ามถนน วินมอเตอร์ไซค์ขับมาอย่างเร็ว ซินเห็นรถกำลังจะชนหญิงท้องแก่ มอเตอร์ไซค์หักหลบทันทีเหวี่ยงซินกระเด็นไป และหญิงท้องแก่ก็หลบรถล้มลง แต่โชคดีทั้งสองคนไม่เป็นอะไรมากเพียงแต่ถลอก
ทันใดนั้นรถของเมธพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว ซินปิดตาคิดว่าตายแน่แล้ว แต่เมธหยุดรถได้ทันห่างจากซินแค่คืบเดียว พอซินได้สติก็ถามทันทีว่าพี่คนที่ท้องแก่ไม่รู้เป็นยังไงบ้างแล้วรีบวิ่งไปดู เมธอึ้งที่ซินไม่ห่วงตัวเองเลย
“เดี๋ยวโทร.รายงานคุณมาร์คก่อนนะ” โหน่งหยิบโทรศัพท์โทร.รายงานทันที
ooooooo
มาร์คตกใจเมื่อได้รับโทรศัพท์จากโหน่งว่าเกิดอุบัติเหตุ ฟังโหน่งพูดแล้วสั่งทันทีว่าเคลียร์แล้วก็รีบไป ลูกค้ารออยู่ไม่ทันแล้ว
“แค่นี้ก่อนนะ” มาร์คบอกโหน่งแล้วเปลี่ยนไปพูดโทรศัพท์อีกเครื่องทักเสียงหวาน “สวัสดีค่ะ เมธกำลังไปค่ะ ไม่สายแน่นอนค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ”
มาร์ควางสายเครียดๆ ไม่แน่ใจว่าเมธจะไปทันไหม
ฝ่ายซินวิ่งไปประคองหญิงท้องแก่โดยมีเมธตามไปติดๆ
“เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่ตกใจนิดหน่อย”
“โล่งอกไปที ไปกันเถอะ” เมธขยับจะไป
หญิงท้องแก่ยิ้มให้ แต่แล้วก็ทำหน้าแปลกๆ มือกุมท้อง ซินถามว่าเป็นอะไรพลางหันไปคว้ามือเมธไว้ให้อยู่ช่วยกันก่อน หญิงท้องแก่บอกว่าตนไม่เป็นไร แต่ลูก...พลางเอามือกุมที่ท้องร้องเสียงดังเหมือนคนจะคลอด ทั้งซินและเมธต่างตกใจทำอะไรไม่ถูก
ซินพยายามนวดมือนวดเท้าให้หญิงท้องแก่ เมธก็หาอะไรมาพัดให้
ทันใดนั้น! ซินเห็นน้ำคร่ำไหลออกมาก็ตกใจ บอกหญิงท้องแก่ให้หายใจลึกๆ แล้วหันไปตะโกนขอให้ใครก็ได้ช่วยโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้
“โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว” หญิงท้องแก่ร้อง ทั้งซินและเมธยิ่งตกใจเงอะงะ โหน่งเดินมาเห็นก็ตกใจไปอีกคน บ่นว่าจะมาคลอดอะไรตอนนี้ยิ่งยุ่งๆอยู่
ซินถามว่าพวกเขาทำคลอดเป็นไหม เมธส่ายหน้าถามซินว่าเอาไงดี ซินบอกให้เปิดอินเตอร์เน็ตดู เมธเปิดทันทีแล้วอ่านลนลาน
“เขาบอกว่าให้จัดให้นอนที่ราบ ให้นอนชันเข่าแยกขาในท่าที่สบาย”
ซินถามว่าแล้วไงต่อ เมธบอกให้ล้างมือแล้วหา
ผ้าสะอาดไว้รองรับทารกตอนออก ซินมองที่ผ้าพันคอเมธถามว่าผ้าเขาสะอาดไหม เมธบอกว่าสะอาดตนไม่เคยใช้ พูดไม่ทันจบซินก็กระชากผ้าจากคอเมธจนเมธหัวทิ่มตาม
“นั่นของสปอนเซอร์ ฉันต้องเอาไปคืน รุ่นลิมิเต็ด ด้วย” โหน่งโวย
ซินตั้งสติเอาผ้าพันคอมาเตรียมรองรับเด็ก บอกเมธให้ช่วยจับหญิงท้องแก่ไว้ด้วย หญิงท้องแก่ร้องว่า
ตนไม่ไหวแล้ว ซินบอกให้เบ่งเลย เบ่งเลย
หญิงท้องแก่เบ่งเสียงดัง มือเหนี่ยวเมธไว้เพื่อรั้งตัวเอง เมธกับโหน่งหายงงหายกลัวต่างช่วยกันเบ่ง
หน้าดำหน้าแดงจนเหงื่อผุดเต็มหน้า ส่วนซินก็บอกให้หญิงท้องแก่เบ่งเป็นจังหวะราวกับมืออาชีพ พลันก็ร้องตื่นเต้น
“เบ่งอีกค่ะ หัวออกมาแล้วค่ะ”
หญิงท้องแก่เบ่งไปมือก็ไขว่คว้าหาที่ยึด จิกผมเมธเข้าเต็มมือดึงอย่างแรงจนเมธหัวทิ่ม ผมที่แต่งมาอย่างดียุ่งเหยิงเป็นยุงตีกัน ซินเห็นหัวเด็กโผล่ก็ร้องบอกให้เบ่งอีกหัวออกมาแล้ว เมธร้องว่าหัวตนก็จะหลุดแล้วเหมือนกัน ตนไม่ไหวแล้ว
“คราวนี้เบ่งสุดแรงเลยนะคะ” ซินบอกหญิงท้องแก่ เมธโดนจิกผมโงหัวไม่ขึ้นพยายามเหลือบมองซินให้ดูสภาพของตน แต่วินาทีนี้สภาพของหญิงท้องแก่ดึงความสนใจไปหมด ทั้งสองต่างช่วยกันเบ่งอื๊ดๆมองลุ้นให้เด็กออกมาไวๆ
หัวเด็กโผล่ออกมา ซินกับเมธสบตากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ต้องมนต์ ต้อนรับชีวิตเล็กๆที่กำลังจะลืมตาดูโลก
“แว้...แว้...” เสียงเล็กๆของเด็กร้องจ้าเหมือนเสียงอัศจรรย์ของโลก
“เด็กออกมาแล้วค่ะ” ซินร้องดีใจน้ำตาซึม ก็พอดีโหน่งร้องบอกว่าตำรวจกับรถพยาบาลมาแล้ว ตำรวจกับเจ้าหน้าที่จากรถพยาบาลวิ่งเข้ามาทำหน้าที่ทันที
ซินกับเมธถอยออกมาดูชีวิตเล็กๆที่โผล่มาดูโลก ต่างตื่นเต้นจนน้ำตาซึม
ooooooo
ซินกับเมธตามไปที่โรงพยาบาล ไปยืนเกาะกระจกที่ห้องเด็กอ่อนมองทารกที่ตัวเองเห็นกับตาว่าเพิ่งโผล่มาเป็นสมาชิกใหม่ของโลกน้ำตาซึมด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม เมธถามซินว่า
“นี่ผมทำคลอดเด็กคนนี้จริงๆเหรอ”
ซินหันมาสบตาเมธต่างประทับใจกับประสบการณ์นี้ เมธลืมตัวยิ้มปลื้มกับซิน พอนึกได้ก็เก๊กหล่อวางฟอร์มซุปตาร์ทันที แต่พอเห็นแผลของซินที่ตกมอเตอร์ไซค์ก็ชี้แผลเสนอว่า
“คุณเลือดไหลนะ ผมว่าคุณไปทำแผลก่อนดีไหม”
“คุณเองก็เหมือนกันค่ะ” ซินยิ้มชี้แผลที่ถูกแม่ของเด็กจิกทึ้งตามแขน
เมธยิ้มขำๆ มองซินและตัวเองที่หมดสภาพไม่ต่างกัน
ดูทารกสมาชิกใหม่ของโลกที่ตัวเองรับมากับมืออย่างปลื้มปีติแล้ว ซินกับเมธก็จะมานั่งพัก ซินหยิบผ้าพันคอที่ดึงจากคอเมธออกมาจะเช็ดเก้าอี้ก่อนนั่ง
เมธมองอึ้งๆ เพราะผ้าพันคอราคาแพงผืนนี้ตนต้องเอาไปคืนให้สปอนเซอร์
“ขอโทษทีค่ะ ของคุณนี่นา เจ้าหน้าที่เขาเอามาคืนให้ฉันน่ะค่ะ” เมธถามว่าคุณรู้ไหมว่ามันราคาเท่าไหร่ “ราคาเท่าไหร่ก็เทียบไม่ได้กับชีวิตเด็กที่เกิดมาหรอกค่ะ คุณควรเก็บผ้าผืนนี้ไว้ด้วยความภูมิใจเลยนะคะ”
เมธยิ้มขำๆบอกให้ซินนั่งลงตนจะทำแผลให้ พลางเอาสำลีเช็ดแผล ซินดึงแขนกลับบอกว่าตนทำเองดีกว่า เมธดึงแขนซินกลับบอกว่าทำเองจะถนัดได้ยังไง แล้วพูดทีเล่นทีจริงว่า มีแต่คนอยากให้ตนจับมือแบบนี้กันทั้งประเทศ คุณน่าจะดีใจนะ
ซินถามว่าทำไมต้องดีใจด้วย เมธย้อนถามว่าคุณไม่รู้จักผมหรือ ซินพูดซื่อๆว่าเขาไม่บอกชื่อตนจะรู้จักได้ไง เมธจึงรู้ว่าซินไม่รู้จักตนจริงๆ แต่พอจะบอก มือถือของซินก็ดังขึ้น
พอซินรับสายก็ตกใจนึกได้ว่าต้องไปทำงาน บอกเมธว่า “ฉันไปก่อนนะ” เมธพยายามจะเรียกไว้แต่ซินไปลิ่วแล้ว พอดีโหน่งเดินเข้ามา พอเห็นผ้าพันคอผืนแพงเลอะเทอะก็โวยว่า กลายเป็นผ้าขี้ริ้วแบบนี้ตนโดนสปอนเซอร์ด่าแน่
“งั้นก็ฝากซื้อผืนใหม่ไปคืนสปอนเซอร์หน่อยนะครับ ผืนนี้ผมจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกแห่งความภูมิใจ”
เมธบอกแล้วเดินไปเลย โหน่งมองงงๆแล้วเดินตามไป
ซินไปถึงร้านกาแฟที่ตนทำงานอย่างรู้สึกผิด รีบขอโทษเจ้าของร้านอ้อนวอนอย่าไล่ตนออกเลย สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ขอโอกาสตนอีกสักครั้งเพราะถ้าตนไม่ได้ทำงานครอบครัวต้องลำบากแน่
เจ้าของร้านบอกว่าให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว พูดจบก็เดินไปเลย ขณะซินยืนอึ้งก็ได้รับโทรศัพท์จากแดนคนรักที่คบกันอยู่ แดนถามว่าเป็นอะไร เสียงไม่ค่อยดีเลย ซินบอกว่าเดี๋ยวเจอกันจะเล่าให้ฟัง
“ได้...เราก็มีเรื่องอยากจะบอกเธอเหมือนกัน” แดนบอกก่อนวางสาย
ooooooo
เมธไปถึงบริษัทของณฤทธิ์ ก็ถูกพี่ชายเหวี่ยงใส่ทันทีว่ามาสาย ทิ้งงานโปรเจกต์ที่จะได้โกอินเตอร์เพราะมัวไปทำคลอด เมธบอกอย่างภูมิใจว่า คิดไม่ถึงว่าตนจะมีโอกาสทำคลอดด้วยมือตัวเอง
“แกเป็นซุปตาร์นะ ไม่ใช่หมอตำแย” มาร์คด่า เมธยักไหล่อย่างไม่แคร์ มาร์คยิ่งโมโหแจงความเสียหายเป็นชุดว่า “นี่ฉันขาดโอกาสโกอินเตอร์ ชวดเงินไปเป็นล้านๆเพราะผู้หญิงท้องแก่คนนั้น!”
โหน่งติงว่าแทนที่คุณมาร์คจะห่วงเรื่องเงิน งาน ควรดีใจว่าเมธรอดมาได้ก็บุญแล้ว
“แล้วเป็นไงบ้าง” มาร์คคิดได้ สงบลง
“ผมเกือบทำเขาตาย แต่ก็ได้เห็นลมหายใจแรกของชีวิตที่เพิ่งเกิด เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมรู้เลย นาทีความเป็นความตายมันอยู่ใกล้กันแค่นิดเดียวเอง” มาร์คถามประชดว่าอินกับโฆษณาประกันชีวิตไม่หายหรือ “ใช่ กลัวว่าตัวเองทำเขาตายแล้วกลัวว่าตัวเองจะตายด้วย ตอนนั้นคิดถึงพ่อขึ้นมาทันทีเลย พี่เองก็ควรลดทิฐิกลับไปคุยกับพ่อดีๆบ้าง”
“คนที่ควรลดคือเขา คนอย่างเขาไม่เคยสนใจอะไร นอกจากธุรกิจของตัวเอง”
“แต่พ่อก็คือพ่อ ท่านก็อายุมากขึ้นทุกวัน ไม่ได้จะอยู่กับเราไปตลอดหรอกนะ”
“เดี๋ยวก่อนก็แล้วกัน ท่านไม่ตายวันสองวันนี้หรอก”
มาร์คหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงพ่อ โหน่งกับเมธได้แต่ถอนใจเซ็งๆกับคำพูดของมาร์ค
ooooooo
เวลาเดียวกัน สมบัติ พ่อของมาร์คไปตรวจงานที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ของตัวเอง ผู้จัดการเดินตามมาติงเบาๆว่าความจริงตัวท่านไม่ต้องมาเดินตรวจห้างด้วยตัวเองก็ได้
“ห้างของฉัน ฉันก็ต้องดูด้วยตัวเองสิ ฉันอยากลองเป็นลูกค้า จะได้รู้ว่าพนักงานห้างเราเซอร์วิสลูกค้าดีพอไหม”
สมบัติเดินผ่านหลังพนักงานสองคนที่กำลังคุยกันขณะดูข่าวซุบซิบจากโทรศัพท์มือถือ ถามกันว่า นี่ใช่มาร์คลูกชายท่านประธานหรือเปล่า มีห้างมีธุรกิจใหญ่โตดีๆไม่ชอบ ดันไปทำอะไรก็ไม่รู้ อีกคนพูดอย่างรู้ดีว่า
“ทำงานกับที่บ้านก็ไม่ได้กินเด็กหล่อๆสิ ได้ยินว่าบริษัทนางอย่างกับฮาเร็ม”
“ตกลงนางเป็นเกย์อย่างที่ข่าวลือว่าจริงๆเหรอ น่าเสียดายนะ”
สมบัติได้ยินแล้วเหมือนถูกไฟจี้ที่หัวใจ แต่ยังพยายามเก็บความรู้สึกไว้แล้วเดินผ่านไป
ค่ำนี้สมบัตินั่งรอมาร์คอยู่ด้วยสีหน้านิ่งมาก พอมาร์คกลับมาก็ระเบิดอารมณ์ใส่ทันที
“เมื่อไหร่แกจะมาดูแลกิจการของฉัน ฉันรอแกมานานแล้วนะ”
“เดี๋ยวถึงเวลาก็ไปดูเองแหละ ผมยังอยากทำงานของผมอยู่”
สมบัติถามว่าจะใช้ชีวิตไร้ค่าอย่างนี้ไปวันๆ หรือ มาร์คสวนกลับทันทีว่าแบบไหนที่ไร้ค่าและแบบไหนที่มีค่า สมบัติโพล่งไปว่า “ก็บริษัทบ้าๆบอๆที่แกทำอยู่นั่นไง”
“ถ้าการที่ผมปั้นเด็ก หางาน สร้างอนาคตให้เด็กตั้งหลายคนมันไร้ค่าตรงไหน การที่ทำธุรกิจหลอกให้คนซื้อของแบบพ่อน่ะเหรอที่ดี”
“สร้างอนาคตหรือ แกรู้ไหมว่าเขาพูดถึงบริษัทแกว่ายังไง เขาว่าแกสร้างฮาเร็ม สะสมผู้ชาย”
“ถ้ามันเป็นจริงล่ะ ถ้าผมสะสมผู้ชายแล้วจะทำไม พ่อจะไม่รับผมเป็นลูกเพราะอายที่ผมเป็นเกย์เหรอ”
“ก็ดีที่มันไม่จริง ฉันเลี้ยงแกให้มาเป็นผู้ชาย ไม่ได้ให้เป็นตุ๊ด”
“พ่อเนี่ยนะเลี้ยงผม ตั้งแต่ผมจำความได้ พ่อก็เอาแต่ทำงาน ชีวิตผมก็มีแค่แม่ และสุดท้ายพ่อก็มาพรากแม่ไปจากผม พ่อทำให้แม่ตาย!” มาร์คพูดใส่หน้าสมบัติอย่างมีอารมณ์ สมบัติโกรธมากทำท่าจะตบแต่เปลี่ยนใจ มาร์คยังคงพูดต่ออย่างอารมณ์ติดพันว่า “เพราะพ่อเป็นแบบนี้ไง ผมถึงไม่อยากกลับมาเหยียบบ้าน”
พูดจบมาร์คก็เดินไปเลย สมบัติได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจ
ขณะที่สมบัติยังนั่งเครียดอยู่ วรรณาน้องสาวของแม่มาร์คกับหมอโอบ หมอประจำตระกูลก็เดินเข้ามา โดยมีแก้วตาถือกาแฟเข้ามาให้สมบัติและ
หมอโอบตามเข้ามาด้วย
วรรณาบอกสมบัติว่าหมอมาหา สมบัติย้อนถามหงุดหงิดว่ามีอะไร คนกำลังเช็งๆ
“ก็มาดูไง ว่าความดันแกสูงทะลุถึงเพดานหรือยัง ฉันจะได้เรียกทนายมาให้แกทำพินัยกรรม”
หมอโอบขี้เล่น เลยโดนสมบัติปรามให้เงียบไปเลย วรรณาเอ่ยว่าเห็นเด็กบอกว่าคุณพี่ทะเลาะกับ
มาร์คอีกตามเคย สมบัติบอกว่าเหมือนเคย คุยกันได้
ไม่เกินสามคำ
“คุณท่านยังไม่ชินอีกเหรอคะ แก้วเห็นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่คุณมาร์คอยู่ประถม” แก้วตาพูดประสาคนเก่าแก่
“ไม่ชิน” สมบัติพูดแล้วมองวรรณา “ถ้าได้คุณมาเป็นแม่เจ้ามาร์คมันคงไม่เป็นแบบนี้”
วรรณามองดุๆ ติงว่าเรากำลังคุยเรื่องเครียดและตนก็เป็นน้องแม่ของมาร์คด้วย สมบัติหน้าเสียเลย
แก้เกี้ยวว่าแค่พูดเล่นเท่านั้น วรรณาติงว่าเรื่องมาร์คก็ให้ปล่อยไปบ้างเถอะ สมบัติถามว่าแล้วจะปล่อยให้คน
เขานินทาว่าเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เนี่ยนะ
“เป็นเกย์แล้วมันทำไม เขาไม่ได้มีกฎหมาย
ห้ามเป็นซะหน่อย ฉันเป็นเกย์ก็เป็นหมอรักษาแกได้ปกติ” หมอโอบย้อนถาม เลยถูกสมบัติตัดบทว่า หมอจะเป็นอะไรก็เป็นไป แต่ไม่ต้องมาถือหางมาร์ค ย้ำว่า
“เรื่องมาร์ค ถึงมันจะไม่ยอมทำงานบริษัท ฉันก็พอรับได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องนี้”