“บิ๊กโจ๊ก” พร้อม 4 ลูกน้อง ถูกแขวนให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระหว่างรอผลตัดสินคดีเว็บพนัน นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นชนักติดหลัง ทำให้การพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนต่อไป จะไม่มีชื่อในแคนดิเดต และทำให้เสียเปรียบในเชิงการต่อสู้คดี แต่ไม่ว่าใครจะมีแต้มต่อ "ศึกใหญ่ฟันใหญ่" ครั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องคือ ปฏิรูปการตรวจสอบตำรวจชั้นผู้ใหญ่
วันนี้ 18 เม.ย. 67 บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันเซ็นคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมลูกน้อง 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอผลการพิจารณาคดีที่ถูกโยงเกี่ยวกับเว็บพนันให้เสร็จสิ้น ซึ่งยืนยันถึงการตรวจสอบที่โปร่งใส ถ้าตรวจสอบแล้วบิ๊กโจ๊ก ไม่มีความผิดก็จะคืนตำแหน่งราชการให้เหมือนเดิม
บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ขึ้นชื่อว่าแมว 9 ชีวิต แต่วิบากกรรมรอบนี้ต้องเดิมพันทั้งชีวิตราชการ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง "รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล" รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า การมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน มาจากผลสอบสวนของคณะกรรมการที่ท่านนายกฯ ตั้งขึ้นมา และมีการมาแถลงข่าวก่อนหน้านั้นว่ามีความเชื่อมโยง แต่ขณะเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนควบคู่ไปด้วย สุดท้ายแล้วต้องรอผลการพิจารณาทั้งหมดของศาลอีกครั้ง ตอนนี้ บิ๊กโจ๊ก ยังถือว่าเป็นข้าราชการคนหนึ่ง
...
หากมองถึงการถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน จะทำให้บิ๊กโจ๊ก เสียเปรียบในการที่จะไม่มีชื่อในแคนดิเดต ผบ.ตร. คนถัดไปที่มีการพิจารณาในอีกไม่กี่เดือน แต่ต้องรอลุ้นว่าผลสอบสวนในคดีจะเสร็จสิ้นเร็วแค่ไหน ถ้าสามารถชี้แจงได้ว่าไม่ผิด ยังมีสิทธิที่จะรับราชการ และลุ้นในตำแหน่งสูงสุดคราวถัดไป
การออกจากราชการไว้ก่อน ทำให้บิ๊กโจ๊ก เสียสิทธิในเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย และเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งตามฐานเงินเดือนประจำปี
เมื่อสอบถามถึงการให้บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน เหมือนมีชนักติดหลังหรือไม่ "รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์" มองว่า แน่นอนว่าจะทำให้เสียประวัติในการรับราชการมาทั้งชีวิต และยังเสียประวัติ หากต่อไปจะทำงานด้านอื่น ที่ไม่ได้รับราชการตำรวจ เช่น ไปสมัครเป็นกรรมการในองค์กรอิสระ ที่กำหนดว่าต้องไม่ถูกให้ออกจากราชการ จะเสียคุณสมบัติได้ หากมีการลงโทษ
“สิ่งสำคัญตอนนี้ บิ๊กโจ๊ก ต้องมาลุ้นในเรื่องคดีต่อ เพราะอาจมีโทษถึงจำคุก หากมีความผิด ดังนั้นต้องมีการพิสูจน์ที่ชัดเจน และโปร่งใสในชั้นศาล เพราะตอนนี้ท่านเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา แต่ทุกอย่างต้องรอให้ศาลตัดสิน”
กรณีของบิ๊กโจ๊ก ไม่ใช่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายแรกที่กลายเป็นประเด็น แต่สิ่งที่ประชาชนคาดหวังคือ อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิรูปกระบวนการตรวจสอบที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเป็นมาตรฐานที่ประชาชนเชื่อมั่นได้ เพราะที่ผ่านมาแม้มีนายตำรวจระดับสูงถูกศาลตัดสินว่ามีการกระทำความผิด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน
ส่วนกรณีที่มีผู้ไปร้องเรียนเกี่ยวกับกรณี "บิ๊กต่อ" รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ มองว่า ถือเป็นอีกประเด็นที่สังคมตั้งคำถาม ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการตรวจสอบที่รวดเร็ว เพราะหลายคนมองว่า ทำไมกรณีบิ๊กโจ๊ก ถึงพิจารณารวดเร็ว แต่กรณีอีกฝั่งถึงช้าได้ แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น กระบวนการของศาลจะเป็นผู้ตัดสินให้เห็นถึงความจริงทั้งหมด.