ผลนับคะแนนไม่เป็นทางการของการสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เขตกรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล กวาดเก้าอี้ไปเกินครึ่ง สร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ แสดงถึงความนิยม สะท้อนถึงความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนกรุงเทพฯ และต้องจับตาท่าที “บิ๊กตู่” ต่อจากนี้
เวลา 21.12 น. (วันที่ 14 พ.ค.66) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการนับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้มีหน่วยเลือกตั้งที่นับคะแนนแล้วเสร็จจำนวน 1,452 หน่วย คิดเห็น 22.83% จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 644,387 คน จากผู้มีสิทธิ 4,479,155 คน คิดเป็น 14.39% คาดการณ์ ส.ส. แบ่งเขต 10 อันดับแรก ดังนี้ อันดับ 1 ก้าวไกล 238,774 คะแนน คิดเป็น 37.83% อันดับ 2 รวมไทยสร้างชาติ 103,092 คะแนน คิดเป็น 16.33% อันดับ 3 เพื่อไทย 91,149 คะแนน คิดเป็น 14.44% อันดับ 4 ประชาธิปัตย์ 13,699 คะแนน คิดเป็น 2.17% โดยคะแนนข้างต้นเป็นผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ
รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวกับ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า คะแนนความนิยมของพรรคก้าวไกล ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นผลจากความชัดเจนของ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศย้ำมาตลอดว่าไม่เอาลุงตู่ เป็นเสมือนแนวทางชัดเจนว่า ไม่เอารัฐบาลชุดเดิม ขณะเดียวกันก็มีสโลแกนที่ตอกย้ำว่า มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา
“พรรคเพื่อไทย ความนิยมในกรุงเทพฯ ยังน้อยกว่าก้าวไกล เพราะความไม่ชัดเจนเชิงนโยบาย โดยเฉพาะประเด็นว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมี 3 คน ยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง แตกต่างจากก้าวไกล ที่มีความชัดเจนมาตลอดการหาเสียง จึงเป็นตัวแปรอย่างหนึ่งในเชิงบุคคล ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน จนเกิดแลนด์สไลด์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของประชาชนอีกด้วย”
...
ความนิยมของพรรคก้าวไกล ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนการเมืองไทยอย่างชัดเจน จนเกิด “ส้มแลนด์สไลด์” สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองยุคเก่า คนไทยส่วนใหญ่เริ่มปฏิเสธ ไม่ต้องการ การเมืองเชิงอำนาจ ประชาชนไม่ต้องการอีกต่อไป แต่ประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการการเมืองที่มีความเสมอภาคและเสรีภาพ ในการออกแบบการเมืองที่ตัวเองต้องการได้
ความน่าสนใจต่อจากนี้ คือการจัดตั้งรัฐบาล เพราะต่อให้ก้าวไกล มีความนิยมมากในหลายพื้นที่ แต่พรรคการเมืองอื่นๆ จะร่วมรัฐบาลกับก้าวไกลหรือไม่ จึงไม่แน่ว่าพรรคที่ได้คะแนนน้อยกว่า อาจร่วมมือกัน แล้วจัดตั้งรัฐบาลก็ได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย หากมีการยื่นข้อเสนอจากพรรคอื่น ที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อาจผลักพรรคก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านได้
บิ๊กตู่ บทบาทต่อไปยังไม่ชัดเจน
รศ.ดร.ธนภัทร กล่าวว่า บทบาทบิ๊กตู่ ต่อจากนี้แม้เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ไม่ได้ลงเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จึงจำเป็นว่าจะต้องถอยออกไปจากแวดวงการเมือง แต่เป็นการลงจากหลังเสือที่ไม่สง่างาม เหมือนตอนหลังจากประชุมเอเปก ซึ่งถ้าบิ๊กตู่ตัดสินใจลงจากตำแหน่งตอนนั้นน่าจะสง่างามมากกว่านี้ หรือช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 2 ปีได้ ถ้ามีการตัดสินใจประกาศไม่ดำรงตำแหน่งต่อ จะมีความสง่างามมากกว่าตอนนี้
“ภาพลักษณ์บิ๊กตู่ ต่อจากนี้ค่อนข้างทุลักทุเล เพราะการกระทำต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการอยากมีอำนาจ การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนได้ลงโทษอย่างหนัก และแสดงออกอย่างชัดเจน และตัดสินเส้นทางการเมืองของบิ๊กตู่ ให้ได้เห็นแล้ว”.