ความคืบหน้าการทวงคืนพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยที่มอบให้แก่ประเทศศรีลังกา เมื่อปี 2544 ล่าสุด คนไทยเดินทางไปยังสวนสัตว์เมืองโคลัมโบ ถึงกับต้องสลดใจต่อสภาพความเป็นอยู่ โดยเฉพาะฝีบริเวณหลังช้าง มีหนองใหม่ ขาดแคลนยารักษา ขณะที่โซ่ล่ามขาทั้งสองข้าง รัดแน่นเป็นรอย หวั่นว่าช้างจะล้มก่อนรัฐบาลไทยดำเนินการนำช้างกลับมาไทย

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ยังคงติดตามการทวงคืน พลายศักดิ์สุรินทร์ ที่ไทยมอบให้ศรีลังกา แต่กลับได้รับการดูแลไม่เหมาะสม ถูกล่ามโซ่ทั้งขาหน้า-ขาหลัง นำไปเดินแห่หารายได้ให้กับวัด เฉลี่ยปีละ 30 ครั้ง จนขาหน้าด้านซ้ายเสีย เดินกะเผลก งอเข่าไม่ได้ มีฝีขนาดใหญ่บริเวณหลังสองข้าง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 ดร.ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ อาจารย์ประจำสาขาพระพุทธศาสนา-วิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง ได้เดินทางไปยังประเทศศรีลังกา และเดินทางเข้าไปยังสวนสัตว์ เมืองโคลัมโบ เพื่อดูความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ มีการโพสต์คลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊กส่วนตัว มีผู้วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่อยากให้เร่งนำช้างกลับมารักษาตัวที่ไทย

...

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง ดร.ชญาน์นันท์ ได้ให้ข้อมูลว่า ฝีบริเวณหลังทั้งสองข้างของพลายศักดิ์สุรินทร์ ขณะนี้เริ่มมีหนองใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ส่วนขาหน้าด้านซ้าย มีอาการบาดเจ็บ น่าเวทนา เพราะมีอาการสั่งสมมากว่า 10 ปี ด้านขาขวาหน้าโดนล่ามโซ่จนเป็นรอยกินเข้าไปในเนื้อ

โดยช้างถูกล่ามโซ่เหมือนตรึงไว้ทั้งขาหน้าและหลัง ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ จุดที่นำช้างไปไว้ใกล้กับโรงครัวที่มีรถผ่านบ่อย ทำให้ช้างตกใจ กระโดด จนโซ่ที่ถูกมัดตรึงไว้รัดแน่น ทำให้ขาของช้างเป็นรอย

“สภาพช้างตอนนี้แย่มาก เสี่ยงจะมีอาการติดเชื้อล้มตาย เพราะศรีลังกาไม่มียาใช้รักษา ประกอบกับศรีลังกาช่วงเวลานี้ ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดช่วงเวลาที่เดินทางมา จะเห็นว่าประชาชนหลายคนต้องกินข้าววันละ 1 มื้อ ขณะที่สุนัขข้างทางก็ผอมโซ เนื่องจากขาดแคลนอาหาร สิ่งนี้ทำให้ไม่สามารถดูแลช้างได้”

วันที่เข้าไปเยี่ยมในสวนสัตว์ ได้ซื้อกล้วยจำนวนหนึ่งไปให้พลายศักดิ์สุรินทร์ สภาพจิตใจช้างตอนที่เจอค่อนข้างดี เมื่อเรียกชื่อด้วยภาษาไทย มีการตอบรับ ผิดจากช่วงปีก่อน ช้างมีอาการซึมเศร้า เรียกไม่ค่อยโต้ตอบ ซึ่งก่อนที่จะตามมาหาที่สวนสัตว์ ได้ไปยังวัดที่พลายศักดิ์สุรินทร์เคยอยู่ และได้รับข้อมูลจากพระ ที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

“เบื้องต้นหน่วยงานรัฐไทยควรส่งสัตวแพทย์เข้าไปดูอาการ เพราะทางสวนสัตว์สามารถให้คนทั่วไปเข้าไปชมช้างได้ ในฐานะคนไทยที่เป็นห่วงช้าง มีความสงสัยเรื่องดำเนินการนำช้างกลับไทย ว่าทำไมดำเนินการช้าผิดปกติ ทั้งที่ศรีลังกาพร้อมส่งช้างไทยกลับบ้าน แต่ไม่มีหน่วยงานรัฐไทยมารับ หากรอนานกว่านี้ ถ้าช้างล้ม คงไม่ได้นำกลับไทย ซึ่งงาของพลายศักดิ์สุรินทร์ มีค่าอย่างมาก”

...

การล่ามโซ่ช้างทั้งขาหน้าและหลัง เป็นปกติของการเลี้ยงช้างที่ศรีลังกา ซึ่งไม่ปล่อยให้เดิน จนอาจทำให้ขาหน้าด้านขวาได้รับการบาดเจ็บไปอีกข้าง เสี่ยงเป็นช้างพิการในอนาคต สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ควาญไทย ที่เดินทางไปดูแลช้างมาแล้ว 6 เดือน จะเดินทางกลับไทย วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ จึงห่วงว่าถ้าไม่มีควาญไทยอยู่ ช้างอาจถูกทารุณได้

นายกรัฐมนตรีสั่งกำชับให้เร่งนำช้างกลับไทย

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยืนยันว่า หน่วยงานกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อส่งตัวช้างกลับไทย ขณะที่ กัญจนา ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมาว่า กรณีศักดิ์สุรินทร์ เมื่อทราบเรื่องครั้งแรกราวเดือนกันยาปีก่อน ตัวเองไม่เคยนิ่งเฉยเลย ประสานกับท่านทูตไทยที่ศรีลังกา ซึ่งท่านใส่ใจมาก ตั้งแต่ส่งทีมหมอจากศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปางไปดูแล 2 รอบ

...

เจรจาให้ทางวัด (ซึ่งกรรมสิทธิ์ช้างเป็นของเขา) ให้ยอมปล่อยช้างไปอยู่สวนสัตว์ เพราะสภาพแวดล้อมดีกว่า อีกทั้งคนที่ดูแลศักดิ์สุรินทร์ที่วัดเป็นคนใจร้าย และใช้งานช้างอย่างหนัก โดยส่วนตัวดิฉันขอถวายสีทองทาองค์พระใหญ่ที่ทางวัดขอมา จะส่งไปให้วัดทางโน้น

ทางนี้ยังได้ส่งควาญจากสุรินทร์ที่เคยดูแลศักดิ์สุรินทร์ตั้งแต่เด็ก ให้ไปศรีลังกาช่วงต้นปี ศักดิ์สุรินทร์ตกมัน การขนกลับทำไม่ได้ ตอนนี้หายตกมันแล้ว เบื้องต้นประสานท่านทูตให้เขาอย่าล่ามโซ่ช้างแบบนั้น และให้พาเดินด้วย ขณะเดียวกัน ได้ขอน้องชายในฐานะ รมว.ทส. คุยกับกรมอุทยานฯ เร่งดำเนินการนำกลับ จะมาทางใดก็ให้ทำโดยเร็ว ที่จะรองรับศักดิ์สุรินทร์มารักษาเมื่อถึงไทย คือที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยลำปาง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลช้างที่ดีที่สุดในไทย. 

ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก Chayanan Assawadhammanond