นับเวลาถอยหลังการนำพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยถูกทรมานในศรีลังกา จนขาหน้างอเข่าไม่ได้ เพราะถูกนำไปเดินในขบวนแห่หลายสิบรอบต่อเดือน มีฝีขนาดใหญ่บริเวณหลัง ล่าสุดรัฐบาลไทยอนุมัติงบประมาณนำกลับ จนมีความคืบหน้าในการต่อกรงเพื่อนำกลับ รวมถึงจองเที่ยวบินขนส่งขนาดใหญ่ นำกลับมา 1 ก.ค.นี้

พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรี เมื่อ 22 ปีก่อน กำลังจะได้กลับไทย หลังทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดัน และได้รับงบประมาณในการนำกลับมาจากประเทศศรีลังกา เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลจนร่างกายทรุดโทรม

กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะผู้ติดตาม และประสานการนำช้างกลับไทย เปิดเผยความคืบหน้ากับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ขณะนี้งบประมาณในการนำพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับจากศรีลังกา ได้รับอนุมัติแล้ว และทางสถานทูตไทยในศรีลังกา ได้ทำการต่อกรงที่จะลำเลียงช้างโดยเครื่องบิน ตามแบบที่ได้วางไว้แล้ว และเตรียมเดินทางไปศรีลังกา ดูแลทีมงานและช้างในการส่งกลับไทย ขณะเดียวกันก็จะเดินทางไปดูช้างไทยอีก 2 เชือก ที่อยู่ในศรีลังกา เพื่อดูความเป็นอยู่ในเบื้องต้น

...

ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ และสัตวแพทย์จากองค์การสวนสัตว์ แห่งประเทศไทย เดินทางไปศรีลังกา เพื่อเตรียมการด้านสุขภาพอนามัย การตรวจโรคตามระเบียบนำเข้าช้างมาในราชอาณาจักรของกรมปศุสัตว์ และใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตนำเข้าตาม ในการเดินทางไปครั้งนี้มีสัตวแพทย์ 3 ท่าน และอีก 2 คน เป็นควาญ จากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ รับหน้าที่นั่งบนเครื่องบินมาพร้อมกับช้าง โดยควาญมีความชำนาญในการทำงานกับช้างมาเกิน 10 ปี ขณะเดียวกันช่วงก่อนจะถึงเวลาขนย้ายจะมีควาญอีกชุดเดินทางมาสมทบ

สำหรับแผนการขนย้าย หลังจากกรงในการขนย้ายต่อเสร็จ ทีมควาญจะฝึกช้างให้เดินเข้าไปในกรง และฝึกความคุ้นเคยระหว่างกัน โดยเครื่องบินขนส่งเป็นประเภท Ilyushin IL-76 มีที่นั่งให้ทีมงานเพียง 6 คน โดยให้ทีมแพทย์ขึ้นไป 2 ท่าน และควาญ 4 ท่าน

“แม้กรงกำลังต่ออยู่ แต่ทีมงานที่ไปถึงศรีลังกา พยายามฝึกให้พลายศักดิ์สุรินทร์ อยู่ในที่แคบๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย จะได้ไม่ตื่นตกใจเวลาต้องเดินเข้าไปในกรงระหว่างลำเลียงกลับไทย เครื่องบินที่รับช้าง จะออกจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ราวบ่ายโมงวันที่ 1 ก.ค.ใช้เวลาบิน 5-6 ชม. และมาส่งที่สนามบินเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รอรับ จากนั้นจะมีรถลำเลียง แล้วต่อรถไปยัง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่ในการดูแลต่อจากนี้”

เบื้องต้นทีมแพทย์ได้ประชุมและลงความเห็นว่าจะไม่ฉีดยาซึมให้ช้างในระหว่างขนส่งทางเครื่องบิน แต่ต้องมัดขาไว้ เพื่อไม่ให้ช้างดิ้นตกใจ ซึ่งควาญตอนนี้กำลังเร่งทำความคุ้นเคย โดยเบื้องต้นทราบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่ต้องร่วมในขบวนแห่ตามวัดต่างๆ น่าจะเคยชินกับเสียงดังต่างๆ แต่เพื่อความไม่ประมาท ทีมงานทุกคนก็เตรียมความพร้อมในช่วงระหว่างขึ้นและลงของเครื่อง เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่ช้างจะตื่นตกใจได้

...

ตนเองจะเดินทางไปศรีลังกา ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการลำเลียงพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย และหลังจากนั้นจะเดินทางไปวัด ที่เคยดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์ เพื่อนำสีทองไปมอบให้ตามสัญญา หากสามารถนำช้างกลับมายังประเทศไทยได้ ต่อจากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมช้างไทยอีกเชือกที่อยู่ในความดูแลของวัดอีกแห่ง เบื้องต้นทราบมาว่ายังได้รับการดูแลดีกว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มาก

สิ่งสำคัญในการนำช้างกลับมายังประเทศไทยได้ ต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ร่วมถึงท่านทูตไทยในศรีลังกา ที่ช่วยเหลือประสานในการนำช้างออกจากวัด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำกลับ ขณะเดียวกันประชาชนที่แสดงความเป็นห่วง และติดตามข่าวการนำพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับประเทศไทยมาโดยตลอด.