การแข่งขันนัดสำคัญใน "ฟุตบอลโลก 2022" ระหว่าง "ลิโอเนล เมสซี" ชายร่างเล็กชาวอาร์เจนไตน์ ผู้ต้องการอีกเพียงโทรฟีเดียวบนพื้นพิภพแห่งนี้ เพื่อเติมเต็มคำว่า “สมบูรณ์แบบ” (สักที) ในช่วงปลายชีวิตการค้าแข้ง ในขณะที่ชายที่ก้าวขึ้นมาท้าทายการบรรลุถึงฝันอันยิ่งใหญ่ นั้น ก็เป็น “ลูกา โมดริช” ชายร่างกะทัดรัดสูงวัย ที่ร่ายเวทมนตร์กับลูกฟุตบอลได้ราวกับ “พ่อมด” ที่หยอกเย้ากับบรรดา “มักเกิ้ล” ในโลกของเวทมนตร์

อะไรคือ “จุดแข็ง” และ “จุดอ่อน” ระหว่างสงครามแข้งระหว่าง “อาร์เจนตินา” และ “โครเอเชีย” ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 จากสถิติการลงเตะใน 5 นัดที่ผ่านมาของทั้ง 2 ทีม วันนี้ “เรา” ไปร่วมพิจารณาจากสถิติเหล่านั้นกันดู

สถิติการลงเล่น :

...

อาร์เจนตินา : ลงแข่ง 5 นัด รวม 480 นาที ชนะ 3 เสมอ 1 (ชนะจุดโทษ 1) แพ้ 1
ยิง 9 ประตู เสีย 5 ประตู

โครเอเชีย : ลงแข่ง 5 นัด รวม 510 นาที ชนะ 1 เสมอ 4 (ชนะจุดโทษ 2)
ยิง 6 ประตู เสีย 3 ประตู

ผู้รักษาประตู :

อาร์เจนตินา :

แม้จะเสียไปแล้วถึง 5 ประตู และสามารถป้องกันลูกยิงที่เข้ากรอบประตูได้เพียงแค่ 2 ครั้ง จากทั้งหมด 6 ครั้ง แต่การที่ “เอมิเลียโน มาร์ติเนซ” สามารถช่วยทีมด้วยการป้องกันจุดโทษได้ถึง 2 ครั้ง จนส่งผลให้ทีมเอาชนะการดวลจุดโทษเหนือเนเธอร์แลนด์ไปได้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ความเก๋าและความเหนียวแน่นในยามที่ทีมต้องการเป็นผู้ชนะในยามวิกฤติได้เป็นอย่างดี

โครเอเชีย :

อีกหนึ่งจุดแข็งของโครเอเชียในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เมื่อพวกเขามี “โดมินิค ลิวาโควิช” ทำหน้าที่เป็นเทพพิทักษ์ประตู โดยจากสถิติ นายด่านโครแอตผู้นี้สามารถป้องกันลูกยิงที่เข้ากรอบประตูได้มากถึง 19 ครั้ง จากทั้งหมด 22 ครั้ง (86.4%) และเสียไปเพียง 3 ประตู นอกจากนี้ “โดมินิค ลิวาโควิช” ยังสามารถเซฟจุดโทษได้รวมกันถึง 4 ครั้ง จนพาทีมตาหมากรุก ชนะการดวลจุดโทษ ญี่ปุ่น และบราซิล มาได้สำเร็จด้วย

สถิติการครองบอล :

อาร์เจนตินา :

ครองบอลเฉลี่ย 61.6% (อันดับที่ 3 ของฟุตบอลโลกครั้งนี้)
จำนวนครั้งการสัมผัสบอลรวม : 4,002 ครั้ง จากนักเตะรวม 21 คน (เฉลี่ยคนละ 190 ครั้ง)

พื้นที่การครอบครองบอล :

พื้นที่กรอบเขตโทษตัวเอง 239 ครั้ง (5.97%)
แดนหลัง 996 ครั้ง (24.89%)
แดนกลาง 2,075 ครั้ง (51.85%)
แดนหน้า 960 ครั้ง (23.99%)
พื้นที่กรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้าม 117 ครั้ง (2.92%)

...

โครเอเชีย :

สถิติการครองบอลเฉลี่ย :

ครองบอลเฉลี่ย 54% (อันดับที่ 10 ของฟุตบอลโลกครั้งนี้)
จำนวนครั้งการสัมผัสบอลรวม : 3,925 ครั้ง จากนักเตะรวม 18 คน (เฉลี่ยคนละ 218 ครั้ง)

พื้นที่การครอบครองบอล :

พื้นที่กรอบเขตโทษตัวเอง 375 ครั้ง (9.55%)
แดนหลัง 1,138 ครั้ง (28.99%)
แดนกลาง 1,994 ครั้ง (50.80%)
แดนหน้า 835 ครั้ง (21.27%)
พื้นที่กรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้าม 112 ครั้ง (2.85%)

จากสถิติที่เพิ่งผ่านสายตา “คุณ” ไป “เรา” พอมองเห็นภาพอะไรบ้าง?

วิเคราะห์ : แม้ว่าตามโปรแกรมการแข่งขัน “โครเอเชีย” จะได้พักมากกว่า “อาร์เจนตินา” 1 วัน แต่ โครเอเชีย ผ่านการกรำศึกในช่วงต่อเวลาจนถึงการยิงจุดโทษมาถึง 2 นัดติดต่อกัน ทำให้รวมเวลาการลงเตะมากกว่าฝ่าย อาร์เจนตินา ถึง 30 นาที

นอกจากนี้จำนวนนักเตะที่ลงฟาดแข้งในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โครเอเชีย เพิ่งใช้นักเตะไปรวมกันเพียง 18 คน จากทั้งหมด 26 คน โดยในจำนวนนี้มีนักเตะ 3 คน (ไม่รวมผู้รักษาประตู) ที่ลงเล่นครบทั้ง 510 นาที ในขณะที่ฝ่าย อาร์เจนตินา ซึ่งใช้นักเตะรวมกันแล้วถึง 21 คน มีนักเตะเพียง 2 คน (ไม่รวมผู้รักษาประตู) ที่ลงเล่นครบทั้ง 480 นาที

ด้านสถิติการครอบครองบอลจะเห็นได้ว่า ทั้งสองทีมมีสถิติการครองบอลที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะค่าเฉลี่ยการครองบอลในพื้นที่แดนกลาง ฉะนั้นในนัดนี้ หากแผงมิดฟิลด์ทีมใดสามารถครองพื้นที่แดนกลางเอาไว้ได้ อาจกลายเป็น “จุดชี้ขาด” ผลของชัยชนะในนัดนี้ได้เลย

...

นักเตะที่น่าจับตา :

อาร์เจนตินา : “โรดริโก เดอ ปอล” คือ กองกลางอาร์เจนตินาที่สัมผัสบอลมากที่สุดในทีม โดยเป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์พันธุ์แกร่งที่แจ้งเกิดได้เต็มตัวในฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีโอกาสสัมผัสบอลมากถึง 498 ครั้ง หรือคิดเป็น 12.44% ในการขับเคลื่อนเกมให้กับทัพฟ้าขาว จากการลงเล่นรวม 5 นัด 425 นาที (เฉลี่ย 88.5 นาทีต่อนัด) สร้างโอกาสในการทำประตูรวม 14 ครั้ง โดยแยกเป็น การผ่านบอลขณะเคลื่อนที่ 13 ครั้ง และเข้าสกัดจนนำไปสู่การยิงประตูอีก 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีสถิติการเข้าสกัดสำเร็จเมื่อเจอกับการเลี้ยงบอลของคู่ต่อสู้ที่มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 83.3% อีกด้วย!

...

โครเอเชีย : “มาร์เซโล โปรโซวิช” นักเตะผู้ทำหน้าที่ “ลูกหาบ” ให้กับจอมทัพของทีมอย่าง “ลูกา โมดริช” คือ เบื้องหลังความสำเร็จในพื้นที่แดนกลางของโครเอเชียอย่างแท้จริง โดยเขาสัมผัสบอลมากถึง 539 ครั้ง หรือคิดเป็น 13.73% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่มากที่สุดในทีม จากการลงเล่นรวม 5 นัด 503 นาที (เฉลี่ยนัดละ 98.6 นาที) สร้างโอกาสในการทำประตูรวม 10 ครั้ง โดยเป็น การผ่านบอลขณะเคลื่อนที่ทั้ง 10 ครั้ง

สถิติการยิงประตูและการสร้างโอกาสในการยิงประตู :

อาร์เจนตินา :

ยิง 68 ครั้ง เข้ากรอบ 26 ครั้ง ได้ 9 ประตู (38.2%)
ค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อนัด 12.75 ครั้ง ค่าเฉลี่ยยิงเข้ากรอบต่อนัด 4.87 ครั้ง
ประสิทธิภาพของโอกาสยิงประตูต่อครั้ง (xG) 9.5

โครเอเชีย :

ยิง 55 ครั้ง เข้ากรอบ 20 ครั้ง ได้ 6 ประตู (36.4%)
ค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อนัด 9.71 ครั้ง ค่าเฉลี่ยยิงเข้ากรอบต่อนัด 3.53 ครั้ง
ประสิทธิภาพของโอกาสยิงประตูต่อครั้ง (xG) 5.8

การสร้างโอกาสในการยิงประตู :

อาร์เจนตินา :

สร้างโอกาสในการยิงประตูรวม 126 ครั้ง หรือเฉลี่ยนัดละ 23.63 ครั้ง

โครเอเชีย :

สร้างโอกาสในการยิงประตูรวม 90 ครั้ง หรือเฉลี่ยนัดละ 15.88 ครั้ง

นักเตะที่น่าจับตา :

“ลิโอเนล เมสซี” อัจฉริยะและเครื่องจักรสังหารประตูของอาร์เจนตินา ทำไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทำให้เขาทำสถิติยิงประตูมากที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้กับอาร์เจนตินา เท่ากับ “กาเบรียล บาติสตูตา” (10 ประตู) แล้ว

ขณะที่อิทธิพลที่มีต่อทีมนั้น ล่าสุดสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีมไปแล้วรวมกันถึง 32 ครั้ง (25.40%) โดยแยกเป็น การส่งบอลขณะเคลื่อนที่ 20 ครั้ง, ลูกนิ่ง 3 ครั้ง เลี้ยงบอลสำเร็จจนนำไปสู่การยิงประตู 2 ครั้ง ยิงประตูจนนำไปสู่การยิงซ้ำ 1 ครั้ง ถูกทำฟาวล์จนนำไปสู่การยิงประตู 5 ครั้ง เข้าสกัดจนนำไปสู่การยิงประตู 1 ครั้ง

ส่วนทางด้าน “ลูกา โมดริช” ใช้เวทมนตร์ของเขาสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีมรวมกัน 12 ครั้ง (13.33%) โดยแยกเป็น การส่งบอลขณะเคลื่อนที่ 10 ครั้ง, ลูกนิ่ง 2 ครั้ง

หากแต่สถิติที่น่าทึ่งกว่าสำหรับจอมทัพวัย 37 ปีผู้นี้ก็คือ แม้จะลงเล่นไปรวมกันแล้วถึง 483 นาที (เป็นตัวจริงทั้ง 5 นัด) จากทั้งหมด 510 นาที หรือเฉลี่ยนัดละ 97 นาที แต่กลับแทบไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อยให้ได้เห็น เพราะนอกจากจะรับบทสร้างสรรค์เกมได้อย่างไม่มีที่ติแล้ว ด้วยสถิติการสัมผัสบอล 450 ครั้ง ในทุกพื้นที่ของสนามไม่เว้นแม้แต่กรอบเขตโทษของฝ่ายตัวเอง รวมถึงจ่ายบอลรวมกันถึง 366 ครั้ง แล้วยังมีสถิติการเข้าสกัดคู่ต่อสู้สำเร็จถึง 50% ด้วย! เรียกได้ว่า “ยังต้องการอะไรจากศิลปินลูกหนังผู้นี้อีกหรือ?”.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก Anon Chantanant

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :