เรียกว่า “เงียบเหงา” มาแล้วปีเศษ หลังเกิดโควิด-19 ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก รวมถึงดินแดนให้รอยยิ้ม อย่างสยามประเทศ ซึ่งเคยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 17% ของ GDP ประเทศ ซึ่งแน่นอน..มัน “ฝันสลาย” ไปแล้วในปี 2563
ในปีนี้ถึงแม้การระบาดยังไม่สร่าง แต่ยังมีพอความหวังมากขึ้นจาก “วัคซีน” ที่จะเยียวยาให้การท่องเที่ยวพลิกฟื้น ซึ่งหนึ่งในความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ ก็คือ เทศกาลสงกรานต์
สงกรานต์ปีนี้ แต่ละพื้นที่มีนโยบายที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับมาตรการของ ศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ) โดยในกรุงเทพฯ ก็มีการประกาศมาแล้ว ว่าสามารถจัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้ แต่...ก็มีหลายกิจกรรมต้องงดเว้น คือ การสาดน้ำ ประแป้ง จัดคอนเสิร์ต หรือปาร์ตี้โฟม
ส่วนกิจกรรมที่จัดได้ คือ การทำบุญตักบาตร พิธีสรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ โดยมีข้อจำกัดในการจัดกิจกรรม หากมีผู้เข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์เกิน 100 คน ต้องขออนุญาตสำนักงานเขตพื้นที่ที่จัดงานก่อน
อุโมงค์น้ำพุทธมนต์ ถนนข้าวสาร และ "ภาพจำ" กำลังเปลี่ยนไป
สำหรับพื้นที่ไฮไลต์ อย่างถนนข้าวสาร นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้จะไม่มีการเล่นสาดน้ำ และจัดคอนเสิร์ต เนื่องจากปัจจุบันในกรุงเทพฯ ยังมีการระบาดแบบคลัสเตอร์อยู่ แต่เราจะทำให้ข้าวสารเป็นแลนด์มาร์ก โดยจะมีการจัดงานทำบุญถนนข้าวสาร ซึ่งหลังจากล็อกดาวน์ ยังไม่มีการจัดทำบุญเลย
...
ฉะนั้น ในวันสงกรานต์ ตั้งแต่ 13-15 นี้จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานจะมีขบวนแห่บุปผาชาติ ภายในจะมีหลังคาพิเศษแบบสีสันสดใส นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้ประชาชนมาสรงน้ำพระเจริญพุทธมนต์ โดยมีพระประจำวันเกิดทุกวันให้ทำบุญ ซึ่งวันแรกจะมีนายกรัฐมนตรีมาเปิดงาน
“สิ่งที่เป็นไฮไลต์คือ อุโมงค์น้ำฆ่าเชื้อโรค และอุโมงค์น้ำพุทธมนต์ โดยคาดว่าจะสามารถรองรับคนที่มาเที่ยว ทำบุญ ประมาณ 1 หมื่นคน โดยคำนวณจากคนที่มาเที่ยวข้าวสารในเวลานี้ เฉพาะศุกร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 4-5 พัน”
หลังจากนี้ “ภาพจำ” ของถนนข้าวสารจะเปลี่ยนไป จะไม่ใช่แหล่งรวมเกสต์เฮาส์ แต่จะมีการปรับโฉมให้เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์เต็มรูปแบบ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 100% เนื่องจากปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถหาที่พักได้ตามสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ส่วนถนนข้าวสารคาดว่าจะมีรถไฟฟ้าหลังจากนี้ 5 ปี
เชียงใหม่สุดคึกคัก จัดงานทั่วทั้งเมือง
สำหรับ อีกพื้นที่ทำเลทองของสงกรานต์ภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ปีนี้มีการจัดงานตามปกติ แต่ก็งดสาดน้ำเช่นเดียวกัน รูปแบบงานส่วนใหญ่จะคงเอกลักษณ์แบบล้านนา เช่น พิธีสมโภช และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, การจัดขบวนแห่ที่หอพญามังราย, ประกวดแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้อง นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์ด้วยการทำพิธีปลุกเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยนำน้ำมาจาก 3 แหล่ง คือ ขุนน้ำปิง ที่เชียงดาว อ่างกาหลวง ดอยอินทนนท์ และวัดบุปผาราม จากนั้นจะบรรจุใส่ขวดแจกจ่ายให้ประชาชน
ด้านนายวโรดม ปฏิกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า เชื่อว่าปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนมาก เพราะทางจังหวัดสามารถกิจกรรมต่างๆ ได้ รวมไปถึงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางเข้าเชียงใหม่ได้มากขึ้น ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักมากกว่าปีก่อนแน่นอน
“ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังคงเป็นศูนย์เหมือนเดิม แต่ก็มีเข้ามาบ้างเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ต้องกักตัว 14 วัน ถ้าเป็นไปได้ หากมีการใช้พาสปอร์ตวัคซีน ก็อยากให้ทางภาครัฐลดเวลากักตัวลง ส่วนสถานการณ์ในเวลานี้ คือ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องมากกว่า 60 วันแล้ว”
นายวโรดม กล่าวทิ้งท้ายว่า ปกติเชียงใหม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวปีละ 240,000 ล้านบาท หาก แต่พอไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ รายได้ก็หายไปเหลือ 120,000 ล้านบาท ตกเฉลี่ยเดือนละ 6,000 ล้านบาท หวังว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะๆ
สงกรานต์ "ภูเก็ต" ทีเด็ดอยู่ที่ "หรอยริมเล" และกีฬา SUP Board
ส่วนอีก 1 จังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ “ไข่มุกอันดามัน” ที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 สร้างรายได้จุนเจือประเทศ...แต่สำหรับเทศกาลสงกรานต์นั้น “ภูเก็ต” อาจจะไม่ใช่เป้าหมายแรก แต่ครั้งนี้ขอฮึดสู้ดึงนักท่องเที่ยว
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ปกติแล้วในช่วงเทศกาล "สงกรานต์" ภูเก็ตไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก แต่สำหรับปีนี้ (2564) ยอด Booking เราค่อนข้างดี แตกต่างจากในอดีต รู้สึกว่าคนเริ่มเดินทางเข้ามา ซึ่งเป็นความพยายามของหลายคนที่อยากช่วยให้ภูเก็ตเดินต่อไปให้ได้
...
กิจกรรมปีนี้ "กลุ่มลากูน่า" ได้ร่วมกันจัดเทศกาลที่เรียกว่า "Revise 555" เพื่อฟื้นชีพภูเก็ต อัดแน่นด้วยกิจกรรมมากมาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2564 รวม 19 วันเต็ม เช่น กีฬา, เทศกาลอาหารพื้นเมืองและของดีชาวภูเก็ต "หรอยริมเล" รวมถึงคอนเสิร์ตที่จะมีดารา-นักร้องมาร่วมด้วย สำหรับกีฬานั้นเป็น "กีฬายืนพาย" หรือ "ซัพบอร์ด" (SUP Board) นอกจากนี้ยังมี "บิกินี รัน" (Bikini Run)...แค่นึกภาพก็ว้าวแล้ว
ส่วน "หรอยริมเล" ที่จัดมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ความหมายเข้าใจง่ายๆ คือ อร่อยที่ริมชายหาด เพราะฉะนั้น ภายในงานเทศกาลฯ นี้ เราจะตั้งโต๊ะให้ทุกท่านรับประทานอาหารริมทะเล ซีฟู้ดขายสดๆ ล็อบสเตอร์ก็มี แถมราคาไม่แพง แล้วก็จะมีผู้ประกอบการ ชาวประมง นำอาหารทะเลสดๆ มาปรุงให้ได้รับประทานกัน
...
“ถ้าท่านได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนภูเก็ตจะไม่มีเบื่อแน่นอน อีกทั้งยังสามารถออกไปเที่ยวข้างนอกได้ ไม่ได้มีข้อห้ามว่ามาแล้วจะต้องอยู่แต่ที่นี่เท่านั้น อยากให้มาลอง "สงกรานต์ภูเก็ต" กันดูสักครั้ง” รอง ผวจ.ภูเก็ต เชิญชวน
เวลานี้ หลายๆ ประเทศยังคงปิด เขามาไม่ได้ เราออกไปไม่ได้ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะเที่ยวเมืองไทย กิน ใช้บริการในราคามิตรภาพ