เปลือยใจ ชายขายกาม อาชีพที่หลายคนมองเป็น "งานสบายได้เงินง่าย" แต่ความจริงอาศัย “แรงกล้า” และ “ยา” เผยมุมอื่นๆ ที่ทำมากกว่ามี Sex ครึ่งชั่วโมง แฉมิจฉาชีพในคราบลูกค้า รุมโทรม ถ่ายหนังโป๊

จากเด็กหนุ่ม (เกย์) วัย 20 ที่มีความรู้แค่ ม. 3 ทำงานในโรงงาน PC ขายของตามห้าง ผันตัวเองสู่การ “ค้ากาม” นายตี๋ให้เหตุผล พ่อแม่มีอาชีพทำนา ด้วยความเป็นลูกคนโต ต้องช่วยพ่อแม่ดูแลน้องและช่วยรับผิดชอบภาระหนี้สินของครอบครัว รายได้จากงานโรงงาน หรือ PC ขายของตามห้างน้อย ไม่มีเงินพอช่วยชำระหนี้สิน จึงมองหาอาชีพที่สร้างรายได้มากกว่าเดิม สังเกตหญิงสาวสองพี่น้องห้องเช่าข้างๆ ทำงานกลางคืน เห็นการแต่งตัวดูดีก็คิดว่าน่าจะมีรายได้ดี ประกอบกับมีโอกาสพบเพื่อนๆ ที่ทำงานกลางคืน ทำให้เห็นว่ามีรายได้สูงแม้จะไม่ตายตัว แต่ก็ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นายตี๋จึงตัดสินใจมาทำงานกลางคืนย่านพัฒน์พงศ์และสีลม 

““ถ้าไม่ใช่คนในวงการนี้จะไม่รู้เลยว่า งานมันไม่ได้สบายอย่างที่คนอื่นมองเลย ไม่มีใครรู้ความจริงหรอกว่า คนที่ทำอาชีพนี้ต้องเสี่ยงชีวิตอะไรบ้าง ก่อนก้าวมาทำ บอกพ่อแม่ว่าจะมาทำงานบริการ ก็บอกตรงๆ เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจถ้ามารู้ทีหลังแม่ก็อึ้งๆ นั่งนิ่ง แล้วบอกว่าทำไมต้องตัดสินใจไปทำแบบนั้น ทำไมไม่สู้กับงานที่ทำอยู่ พอบอกเหตุผลว่าทำงานห้าง ทำงานโรงงาน มันยากที่จะหาเงินมาใช้หนี้ แม่ก็ถามย้ำอีกบอกตัดสินใจดีแล้วหรือ พร้อมแล้วหรือ พอเรายืนยันคำตอบเดิมแม่ก็เข้าใจ แต่ก็เป็นห่วง บอกให้ดูแลตัวเองให้ดี” นายตี๋ วัย 47 ปี อดีตผู้ชายขายบริการนาน 10 ปี เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเล่าเรื่องราวความหลังอันขมขื่นเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมากับการทำงานขายบริการย่านสีลม พัฒน์พงศ์ ตั้งแต่ปี 2547

...

2 ปัจจัย ช่วยให้มี "ความกล้า" เสิร์ฟสุขทางกาม

เมื่อเลือกทางเดินชีวิตมาเป็นคนกลางคืน นายตี๋ เริ่มจากเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่รายได้ไม่ดี ไม่นานจึงรับจ๊อบไปกินข้าวกับลูกค้าและลงท้ายด้วยการบริการทางเพศ ซึ่งความรู้สึกครั้งแรกที่นอนกับลูกค้า นายตี๋รู้สึกดี เพราะนอนกับคนถูกใจและได้เงินด้วย ซึ่งลูกค้าที่นายตี๋เลือกไปด้วยนั้นจะรู้สึกชอบพอเป็นทุนเดิม และรู้จักกันระดับหนึ่งจากการบริการเสิร์ฟ 

จากนั้นนายตี๋ก็ผันตัว “มาเต้นอะโกโก้” และ “ขายบริการ” อย่างเต็มตัว จึงเข้าใจยิ่งขึ้นว่าอาชีพ “ขายบริการ” ที่หลายคนมองว่าสบายๆ ได้เงินง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงต้องใช้ “ความกล้า”  และ “ยากล่อมประสาท” ถอดเสื้อผ้า เต้นยั่วยวน เสิร์ฟความสุขทางกาม นอนกับใครไม่รู้มากหน้าหลายตา

“พอตัดสินใจมาเป็นเด็กอะโกโก้ มาขายบริการจริงๆ จังๆ ครั้งแรกที่ไปยืนเต้นบนฟลอร์ แล้วใส่บิกินีตัวเดียว ให้คนนั่งมอง รู้สึกอาย หน้าชาๆ เขิน มันบอกไม่ถูก เพื่อนๆ บางคนก็ใช้ยาช่วยให้มีความกล้า ตื่นตัว หายอาย บางทีกินเหล้า กินเบียร์ผสมยานอนหลับให้มึนเมา ส่วนตัว ตั้งปณิธานไว้ว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด พอวันแรกผ่านไป วันต่อๆ ไป ความรู้สึกอายก็ค่อยๆ หาย กลายเป็นความชิน แล้วก็เกิดความรู้สึกรับผิดชอบว่าเป็นหน้าที่ที่ ตัวเองต้องทำ”

ปล่อยตามน้ำ รักษาชีวิต แฉภัยมิจฉาชีพใน "คราบลูกค้า" 

เรื่องราวชีวิตของ “คนขายตัว” อาชีพที่ใช้ร่างกายเป็นต้นทุนไปนอนกับใครไม่รู้ที่มากหน้าหลายตานับครั้งไม่ถ้วนนี้ นายตี๋เปิดใจ ตนโชคดีที่เจอลูกค้านิสัยดี ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งจึงปลอดภัยจากโรคติดต่อ และเชื้อ HIV แต่เพื่อนบางคนโชคร้าย เจอลูกค้าวิตถาร ถูกหลอกด้วยวิธีต่างๆ จนสูญทรัพย์สินเงินทอง หรือถูกทำร้ายร่างกาย

มิจฉาชีพในคราบลูกค้าที่เพื่อนๆ เคยเจอ นายตี๋เปิดเผยว่ามีหลายกรณี อาทิ ลูกค้ามานั่งที่ร้านคนเดียว ขออ๊อฟเพื่อนไปโรงแรม เมื่อไปถึง เข้าไปในห้องพบมีคนรออีก 3 คน กลายเป็นเพื่อนถูกรุมโทรม ส่วนเพื่อนอีกคนโดนออฟไปบังกะโลที่บางแสน บังคับให้มีเพศสัมพันธ์และบันทึกวิดีโอไว้

กรณีที่ไม่มีความรุนแรง มิจฉาชีพในคราบลูกค้า นายตี๋เปิดเผยต่อว่า จะมีลักษณะ ออฟไปกินข้าว แล้วขอยืมโทรศัพท์โทรติดต่อเพื่อน แล้วเดินออกไปคุยนอกร้าน สักพักหายตัวไปพร้อมโทรศัพท์ และทิ้งให้จ่ายค่าอาหาร หรือบางคนมีเพศสัมพันธ์กันแล้วในโรงแรมม่านรูด ลูกค้าจ่ายเงินค่าบริการแล้วแต่ขณะเพื่อนอาบน้ำ เมื่อออกมา พบลูกค้าขโมยทรัพย์สินก็มี

“มิจฉาชีพแฝงมาในรูปลูกค้า ดูไม่ออกหรอก บางคนมาพูดดูดี แต่พาไปข่มขืน หลอกไปเป็นดาราหนังโป๊ ถามว่าปฏิเสธได้ไหม กรณีเคสถูกรุมโทรม มีลูกค้ารวม 4 คน หากปฏิเสธ เพื่อนมีเพียงคนเดียวจะหนีรอดได้ยังไง และไม่รู้ว่าจะโดนทำร้ายอะไร ณ ตอนนั้นปล่อยไปตามน้ำ ยังมีชีวิตรอด ส่วนเพื่อนที่ถูกหลอกบังคับให้ถ่ายหนังโป๊ พร้อมเพื่อนๆ อีก 2-3 คน มีคนปฏิเสธก็ถูกตี ก็ต้องปล่อยไปตามน้ำเหมือนกัน เพื่อให้มีชีวิตปลอดภัยดีกว่า”

...

วิกลจริตในต่างแดน ผู้ชายค้ากาม บั้นปลายมีสุขแค่ 10%

ความเสี่ยงอีกอย่างที่อันตรายต่ออาชีพชายขายบริการ นั่นคือ เสี่ยงติดโรคหรือเชื้อ HIV ซึ่งนายตี๋บอกว่า ตนโชคดีที่ตลอดเกือบ 10 ปีไม่เคยเจอเรื่องร้ายต่างๆ หรือติดเชื้อ HIV จนเสียชีวิตเหมือนเพื่อนๆ สำหรับรายได้ เนื่องจากช่วงที่ค้าบริการ ธุรกิจค้ากามอยู่ในช่วงปลายๆ กำลังเป็นขาลง รายได้คืน 2-3 พัน เดือนหนึ่ง 3-4 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าเยอะมาก เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เงินที่ได้จากการใช้ร่างกายเข้าแลก นายตี๋ส่งให้พ่อแม่ชดใช้หนี้หลักแสน และดูแลน้องๆ 

ทำงานขายบริการเกือบ 10 ปี นายตี๋เริ่มอิ่มตัว อีกทั้งปลดหนี้ และสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่แล้ว ประกอบกับได้รู้จักกับ นางสุรางค์ จันทร์แย้ม หรือ “พี่รางค์” ชักชวนให้มาทำ “มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ” หรือ swing (Service Workers in Group Foundation) นายตี๋จึงหันหลังให้กับงานค้ากาม พลิกชีวิตมาเป็นรองผู้อำนวยการมูลนิธิ คอยช่วยบริหารองค์กรและดูแลด้านสิทธิ ปัญหาสุขภาพ ส่งเสริมการศึกษา เพื่อนๆ น้องๆ พนักงานขายบริการชายและสาวประเภทสอง ปัจจุบันดูแลทุกเพศที่ทำอาชีพขายบริการ รวมถึงดูแลคนขายบริการชาวอาเซียนด้วย 

“บางคนทำอาชีพนี้แล้วได้สามีฝรั่ง ได้ไปอยู่ต่างประเทศ มีชีวิตที่ดีขึ้น จริงๆ มีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่ประสบความสำเร็จ แต่อีก 90 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องหาเช้ากินค่ำเหมือนเดิม บางคนก็กลายเป็นคนวิกลจริตเพราะโดนทิ้ง สถานการณ์ค้ากามทุกวันนี้แย่กว่าสมัยที่พี่เป็น Sex worker เพราะลูกค้าน้อยลง เรื่องมากขึ้น คนขายตัวผ่านโลกออนไลน์กันส่วนใหญ่ ออนไลน์คุยกันแป๊บเดียวซื้อขายกามกันได้แล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อนต้องไปบาร์”

...

มุมมืด “คนขายกาม” ทำหน้าที่มากกว่ามี Sex ครึ่งชั่วโมง

สำหรับความคิดเห็นต่อความรู้สึกที่คนมองว่า “อาชีพค้าบริการ” หาเงินง่าย นายตี๋กล่าวว่า นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้จักอาชีพนี้จริงและมองมุมเดียว จากประสบการณ์ของเขาเกือบ 10 ปีนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มีหลายมุมที่ยังไม่รู้ คนทำอาชีพนี้ไม่ใช่เป็นแค่ “คนขายกาม” เท่านั้น ยังเป็น “นักจิตวิทยา” เพราะทุกคืนต้องรับฟังปัญหาร้อยแปดพันเก้าของลูกค้า

อาชีพนี้มีสิ่งท้าทายตลอดเวลา เพราะเจอคนแปลกหน้าทุกวัน ต้องเรียนรู้คนมากหน้าหลายตา ต้องมีชั้นเชิงไหวพริบในการดีลลูกค้าเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต หากใครคิดจะทำอาชีพขายบริการ ควรถามใจตัวเองว่าจะทำได้จริงๆ ไหม อย่ามองอาชีพนี้เพียงด้านเดียวในมุมสวยหรู วันหนึ่งอาจโชคร้ายอาจกลายเป็นดาราหนังโป๊ อาจโดนข่มขืนโดยไม่ได้ตั้งใจ บางครั้งการดีลกับลูกค้าก็มีปัญหาเยอะแยะมากมายที่มองไม่เห็น

“อาชีพนี้ไม่ใช่แค่มีเพศสัมพันธ์กันครึ่งชั่วโมงแล้วจบ แต่เวลา 7-8 ชั่วโมงที่อยู่กับลูกค้าเพื่อดีลกัน ในสภาวะของลูกค้าแต่ละคนที่คิดว่ามีเงิน เป็นเจ้านาย เรามีหน้าที่ทำตามสั่งที่เขาอยากได้ เสิร์ฟเขา คุยกับเขา ตรงนี้ต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญมากๆ ในการทำงานที่จะดีลอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยในขณะที่เรากำลังจะออกไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า คนที่มองว่าง่าย ลองมาทำดูจะรู้ เอาง่ายๆ คุณอยู่กับคนที่กลิ่นตัวเหม็นๆ ได้ไหม กลิ่นปากแรงๆ ได้ไหม” นายตี๋กล่าวเตือนทิ้งท้าย

อ่านเพิ่มเติม รายงานพิเศษ "ขายตัว แต่ไม่ขายใจ"

...