ตอนที่ 17
ด้วยใจที่อยากจะเคลียร์ตัวเองเพื่อซีเคผู้ชายที่ตัวเองรักหมดใจ เรยาอุ้มลูกน้อยไปเปิดตัวกับณฤดีถึงบ้าน แถมยังพูดจาเยาะหยันเหยียดหยามจนณฤดีทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายตัดบท
“ขอโทษ...ฉันมีธุระ เชิญคุณรอเขาตามสบาย”
“จะรีบไปไหน แขกมาถึงบ้านทิ้งให้อยู่คนเดียว ไม่เสียมารยาทลูกสาวท่านทูตไปหน่อยหรือ”
“คุณต้องการอะไรบอกมา ไม่ต้องอารัมภบท”
“ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณเลย สามีคุณให้ฉันมากจนเกินพอ ที่มานี่ก็เพื่อมาคืนสามีคุณให้คุณเพราะฉันไม่ต้องการเขาแล้ว เอาคืนไป ถึงจะแก่และไม่เอาไหนแต่คงพอแก้ขัดให้คุณได้ ส่วนเรื่องลูก คุณก็รู้ว่าลูกชายน่ะเป็นที่ต้องการของคนจีนแค่ไหน แต่คุณไม่มีปัญญามีลูกให้เขา ฉันเห็นแก่คุณว่าไม่มีลูกชายไว้ค้ำจุนสถานะของแม่ เลยยอมเสียสละเอาลูกมาให้คุณเลี้ยง”
“เอาลูกของคุณคืนไป” ณฤดีเสียงแข็งแต่สีหน้ายังเรียบเฉย
“คุณไม่มีสิทธิ์คืน ถ้าคุณไม่เอา พ่อเขาต้องเอา หวังว่าคุณคงไม่ทำอะไรโง่ๆให้ผัวทิ้งเพราะรังแกลูกเขา ถือเป็นลาภลอยสิคุณ สองเด้ง ได้ผัวคืนแถมลูกอีกคน”
“คุณเอาเด็กคนนี้คืนไป ส่วนคุณก้องเกียรติ...อย่าพูดว่าคุณคืนให้ฉัน เพราะฉันไม่ได้จะเอาคืน ฉันยกเขาให้คุณ... ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อถึงขนาดรีบเอามาให้ แต่เอากลับไปเถอะ ฉันรับรองว่าพ่อเขาจะตามไปหาคุณ...ไม่ช้าหรอก คุณก็จะมีชีวิตครอบครัวสมบูรณ์สามคนพ่อแม่ลูก”
“ไม่ต้อง...ฉันไม่ได้ต้องการครอบครัวสมบูรณ์”
“คุณบอกเองเมื่อกี้ว่าฉันเป็นส่วนเกินเข้าไปสอดแทรกในชีวิตคุณ ต่อไปคุณสามคนก็ไปอยู่ให้ห่างฉัน ฉันจะได้ไม่เข้าไปสอดแทรกในชีวิตของคุณ...กลับไปเสียเรยา ต่อไปอย่ามาเหยียบบ้านนี้อีก เอาเด็กคนนี้กลับไป แล้วคุณก้องเกียรติ จะตามไปในไม่ช้า” ณฤดีเน้นย้ำแล้วผละไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่เอาไป แล้วบอกคุณก้องเกียรติว่าฉันกำลังจะแต่งงานใหม่ บอกเขาว่าฉันเบื่อเขาที่สุด ฉันเจอคนที่ฉันรักแล้ว ไม่ต้องกลับไปหาฉันอีก คุณเลี้ยงลูกฉันให้ดี ฉันยกให้ แล้วคุณจะสบาย ไม่ต้องกลัวจะถูกไล่ออกจากบ้านเพราะไม่มีลูก”
ณฤดีได้ยินทุกคำของเรยา แต่เธอไม่หันกลับมา ทำให้เรยาคิดหนัก หันมองลูกน้อยด้วยสีหน้ากดดันลังเล ผิดและถูกต่อสู้กัน จนกระทั่งสมปองเข้ามาอุ้มเด็กยื่นให้ บอกว่าคุณผู้หญิงให้พากลับไป เรยาก็ตัดสินใจในวินาทีนั้นเดินตัวปลิวออกไปทันที
ooooooo
ณฤดีมองภาพนั้นครู่หนึ่งแล้วจะออกเดินไปทางหน้าบ้าน แต่ต้องชะงักงัน มองก้องเกียรติที่เดินหน้าหมองเข้ามา เขาวิงวอนขอร้องไม่ให้เธอไป แต่ถ้ามีใครต้องไป คนคนนั้นควรจะเป็นเขาเอง
“แล้วลูกชายคุณใหญ่ล่ะคะ” เขานิ่งไปอย่างอึดอัด
คับข้องใจ เธอจึงตัดบททันที “ดี๋ให้สมปองอยู่ดูแลเด็ก ลาค่ะ”
“ผมก็ไม่อยู่ ผมจะกลับไปบ้านฝั่งธน...ผมไปส่งนะครับ”
“ไม่ต้องค่ะ สมปอง เดี๋ยวจะให้เพิ่มเอานมกับอาหารของเด็กมาให้ ฉันฝากสมปองด้วยนะ คุณผู้ชายจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ค่ะ คุณผู้หญิง”
ณฤดีขับรถออกไปแล้ว ก้องเกียรติมองตามน้ำตาซึม บอกสมปองช่วยจัดกระเป๋าให้ตนด้วย
“คุณผู้ชายไม่ต้องไปก็ได้นะคะ”
“คุณผู้หญิงไม่อยู่ ฉันก็ไม่อยากอยู่”
สมปองหน้าเศร้าด้วยความเห็นใจ ผละขึ้นข้างบนไป แต่เดี๋ยวเดียวก็ต้องกลับลงมาเพราะได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อย...
ooooooo
เมื่อข่าวฉาวแพร่กระจายไปทั้งบ้านเจ้าสัว จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาคนรับใช้ ทำให้เม่งฮวยยิ่งทุกข์ใจ รวมทั้งกรองกาญจน์ก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ เธอต่อว่าต่อขานพี่ชายเป็นการใหญ่ก่อนจะถามถึงหลานชายว่าอยู่ไหน
“ให้สมปองเลี้ยงอยู่ที่บ้านพี่”
“หลานชายอยู่กับคุณดี๋หรือคะเนี่ย”
“คุณดี๋ไปแล้ว...ไม่อยู่”
“ไม่อยู่ หมายความว่ายังไงคะ”
“คุณดี๋กลับไปอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่...”
“ตายจริง ทำไมพี่ชายใหญ่ปล่อยคุณดี๋ไปล่ะคะ โธ่”
ก้องเกียรติสีหน้าเครียดจัด กรองกาญจน์เหลือบมองเกียรติกรที่นิ่งฟังมาตลอด ถามความเห็นน้องชายว่าทำยังไงดี ฟังแล้วช่วยอะไรได้บ้าง
“หมวยใหญ่ ตี๋เล็กเพิ่งมา อย่าเพิ่งไปรบกวนน้องเลย”
“อ้าว ก็เห็นว่าอยู่โอ๊กแลนด์ด้วยกัน ไม่รู้จักเหรอเมียน้อยตัวแสบของพี่ชายใหญ่”
“รู้เรื่องแต่ไม่เคยรู้จักครับพี่หมวยใหญ่...ผมขอตัว” เกียรติกรเลี่ยงไปทันทีเพราะไม่อยากโกหกพี่ๆมากไปกว่านี้
“ดูมัน...มันไม่สนใจเลยพี่ชายใหญ่ เหตุเพราะเรียนหนังสืออยู่เมืองนอก รับวัฒนธรรมฝรั่งเต็มที่ ตัวใครตัวมัน ไม่มีพี่ไม่มีน้อง ให้ตายสิพี่ชายใหญ่ หนูไม่ชอบเลยวัฒนธรรมเหล่านี้ แห้งแล้งสิ้นดี”
เกียรติกรกลับเข้ามาหยิบหนังสือที่ลืมไว้ ได้ยินคำพูดพี่สาวพอดี “พี่หมวยใหญ่ว่าใครแห้งแล้ง”
“จะว่าใคร ว่าเธอนั่นแหละตี๋เล็ก เธอสมควรจะอยู่ตัวคนเดียวไม่ต้องมีพี่มีน้องหรือญาติโกโหติกาคนอื่นๆ ระวังเถอะ ตายก็จะตายคนเดียว” พูดจบกรองกาญจน์เดินลิ่วไปทางหน้าบ้านทันที ก้องเกียรติลุกขึ้นมาตบไหล่ปลอบน้องชาย
“ตี๋เล็ก อย่าโกรธเขา เขาเป็นห่วง”
“ไม่โกรธหรอกครับ เพราะผมเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ว่าแต่เรื่องของพี่ พี่จะทำยังไงกับคุณดี๋ครับ”
“ไม่มีทางทำอะไรเลย พี่ต้องสูญเสียคุณดี๋อย่างแน่นอน”
“เรยาล่ะครับ”
“เรยาไม่เป็นปัญหาแล้ว เขาประกาศว่าจะแต่งงานใหม่”
“กับใครครับ เขาจะแต่งกับใคร” ถามพรวดออกไปเพราะความตกใจ ทั้งๆที่ตนเองก็รู้อยู่แก่ใจ...
แต่พี่ชายยังไม่ระแคะระคายสักนิดเลยว่าเรยารักและมุ่งมั่นมากที่จะใช้ชีวิตคู่กับน้องชายของตน ครั้นอีกวันหนึ่งไปพบเห็นนัทอยู่กับเรยาในห้องพักก็ยังเข้าใจว่าเป็นชายคนนี้ แต่นัทบอกว่าไม่ใช่ และเรยาก็ยืนยันว่านัทคือเพื่อนเรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต่มัธยม เธอให้เขามาช่วยดูแลบ้านในระหว่างที่เธอไปอยู่โอ๊กแลนด์ แล้วตอนนี้เขาก็กำลังจะกลับแล้วด้วย
หลังจากนัทกลับออกไปแล้ว เรยาแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างมากเมื่อทราบว่าก้องเกียรติทิ้งลูกไว้ที่บ้านแล้วตัวเองกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ที่ฝั่งธน
“พ่อไม่อยู่กับลูก แล้วทิ้งให้ลูกอยู่กับเมียพ่อเหรอคะ ป่านนี้มันไม่ฆ่าลูกฟ้าแล้วเหรอ”
“คุณเป็นบ้ารึเปล่าเรยา ใช้ความคิดมั่งเวลาจะพูดอะไร”
“พ่อล่ะ ใช้ความคิดมั่งเวลาจะทำอะไร”
“เพราะผมไม่ใช้ความคิดไงถึงได้เป็นอย่างนี้”
ถูกเขาสวนเข้าแบบนี้ เรยาชะงักกึก นัยน์ตาวาบขึ้นมาด้วยความโกรธ
“พูดให้จบสิ พูดให้จบว่าเป็นอย่างนี้น่ะ มันเป็นยังไง”
“ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”
“พูด...พูดเลย ทำไมไม่พูดล่ะ เอาเลย...อยากว่าอยากด่าฟ้ามานานแล้วใช่มั้ย เอาเล้ย”
เรยาน้ำเสียงฉุนเฉียวขึ้นทุกทีจนอีกฝ่ายชักจะหมดความอดทน เดินไปรินน้ำเย็นมาสองแก้วเพื่อสยบอารมณ์ร้อนแรงทั้งของตัวเองและของเรยา แต่พอเอามาส่งให้ เรยา กลับคว้าแก้วน้ำนั้นสาดใส่เขาจนเปียกทั้งตัว
“ไม่ต้องทำอย่างนี้กับฟ้า ฟ้ามันไม่ใช่ผู้ดีเหมือนเมียพ่อ ต้องการอะไรบอกมาเลย พูดมาตรงๆ ไม่ต้องลีลามาก ถ้าจะอ้อมค้อม โน่น...เมียผู้ดีของพ่อ คนเขาด่ายังไม่รู้สึก โธ่เอ๊ย อีนังผู้ดีตีนแดง ไม่ได้กินข้าวเหมือนชาวบ้านรึไง”
ก้องเกียรติพยายามข่มอารมณ์อย่างหนัก แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ยังกระด้างอยู่ดี
“ฟ้า...ทำไมถึงพาลูกไปให้ไว้กับคุณดี๋”
“ทำไม...ทำไมพ่อถึงไม่รู้ว่าทำไม เมียพ่อเขาไม่รายงานพ่อเหรอ”
“ผมอยากฟังจากฟ้าโดยตรง”
“พ่อไม่อยากได้ลูกเหรอ ลูกชายนะ”
“ลูกผม...อยู่ที่ไหนก็เป็นลูกผม”
“พ่อหมายความว่ายังไง”
“ลูกควรอยู่กับแม่ ทำไมฟ้าไม่ให้ลูกอยู่กับฟ้า”
“พ่อรู้อยู่แล้ว” วางหน้าไม่แคร์ แล้วก็พร้อมที่จะพูดให้ชัดอีกทีด้วยว่า ตนจะแต่งงานใหม่ แต่ไม่ใช่กับนัท เพราะนัทเป็นเพื่อนจริงๆ เราไม่มีอะไรกัน
“แล้วคนใหม่ เขารังเกียจตาหนูหรือ”
“ไม่...เขาไม่รังเกียจ ท่าทางเขารักตาหนูด้วยซ้ำ”
“เขาพบตาหนูแล้วหรือ พบที่ไหน”
เรยาอึ้งไปนิดก่อนตอบว่าที่บ้านโอ๊กแลนด์ ก้องเกียรติสีหน้าข้องใจ ถามว่าเขามาที่บ้านเลยหรือ?
“ทำไมล่ะพ่อ ก็เขาเป็นเพื่อน เขามาเยี่ยมธรรมดา พ่อคิดว่าฟ้ามีอะไรกับเขาแล้วหรือ ขอบอกเลยนะว่าไม่มี ฟ้าไม่ทำผิดศีลธรรมอย่างเด็ดขาด ไม่ต้องสงสัยเลย”
เขามองเธอด้วยแววตาล้ำลึกมาก เหมือนจะถามว่าแล้วที่ทำอยู่นี่ไม่ผิดศีลธรรมหรือไง?
“มองอย่างนั้นทำไม” เรยาเสียงเขียวร้อนตัว
“ผมอยากให้ลูกอยู่กับแม่ ฟ้าอย่าทิ้งเขาเลย”
“ใครบอกว่าฟ้าทิ้ง ฟ้าแค่ให้ลูกได้รับสิทธิ์ของเขา”
“เรื่องนั้นฟ้าไม่ต้องห่วง ผมบอกฟ้าหลายครั้งแล้วว่าตาหนูจะได้รับสิทธิ์ของเขาครบถ้วน ผมขอให้ฟ้าพาลูกกลับไปโอ๊กแลนด์ แล้วผมจะจัดการเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อยและส่งไปให้ สามีใหม่ของฟ้าอยู่โอ๊กแลนด์ไม่ใช่หรือ ผมจะพูดกับแอนนาให้มาเลี้ยงตาหนูต่อไป ฟ้าจะเป็นสุขกับครอบครัวใหม่ ผมจะสั่งแอนนาให้ดูแลตาหนูให้ดี ไม่ให้วุ่นวายกับครอบครัวใหม่ของฟ้า ถ้าฟ้าจะมีลูกใหม่ ตาหนูจะเป็นพี่
ชาย คอยดูแลปกป้องน้อง สามีใหม่ของฟ้าไม่น่าขัดข้อง”
เรยาไม่ต้องการอย่างนี้ เธอต้องการเป็นอิสระ ไม่มีพันธะใดๆ แต่ก็ดึงดันต่อไปไม่ออก ได้แต่นิ่งเงียบไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ ส่วนก้องเกียรตินั้นก็ใช่ว่าจะปลอดโปร่งหมดปัญหา หลังจากคุยกับเรยาผ่านไปสามสี่วันเขาไปบอกเล่าให้เกียรติกรฟังว่า
“พี่ไม่สบายใจมากๆ พี่เสือกไสไล่ส่งลูกชายของพี่ให้กับแม่ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่อยากได้ลูก พี่เป็นพ่อควรจะรู้ว่าเรยาเป็นแม่ไม่ได้ พี่เห็นแก่ตัวกลัวว่าคุณดี๋จะไม่กลับมา แต่เท่ากับว่าพี่ไม่คิดถึงอนาคตของลูก พี่ทำอะไรไม่ถูกเลยตี๋เล็ก”
“เขาตกลงจะเอาตาหนูกลับไปแล้วใช่ไหมครับ”
“เรยายังไม่พูดอะไร อาจต้องไปถามผู้ชายคนใหม่ของเขาก่อน”
“ถ้าเขาเอาลูกไป คุณดี๋จะกลับมามั้ยครับ” เกียรติกรสีหน้าครุ่นคิด ไล่เลียงเหตุการณ์ตลอดเวลา
“พี่ไม่รู้ เดาใจไม่ถูก”
“พี่ชายใหญ่อยากได้ลูกไว้รึเปล่าครับ”
พี่ชายพยักหน้าแล้วบอกว่า “อาม้าจะได้สมใจมีหลานชาย อาม้าแก่แล้วอยากให้ชีวิตบั้นปลายสดชื่นบ้าง”
“เอาอย่างนี้ดีมั้ยครับ เอาหลานมาให้อาม้าใหญ่ก่อน ผมคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะไปจากชีวิตพี่ชายใหญ่แบบไม่ให้เหลืออะไรเลย เอาตาหนูไว้ ให้เงินเขาไปก้อนหนึ่งเขียนสัญญากันไว้ว่าจะไม่กลับมาเรียกร้องอะไร”
“คุณดี๋ไม่กลับมาเด็ดขาดถ้าพี่เอาลูกไว้”
“ผู้หญิงอย่างคุณดี๋ เธอมีความรักมั่นคง ถ้าพี่ชายใหญ่เคลียร์ทุกอย่าง วันหนึ่งเธอต้องกลับมา”
“ปัญหาคือเรยายังไม่ให้คำตอบ เงียบไปสามสี่วันแล้ว”
“คงอีกไม่นานหรอกครับ ผมว่าเขาเองก็ต้องรีบเหมือนกัน เพราะเขาจะรีบไปแต่งงานไม่ใช่หรือครับ” คำพูดนั้นมีแววหยามหยันอยู่ในที...
แล้วอีกวันต่อมา เกียรติกรก็ปฏิเสธพี่ชายที่ชวนไปบริษัทเพื่อเข้าประชุมเปิดตลาดใหม่ เพราะเขาตั้งใจไปที่บ้านเพื่อดูแลหลานชายนั่นเอง ขณะอาอุ้มหลานเดินเล่นในบ้าน ไม่คาดคิดว่าเรยาจะมาปรากฏตัวหน้าบ้าน สมปองออกไปรับหน้ารายงานว่าข้างในมีคุณชายเล็กอยู่คนเดียว ได้ยินชื่อนี้เรยารู้ทันทีว่าเป็นน้องชายก้องเกียรติที่เขาเคยพูดถึงหลายครั้งแต่ตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจ แต่วันนี้เธอต้องทำความ
รู้จักและอยากคุยกับเขาว่าเมื่อไหร่จะพาลูกชายของเธอไปหาปู่ย่าเสียที
“แต่คุณชายเล็กไม่เกี่ยวนี่คะ” สมปองท้วงขึ้นมา
“เกี่ยวสิ ทุกคนช่วยกันกีดกันฉันรู้”
เกียรติกรยืนอุ้มหลานแอบดูอยู่ พอเห็นเรยาขยับเขาก็รีบเดินหนีออกประตูด้านข้างหลบไปทางสระน้ำ เรยาเดินมองหาทางโน้นทางนี้จนเห็นด้านหลังเขาไวๆ แต่พอจะตามไปก็ถูกสมปองเข้าขัดขวาง เรยาไม่พอใจตำหนิคนใช้ว่าทำไมถึงยุ่งเรื่องเจ้านาย สมปองนึกเคืองแต่ไม่พูดอะไรมากนอกจากย้ำให้เรยารู้ว่าคุณชายเล็กไม่อยากพูดกับคุณ
“ทำไม” เรยาขึ้นเสียง
“ถ้าคุณถามว่าทำไม คุณชายเล็กให้บอกคุณว่า...ให้คุณคิดเอาเอง”
เรยาชะงัก สีหน้าข้องใจสุดๆ แล้วอีกครู่ต่อมาคุณชายเล็กของสมปองก็หนีหายไปทางไหนไม่รู้ เรยาพบเพียงตาหนูนั่งเล่นอยู่คนเดียว เธออุ้มลูกมาแนบอก สีหน้าบ่งบอกว่าเศร้าและอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย หากต้องจากกันจริงๆ
พลันเสียงมือถือที่วางใกล้ตัวก็ทำให้เรยาสะดุ้งเฮือก โดยไม่รู้ว่าคนที่โทร.เข้ากำลังยืนมองมาจากหน้าต่างห้องชั้นบน
“ซีเค...” น้ำเสียงเรยาตื่นเต้นดีใจเหลือเกิน “คุณอยู่ที่ไหน อยู่เมืองไทยใช่มั้ย ซีเค...ฉันคิดถึงคุณแทบขาดใจแล้ว”
“เรยา อิสรภาพของคุณล่ะ”
“ซีเค คุณอยู่ไหน อยู่โรงพยาบาลไหน ฉันจะไปหาคุณ”
“อิสรภาพของคุณ ต้องไม่มีทั้งสามีและลูกคุณ”
“ได้...ฉันทำได้ซีเค ฉันเป็นอิสระแล้ว ไม่มีแล้วทั้งสองคน”
สัญญาณถูกตัดฉับเงียบหายไป เรยาส่งเสียงฮัลโหลหลายครั้งก่อนจะกดวาง แล้วอุ้มลูกไปส่งให้สมปอง พร้อมกระซิบบอกลูกว่า “อยู่กับพ่อนะลูก” เสร็จแล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างตัดสินใจแน่วแน่ โดยไม่รู้ว่าเกียรติกรหรือซีเคยืนมองตามไปด้วยสายตาสมหวังดังใจ
ooooooo
วันนี้เป็นวันเปิดพินัยกรรมของท่านเจ้าสัว ในครัวจึงมีการพูดคุยกันต่างๆนานาจากหลายคนหลายปาก แต่สุดท้ายอาจิวก็เข้ามาทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงได้ โดยอาจิวบอกว่าคุณชายใหญ่ฐานะประมุขของบ้านให้เงินพวกเราตามความเหมาะสม ลดหลั่นกันไปตามหน้าที่การงาน ซึ่งยุติธรรมที่สุดแล้ว
ขณะทุกคนกำลังส่งเสียงแสดงความดีใจ เยนหลิงเดินหน้าตึงเข้ามากวาดตามองแล้วขึ้นเสียงใส่อย่างหมั่นไส้
“จะดีใจอะไรกันนักหนากะอีแค่เงินแสนสองแสน อาจิว...คาบข่าวลงมาบอกเร็วจริงนะ”
“กำเสี่ยครับที่ชม”
“อั้วไม่ได้ชม อั้วว่าลื่อรีบเอาข่าวมาเสนอไอ้อีพวกนี้ได้หน้าไปเท่าไหร่ล่ะ”
อาจิวไม่ทันจะยอกย้อน เยนหลิงก็กระชากเสียงเรียกเง็กให้ไปกับตน พอเง็กถามว่าไปไหน เยนหลิงเลยตวาดแว้ด
“ไม่ต้องถาม บอกให้ไปก็ไป...อาฮุ้ง อั้วมีเรื่องสำคัญจะพูดกับลื่อ จะไปรอที่โต๊ะสนามหน้าตึก” ว่าแล้วก็เดินนำลิ่วไป แต่เง็กยังรีรอจึงโดนเข้าอีกดอก คราวนี้เลยเดินเร็วจี๋แทบวิ่งตาม อาจิวหน้าเคร่งมองดูอย่างสมเพช พอหันมามองคนอื่นๆ ต่างก็มองเยนหลิงด้วยสายตาเดียวกัน
สาเหตุที่เยนหลิงไม่สบอารมณ์ก็เพราะไม่ค่อยพอใจพินัยกรรมที่เจ้าสัวทำไว้ แต่สำหรับลูกเมียคนอื่นไม่เห็นมีใครแสดงออกว่ามีปัญหา แม้แต่ซิลเวียที่ไม่ได้เงินทองมากมาย แต่พอเธอบอกก้องเกียรติว่าเธอจะกลับอเมริกา ให้เขาโอนเงินส่วนของเธอเข้าแบงก์หลังจากที่เธอไปถึงนิวยอร์กแล้ว เม่งฮวยกลับคัดค้าน ย้ำว่าเงินของเฮียให้ไว้ใช้ที่เมืองไทย ไม่ให้ไปใช้เมืองอั้งม้อ
“แต่มันเป็นสิทธิ์ของฉันนี่คะบิ๊กมาดาม ฉันมีสิทธิ์”
“ลื่อมีสิทธิ์ ล่ือก็ใช้ที่นี่สิ ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น”
“ฉันจะไปบิ๊กมาดาม ไม่รู้เหรอคะว่าห้ามฉันไม่ได้”
“ล่าย...ทำไมจะไม่ล่าย อย่ามาเถียงอั้วนะ” เม่งฮวยเริ่มขึงขังเสียงดังจนกรองกาญจน์ต้องไกล่เกลี่ย โดยที่ก้องเกียรติก็ช่วยอีกแรง เม่งฮวยจึงอ่อนลง
“เราจะทำตามที่คุณต้องการ ซิลเวีย...ไม่ต้องห่วงนะ” ก้องเกียรติให้สัญญา ซิลเวียถึงกับยิ้มออกหันมาบอกเม่งฮวยว่า
“บิ๊กมาดาม ฉันอยู่เมืองไทยมารวมทั้งหมด 17 ปี 3 เดือน 4 วัน อยู่ที่นี่สบายดี แต่บิ๊กมาดามกับคุณนายสองไม่ชอบฉัน ว่าฉันเรื่อยๆ ตอนนี้ฉันจะไปไม่กลับมา บิ๊กมาดามกับคุณนายสองจะได้แฮปปี้ไงคะ ฉันลานะ”
เม่งฮวยรับไหว้ซิลเวียด้วยอาการงงๆ เพราะหล่อนไม่เคยมารยาทดีอย่างนี้มาก่อน...จากนั้นซิลเวียถามก้องเกียรติเรื่องตั๋วเครื่องบินว่าจะใช้เวลาสักเท่าไหร่ คำตอบก็คือไม่นาน ถ้ามีที่นั่ง ซิลเวียจึงขอบคุณลูกเลี้ยงคนโต ตามด้วยลูกเลี้ยงคนเล็กซึ่งก็คือเกียรติกร และสุดท้ายลูกสาวคนกลางคือกรองกาญจน์ นับเป็นการลาจากกันด้วยมิตรไมตรีของคนในครอบครัวจริงๆ
แต่พอซิลเวียผละไปแล้ว เม่งฮวยก็เปรยขึ้นมาจนสามพี่น้องมองหน้ากันอึ้งๆ
“อาคุงนายที่ห้าจะไปเลี้ยว เหลืออาคุงนายที่สอง อีน่าจะไปเหมือนกันน่อ ถ้าอีไป อั้วจะม่ายเก๊กซิมเลย”
เวลาเดียวกันนั้นเอง เยนหลิงหรือคุณนายที่สองกำลังคาดคั้นฮุ้งเรื่องข่าวลือที่ก้องเกียรติมีลูกกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ณฤดี แต่ฮุ้งปฏิเสธลูกเดียวว่าไม่รู้เพราะเห็นว่าไม่สมควรที่บ่าวจะพูดเรื่องนาย เลยทำให้เยนหลิงหงุดหงิดงุ่นง่านใหญ่
“ไม่จริง อย่าโกหกอั้วนะ พูดกันให้แซ่ดไปหมดทั้งบ้าน ลื่อจะบอกว่าไม่รู้ได้ยังไงฮะ ยังจะมาปากแข็งอีก หรือว่าคุณนายใหญ่สั่งไว้ให้ปิด อายใช่มั้ย อายที่อยู่ๆคุณชายใหญ่คนดีวิเศษก็มีลูกชายตาดำๆออกมาคนหนึ่ง ลูกกับผู้หญิงหยำฉ่าที่ไหนก็ไม่รู้ บ้านนี้มีแต่เรื่องซวย มีทั้งคนตาย คนเป็นบ้า ผิดลูกผิดเมีย มันผิดตั้งแต่หัวขบวนลงมา มักมากเรื่องผู้หญิง บ้านใหญ่โตแต่หาคนมีความสุขจริงๆซักคนก็ไม่มี”
ฮุ้งเหลือบตามองเง็กที่นั่งเยื้องกัน...สองคนหน้าเสีย แล้วสะดุ้งไปด้วยกันเมื่อเยนหลิงยังแว้ดๆจะเอาความจริงจากฮุ้งให้ได้ แถมยังอยากรู้ด้วยว่าณฤดีรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง?
ooooooo
ณฤดีซึ่งทราบเรื่องแล้ว และได้ยื่นคำขาดกับก้องเกียรติไปแล้วด้วยว่าให้เขาเลือกลูกเมียใหม่ โดยเธอขอเป็นฝ่ายเดินออกไปจากชีวิตของเขาเอง
แล้วในคืนนี้โจกับเต้เพื่อนสนิทของก้องเกียรติยังอุตส่าห์ตามมาช่วยเจรจากับเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล แถมยังถูกเธอตำหนิจนทั้งสองคนหน้าเจื่อนจะถอดใจ เด่นจันทร์อยู่ในเหตุการณ์จึงแอบพูดกับพวกเขาลับหลังณฤดีว่า อย่าเพิ่งสิ้นหวัง เธอมั่นใจว่าเรายังมีหวัง แต่จะบอกรายละเอียดก็ต่อเมื่อพวกเขาดื่มเป็นเพื่อนเธอก่อน เพราะเธออยากเมา...
ด้านเยนหลิงที่วันก่อนคาดคั้นเค้นความจริงจากฮุ้งมาได้ เช้าวันนี้เธอเลยกระเหี้ยนกระหือรือมาหาณฤดีถึงร้านอาหารของเพื่อนที่ร่วมหุ้นกับเด่นจันทร์ ณฤดีอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง แทบไม่เชื่อหูและไม่เชื่อสายตาว่าเยนหลิงจะจุ้นจ้านวุ่นวายเรื่องคนอื่นได้ถึงขนาดนี้ อุตส่าห์สืบเสาะแหล่งที่อยู่ของเธอเจอจนได้
เยนหลิงเปิดฉากซักไซ้ณฤดีว่ารู้เรื่องนี้นานหรือยัง รู้ก่อนหน้านั้น หรือว่าเพิ่งรู้...ณฤดีสุดจะทนสวนกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง แต่สีหน้ายังคงเรียบเฉย
“คุณนายคะ กรุณาอย่าสนใจว่าฉันรู้เมื่อไหร่ เวลานี้สมใจคุณนายแล้ว อยากให้ฉันเสียใจใช่มั้ยคะ ฉันเสียใจค่ะ เสียใจมาก พอใจมั้ยคะ”
“คุณจะแก้แค้นยังไง”
“แก้แค้น...แก้แค้นใครคะ”
“คุณณฤดี ถามอะไรอย่างนั้น ใครทำให้คุณเสียใจ คุณไม่แค้นเหรอ คุณไม่อยากให้เขาเป็นเหมือนที่คุณเป็นรึ”
“ถ้าทุกคนอยากให้คนที่ทำให้เสียใจเป็นเหมือนตัวเอง ฉันสงสัยว่า...คุณนายจะเสียใจแล้วเสียใจอีกกี่ครั้งกี่หนแล้วคะ”
เยนหลิงโกรธเลือดขึ้นหน้า เง็กที่ถูกลากมาด้วยได้ยินเต็มๆ ลอบทำหน้าสะใจ
“นี่ด่าฉันรึ” เยนหลิงกรีดเสียง ณฤดีจ้องหน้าพร้อมกับตอบรับคำเดียวสั้นๆ แต่นั่นก็ทำให้เยนหลิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูกอยู่อึดใจหนึ่ง “อวดดียังไงถึงมาด่าฉันอย่างนี้” ว่าแล้วก็กระชากแขนณฤดีที่ทำท่าจะผละไป
“ไม่ใช่เรื่องอวดดีค่ะ” ณฤดีตอบโต้ แกะมือเยนหลิงออกอย่างแรง “เป็นเรื่องความสงสัย ฉันรับรู้เรื่องที่คุณนายทำหลายเรื่อง ล้วนแต่เป็นเรื่องทำร้ายคน ตั้งแต่ใช้คำพูดให้คนเจ็บใจเสียใจ ใช้กำลังให้เจ็บตัวโดยเฉพาะกับคนใช้ โดยไม่คิดว่าเขารับใช้รองมือรองเท้าคุณนาย ทำให้คุณนายสบายเพราะไม่ต้องทำเอง และสุดท้าย...คุณนายเป็นฆาตกรฆ่าคน ถึงไม่ลงมือเอง แต่คุณนายเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้นถ้าคนเหล่านั้นแก้แค้น คุณนายจะต้องเจ็บใจและเจ็บตัว และสุดท้ายคุณนายจะตายมั้ยคะ”
เยนหลิงตกใจจนเถียงไม่ออก เปลี่ยนเป็นใช้กำลังห้ำหั่น เงื้อมือสุดแขนจะตบณฤดี แต่ก้องเกียรติเข้ามาสกัดทันท่วงที พร้อมๆกับเต้และโจก็ช่วยกันณฤดีออกมา
“คุณนายที่สอง คุณดี๋พูดถูกทุกอย่าง เพราะทั้งหมดนั้นผมเป็นคนเล่าให้เธอฟังเอง”
“แล้วแกดีนักเหรอฮะ ก้องเกียรติ แกมันก็ไม่ผิดพ่อแก มักมาก มีเมียเล็กเมียน้อยจนเบ่งลูกมากี่คนแล้วล่ะ เชอะ อีนังลูกสาวทูต ทำเป็นหยิ่งยโสเดินคอตั้ง ที่แท้มันก็ถูกผัวทิ้งไปมีเมียใหม่เหมือนแม่ผัวของแกนั่นแหละ”
“ใหญ่ แกพาคุณดี๋ไปก่อน ฉันจัดการทางนี้เอง”
ก้องเกียรติทำตามที่เต้แนะนำ จะพาณฤดีเข้าไปด้านใน เป็นจังหวะที่เด่นจันทร์เดินออกมาพอดี ทั้งสามคนจึงพากันหายเข้าไป เยนหลิงยังแค้นสองสามีภรรยาไม่หายทำท่าจะตามไปเอาเรื่องแต่ถูกเต้กับโจกางกั้น แถมช่วยกันขุดคุ้ยกำพืดเยนหลิงที่ไปรู้มาจากอาอึ้มซึ่งญาติพี่น้องของเยนหลิงเองเป็นคนเอาหลักฐานมายืนยันต่อหน้าแก
เยนหลิงช็อกกับความจริงที่สองคนนี้พูดราวกับตาเห็น ที่สุดก็อับอายขายหน้าจนต้องเป็นฝ่ายล่าถอยกลับไปด้วยความเจ็บแค้นใจ ซึ่งโจกับเต้ก็เชื่อมั่นว่าเยนหลิงคงจะไม่กล้ามาตอแยอะไรณฤดีอีก...
นอกจากอาอึ้มแล้ว เม่งฮวยและกรองกาญจน์ก็รู้กำพืดของเยนหลิงที่เจ้าตัวพยายามปิดบังซ่อนเร้นมาตลอดตั้งแต่เข้ามาเป็นเมียคนที่สองของเจ้าสัว รวมทั้งเม่งฮวยยังรู้เรื่องที่เยนหลิงร้ายกาจกับคำแก้วสารพัดนี่เองทำให้เม่งฮวยในวันนี้รู้สึกสงสารคำแก้ว และรู้สึกผิดที่ตัวเองเคยเกลียดคำแก้ว จึงอยากให้ตี๋เล็กรักษาเธอให้หายเป็นปกติโดยเร็ว
ฝ่ายเง็กที่ติดตามเยนหลิงไปพบณฤดี พอกลับมาถึงบ้านเง็กก็เล่าสู่ให้พวกพ้องน้องพี่ในครัวฟังอย่างเมามันสะใจ โดยไม่ทันระวังหลังว่าเยนหลิงจะโผล่มาเอาเรื่อง จนเมื่อผู้ฟังทั้งหลายทำหน้าตาแปลกๆ บางคนลุกหนีจากวงไปดื้อๆ เง็กถึงสังหรณ์ใจว่านางมารร้ายคงปรากฏตัวแล้ว
เหลียวดูจนแน่ใจแล้วว่ามาจริง เง็กรีบก้มหน้าก้มตากินข้าวทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่หารู้ไม่ว่าเยนหลิงมายืนอยู่ครู่หนึ่งแล้ว และได้ยินอะไรต่อมิอะไรที่เง็กพ่นออกมาอย่างมันปาก
“เง็ก...แกนี่มันเลวจริงๆ กลับมาถึงก็รีบมานั่งนินทาฉัน...แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง เป็นขี้ข้าฉันแต่ไม่จงรักภักดีอย่างนี้ไม่ต้องอยู่ด้วยกันแล้ว”
เยนหลิงไม่พูดเปล่า สองมือทุบตีเง็กพัลวันจนคนอื่นๆลุกฮือจะเข้ามาช่วย แต่พอโดนชี้หน้าด่าป่าวๆ ทุกคนก็ไม่กล้า ได้แต่มองเง็กตาปริบๆด้วยความสงสาร
“นังเง็กบอกมา แกเอาเรื่องฉันไปบอกไอ้สองคน เพื่อนคุณชายใหญ่ใช่มั้ย มันถึงมาพูดใส่หน้าฉันอย่างนั้น”
เง็กปฏิเสธปากคอสั่น แต่เยนหลิงไม่เชื่อ หาว่าเง็กปากแข็ง แถมยังตบหน้าไปอีกฉาดก่อนจะด่าซ้ำลำเลิกบุญคุณ
“แกมันเลว...นังทรยศ อยู่กับฉันมากี่ปีฮะ ฉันเลี้ยงแกสุขสบายมากี่ปี คนอย่างแกจะอยู่กับใครได้ ทำงานชุ่ย ขี้เกียจตัวเป็นขน แถมยังสอดรู้สอดเห็นเอาเรื่องฉันไปนินทา ทั้งๆที่ฉันดีกับแกทุกอย่าง แกจะไปหาเจ้านายที่ไหนดีอย่างฉัน คุณนายใหญ่เรอะ ด่าคนทั้งวัน อีโรสคุณนายสามก็ชั่วช้ามีชู้จนต้องตาย อีคำแก้วคุณนายสี่ก็บ้าๆบอๆ มีแต่ฉันเนี่ยแหละที่ดีทุกอย่าง แกโชคดีได้อยู่กับฉันแล้วยังทรยศฉัน คาบเรื่องของฉันไปบอกคนอื่น”
“เปล่า ก็บอกว่าเปล่า” เง็กเริ่มเสียงดังเพราะรำคาญ
“ขึ้นเสียงเรอะ แกขึ้นเสียงกับฉันเหรอนังเง็ก นังไพร่ นังขี้ข้า นังงูพิษเลี้ยงไม่เชื่อง แกจะไปอยู่กับใครก็ไป ฉันไม่เอาแกแล้ว ไสหัวออกไปเลยไป๊”
เยนหลิงจับหัวเง็กโขกโต๊ะแล้วผลักไปเต็มแรงจนหน้าเง็กกระแทกพื้นปากแตกเลือดซึม
“ไป...ไสหัวออกไป คนอย่างแกต้องไปอยู่อย่างหมากลางถนนถึงจะรู้สึก ฉันไม่เอาแก ก็ไม่มีใครเอาหรอก”
“อีแมงป่องสารพัดพิษ” เง็กตะโกนสุดเสียง เยนหลิงที่กำลังก้าวเดินฉับๆออกไปถึงกับหยุดกึก ส่วนคนอื่นๆในครัวสีหน้าตกใจก่อนจะเฮกันขึ้นพร้อมกับปรบมือสนับสนุนเง็ก แต่พอแววตาดุจเหยี่ยวของเยนหลิงหันขวับมาจ้อง ทุกคนก็เงียบกริบในบัดดล
เยนหลิงกรากเข้ามาขยุ้มคอเง็กด้วยความโกรธแค้น “แกด่าฉันเหรอ กำเริบด่าฉันเหรอ ไปเดี๋ยวนี้...ไปหาคุณนายใหญ่”
เง็กดิ้นรนขัดขืน แต่แล้วกลายเป็นต่อสู้เมื่อเยนหลิงฉุดกระชากทุบตี ต่างคนต่างแลกกันจนฟกช้ำดำเขียว แต่ดูเหมือนเง็กจะเจ็บมากกว่าเยนหลิง แถมเง็กยังถูกเยนหลิงลากตัวออกไปจนได้ อาอึ้มกับคำแก้วผ่านมาเห็นเหตุการณ์อันน่าตกใจนั้น คำแก้วหวาดกลัวอกสั่นขวัญผวาถึงกับร้องไห้กระซิกกอดอาอึ้มไว้แน่น
เยนหลิงลากเง็กมาให้เม่งฮวยลงโทษที่กำเริบเสิบสานนินทาด่าทอและทำร้ายตน แต่เม่งฮวยกลับไม่คิดจะลงโทษเง็ก ซ้ำยังหัวเราะชอบใจเมื่อรู้ว่าเง็กด่าเยนหลิงว่านังแมงป่องสารพัดพิษอย่างที่ตัวเองเคยด่า พอเยนหลิงเต้นเร่าๆจะผละไปด้วยความแค้น เม่งฮวยจึงเรียกสามคนพี่น้องของเยนหลิงที่หลบอยู่ในห้องออกมาปรากฏตัว
ก่อนหน้าที่เยนหลิงจะมาถึง เส่ง คี้ เหลี่ยน สามพี่น้องพากันมาเข้ามาในบ้านเพื่อจะขอเงินเยนหลิงแต่เจอกรองกาญจน์เสียก่อน พวกเขาจึงถูกพาตัวมาพบเม่งฮวย ความลับเรื่องกำพืดของเยนหลิงจึงแดงแจ๋ออกมาพร้อมหลักฐานสำมะโนครัวยืนยันอย่างชัดเจน
เยนหลิงเถียงไม่ออก อับอายขายหน้าจนทนยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ไหว วิ่งร้องไห้ออกไปทางหน้าตึก เง็กทำท่าจะตามนายของตนไป แต่ถูกเม่งฮวยห้ามปรามเอาไว้ เยนหลิงวิ่งน้ำตาไหลพรากมาเจออาอึ้มกับคำแก้ว อาอึ้มมองเยนหลิงอย่างประเมินสถานการณ์ แล้วยิ้มหยันก่อนจะพาคำแก้วเลี่ยงไปอีกทาง ทิ้งให้เยนหลิงยืนอึ้งเป็นก้อนหิน เจ็บปวดจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ooooooo
หลายวันแล้วที่ซีเคเงียบหายขาดการติดต่อ ส่งผลให้เรยากระวนกระวายไม่เป็นอันกินอันนอน พยายามโทร.เช็กตามโรงพยาบาลหลายแห่งก็ไม่พบว่ามีจิตแพทย์ที่ชื่อเล่นซีเค จนวันหนึ่งนัทแวะมาหาเธอที่คอนโดฯ นัทรู้สึกสงสารและเห็นใจเรยาที่ความรักทำให้ทุรนทุราย พร้อมกันนี้นัทก็สงสารตัวเองที่เรยาไม่เคยรักเขาเลยสักนิดเดียว
แต่ด้วยความรักที่นัทมีต่อเรยาตลอดมา เขาจึงช่วยเธออีกแรงเพื่อสืบหาจิตแพทย์ที่ชื่อซีเค แต่ไม่ว่าจะช่วยกันโทร.ไปกี่ที่กี่แห่งคำตอบก็เหมือนเดิมคือไม่มี ซึ่งนัทบอกเรยาว่าเรารู้แค่ชื่อย่อคงหายาก แต่มีอีกวิธีคือต้องไปหาตามโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
เรยากระตือรือร้นทำตามคำแนะนำของนัท ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มั่นใจ ก่อนออกไปเธอบอกกับนัทว่า
“นัทอยู่ก่อนนะ ฟ้ากลับมาจะได้มีคนปลอบใจ รู้สึกผิดหวังล่วงหน้ายังไงก็ไม่รู้”
“ถ้าเขาอยู่เมืองไทย ต้องเจอ ไปเถอะ...จะคอยอยู่ที่นี่” นัทส่งยิ้มบางๆให้กำลังใจ และมองตามหลังเรยาไปหน้าเศร้าๆ
แม้จะไปด้วยตัวเองแต่ผลก็ยังเหมือนเดิม เรยาคอตกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนท้อแท้ แต่ก็ยังไม่ถอดใจไปง่ายๆ
ส่วนเกียรติกรหรือซีเค เวลานี้เขาอยู่กับก้องเกียรติที่บ้านเจ้าสัว เขากำลังพยายามรักษาอาการคำแก้วตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ชาย แต่เมื่อสองพี่น้องมีเวลาอยู่กันตามลำพัง เรื่องที่พูดคุยกันก็ไม่พ้นปัญหาอันหนักอึ้งที่พี่ชายยังคิดไม่ตกสางไม่ออก
“พี่ชายใหญ่ครับ คุณดี๋เธอว่ายังไงครับ”
“อย่างเดิม เธอรับไม่ได้”
“เธอรักพี่ชายใหญ่มากมั้ยครับ”
“พี่รักเธอมาก และพี่ก็เข้าใจว่าเธอรักพี่มากเหมือนกัน”
“คนสองคนรักกันมากขนาดนี้ ไม่มีบุคคลที่สาม...ไม่มีปัญหาหรอกครับ ขอแค่เวลา”
“พี่รอได้เสมอ ตี๋เล็ก แต่คนสำคัญอีกคนนี่สิ...อาม้าของพี่” พูดไปแล้วก็ถอนใจหนักๆอย่างกลัดกลุ้ม
กระทั่งอีกวันรู้จากน้องสาวน้องชายว่าอาม้าจะมาพบ ก้องเกียรติจะเลี่ยงหลบ แต่ขยับเดินได้เพียงสองสามก้าว เสียงอาม้าก็ดังขึ้นมาจนเขาต้องหยุดชะงัก
“จะไปไหน อาตั่วตี๋”
“ไป...ไปทำงานครับ”
“อาม้ามีเรื่องจะถามลื่อ อาคุงหลีโทร.หาอาม้าให้นัดวัน....หย่า”
ก้องเกียรตินิ่งอึ้ง กรองกาญจน์กับเกียรติกรมองพี่ชายด้วยความเห็นใจยิ่ง
“ลื่อจะว่ายังไงอาตั่วตี๋” อาม้าเร่งเร้า แต่เขายังนิ่งเงียบ จนอาม้าชักฉุน “ยังไงวะ”
“อาม้าใหญ่ครับ ผมขอถามข้อหนึ่ง อาม้าใหญ่รักหลานมั้ยครับ”
คำถามของเกียรติกรเล่นเอาเม่งฮวยชะงักไปเหมือนกัน ย้อนนึกถึงวันนั้นที่ณฤดีมารับไปดูหน้าหลานชายตัวน้อยน่ารัก
“รักมั้ยครับ” เสียงเกียรติกรถามย้ำขึ้นมาอีก
“ไม่ได้อยู่ที่อั้วรักหรือไม่รัก ถึงอั้วรัก อั้วก็ไม่รับอี ถ้าอาคุงหลีไม่ยอม...ก็ต้องหย่าให้อี จะเอาลูกหรือไม่เอาลูกไว้อาตั่วตี๋” เม่งฮวยแน่วแน่ในความคิดของตนที่มีต่อณฤดีตั้ง แต่แรก เธอจ้องหน้าลูกชายหวังจะได้รับคำตอบ แต่ก้องเกียรติก็เอาแต่เงียบงัน ในใจสับสนรุ่มร้อนไปหมด
ooooooo
เพื่อความสงบสุขในครอบครัวของพี่ชายและความสบายใจของอาม้าใหญ่ วันรุ่งขึ้นเกียรติกรตัดสินใจไปเจรจากับณฤดีด้วยตัวเอง โดยมีเด่นจันทร์กับโจและเต้นั่งลุ้นอยู่ด้วย
“คุณดี๋ครับ จะกรุณาพี่ชายใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ยครับ”
“ดี๋จะยอมรับวิธีการที่น้องตี๋เล็กเสนอมา”
“เราช่วยกันคิดทุกคน ทั้งคุณเด่น คุณโจ คุณเต้”
“น้องตี๋เล็กทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นทาง ปลายทางอยู่ที่เธอนะดี๋” เด่นจันทร์เน้นหนัก
“แต่เพื่อให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างที่มันควรจะเป็นเท่านั้น ต่อจากนั้นดี๋ไม่อยากให้ทุกคนหวังว่ามันจะจบลงด้วยดี... แบบในนิยาย น้องตี๋เล็กรักพี่ชายใหญ่ของเธอ พี่รู้ แต่...”
“เราทุกคนในที่นี้รักพี่ชายใหญ่” เกียรติกรแทรกขึ้นรวดเร็ว พร้อมจ้องตาณฤดีให้รู้ว่าหมายรวมถึงเธอด้วย
“พี่ไม่ปฏิเสธ แต่พี่ไม่ตัดสินชีวิตด้วยความรักอย่างเดียว ชีวิตไม่ง่ายแค่นั้น”
“ง่าย...ง่ายแค่นั้น แค่นั้นเองครับ อย่างน้อยครอบครัวหนึ่งที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กจนถึงเดี๋ยวนี้ ทุกคนตัดสินชีวิตด้วยเหตุผลเดียวคือความรัก...ที่น่าเสียใจคือความรักที่พวกเขายึดเป็นหลักในชีวิตของเขาทำให้เกิดทุกข์มากกว่าสุข เพราะเขาตัดความรักไม่ขาด เขาจึงต้องทุกข์อยู่ตลอดเวลา มีคนเดียวที่ตัดสินใจชีวิตด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่ความรักคือพี่ชายใหญ่ แต่นั่นก็ทำให้พี่ชายใหญ่เป็นทุกข์มาตลอดชีวิตเหมือนกัน ครั้งนี้พี่ชายใหญ่ใช้ความรักที่มีต่อคุณดี๋เป็นเครื่องตัดสินชีวิตต่อไป ทุกอย่างอยู่ที่คุณดี๋ครับ”
เกียรติกรสรุปไว้อย่างชัดเจน แต่ณฤดีก็ยังไม่มีคำตอบให้ในวันนี้ เธอขอบใจเขามาก และให้ทุกคนคอยดูกันต่อไป...
แต่ในระหว่างรอคำตอบนี่เอง เกียรติกรที่เลิกใช้ซิมโทรศัพท์เบอร์เดิมไปชั่วคราวก็เลือกที่จะกลับมาใช้มันอีกครั้ง ด้วยมั่นใจว่าเรยาต้องกำลังทุรนทุรายตามหาตัวเขาอยู่แน่ๆ แล้วก็เป็นจริงในบัดดล เพียงแค่เขาเปลี่ยนซิมเสร็จ เรยาก็โทร. เข้ามา หลังจากเพียรพยายามเป็นร้อยเป็นพันหนแล้ว
ยิ่งเมื่อเขารับสายพูดคุยด้วย เรยาดีใจแทบกระโดดโลดเต้น แล้วรับนัดเขาทันทีทันใด ก่อนจะรีบแต่งตัวสวยหรู สีหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความหวัง บอกนัทว่าเธอจะไปพบซีเค
“ดีใจด้วยนะฟ้า”
“นัท...ฟ้าขอบคุณนัทมาก”
“ขับรถไปดีๆ อย่าขับเร็วล่ะ ยังไงก็ไปถึงอยู่ดี”
“ฟ้ารักนัทนะจ๊ะ เพื่อนรักของฟ้า ชีวิตนี้มีซีเคเป็นคนรัก มีนัทเป็นเพื่อนรัก ฟ้าพอแล้ว ไม่ขออะไรอีกเลย”
“เวลานี้ได้คนหนึ่งแล้ว ไปตามหาอีกคนหนึ่ง...ไปเถอะ”
“โอเค อวยพรเพื่อนด้วย”
“อวยพรเต็มหัวใจ” นัทส่งยิ้มให้ และมองตามเรยาไปจนลับตา จากนั้นก็เดินกลับมานั่งที่โซฟาด้วยใบหน้าหมองหม่น หยิบกระดาษกับปากกาในกระเป๋าเป้ของตนออกมาเขียนอะไรบางอย่าง
ooooooo
เรยาขับรถไปตามเส้นทางที่ซีเคบอกจนไปถึงบ้านหลังใหญ่โตของเจ้าสัวเชง แวบแรกที่เธอเห็นตัวตึกและบรรยากาศโดยรอบ รู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันจะคิดทบทวน เสียงเรียกและการปรากฏตัวของซีเคก็ทำให้เธอลืมทุกสิ่งอย่าง โผเข้าหาเขาด้วยความดีใจสุดขีด
“สบายดีหรือเรยา”
“ซีเค ถามทำไม ไม่รู้เหรอว่าฉันตามหาคุณแทบพลิกแผ่นดิน คุณบอกจะมาหาฉันคืนวันนั้น คุณไม่มา ฉันคอยคุณทั้งคืน แล้วก็คอยอีกทุกคืน ทำไมปล่อยให้ฉันคอย ไม่รู้เหรอว่ามันทรมานแค่ไหน”
“ทรมานมากหรือ?”
“มาก...มากที่สุด ฉันคิดถึงคุณทุกลมหายใจเข้าออก คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณ รักที่สุด...ที่สุดในโลก ฉันรักคุณหมดหัวใจของฉันนะซีเค”
ชายหนุ่มอมยิ้ม มองเรยาด้วยสายตาแปลกๆ พอเธอถามเขาว่าไม่เชื่อเหรอ เขากลับยิ้มมากขึ้นเกือบเป็นหัวเราะ
“ซีเค ขำอะไรหรือ ขำที่ฉันรักคุณมากขนาดนี้หรือนี่ ถ้าฉันมีหัวใจเพิ่มอีกหลายๆดวง ฉันก็รักคุณหมดทุกดวง”
“ขอบคุณมาก”
“คุณล่ะคะซีเค” พูดจบเขย่งตัวขึ้นจูบแก้มเขาซ้ำๆหลายที จนเขาต้องท้วงว่าไม่กลัวคนเห็นเลยหรือ “ความรักไม่ใช่ของน่าอาย แต่เป็นของสวยงาม ใครเห็นก็ต้องชื่นชม ฉันพนันเลยว่าคนในบ้านคุณก็ต้องชื่นชมเหมือนกัน”
ว่าแล้วเธอเหลียวมองรอบบ้าน คิ้วขมวดเหมือนนึกอะไรได้
“คิดอะไรหรือเรยา” คำถามของเขาทำให้ความทรงจำของเธอดับวูบ...หันกลับมาสนใจผู้ชายตรงหน้า
“ไม่...ฉันไม่คิดอะไร ฉันคิดอย่างเดียวว่าฉันรักคุณ และคุณก็รักฉัน ซีเค คุณรักฉันเท่านั้นทุกอย่างจะจบลง ฉันจะเป็นภรรยาที่ดีของคุณได้แล้ว เพราะตอนนี้ฉันเป็นอิสระ ฉันไม่มีพันธะแล้วนะซีเค ไม่มีลูก ไม่มีสามีที่ทารุณกับฉัน ต่อไปนี้คุณรักฉันได้เต็มที่แล้วซีเค...นะซีเค ทุกอย่างโอเคแล้ว ตอนนี้ฉันรักคุณ คุณรักฉัน และโลกนี้เป็นของเรา”
เรยาประทับจูบที่แก้มเขาอีก และยังคงมัวเมาจูบครั้งแล้วครั้งเล่าจนเขาเป็นฝ่ายปราม เธอถึงยอมถอนตัวออกมา
“เรยา...ถ้าคุณยังมีความจำสมบูรณ์ดี คุณน่าจะจำได้ว่าผมไม่เคยบอกว่าผมรักคุณ”
เธอชะงักกึก สายตาที่มองเขาฉงนงุนงง ไม่แน่ใจ ขอให้เขาพูดใหม่อีกที
“ผมไม่เคยบอกว่า...ผมรักคุณ”
เรยาช็อกอยู่อึดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสั่นไปทั้งตัว เมื่อเขาบอกให้เธอนึกทบทวน...แล้วก็จำได้ว่าในวัยเด็กที่ตัวเองชื่อแขก โดนยี่หรงกับยี่ฮุยลูกสาวของเยนหลิงล้อกันสนุกปากว่า อีนางฟ้าหน้าดำ อีดำตับเป็ด อีดำมะละกา ซ้ำยังโดนตี๋เล็กลูกชายของโรสจิ้มหน้าผาก หัวเราะเยาะหยัน
“คุณชายเล็ก...” เรยาครางออกมา ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าซีเคเขม็ง
“ใครบอก เทวดาหน้าเจ๊กต่างหาก”
“คุณเกียรติกร...คุณนี่เอง แล้วซีเคล่ะ คุณชื่อซีเคนี่”
“ซีเคเป็นชื่อของฉันจริงๆ ซี...มาจากเชง เค...ย่อมาจากเกียรติกร ชื่อยาวจำยากฝรั่งเรียกไม่ถูก เลยเรียกชื่อย่อแทน เราคนจีน แซ่มาก่อนชื่อ ซีเคก็คือ แซ่เชง ชื่อเกียรติกร”
เรยาตะลึงงัน รู้สึกหวิวๆเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้
“ฉันรู้ว่าเธอจำได้ แล้วคนนั้นล่ะ จำได้ไหม” เขาชี้มือไปหน้าตึก เป็นจังหวะที่ก้องเกียรติเดินออกมาพอดี เรยามองตามไป พลันนิ่งอึ้งเหมือนถูกสาป
“คุณชายใหญ่ของบ้าน เธอคงจำเขาไม่ได้เพราะเธอยังเด็กมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะโตทันเป็นเมียน้อยเขา ฉันไม่เคยบอกแม้แต่คำว่าชอบเธอ ตอนพบกันครั้งแรก ฉันประทับใจตัวเธอ แต่นั่นคือภาพหลอกลวง เมื่อฉันรู้ว่าเธอมีสามีและมีลูกแล้ว ตัวจริงของเธอก็เริ่มให้ฉันเห็น เพราะเธอบอกฉันถึงความไม่ดีของสามีเธอต่างๆนานา รู้ไว้เดี๋ยวนี้นะว่าตอนนั้นฉันรู้แล้วว่าสามีเธอคือพี่ชายของฉัน เป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องช่วยพี่ชายพิสูจน์ความจริงใจของเธอ ถ้าเธอจริงใจ เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอฝันไว้เพราะเธอมีลูกชาย แต่นี่เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ละอายต่อการทำผิดศีลธรรม”
เสียงกรี๊ดแผดขึ้นทันทีก่อนที่เจ้าตัวจะปราดเข้าหาเงื้อมือจะตบเขาให้สุดแรง แต่กลายเป็นว่าตัวเองถูกเขาผลักแทบล้ม แล้วยังด่าซ้ำไม่มีชิ้นดี
“เธอใจง่าย เธอไม่ละอายต่อบาป เธอไม่มีศีลธรรม”
“หยุดนะ หยุดด่าฉันเสียที แก...ไอ้เจ๊กบ้า ไอ้มนุษย์ลวงโลก ฉันเกลียดแก เกลียดทั้งโคตรของแก”
“เธอไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อเด็กๆเลย อยากเป็นนางฟ้า แต่เป็นนางฟ้าที่สวยแต่รูป ปากร้าย ใจแข็ง หยาบคาย...เราจบสิ้นกันแล้วเรยา กลับไป บ้านนี้ไม่ต้อนรับเธอ เรารังเกียจเธอ”
“ฉันไปแน่ ไม่มีวันจะกลับมาเหยียบที่นี่ให้เป็นเสนียดตีนของฉัน แต่อย่าลืมว่าลูกฉันจะอยู่ที่นี่ ฉันรู้ว่าพวกเจ๊กอย่างแกก็รู้จักเกลียดตัวกินไข่เหมือนคนไทย เพราะพวกแกมันบ้าลูกชาย อยากได้คนสืบแซ่ ลูกฉันจะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แกคิดว่าแกชนะฉันใช่มั้ยถ้าเขี่ยฉันกระเด็นออกจากชีวิตพี่ชายแกได้แล้ว แม่พี่สะใภ้ผู้ดีตีนแดงจะยอมมั้ยถ้ารู้ว่าร่วมผัวเดียวกับฉันอยู่ตั้งนาน ฉันจะคอยดู จะคอยสมน้ำหน้า แล้วอีกหน่อยลูกฉันโต แกก็จะรู้ว่าแกกำจัดฉันไม่พ้นหรอก”
“พูดจบแล้วใช่มั้ย จบแล้วกลับไปได้ แล้วคอยดูอนาคตของลูกชายเธอ ลูกชายที่เกิดจากน้ำเชื้อหยดเดียวจากพ่อที่ไม่เต็มใจของเขา”
“แก...ไอ้สารเลว”
“ไหนบอกว่าคุณรักหมดหัวใจไง”
“แก...แกมันเลวที่สุด คอยดู ฉันจะฆ่าแก ถ้าฉันไม่เห็นแกตายไปต่อหน้า ฉันยอมตาย”
“เธอตายแล้วเรยา เธอตายด้วยไฟที่เผาร่างกายและจิตวิญญาณของเธอ ตอนนี้เธอเป็นแค่ซากที่ยังหายใจเท่านั้น กลับไปซะ ฉันขยะแขยงเธอเต็มทีแล้ว ขอให้รู้ว่าฉันต้องล้างตัวให้สะอาดทุกครั้งที่คนสกปรกอย่างเธอมาแตะต้อง...ไป กลับไปซะ”
“แก ไอ้คนชาติชั่ว ไอ้คนอุบาทว์ ไอ้คนสารเลว ทำเป็นผู้ดี ทีพ่อแกล่ะ ที่แท้พ่อแกก็ย่ำยีผู้หญิง พ่อแก...” ด่าไม่ทันจบก็ถูกเขาลากแขนไปอย่างแรง
จังหวะนี้เอง รถณฤดีแล่นเข้ามาช้าๆ และจอดสนิท ตรงหน้าทั้งสองคน เรยาเดินเข้ามาข้างรถทุบกระจกฝั่งณฤดีอย่างแรง พอกระจกเลื่อนลงก็เห็นนัยน์ตาเย็นชาของณฤดีที่มองมา
“สมปอง เอาเด็กคืนผู้หญิงคนนี้ไป” สิ้นเสียงของนายสาว สมปองอุ้มเด็กชายลงจากรถยื่นให้เรยาทันที
“ฉันไม่เอา! ลูกชายฉันใช้นามสกุลเจนพาณิชย์สกุล มีสิทธิ์ทุกอย่างในฐานะทายาทของแซ่เชง แกต้องรับเลี้ยงลูกฉัน ดีใจสิ ผัวก็คืนให้ ลูกก็ให้ แกจะได้มั่นคงอยู่ในตระกูลนี้ไง ไม่งั้นไม่มีลูก เขาจะเฉดหัวแกออกไปวันไหนก็ได้” เรยา กรีดเสียงด้วยความมั่นใจ หารู้ไม่ว่าณฤดีเหนือกว่าหลายเท่าตัว
“เธอไม่เอาลูกเธอ?” ณฤดีย้ำหนักแน่น
“ลูกฉันเป็นเจ้าของที่นี่สมบูรณ์วันไหน ฉันจะกลับมาจัดการทันที”
“เรยา” เสียงก้องเกียรติดังขึ้น เรยาหันขวับไปหาพร้อม เปล่งเสียงพ่อขา...แต่เขากลับขยับออกห่าง บอกสมปองให้พาคุณชายขึ้นรถไปหาคุณแม่ จากนั้นก็บอกกับเรยาว่า “เด็กคนนี้ชื่อเด็กชายเกียรติ เจนพาณิชย์สกุล เพิ่งไปแจ้งเกิดวันนี้ ช้าไป 6 เดือน แต่ไม่เป็นไร ถือว่าวันนี้เป็นวันเกิดเขา เราแจ้งเขตว่าเขามีพ่อชื่อนายก้องเกียรติ เจนพาณิชย์สกุล และมีแม่ชื่อ...นางณฤดี เจนพาณิชย์สกุล”
เรยาอ้าปากค้าง มองณฤดีที่ก้าวลงจากรถด้วยท่าที มาดมั่น
“เขาจะโตขึ้นเพื่อรับมอบบ้านหลังนี้ รวมทั้งทรัพย์สมบัติมหาศาลของแซ่เชงเมื่ออายุบรรลุนิติภาวะ ใครที่ไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับเขาจะมาเรียกร้องอะไรไม่ได้ ถ้าเธอจะพิสูจน์ความจริง เธอต้องฟ้องร้องตามกฎหมาย นั่นหมายถึงความยุ่งยากที่ไม่สิ้นสุดของเธอ กว่าเธอจะชนะ เธอต้องมีทนายที่เก่งมาก มีพรรคพวกที่คอยช่วยเหลือ และมีความอดทนที่จะต่อสู้ ซึ่งฉันรู้ว่าเธอไม่มี แต่สุดท้ายถ้าเธอชนะได้เด็กคนนี้กลับไปเป็นลูก เธอจะรู้จักคำที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียใจ เพราะนอกจากเขาจะไม่รักเธอแล้ว เขาจะไม่ยอมรับเธอเป็นแม่ เพราะเธอทอดทิ้งเขาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันนั้น”
พูดเสร็จณฤดีกลับไปขึ้นรถ ตามด้วยคนอื่นๆ รวมทั้งเกียรติกรหรือตี๋เล็ก ทิ้งเรยายืนนิ่งเป็นหินอยู่โดดเดี่ยวกลางถนนหน้าตึกใหญ่
ooooooo
ขณะเดียวกันนั้นที่หน้าตึกเล็ก เม่งฮวย กรองกาญจน์ ไทรรัตน์ เด่นจันทร์ โจ เต้ และคนรับใช้อีกสองสามคนยืนสลอนรอคอย เม่งฮวยใจร้อนทำท่าจะไปดูหน้านังเมียน้อยของลูกชาย จนหลายคนร้องห้ามเสียงหลง ครั้นมองเห็นรถณฤดีแล่นเข้ามาจอด ทุกคนก็ลุ้นระทึก
ณฤดีลงจากรถพร้อมด้วยลูกชายตัวน้อยน่ารัก ตามด้วยก้องเกียรติ เกียรติกร และสมปอง เม่งฮวยดีใจแทบจะถลาไปหาณฤดี รับหลานชายมาอุ้มทั้งน้ำตาเคลือบคลอ
“อาคุงหลี ขอบใจนะ ขอบใจเหลือเกิน อาม้าขอบใจจากหัวใจอาม้า อาคุงหลีทำบุญใหญ่มากให้อาม้า”
ก้องเกียรติขยับมาโอบกอดณฤดีด้วยความซาบซึ้งใจ พอณฤดีหันไปเรียกอาจิว ทุกคนก็เริ่มไหวตัว จับตามองอาจิวนำซองเอกสารบางอย่างมายื่นให้ณฤดี
“อะไรน่ะอาจิว” กรองกาญจน์ถามขึ้น
“ตั๋วเรือบินครับ”
ทุกคนมีสีหน้าตกใจ ก้องเกียรตินั้นถึงกับครางชื่อเล่นภรรยาออกมา “คุณดี๋...” แทนที่เธอจะพูดกับสามี กลับหันไปทางน้องชายของเขา
“ขอให้พี่ใช้เหตุผลตัดสินใจนะน้องตี๋เล็ก”
“แต่ยังมีครั้งต่อไปนะครับ”
“แน่นอน...ยังมีครั้งต่อไป ที่จะให้ความรักตัดสิน”
สองคนยิ้มแย้มและจับมือกัน แต่อีกหลายคนยังงุนงง โดยเฉพาะเม่งฮวยถึงกับโพล่งขึ้นมาว่า ไม่รู้เรื่อง
“หนูจะไปหาคุณพ่อคุณแม่ค่ะอาม้า”
“ไอ้หยา...อั้วเก๊กซิมน่อ”
“คุณดี๋ครับ...ได้โปรด” ก้องเกียรติสายตาวิงวอน ณฤดีไม่พูดอะไรกับเขาแต่ขยับไปรับตาหนูมาจากเม่งฮวย
“ตาหนู ขอแม่ไปหาคุณตาคุณยายของหนู ไม่นานแม่จะกลับมา”
เท่านั้นเอง รอยยิ้มฉาบขึ้นบนใบหน้าก้องเกียรติทันที เขาโอบกอดลูกเมียท่ามกลางความยินดีของทุกคน หนึ่งในนี้มีอาฮุ้งรวมอยู่ด้วย แล้วอาฮุ้งก็ค่อยๆถอยฉากออกไปกระจายข่าวถึงในครัวซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของคนรับใช้ ทำเอาทุกคนตื่นเต้นดีใจลุกขึ้นชักแถวเดินตามอาฮุ้งเพื่อจะไปดูคุณชายน้อย แต่ไม่ทันไรทั้งกลุ่มก็หยุดกึกเพราะเยนหลิงโผล่มาขวางทาง คาดคั้นว่าจะไปไหน แต่ไม่มีใครตอบสักคน พอโดนเยนหลิงด่ากราด เง็กเลยแข็งข้อด้วยถือว่าเดี๋ยวนี้ตนเป็นอิสระแล้วตามคำสั่งของคุณนายใหญ่ ไม่ใช่เบี้ยล่างของเยนหลิงอีกต่อไป
เจอไม้นี้เข้าไปเยนหลิงถึงกับจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่กรี๊ดระบายความคับแค้น มองตามทุกคนไปด้วยสายตาอาฆาต จนกระทั่งเหลือบไปเห็นอาอึ้มกับคำแก้ว อาอึ้มไม่อยากข้องแวะจะพาคำแก้วไปพ้นๆ แต่คำแก้วกลับแข็งขืนเดินเข้าหาเยนหลิง เอ่ยชื่นชมเสื้อผ้าและทรงผม พลางบอกให้เธอยิ้ม ยิ้มสวยๆเหมือนอย่างตน
เยนหลิงน้ำตาคลอเจ็บปวดเหลือเกิน คนดีไม่พูด มีแค่คนบ้าและเป็นคนบ้าที่ตัวเองคิดร้ายกับเขามาตลอดเสียด้วย
“อย่าร้องนะ อย่าร้อง...นิ่งนะ” คำแก้วปลอบโยน นั่นยิ่งทำให้เยนหลิงน้ำตาพรูพราย มองเลยไปสบตาอาอึ้มที่แสนเย็นชาเยาะหยัน ในที่สุดเยนหลิงก็ทนไม่ได้ หันหลังกลับเดินซมซานร้องไห้ไปตลอดทาง...
ข้างฝ่ายเรยาที่อาการสาหัสยิ่งกว่า...เธอย้อนกลับไปที่คอนโดฯ หมายใจจะได้พบนัท ผู้ชายที่รักเธอตลอดมา แต่กลายเป็นว่าในห้องไม่มีแม้เงาของเขา มีเพียงจดหมายสั้นๆทิ้งไว้แทนตัว
“นัทดีใจมากที่สุดที่ฟ้าสมหวังครั้งนี้ ขอให้ฟ้ามีความสุขตลอดไป...จากคนที่รักฟ้าที่สุดและจะรักเสมอ”
อ่านจบ เรยาทรุดลงราวนกปีกหัก ควานหาโทรศัพท์หยิบมากดโทร.ออก แต่นัทปิดเครื่องไม่สามารถติดต่อได้
“นัท...ทำไมทิ้งฟ้าไป นัทกลับมา...กลับมาหาฟ้า” เรยาคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง หวนคิดถึงคืนวันที่ผ่านมาระหว่างตัวเองกับนัทแล้วน้ำตายิ่งไหลนองหน้า สะอึกสะอื้นเดียวดายภายในห้องมืดสลัวปราศจากสิ่งมีชีวิต นอกจากวัตถุหรูหราที่ใช้ร่างกายแลกมาแต่ไม่อาจปลอบโยน...
-อวสาน-