ตอนที่ 13
ทันทีที่เรียนจบเกียรติกรก็ย้ายไปทำงานที่เมืองโอ๊กแลนด์ประเทศนิวซีแลนด์ โดยวันนี้อาจิวตามมาเป็นธุระจัดการเรื่องบ้านให้เขาด้วยความเต็มใจยิ่ง
“อาจิว...ขอบคุณมากครับที่จัดการซื้อบ้านให้ผม”
“ผมดีใจที่อาคุงชายเล็กชอบบ้าน ผมหาตามที่อาคุงชายเล็กต้องการทุกอย่างครับ อยู่ในทำเลเงียบๆ แต่ที่สำคัญต้องหลังเล็ก หลังใหญ่ๆที่อยู่แล้ว...” อาจิวหน้าสลดลงไม่กล้าพูดต่อ
“อ้างว้างว้าเหว่แบบตึกของอาเตีย หรือตึกเล็กที่ผมอยู่ที่เมืองไทย...ไม่เอา” น้ำเสียงและแววตาของเกียรติกร
บ่งบอกว่าเจ็บปวดขมขื่นเหลือเกินกับอดีตที่ไม่มีวันลืม...อาจิว สงสารพยายามปลอบโยน
“อาคุงชายเล็กครับ ผมมีลูกชายสองคนมันไม่ดีเลย เกเร ไม่เรียนหนังสือ ผมอยากจะเกลียดมัน แต่ไม่เคยทำได้ คนเป็นพ่อ...เกลียดลูกไม่มีหรอกครับ”
“มี...มีครับอาจิว อย่างน้อยก็อาเตียผมคนนึง”
“อาคุงชายเล็กเป็นลูกที่ดีไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เรียนก็เก่ง ทำงานดี อานายท่านภูมิใจมากนะครับ”
“แต่ไม่รัก...อาจิวครับ อาจิวมานิวซีแลนด์เนี่ย อาเตียรู้ไหมครับ”
“ทราบครับ ผมเรียนท่านเจ้าสัวว่าอาคุงชายเล็กจะย้ายมาทำงานที่โอ๊กแลนด์ ทำสัญญานานถึง 5 ปี ท่านยังถามว่าแล้วจะอยู่ยังไง ให้อาคุงชายใหญ่มาจัดการให้เพราะอาคุงชายใหญ่อยู่ที่นี่พอดี แต่ผมบอกท่านเจ้าสัวเหมือนที่ อาคุงชายเล็กบอกว่ายังไม่ให้ใครรู้เลย อาคุงชายเล็กจะไปหาอาคุงชายใหญ่เองทีหลัง”
“ใช่ ผมคิดว่าพี่ชายใหญ่จะเซอร์ไพรส์มาก”
“นี่ครับคุงชายเล็ก...เอกสารการซื้อบ้าน แล้วก็หลักฐานการขายหุ้นของอาคุงนายที่สาม ขายที่ดินแปลงหนึ่งของคุงชายเล็กที่คุงนายที่สามให้ไว้”
“สมบัติอาม้าหมดเลยใช่มั้ยอาจิว”
“ยังมีหุ้นอีกมากครับ เครื่องเพชรกับที่ดินอีกสองแปลงครับ”
“ทำไมยังเหลือล่ะ ผมคิดว่าถึงขายหมด ก็อาจซื้อบ้านนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ท่านเจ้าสัวให้เงินมาครึ่งหนึ่งครับ อานายท่านไม่ให้ บอกอาคุงชายเล็ก แต่ผมคิดเองว่าต้องบอก”
เกียรติกรนิ่งอึ้ง รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงของบิดา...แล้วกลางดึกคืนนั้นในบ้านหลังใหม่ เกียรติกรฝันว่าแม่มาหา
โอบกอดเขาด้วยความรัก เขาเองก็รักและดีใจมากที่ได้เจอแม่ พอเขาถามแม่ว่าอยู่ที่ไหน สบายดีไหม แม่บอกว่าแม่อยู่กับตัวเอง อยู่สบายแต่หนาวมาก เพราะแม่ทำผิด แต่ลูกต้องไม่ทำผิดเหมือนแม่...
โรสเน้นย้ำคำพูดสุดท้ายเตือนลูกอย่าทำผิด...ลูกชายน้ำตาไหลมองแม่ด้วยความสงสารจับใจ แล้วเขาก็สะดุ้งตื่นเมื่อร่างของแม่เลือนรางจางหายไป
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งคิดทบทวนความฝันที่เหมือนจริงมากๆด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ จากนั้นเขาก็นอนไม่หลับอีกเลย จนใกล้ฟ้าสางจึงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปทำงาน
พอลงมาที่ห้องโถงปรากฏว่าอาจิวตื่นเช้ากว่าอีก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือถุงกอล์ฟชุดใหญ่อย่างดีมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“อาจิว...อะไรครับเนี่ย”
“อาคุงชายใหญ่สั่งผมให้ซื้อให้อาคุงชายเล็กที่อเมริกา”
“ซื้อเมืองไทยแล้วส่งไปอเมริกา”
“เปล่าครับ ให้สั่งซื้อที่อเมริกาครับ ก็อาคุงชายใหญ่คิดว่าอาคุงชายเล็กอยู่อเมริกา”
“อาจิวซื้อที่อเมริกา แล้วส่งมาที่นี่เหรอ”
“ไม่ใช่ครับ แหม อาคุงชายเล็กย้ายมาโอ๊กแลนด์แล้ว ผมซื้อที่นี่ อาคุงชายเล็กบอกเองแล้วกัน”
เกียรติกรพยักหน้าและให้อาจิวบอกพี่ชายใหญ่ด้วยว่าอีกสองสามวันเขาจะไปหา แต่อาจิวกลับรายงานว่า ตนไปโรงแรมที่คุณชายใหญ่เคยพัก เขาบอกว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ไปพักที่นั่นนานแล้ว พอเกียรติกรถามอีกว่าไปที่บริษัทมาหรือยัง อาจิวบอกยังไม่ได้ไปแต่โทร.ไปถามแล้ว คนที่บริษัทก็ไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่ไปพักที่ไหน
คำตอบของอาจิวทำให้เกียรติกรแปลกใจสงสัย แต่อาจิวไม่ได้คิดอะไรเพราะตัวเองมาโอ๊กแลนด์ด้วยเรื่องบ้านของคุณชายเล็กเท่านั้น คงไม่ไปรบกวนเวลาคุณชายใหญ่
“เอาละ ทุกอย่างผมจะบอกพี่ชายใหญ่เอง”
“ครับ” อาจิวรับคำแล้วส่งกุญแจรถให้เขา
“ขอบคุณนะอาจิว ผมกำลังคิดอยู่ว่าคงต้องซื้อรถสักคัน อาจิวใช้เงินอาม้าใช่มั้ย”
“ท่านเจ้าสัวซื้อให้ครับ”
เกียรติกรตะลึงอย่างนึกไม่ถึง เพราะนอกจากช่วยซื้อบ้านแล้วบิดายังซื้อรถใหม่ราคาแพงให้ด้วย
เพิ่งมาแค่วันเดียวก้องเกียรติก็สร้างความเบื่อหน่ายรำคาญให้เรยา เพราะเขาบังคับเคี่ยวเข็ญให้เธอให้นมลูก ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกยังไม่ถึงสองเดือนควรกินนมจากอกแม่มากกว่านมกระป๋อง ลูกจะได้รับความอบอุ่นจากแม่โดยตรง
เรยาจนด้วยเหตุผลจำต้องให้นมลูก แต่พอก้องเกียรติไม่อยู่เธอก็ไม่ทำ แถมยังทิ้งลูกไว้กับแอนนาอีกเช่นเคย แล้วตัวเองไปดักรอหนุ่มหล่อเป้าหมายใหม่ที่สนามกอล์ฟ แอนนา ที่พอจะระแคะระคายเรื่องนี้บ้างจึงพยายามเตือนเรยา แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะคนอย่างเรยาไม่เคยยอมให้ใครมาสั่งสอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว
เมื่อผิดหวังกลับมาอีกในวันนี้ เรยาถึงกับนอนซึมเหม่อ แทบไม่ได้ยินเสียงเรียกของก้องเกียรติที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน
“ฟ้า...เป็นอะไรรึเปล่า ผมเรียกสองสามครั้งแล้ว”
“มีอะไรคะ”
“ลูกหิวแล้ว ฟ้าให้นมลูกหน่อยนะ”
“อีกแล้ว...ทำไมคะ ทำไมต้องเคี่ยวเข็ญนักหนานะเรื่องให้นมลูกเนี่ย ไม่เข้าใจเลย”
“ผมขอร้อง ให้นมลูกอีกซักเดือนเดียวได้มั้ย ผมอยากให้เขาอบอุ่น มันมีผลต่อจิตใจของเด็กมากนะฟ้า”
“ทั้งอุ้ม ทั้งกอด ทั้งจูบอยู่ทุกวันๆ พอแล้วค่ะพ่อ เขาอบอุ่นพอแล้ว”
“มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่!” เรยาเสียงแข็งมากจนเขาชะงัก
“ฟ้า...ทำไมล่ะ ไม่มีเหตุผลเลยนี่”
“มี...เหตุผลเป็นของฟ้า พ่อไม่ต้องรู้ก็ได้”
“ผมควรจะรู้นะ เกี่ยวกับอะไรสุขภาพของคุณรึเปล่า”
“ไม่มีอารมณ์ก็แค่นั้น”
“ไม่มีอารมณ์อะไร อารมณ์ให้นมลูกน่ะหรือ ฟ้าต้องใช้อารมณ์อะไรผมไม่เข้าใจ”
“ทำไม พ่อเห็นผู้หญิงเป็นโรงงานงั้นหรือ ถึงเวลาปั๊ม... ปั๊ม ไม่ใช่เครื่องจักรนะกดปุ่มแล้วนมก็ไหลออกมา”
“เรยา...คุณพูดอะไรอย่างนั้น พูดเพราะอะไร เพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือพูดเพราะอารมณ์หงุดหงิด”
“คิด...ฟ้าคิดอย่างนั้นแหละ”
“ไม่จริง คุณไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอก คุณเป็นแม่นะ คนเป็นแม่คิดอย่างนี้กับลูกผมว่าไม่มี...คนเดียวก็ไม่มี”
“มี...นี่ไง คนนี้ไง แล้วมันเรื่องจริงด้วย ความรักความอบอุ่นที่พ่ออยากให้ลูกได้รับน่ะมันต้องให้กันทั้งสองทาง...ฟ้าก็ต้องเต็มใจด้วย แต่นี่...”
“คุณพูดเรื่องเต็มใจได้ยังไง คนเป็นแม่ต้องเต็มใจอยู่แล้ว แม่ทุกคนในโลกต้องเต็มใจ”
“แต่ฟ้าไม่”
ก้องเกียรติเหนื่อยใจกับอาการเถียงคำไม่ตกฟากของเรยา แล้วเขาก็หยิบยกคำพูดของแอนนาที่บอกว่ามีแม่หลายคน ที่ไม่ยอมให้นมลูกเพราะกลัวหน้าอกจะเสียรูปทรง ซึ่งเขาหวังว่าเรยาจะไม่เป็นอย่างนั้น
“โอ๊ย...ไม่อยากพูดแล้ว พูดไปก็ไม่เข้าใจ นังแอนนามันวิเศษนักก็ให้ลูกกินนมมันสิ” เรยาโวยวายแล้วพรวดพราดออกไปเจอแอนนายืนฟังอยู่หน้าห้อง เรยาผลักแอนนาเต็มแรงพร้อมกับด่าอย่างหยาบคาย ก้องเกียรติตกใจรีบเข้ามาประคองแอนนาที่ถูกผลักเกือบล้ม ส่วนเรยาสะบัดพรืดจากไปอย่างไม่แคร์ใครทั้งนั้น
ooooooo
พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของเรยาทำให้ก้อง-เกียรติไม่สบายใจอย่างมาก และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย ทั้งๆที่ตั้งใจจะมาอยู่กับลูกน้อยสักสองเดือน
ณฤดีแปลกใจที่สามีกลับเร็วกว่ากำหนด ถามเขาว่างานมีอะไรยุ่งยากหรือเปล่า
“งานเรียบร้อยทุกอย่าง แต่คิดถึงคุณดี๋...มาก”
“ต้องไปอีกเมื่อไหร่คะคุณใหญ่”
“อีกนาน...ไม่ต้องไปอีกนานครับ”
สมปองลงมาจากข้างบน เหลือบเห็นสามีภรรยาคุยกันกะหนุงกะหนิงจึงเลี่ยงไปทางอื่นเพื่อเปิดทางให้เต็มที่...
หลายวันต่อมา เม่งฮวยดีใจมากที่ณฤดีมาเยี่ยมเยียนด้วยใบหน้าสดใสไร้ความทุกข์ ณฤดีบอกว่าเธอกับคุณใหญ่กลับมารักกันดีเหมือนเดิมแล้ว แต่พอเม่งฮวยกระตุ้นเรื่องลูก อยากให้สะใภ้คนโปรดมีลูกเสียที ณฤดีกลับเงียบงัน สีหน้าจืดเจื่อนขึ้นมาทันที
ขณะนั้นก้องเกียรติแวะไปหาคำแก้วที่เรือนหลังเล็ก ตอนแรกคำแก้วก็ทำท่าเป็นมิตรกับเขา แต่พอสักพักก็มีอาการเดิมๆคือโวยวายหวาดกลัวเขาจนเนื้อตัวสั่น ณฤดีออกมาจากตึกใหญ่เดินไปแอบดูด้วยความสับสนสงสัย พออาอึ้มโผล่มาเห็นณฤดีก็หน้าเสีย มองเลยไปยังก้องเกียรติที่กำลังพยายามปลอบโยนคำแก้ว
ภาพก้องเกียรติกอดปลอบคำแก้วทำให้ณฤดีสงสัยนักหนาว่าเขาทั้งคู่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรกันหรือไม่ พอเธอเหลียวมาเห็นอาอึ้มยืนอยู่ข้างหลังจึงทำท่าจะซักถาม แต่ทันใดเสียงคำแก้วหวีดร้องขึ้นมาจนทั้งคู่สะดุ้งตกใจ
คำแก้วสะบัดตัวออกจากก้องเกียรติแล้วลนลานหนีด้วยความขยะแขยงรังเกียจ เพราะเธอฝังใจกับภาพในอดีต คืนนั้นที่เธอวิ่งไปเห็นเรืองยศนอนซบอกก้องเกียรติอยู่ในห้องนอน...
ณฤดียืนตะลึงมองก้องเกียรติวิ่งตามไปจับตัวคำแก้ว อาอึ้มเองก็เช่นกัน แต่แล้วอาอึ้มทำท่าจะเลี่ยงไปเพราะรู้แก่ใจว่าเดี๋ยวณฤดีต้องซักถามตนแน่ๆ
จริงดังคิด ณฤดีไม่ปล่อยอาอึ้มไปง่ายๆ เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์เมื่อสักครู่ระหว่างก้องเกียรติกับคำแก้วคืออะไร?
“คืออะไรฮะ” อาอึ้มทำไก๋เพราะไม่อยากพูดมากเรื่อง เจ้านาย
“อาอึ้ม ที่เราเห็นกันทั้งสองคนตั้งแต่ต้นจนถึงจบ อาอึ้มอย่าคิดเลยนะคะว่าจะบอกเรื่องอะไร หรือไม่บอกเรื่องอะไร ฉันเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่อยากรู้ว่าเป็นเรื่องอะไรเท่านั้น”
“คุงหลีฮะ อาอึ้มไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกฮ่ะ เพราะอย่างอาอึ้มจาไปเล่าอาไลให้คุงหลีฟังได้ล่ะฮะ มันม่ายลีฮ่ะ อาอึ้มเป็นคนใช้ฮ่ะ พูดเรื่องเจ้านายไม่ล่าย”
“อาอึ้ม ถ้าเจ้านายถามล่ะ”
“คุงหลีอยากรู้อาไลฮะ”
“เอ้อ...ก็...” ณฤดีอึกอัก ถามไม่ถูกเหมือนกัน
“บางทีถ้าไม่ลู้อาไลซะมั่งจะดีกว่าลู้นะฮะ”
“อาอึ้มคิดว่าเรื่องที่อาอึ้มกำลังคิดอยู่ในใจ ฉันไม่ควรรู้หรือคะ ถ้าอาอึ้มคิดว่าฉันไม่ควรรู้ก็ไม่ต้องบอก ฉันไม่อยากทำให้อาอึ้มลำบากใจ...แต่ฉันคงไม่สบายใจไปจนตาย”
อาอึ้มสีหน้าหนักใจกับคำพูดกดดันของณฤดี จนที่สุดแกก็ยอมแย้มๆออกมา
“คุงหลีฮะ คุงนายที่สี่เข้ามาอยู่ในบ้างนี้ตองอีเป็งเหล็กๆ อายุเพิ่งจับลัก...สิบหกฮ่ะ อีเพิ่งสิบหก อีมาเจอคุงนายสามคง เหล็กอายุสิบหกทำอาลายผิกปายหมก ใช้ตาเกียบก็ผิก ไม่ใช้ตาเกียบก็ผิก อย่างงี้แหละฮ่ะ แล้วอีก็ล้อง...ล้องไห้ คุงชายใหญ่สงสารคุงนายสี่ ถ้าเจอกันอีจะปอบโยงฮ่ะ แบบผู้ใหญ่ปอบเหล็ก”
อาอึ้มเงียบลง แต่ณฤดียังคงจับจ้องหน้าแกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“คุงหลีฮะ อาอึ้มเลี้ยงคุงชายใหญ่มาตั้งแต่นองในเป คุงชายเป็นคนเหลาซิกฮ่ะ”
“เหลาซิก?”
“แปว่า...คนซื่อสัตย์ฮ่ะ ม่ายทำผิกหรอกฮ่ะ”
“อาอึ้ม คุณชายใหญ่เป็นคนเหลาซิก แล้วคุณนายที่สี่ล่ะ”
“คุงนายที่สี่อีม่ายอยู่ในโลกของเราแล้วนะฮะ อีอยู่ในโลกของอีแล้ว สงสารอีเถิดนะฮะ”
ณฤดีหน้าเสียรู้สึกผิด “อาอึ้มคะ...ฉันขอโทษ”
“ม่ายต้องฮ่ะ ม่ายต้อง เจ้านายไม่ต้องขอโทษ คุงหลีเป็นคนลี เหมาะสมกับคุงชายใหญ่ที่สุดแล้วฮ่ะ อาอึ้มลีใจจิงๆ ฮ่ะ ลีใจน่อ”
ก้องเกียรติจูงคำแก้วเดินเข้ามาส่งให้อาอึ้ม คำแก้วเรียกอาอึ้มและมองเลยไปยังณฤดีด้วยรอยยิ้มหวานๆ แต่นัยน์ตาเคว้งคว้างเหมือนดวงตาเด็กที่ยังไม่รู้ประสา ณฤดีพินิจแล้วยิ่งสงสาร เรียกเธอขึ้นมาเบาๆ
“คุณนายที่สี่”
คำแก้วยิ้มเป็นมิตร หัวเราะน้อยๆ แล้วปล่อยให้อาอึ้มจูงมือเดินกลับไปที่เรือนพัก...ณฤดีหันมาถามก้องเกียรติว่านึกยังไงถึงมารับ ดีว่าไม่สวนกัน แทนที่จะตอบเขากลับถามเธอว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือไหม ณฤดีทำหน้าแปลกใจ ถามว่าที่นี่มีด้วยหรือ
“ไม่มี”
“นี่...อาอึ้มเพิ่งชมอยู่หยกๆว่าคุณใหญ่เป็นคนเหลาซิก”
“อย่าเชื่ออาอึ้มมากนัก ชมอย่างเดียวแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว”
“คราวนี้ต้องเชื่อค่ะ”
“เรื่องอะไรหรือครับ”
เธอไม่ตอบ แต่วกมาเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือ เขารับปากว่าได้กินแน่แต่ต้องค้างคืนที่นี่...พอเม่งฮวยรู้ว่าลูกชายกับลูกสะใภ้ค้างคืนก็รีบมาหาถึงห้องนอน มาย้ำเรื่องสำคัญว่าตนอยากมีหลานเต็มแก่ แต่หลานต้องเกิดจากณฤดีคนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่เอา
ณฤดีฟังแล้วยิ้มปลื้ม แต่ก้องเกียรตินิ่งเงียบไปด้วยความทุกข์ใจ
ooooooo
ที่โอ๊กแลนด์...แม้จะผิดหวังหลายครั้งหลายหนแต่เรยาก็ไม่ท้อใจ เธอยังเพียรไปที่สนามกอล์ฟทุกวัน แล้ววันหนึ่งเรยาก็ได้พบคนที่อยากเจอสมใจปรารถนา
เมื่อได้พูดคุยทำความรู้จักในฐานะที่เป็นคนไทยเหมือนกัน เรยายิ่งรู้สึกเป็นปลื้มชายหนุ่มคนนี้ ในขณะเดียวกันคุณหมอเกียรติกรก็ดูจะพึงพอใจเรยาไม่น้อย โดยทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้เรื่องส่วนตัวของกันและกัน
พอรู้ว่าเธอชื่อเรยา เกียรติกรนิ่งไปนิดก่อนบอกว่ารู้สึกเหมือนคุ้นกับชื่อนี้ แต่เรยาไม่ได้ใ่ส่ใจเพราะมัวจดจ่ออยากรู้ว่าเขาชื่ออะไร
“ผมชื่อ ซี.เค.”
“ซี.เค.หรือคะ ชื่อแปลกจัง”
“เพื่อนๆเรียกเป็นชื่อย่อ แต่ก็สะดวกดี ถ้าเราจะเป็นเพื่อนกัน คุณจะเรียกผมว่าซี.เค. ก็ได้”
“ค่ะ ซี.เค. จำง่ายดี ฟังดูเหมือน Secret ซี.เค. ทำงาน อะไรคะ”
“ผมเป็นหมอ”
เรยาร้องโอ้โฮอย่างทึ่งจัด บอกเขาว่าคนเป็นหมอที่ เมืองไทยถือเป็นอาชีพที่เจ๋งสุด เพราะรวยสุด แต่เขาไม่เข้าใจคำว่ารวยสุด เธอจึงอธิบายว่ารวยสุดก็แปลว่ารวยมาก รวยมากเพราะคนไทยเจ็บบ่อย
จากการพูดคุยกันพักใหญ่ๆในวันนี้ทำให้ทั้งคู่รู้สึกดี ต่อกัน และก่อนจะลาจากกันไปเรยาจึงนัดเจอเขาอีกในวันพรุ่งนี้...พอเธอกลับมาถึงบ้านได้ยินเสียงลูกร้องไห้จ้า ก็ให้ รู้สึกหงุดหงิดรำคาญ แล้วยังต้องมาทนฟังมิสซิสคูเปอร์บ่นอีกเป็นกระบุง เพราะจริงๆแล้ววันนี้เรยาต้องพาลูกไปพบหมอตามนัด แต่เธอกลับไม่ใส่ใจที่จะจำ
“พอได้มั้ย ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด คุณจะพูดซ้ำเติมฉันทำไม” เรยาตวาดแว้ด
“เพราะฉันผิดหวัง”
“จะผิดหวังอะไรนักหนา เป็นนัดธรรมดาๆ ที่หมอจะดูสุขภาพทั่วๆไปของเด็ก ลูกชายฉันไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงที่ปล่อยไว้ไม่ได้ต้องถึงมือหมอทันที ความจริงฉันไม่มา
คุณไปกับแอนนาก็ได้”
คูเปอร์บอกทันทีว่าแอนนาปฏิเสธ เรยาจึงหันขวับไปจิกตาใส่แอนนาที่กำลังดูแลลูกชายของเธออยู่
“แอนนา คุณมีเหตุผลอะไรที่ Say no กับมิสซิสคูเปอร์”
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ควร Say no” พูดจบแอนนา จะส่งเด็กน้อยให้เรยา แต่เรยายืนหน้าบึ้งไม่ยอมอุ้มลูก แอนนาเลยต้องอุ้มเด็กกลับเข้าห้องไปเอง
คูเปอร์ส่ายหน้าระอากับนิสัยของเรยา แล้วย้ำเตือนเรยาว่าเด็กคนนั้นคือลูกชายของเธอ แทนที่เรยาจะสำนึก เธอกลับสวนทันควันว่าไม่ต้องมายุ่ง...คำพูดนี้เองทำให้ คูเปอร์สุดจะทนต่อไป ขอลาออกจากการว่าจ้างของก้องเกียรติ ทันที
เรยาไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด กลับพูดไล่หลังคูเปอร์ว่า ไปแล้วไม่ต้องมาอีก แค่คนรับจ้าง ติดต่อหาที่ไหนก็ได้ คนอยากได้เงินมีเยอะแยะไป...
ครู่ต่อมา แอนนากลับออกมาจากห้องเด็กเพื่อบอกเรยาว่าพรุ่งนี้เธอจะนัดหมออีกครั้ง แล้วเธอจะไปกับเรยาด้วย แต่พอแอนนาพูดจบก็ต้องผงะตกใจกับถ้อยคำปฏิเสธที่ห้วนแข็งของเรยา
“ไม่! พรุ่งนี้ฉันมีนัด”
“นัดสำคัญหรือ เลื่อนได้มั้ย”
“ถึงนัดไม่สำคัญ ฉันก็ไม่ให้เธอเป็นคนบอกให้ฉันเลื่อน” ว่าแล้วเรยาก็เดินปึงปังเข้าห้องทันที ทิ้งให้แอนนายืนหน้าเครียด ทั้งหนักใจทั้งเบื่อหน่าย...
ooooooo
เมื่อพบเป้าหมายใหม่ที่ทั้งหนุ่มทั้งหล่อแถมเป็นถึงคุณหมออนาคตไกล เรยาจึงคิดจะเลิกรา
กับก้องเกียรติให้เด็ดขาดโดยเร็ว เพื่อตัวเองจะได้คบหาและพัฒนาความสัมพันธ์กับซีเคอย่างเปิดเผย ไม่ต้องคอยระแวดระวังตัวกลัวเขาจะรู้ว่าเธอมีลูกอยู่ที่บ้าน
แต่ในระหว่างนี้เรยาก็ยังแอบนัดพบซีเคทุกวัน และด้วยจริตมารยาบวกกับรูปร่างหน้าตาที่เพอร์เฟกต์ของเรยาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชายหนุ่มสักคนจะมีใจให้เธออย่างง่ายดาย ในขณะที่เรยาเองซึ่งเป็นปลื้มชื่นชมเขาอยู่แล้ว ยิ่งพอได้พูดคุยใกล้ชิดเขาบ่อยขึ้น ความรักและความต้องการจึงบังเกิดขึ้นกับผู้หญิงร้อนแรงอย่างรวดเร็ว แต่มันยังติดขัดที่เธอไม่ใช่คนตัวเปล่า ดังนั้นเธอจะยอมให้เขาไปส่งถึงบ้านไม่ได้เป็นอันขาด
เมื่อซีเคหรือเกียรติกรพยายามขอหลายหนหลังจากพาเธอไปเที่ยวจนมืดค่ำแล้วจะไปส่งเธอที่บ้าน แต่เธอไม่เคยยินยอม ทำให้เขาผิดหวังและอดสงสัยไม่ได้ว่าเธออาจจะมีใครอยู่ที่บ้านก็เป็นได้
กลับเข้าบ้านในคืนนี้เรยากำลังฝันหวานถึงซีเค พลันก็ต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมา พอกดรับได้ยินเสียงก้องเกียรติถามว่าพาลูกไปหาหมอแล้วใช่ไหม หมอว่ายังไงบ้าง เรยาถึงกับชะงักนิ่งไป รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่จะต้องโกหก
“...ไปแล้วค่ะ หมอว่าปกติไม่เป็นอะไร พ่อไม่ต้องห่วงลูกนะคะ เขาแข็งแรงมาก แอนนาเขาดูแลอย่างดีอยู่แล้ว”
“ฟ้าให้ลูกดื่มนมรึเปล่า”
“ฟ้าก็ให้บ้าง แต่ถ้าพ่อเคี่ยวเข็ญอีกฟ้าจะไม่ให้เลย”
“ผมหวังว่าฟ้าจะคิดถึงลูกเป็นอันดับแรก...เหมือนที่แม่คนอื่นๆเขาเป็น”
“พ่อ...พ่อว่าฟ้าไม่ใช่แม่ที่ดีเหรอ งั้นก็ทำลูกกับเมียพ่อให้ได้สิ เพราะมันดีเลิศประเสริฐสุดนี่ คงเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติมั้งถ้ามีลูกน่ะ พยายามเข้า แล้วไม่ต้องมาเคี่ยวเข็ญฟ้าอีก ลูกฟ้า...ฟ้าจะเลี้ยงแบบนี้แหละ พ่อจะทำไม”
เจอถ้อยคำรุนแรงหยาบคายของเรยาเข้าไป ก้องเกียรติ ถึงกับอึกอักพูดไม่ออก “ผมแค่...”
“พ่อเองไม่ได้อยู่เลี้ยงเขา อย่ามาเรียกร้องให้ทำโน่นทำนี่ พ่อเป็นพ่อเขาเต็มเวลารึเปล่าล่ะ เมื่อไหร่ล่ะพ่อจะบอกอากง อาก๋ง อาม้า อาม่าของเขาซะทีว่าทายาทเค้าอยู่ตรงนี้ ถ้ารักลูกพ่อก็ต้องทำให้ลูกได้อะไรๆที่ควรได้ เขาควรจะอยู่ในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา เมียพันธุ์ด้วนของพ่อน่ะเลิกกับมันได้แล้ว”
“เรยา! ทำไมคุณถึงพูดจาไม่สุภาพแบบนี้”
“สุภาพ...เชอะ สุภาพแบบเมียผู้ดีของพ่อใช่มั้ย ฝากบอกมันด้วยนะว่าต้องไม่สุภาพแบบฟ้าถึงจะท้อง เข้าใจมั้ย สุภาพแบบมันน่ะ คอยอีกสิบชาติก็ไม่ท้อง”
“ฟ้า...ผมไม่เชื่อเลยนะว่าจะได้ยินอะไรอย่างนี้”
“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องฟัง!” พูดเสร็จกดปิดแล้วปาโทรศัพท์ไปห่างตัวอย่างหัวเสีย “บ้าที่สุด คนอะไรบังคับจิตใจทุกอย่าง ไม่ชอบก็ไม่ต้องมา อยู่ไปแบบจืดๆชืดๆกะอีเมียผู้ดีแล้วกัน” บ่นไม่ทันขาดคำ เสียงลูกชายร้องไห้จ้าได้ยินทั้งบ้าน ชวนให้เรยาอารมณ์เสียไปกันใหญ่ เปิดประตูผางออกไปตะโกนสุดเสียง
“แอนนา...แอนนา อย่าให้เขาร้อง เงียบ...เงียบเดี๋ยวนี้ ถ้าเขายังร้องอีก พรุ่งนี้เธอออกไปได้เลย” สั่งเสร็จกลับเข้าห้องปิดประตูปังใหญ่ ไม่ได้สนใจเลยว่าแอนนาจะรู้สึกยังไง จนกระทั่งเช้าวันใหม่เห็นแอนนาหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ออกจากห้องลูกน้อย เรยาถึงกับหน้าเสีย วางถ้วยกาแฟในมือทันที
“แอนนา จะไปจริงๆหรือ”
“เธอไล่ฉันเรยา”
“ฉันขอโทษ...ฉันกำลังหงุดหงิดมาก พ่อหาเรื่องฉันตลอดเรื่องฉันไม่ให้นมลูก...ฉันเบื่อมาก”
“เธอควรจะให้บ้างนะเรยา”
“แอนนา ฉันบอกเธอคนเดียวนะ อย่าบอกพ่อเป็นอันขาด”
“อะไร”
“ฉันรู้สึกว่า...ฉันอาจจะเป็นมะเร็งที่นม”
แอนนาตกใจสุดๆ ซักถามอาการเรยาด้วยความเป็นห่วง โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนเรยาโกหกคำโตเข้าแล้ว
“โอ...มายก๊อด...เธอต้องไปตรวจเร็วๆนะเรยา”
“ฉันไปแน่ เธอรู้อย่างนี้เธอจะโกรธฉันมั้ย”
“ไม่แล้ว...โอ...ถ้าจริง...เรยา...I feel pity. น่าสงสารเหลือเกิน”
ลงทุนแช่งตัวเองขนาดนี้แล้วเรยายังแสร้งบีบน้ำตาให้สมจริง ผลลัพธ์ก็คือแอนนาใจอ่อนยวบหยิบกระเป๋าเดินกลับเข้าห้องไปอย่างเดิม
ooooooo
ที่บ้านเจ้าสัวเชง...เม่งฮวยกำลังอารมณ์เสีย ใส่กรองกาญจน์ที่ดื้อด้านไม่ยอมแต่งงานสักที เคยพูดหลายครั้งแล้วก็ไม่สำเร็จ พอวันนี้มาพูดอีก กรอง- กาญจน์ก็ยังบ่ายเบี่ยงจนน่าโมโห แต่พอเหลือบเห็นลูกชายคนโตเดินเข้ามา ใบหน้าบึ้งๆของเม่งฮวยก็เปลี่ยนเป็นแย้มยิ้ม แทบจะวิ่งเข้าไปกอดลูกชายเสียเองเลยถ้าไม่กลัวล้ม
ก้องเกียรติเดินเข้ามาสวมกอดเม่งฮวยและทักทายกันประสาแม่ลูกผูกพัน ระหว่างนี้เองเสียงรถคันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าบ้าน กรองกาญจน์สีหน้าโล่งใจเพราะไทรรัตน์มารับแล้วเธอจะได้ไปพ้นๆอาม้าเสียที แต่ปรากฏว่าพอไทรรัตน์เดินเข้ามาสวัสดีอาม้าและพี่ชายของเธอแล้ว อาม้ากลับเรียกไทรรัตน์ไว้ซักถามอีกว่า“เมื่อไหร่ลื่อจะแต่งงาน”
“นี่ผมมารับหมวยใหญ่ไปลองชุดแต่งงานครับ อาม้า”
คำตอบของไทรรัตน์เล่นเอาเม่งฮวยอ้าปากค้าง กรองกาญจน์เห็นแล้วอดขำไม่ได้ เดินเข้ามาหยอกอาม้าด้วยการจับปากให้หุบ แล้วแถมด้วยหอมแก้มหนึ่งฟอดก่อนจะเดินนำหน้าไทรรัตน์ออกไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงอาม้าพูดกับลูกชายด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ลูกสาวกำลังจะแต่งงาน
ก้องเกียรติเห็นอาม้ามีความสุขก็รู้สึกดีไปด้วย แต่พออาม้าวกมาถามเขาบ้างว่าเมื่อไหร่จะมีหลานชายให้ตนเสียที เขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบไม่เต็มเสียงนักว่า “อีกไม่นานหรอกครับอาม้า”
เม่งฮวยยิ้มหน้าบาน เรียกอาฮุ้งบ่าวคนสนิทเข้ามาฟังข่าวดีของลูกสาวและลูกชาย แต่สำหรับก้องเกียรตินั้นยิ่งเห็นอาม้ามีความสุขมากเท่าไหร่ เขากลับยิ่งกังวลและหนักใจมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้ว่าเมื่อบอกความจริงเรื่องลูกที่เกิดกับเรยาแล้ว อาม้าจะรู้สึกดีร้ายสักปานใด
ด้านไทรรัตน์กับกรองกาญจน์ที่นั่งรถออกไปด้วย
กันแล้ว ฝ่ายหญิงต่อว่าฝ่ายชายหาเรื่องจริงๆ ทำไมไปพูดกับอาม้าของเธอแบบนั้น บอกว่ากำลังหาฤกษ์ยังจะดีเสียกว่า
“เรามีหน้าที่หาฤกษ์เมื่อไหร่เล่า ผู้ใหญ่เขาต้องหาเอง”
“เฮ้อ...เบื่อจริงๆ”
“หมวยใหญ่ วีกเอนด์นี้บอกอาม้าว่าไปประชุมหัวหินสองวันนะ”
“ทำไม”
“ผมอยากอยู่กับคุณ อยากกอดคุณ อยากจูบคุณ”
“เป็นอะไร พูดจาบ้าๆบอๆ อะไรสิงเหรอ หรือไปเที่ยวแล้วเจอผู้หญิงไม่ถูกใจ”
“ไม่หรอก ผมก็แค่คิดถึงคุณ...” เขาทำตาเชื่อมสื่อความในใจ พลางมองสำรวจเธอจนทั่วตัว “อีกอย่างนะ ผมอยากรู้ว่าคุณน่ะเป็นอะไร ไม่มีอารมณ์รักแล้วเหรอตอนนี้ ยังไม่แก่ เท่าไหร่นี่”
กรองกาญจน์สีหน้าอ่อนใจ ถึงกระนั้นก็ยังถูกเขาตื๊อไม่เลิก เธอเลยตัดรำคาญด้วยการตอบตกลง...