icon member

เสน่ห์นางงิ้ว

ตอนที่ 10

เจียงกำลังคิดหวังว่าชยุติกับบัวจะลงเอยด้วยดี ทันใดดำเกิงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าชยุติเป็นบ้าไปแล้ว จับตัวบัวไป หลอจัดข้าวให้เจียงอยู่ตกใจเป็นห่วงว่าจับไปไหน เจียงแทรก

“จะจับไปไหนก็ไม่ต้องยุ่งกับพวกอีหรอกน่ะ อีเป็นผัวเมียกัน...มันเป็นเรื่องของผัวเมีย”

“ป๊าพูดเหมือนไม่เป็นห่วงบัวเลย”

“ห่วงสิ แต่ความห่วงของเราก็ต้องมีขอบเขต อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่”

“แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งนะป๊า ไอ้ตี๋มันเหมือนคนคลั่ง ต่อยฉันแล้วลากบัวขึ้นรถไป ไม่ฟังเสียงใครเลย”

หลอหวั่นใจบอกเจียงน่าไปดูสักหน่อย เจียงห่วงแต่เชื่อใจชยุติว่าเขาเป็นคนดีรักบัวจริง

ภายในรถที่ชยุติขับไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่สนใจว่าบัวจะถามอะไร จนเธอโมโหถามเสียงเข้มจะพาไปไหน เขาตอบน้ำเสียงเรียบๆ

“ไปที่ไหนก็ได้ ที่มีแค่เราสองคน เข้าใจรึยัง”

“เพื่ออะไรคะ”

“เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเรา...แค่เราเท่านั้น” เสียงชยุติเด็ดขาดจนบัวพูดไม่ออกอีก

เย็นวันนั้น วลีแปลกใจที่ชยุติไม่อยู่ จ๊าดรายงานว่าเขาออกไปตั้งแต่บ่าย ไปไหนไม่ทราบ มาลัยแขวะ จะสู่รู้ทั้งทีก็สู่รู้ไม่หมด ไชโยถามมาลัยว่าชยุติไปไหน เธอปัดไม่รู้ ถึงรู้ก็ไม่บอก วลีกับวลัยหวั่นใจว่าชยุติจะตามไปง้อบัว ทันใดเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าบ้าน 

ทุกคนวิ่งออกไปดู เห็นเจียงและหลอยืนอยู่หน้าประตู ส่วนดำเกิงกำลังโวยวายใส่ชูดวงจะเข้ามาในบ้าน...วลีตวาดถามมาเหยียบที่นี่ทำไม เจียงจึงถามหาบัว ไชโยสวน

“ลูกสาวแกไม่ได้อยู่ที่นี่ อีหอบผ้าหอบผ่อนหนีออกจากบ้านไปแล้ว”

“แต่อาคุณติอีไปหาอาบัว...”

“ไปเอาเรื่องน่ะสิ นี่คิดจะมาเรียกร้องแทนลูกสาว ฝันไปเถอะ ลูกสาวแกทำผิดต่อลูกชายของฉัน สอนลูกยังไงให้คบชู้สู่ชาย” วลีตอกกลับ

ดำเกิงโวยให้เลิกใส่ร้ายบัว กนกวิภาโต้ว่าเขาน่าจะรู้แก่ใจ ทำเป็นตีหน้าซื่อ ทั้งที่เล่นชู้กับบัวในโรงพยาบาลจนทำให้พี่ชายตนต้องถูกคนหัวเราะเยาะทั่วเมืองที่เมียสวมเขา...เจียงกับหลอตกใจ ดำเกิงแก้ตัวว่าไม่จริง ตนกับบัวไม่เคยทำแบบนั้น วลีสำทับว่าชยุติเห็นกับตา บัวถึงได้โดนเฉดหัวออกจากบ้าน ดำเกิงจะเอาเรื่อง เจียงเอ็ดให้หยุด แล้วขอโทษวลีที่มารบกวนก่อนจ้ำกลับไป

กนกวิภาเยาะดำเกิง “ไอ้หมาบ้า! นี่เห็นว่าแกทำผลงานดีนะ เลยไม่เอาน้ำสาดไล่...”

ดำเกิงเข่นเขี้ยวเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกกนกวิภาหลอกใช้... กลับถึงบ้าน ดำเกิงโดนเจียงตำหนิรุนแรงที่เข้าไปวุ่นวายกับบัวจนเกิดเรื่อง แล้วยังดื้อด้านไม่รับผิด ดำเกิงยอมรับว่าทนนิ่งดูดายไม่ได้เพราะสงสารบัว เจียงย้ำอีกครั้งว่า

บัวแต่งงานเป็นคนของตระกูลอื่นไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย ดำเกิงยังเถียงว่าทนเห็นบัวเจ็บปวดไม่ได้

“ลื้อต้องทน! เพราะการกระทำของลื้อมันยิ่งทำให้บัวเดือดร้อน ตอนนี้ไม่รู้ว่าอาคุณตี๋อีเข้าใจอาบัวผิดไปถึงไหนแล้ว” เจียงเสียงเขียว ดำเกิงเถียงอีก

“ให้มันเข้าใจผิดก็ดีเหมือนกัน ให้มันเลิกกับบัวได้ยิ่งดี บัวจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในบ้านใหญ่แต่เฮงซวยนั่นอีก!”

สิ้นคำของดำเกิง เจียงก็ฟาดฝ่ามือเข้าที่หน้าฉาดใหญ่ หลอตกใจ เจียงถามดำเกิงพูดอย่างนี้ออกมาได้อย่างไร ดำเกิงยังไม่สำนึกเถียงอย่างขาดสติ

 “ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเราทุกคนก็เห็นอยู่ว่าบัวไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่แต่งงานกับไอ้ตี๋ ถึงบัวจะยิ้ม แต่น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยตลอด ถ้าป๊าจะบอกว่าไม่เห็น นั่นก็เพราะป๊าตั้งใจที่จะปิดตาตัวเองไว้”

“ทำไมอั๊วต้องปิดตาด้วย”

“เพราะป๊าจะได้ไม่ต้องรู้สึกไง ที่ป๊าเป็นคนส่งบัวไปลงนรก!”

เจียงชะงักเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก หลอเตือนดำเกิงว่าพูดแรงไป ดำเกิงยืนยันว่าตนพูดความจริง ถ้าตนผิดป๊าก็ผิดเหมือนกัน เจียงมองหน้าลูกบุญธรรมอย่างผิดหวัง อดกลั้นสุดๆ

“จนป่านนี้แล้วยังไม่สำนึก ลื้อมันก็โง่เกินคนแล้วไอ้เกิ่ง!”

ดำเกิงหน้าชาวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ มาระบายอารมณ์ชกต่อยกำแพงอยู่ที่หลังโรงงิ้ว เริ่มสำนึกว่าเป็นจริงอย่างที่เจียงพูด แล้วแค้นกนกวิภาขึ้นมาอย่างมาก

ooooooo

เช้าวันใหม่ ชยุติขับรถมาถึงบ้านพักริมทะเล บัวเอนหลับอยู่ที่เบาะรถ เขามองเธอด้วยความรักไม่อยากปลุก เธอตื่นขึ้นเห็นทะเลก็ตกใจถามที่นี่ที่ไหน เขาบอกที่ที่มีแค่เราสองคน

บัวไม่พอใจขอให้ตอบตรงคำถาม ชยุติตอบใหม่ว่าที่นี่คือที่ที่เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน บัวยิ่งงง ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มชวนเธอลงไปที่บ้านไม้หลังเล็กๆ แต่ดูอบอุ่น...ภายในบ้านมีของใช้พร้อม เตียง โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ มีผ้าคลุมกันฝุ่น หน้าต่างถูกเปิดออกให้แสงแดดส่องเข้ามา

“บ้านหลังนี้สวยดีนะคะ เล็กๆแต่ดูอบอุ่นมาก” บัวอดชื่นชมไม่ได้

“อบอุ่นสิบัว เพราะนี่เป็นบ้านแห่งความรักของอากงกับอาม่าของผม...เมื่อก่อนตอนพวกท่านโล้สำเภามาถึงแผ่นดินไทยแรกๆ ที่นี่ก็คือบ้านของพวกท่านล่ะ”

บัวรู้สึกถึงความรัก ความสุขของท่านทั้งสอง...ชยุตินึกถึงระหว่างทางที่มา บัวหลับอยู่ในรถ เขาแวะโทรศัพท์หามาลัย ทำให้ได้มาที่บ้านหลังนี้ แล้วเล่าให้บัวฟังว่า

“อาม่าเล่าให้ผมฟังตลอด ตั้งแต่เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว ต้องกัดก้อนเกลือกิน อดมื้อกินมื้อ จนกระทั่งลืมตาอ้าปากได้ เริ่มมีกิจการเล็กๆที่ท่าเรือ ท่านรักบ้านหลังนี้มากเลยบัว”

“ความทรงจำมากมายที่ลืมไม่ลง...”

“และเราสองคนกำลังจะสร้างความทรงจำดีๆร่วมกันที่บ้านหลังนี้เหมือนกับที่อาม่าและอากงเคยสร้างไว้”

บัวมองชยุติอย่างเข้าใจเขามากขึ้น เขากุมมือเธอด้วยความทะนุถนอม ขอโทษที่ทำร้ายความรู้สึกเธอ ขอโทษที่ดูแลเธอไม่ดีพอ ทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ นับจากนี้จะขอทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ขอโอกาสให้เขาได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

“แน่ใจเหรอคะ ฉันเพิ่งถูกตราหน้าว่าเป็นภรรยาที่คบชู้อยู่เลย”

“ผมไม่เคยเชื่อคำพูดพวกนั้น ผมรู้ว่าคุณรักเกิ่งอย่างพี่ชายคนหนึ่ง”

บัวย้อนถามแล้วเขาต่อยดำเกิงทำไม ชยุติยิ้มอายๆ ยอมรับว่าอิจฉาที่ดำเกิงได้ความรักและความใกล้ชิดจากเธอ ในขณะที่ตนก็ต้องการกำลังใจจากเธอเพราะต้องรับความกดดันทุกด้าน ตนเหมือนเด็กขี้อิจฉาใช่ไหม บัวเริ่มเห็นใจเอามือลูบแก้มเขาปลอบ

 “อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ป๊าสอนว่าชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าคุณผิดฉันเองก็ผิดด้วย...ฉันจะให้โอกาสคุณ”

ชยุติดีใจ ตั้งใจจะค่อยๆสร้างทุกอย่างด้วยกัน 

บัวหยั่งเชิงว่าการเริ่มต้นจากศูนย์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาพร้อมสู้ถ้ามีเธอ บัวรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องลำบาก ชยุติโอบกอดบอกไม่ลำบากกลับมีความสุขด้วยซ้ำ แล้วนึกได้ผละออกบอกกลัวโดนตัดคะแนน บัวแอบขำที่เขายังรักษาสัญญา

ooooooo

วันต่อมา เจียงแทบทรุดอีกเมื่อพบจดหมายลาของดำเกิง...ด้านกนกวิภาไม่สะทกสะท้านกับเรื่องวุ่นวายในบ้าน นัดเพื่อนเที่ยวสบายใจ และได้เงินตอบแทนที่ทำให้ชยุติเลิกกับบัวสำเร็จ ไชโยเห็นว่าลูกสาวเรียนจบไม่น่าปล่อยให้เที่ยวตะลอนๆ น่าจะให้มาช่วยงานในโรงงาน แต่วลีกลับเห็นว่าไม่จำเป็นต้องหางานให้ลูก หาคู่ครองให้จะดีกว่า

กนกวิภาเดินกรีดกรายช็อปปิ้งก่อนไปพบเพื่อนๆ มีมือหนึ่งมาฉุดลากเธอไป เธอตกใจมองหน้าจะกรีดร้อง แต่โดนปิดปากเอาตัวขึ้นรถของเธอเองขับออกไป

บ่ายวันนั้น ชยุติโทรศัพท์กลับมาบ้าน ภาวนาขอให้เป็นจี๊ดที่รับสาย...เสียงโทรศัพท์ดัง จ๊าดเดินมาจะรับ แต่จี๊ดถึงก่อนชิงรับสาย ชยุติดีใจมากรีบบอกให้เธอฟังอย่างเดียว เพื่อไปบอกมาลัยว่าเขากับบัวสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง จ๊าดมองอย่างสงสัยถามใครโทร.มา 

จี๊ดโกหกว่าพวกโรคจิตแล้วทำทีด่าก่อนจะวางสาย จ๊าดไม่เชื่อรีบรายงานวลี วลีเค้นถามจี๊ด มาลัยโผล่มาช่วย

“อาจี๊ด อั๊วบอกให้ไปหาที่ห้องตั้งนานแล้วทำไมยังไม่ไป ต้องให้อั๊วมาตามมันใช้ได้หรือ”

จี๊ดรีบขอโทษและขอตัวไปรับใช้อาม่า วลีหงุดหงิด จ๊าดเสนอหน้าอาสาจะไปสืบมาให้...ส่วนจี๊ดเข้ามาในห้องมาลัยก็รายงานตามที่ชยุติส่งข่าว มาลัยให้จี๊ดไปบอกเจียง จะได้เลิกเป็นห่วง

เย็นวันนั้นจี๊ดจึงเอาอาหารที่มาลัยทำไปฝากเจียง เพื่อส่งข่าวว่าบัวปลอดภัยดี อยู่กับชยุติแต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน จ๊าดสะกดรอยตามอย่างสงสัย ยิ้มย่องที่มีข่าวกลับไปให้วลีอีกจนได้

ขณะเดียวกัน ครอบครัวยิ่งจันทร์ได้ไปไถ่เอาเครื่องไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์กลับมา แสงเดือนกับล้วนขอบคุณความโง่ของวลีกับไชโยที่หลอกง่ายดาย ยิ่งจันทร์ชื่นชมว่าพ่อกับแม่ปลิ้นปล้อนเก่ง ทั้งสองไม่สะทกสะท้านคิดแผนจะรวบรัดชยุติให้แต่งงานจดทะเบียนกับยิ่งจันทร์โดยเร็ว ก่อนที่ต่อมฉลาดของสองคนนั้นจะทำงาน

ด้านชยุติส่งข่าวเสร็จก็หิ้วถุงอาหารสดพะรุงพะรังกลับมา บัวมีความกังวลว่าการหนีมาแบบนี้ไม่รู้ว่าสร้างปัญหาให้ใครบ้าง ชยุติปลอบไม่ต้องกังวล เราพร้อมเมื่อไหร่จะกลับไป บัวถามว่าเมื่อไหร่ เขาบอกเมื่อมีอาตี๋อาหมวยน้อยแล้ว บัวถลึงตาใส่ว่าเขาอย่าคิดไปไกล... ทั้งสองมีความสุขกับการทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านร่วมกัน ชยุติแอบวาดรูปบัวในทุกอิริยาบถ...

ด้านกนกวิภาถูกมัดมือมัดตัวติดกับเบาะรถ เธอร้องโวยวายตลอดทางจนดำเกิงต้องถอดเสื้อตัวเองมัดปากเธอไว้...ทางบ้านกนกวิภาเริ่มเป็นห่วงที่ค่ำมืดแล้วเธอยังไม่กลับ จ๊าดปรี่เข้ามารายงานว่าชยุติอยู่ที่บ้านบัว ตนเห็นจี๊ดไปส่งข้าว วลีครุ่นคิดด้วยจิตใจร้อนรุ่ม

ด้วยความเหนื่อยทำให้กนกวิภาหลับทั้งที่ถูกมัดอยู่กับเบาะรถ พอถึงหมู่บ้านประมงดำเกิงแกะผ้าปิดปากเธอออกแล้วตบแก้มให้ตื่น เธอสะดุ้งร้องลั่น มองไปรอบๆ มีแต่ความมืดก็ตกใจกลัวไม่ยอมลงจากรถ ดำเกิงจึงลากถูลู่ถูกังลงมา เหวี่ยงเข้าไปในบ้านเช่าเก่าๆอย่างแรง เธอร้องด้วยความเจ็บแล้วถามเขาต้องการอะไรจะเรียกค่าไถ่หรือ ดำเกิงหัวเราะเยาะ เธอยิ่งมั่นใจ

“อย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด ไอ้สารเลว! คนอย่างแกมันเกิดมาเพื่อเป็นโจรแท้ๆ”

“มันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด คนอย่างเธอมันไม่คิดอะไรไกลไปกว่าเรื่องเงินหรอก สงสัยป๊ากับม้าเธอให้เธอกินเงินแทนข้าว สมองถึงได้มีแต่สนิม”

“อ๊าย...ไอ้หมาบ้า!”

“เออ! ฉันมันโจร แล้วไอ้ตี๋พี่ชายเธอล่ะ มันต่างกันตรงไหนวะ ในเมื่อมันเอาบัวไปได้ แล้วทำไมฉันจะเอาเธอมาบ้างไม่ได้!”

กนกวิภาขู่ว่าป๊าม้าตนจะต้องเอาเขาเข้าคุก ดำเกิงไม่กลัวบอกตอนนี้ตนเป็นโจร เธอต้องทำตามที่ตนสั่งว่าแล้วก็หัวเราะใส่หน้าหญิงสาว เธอร้องกรี๊ดๆด่าเขาไอ้หมาบ้าโรคจิต

คืนนั้นวลัยผล็อยหลับอยู่ที่โซฟา ฝันร้ายว่ากนกวิภาถูกโจรจับตัวไป สะดุ้งตื่นร้องเอะอะโวยวายจนวลีกับไชโยตกใจวิ่งมา ทันใดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วลีดีใจคิดว่าเป็นชยุติ แต่พอรับสายเป็นเสียงกนกวิภาบอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนๆจะอยู่ค้างหลายวันไม่ต้องห่วง น้ำเสียงเธอเหมือนจะร้องไห้ แต่วลีไม่ทันสังเกต มัวแต่ซักถามว่าเพื่อนที่ไหนรวยหรือจน ไม่ทันได้คำตอบสายขาดไป

ดำเกิงดึงโทรศัพท์จากมือกนกวิภามาวาง เธอดิ้นพราดร้องไห้...ด้านวลีโล่งใจเรื่องลูกสาวแต่ยังเครียดเรื่องลูกชาย

ในคืนนั้น ชยุติล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อนจากการทำความสะอาดบ้าน บัวพยายามหากิจกรรมทำง่วนจนผิดสังเกต ชยุติชวนให้เธอนอนบนเตียงข้างๆ เธอติงไม่ทันข้ามคืนก็ลืมกฎ เขาหัวเราะบอกไม่ได้ลืมและไม่ได้คิดจะล่วงเกินเธอ แต่บ้านนี้มีเตียงนอนเดียว เธอคงไม่คิดให้เขานอนพื้นได้ลงคอ บัวเน้นหนักแน่นว่าเขาต้องนอนพื้น ชายหนุ่มบ่นอุบ

“ทำงานเหนื่อยทั้งวันยังต้องนอนพื้นแข็งๆ หลังจะหักไหมนะ...” บัวถามบ่นอะไร เขารีบปฏิเสธแล้วลงไปนอนกับพื้นอย่างว่าง่าย บัวแอบขำก่อนจะปิดไฟนอนบนเตียงอย่างอ่อนเพลีย

ต่างกับกนกวิภาที่ถูกดำเกิงมัดมือติดกับขาเตียง ให้เธอนอนกับพื้น ส่วนเขานอนบนเตียงอย่างสบาย เธอพยายามจะแก้มัดตัวเองแต่เขาก็ตื่นขึ้นมาขวางทุกครั้ง เธอจึงโวยว่าหิว ตั้งแต่เขาจับเธอมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ชายหนุ่มนึกได้ เข้าไปหยิบกล้วยในครัวมาโยนให้

“ไม่มีข้าวหรอกนะยัยหมวย กินกล้วยไปก่อนแล้วกัน”

กนกวิภาโวยอีกว่าจะกินอย่างไรถูกมัดมือแบบนี้ ดำเกิงไม่ยอมแก้มัดให้กลับป้อนเธอเองแม้เธอจะยึกยักขัดขืนก็ตาม

ขณะเดียวกัน วลีทนไม่ไหวเข้ามาถามมาลัยในห้องว่าชยุติอยู่ที่ไหน เธอปัดไม่รู้ลูกเดียว วลีไม่เชื่อเพราะชยุติจะคุยกับอาม่าทุกเรื่อง มาลัยย้อนว่า ถ้ารู้คงไปตามเขากลับมาแล้วไม่รอให้ต้องถาม วลีไม่วายโทษที่ชยุติเป็นแบบนี้เพราะอาม่าให้ท้ายจนเอาแต่ใจไม่คิดถึงหัวอกพ่อแม่

มาลัยสวนทันที “แล้วลื้อล่ะ เคยนึกถึงหัวอกลูกบ้างไหม ไม่ใช่เพราะลื้อหรอกเรอะที่บังคับลูกมันจนเกินไป ทำให้ลูกอึดอัดหายใจไม่ออก จนไม่อยากจะอยู่บ้านนี้”

“ม้า! นี่ม้าจะโทษว่าเป็นความผิดของหนูเหรอ หนูผิดเหรอที่หนูอยากให้ลูกได้ดี”

“ผิดหรือถูกลื้อรู้อยู่แก่ใจ เพราะถ้ามันถูกทำไมลูกของลื้อมันถึงไม่มีความสุขล่ะ”

วลีเสียงกร้าวหาว่ามาลัยรู้แต่ไม่ยอมบอกว่าชยุติอยู่ไหน เข่นเขี้ยวจะสืบหาเองให้ได้ มาลัยข่มความเสียใจกับนิสัยก้าวร้าวของลูกสาว และนึกเป็นห่วงหลานชายกับบัวเหมือนกัน

เสน่ห์นางงิ้ว

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด