icon member

หวานใจกับนายจอมหยิ่ง

ตอนที่ 18

จอมใจสลัดความทุกข์ในใจไปจัดการเรื่องอาหารให้ประกิตตามปกติ แต่พอได้ยินชัชวินบอกเล่าว่าเมื่อคืนทศวินอยู่กับแก้วใสที่บ้านจนดึก จอมใจก็มิอาจเก็บกลั้นความเสียใจไว้ได้ ขณะที่ชัชวินเองก็ผิดหวังในตัวแก้วใสและทศวิน พอทศวินก้าวเข้ามา ชัชวินจึงประชดเขาด้วยการชวนจอมใจไปกินเค้กร้านเดิมตอนเลิกงานเย็นนี้

ทศวินไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากผลุนผลันออกจากห้องไปทันที จอมใจจะเรียกก็ไม่กล้า หันกลับมามองชัชวินยิ้มสะใจอย่างเอือมๆ

พอไปถึงโรงแรมเจอแก้วใส ชัชวินแขวะเรื่องเมื่อคืน แก้วใสไม่อยากต่อล้อต่อเถียงจะเดินหนี ชัชวินยิ่งฉุน ขึ้นเสียงว่าเขาน่ารังเกียจมากนักหรือ เธอถึงต้องหนีหน้า อุไรริสาที่กำลังจะก้าวเข้ามา รีบหลบแอบฟัง

"แก้วไม่ได้รังเกียจคุณ แต่คุณก็รู้เหตุผลที่เราไปกันไม่ได้"

"แล้วกับไอ้ทศล่ะทำไมไปกันได้ ไปกันถึงไหนๆแล้วล่ะ"

"คุณชัช!!"

"เมื่อวานฉันเห็นเธอโอบกอดมันลากมันเข้าบ้าน ฉันถามจริงเถอะแก้วใส ไอ้ทศมันให้เธอเท่าไหร่ เธอถึงได้พิศวาสมันขนาดนั้น"

พูดขาดคำ ฝ่ามือแก้วใสกระทบหน้าเขาดังฉาด โทษฐานที่ดูถูกเธออย่างรุนแรง

"ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดถูกจริงๆ ที่ขอเลิกกับคุณ" แก้วใสพูดจบก็ผละไปทันที ชัชวินหันรีหันขวางด้วยความเจ็บใจ อุไรริสาที่แอบฟังนึกไม่ถึงว่าอุตส่าห์วางแผนสกัดดาวรุ่งอย่างจอมใจไปได้คน หนึ่งแล้ว ยังจะมีแก้วใสลงแข่งแย่งชิงทศวินด้วยอีกคน

หลังจากนั้น อุไรริสาและพวกลลิลก็พากันมาดักแก้วใสและกุลตรงล็อกเกอร์เก็บของ อุไรริสาเปิดฉากคาดคั้นแก้วใสเมื่อคืนไปไหนกับทศวิน  แก้วใสสวนนิ่งๆ  ว่าเธอไม่จำเป็นต้องบอก ลลิลยิ้มหยันก่อนพูดสองแง่สองง่ามว่าแก้วใสลากทศวินเข้าบ้าน แก้วใสและกุลทั้งโกรธทั้งตกใจ ปรามลลิลว่าไม่รู้จริงแล้วอย่าพูด นิลรัตน์สวนทันควันว่าทำไมจะไม่จริง พี่ริสาเขาได้ยินกับหู...แล้วอุไร ริสายังหาว่าพวกแก้วใสจงใจมาจับผู้ชาย ไม่ได้ตั้งใจจะฝึกงานอย่างที่เห็น กุลเถียงคอเป็นเอ็นไม่ยอมรับ ทันใดประตูห้องเปิดผลัวะ จอมใจที่ฟังอยู่นานก้าวออกมาจัดการจนพวกนางมารแตกกระเจิง ส่วนกุลเดินตัวปลิวหนีไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าจอมใจ แก้วใสเองก็ขยับจะไป แต่ถูกจอมใจเรียกไว้ เธออยากรู้เรื่องที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้

"เรื่องที่คุณทศอยู่บ้านฉันเมื่อคืนนี้น่ะเหรอ" จอมใจรับว่าใช่ แก้วใสนิ่งไปนิดก่อนตัดสินใจตอบ "คุณทศเขาบอกว่าอยากอยู่กับฉัน อยากดูแลฉัน รู้แบบนี้แล้วก็อยู่ห่างๆคุณทศซะ"

จอมใจอึ้งจนพูดไม่ออก แก้วใสรีบหลบตาเดินหนีไปทันที

ooooooo

ปัญหาหัวใจรุมเร้าจนชัชวินไม่มีกะจิตกะใจทำงาน แล้ววันนี้เขาถึงกับมีปากเสียงกับลูกค้า เป็นเหตุให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหายขาดรายได้ไปจำนวนไม่น้อย ยุบลโกรธมากถึงกับเรียกชัชวินมาตำหนิและจะให้หยุดการทำงาน พร้อมกันนี้ก็ให้ทศวินรีบไปเจรจาแก้ปัญหากับลูกค้า เพลินจิตหน้าเสียกลัวลูกชายหมดโอกาสและพลาดหวังจากตำแหน่งประธาน   รีบขอโทษและขอร้องยุบลเป็นการใหญ่

"คุณแม่คะ เพลินขอโทษแทนตาชัชด้วยนะคะ แต่อย่าเพิ่งตัดโอกาสหลานเลย ขอให้ตาชัชแก้ตัวนะคะ"

"ถ้าเป็นเรื่องจีเอ็มคงไม่ได้แล้ว เพราะคุณแม่ให้เรียกจีเอ็มกลับจากพักร้อนด่วน ตัวเขาก็ไม่มีปัญหา คงจะกลับมากับไฟลท์พรุ่งนี้ดึกๆ" สุมนาชี้แจง...พอดีทศวินกลับเข้ามารายงานผลการเจรจาว่าตนพยายามต่อรองกับแขก แล้ว แต่เขายืนยันที่จะยกเลิกสัญญากับเรา...ยุบลจ้องหน้าชัชวินอย่างโกรธจัด

"พรุ่งนี้ฉันจะประกาศกับคณะกรรมการว่า ทศวินเป็นคนชนะ และจะได้เป็นประธานของสยามธาราและธุรกิจในเครือทั้งหมดต่อจากฉัน ตาทศ พรุ่งนี้เตรียมตัวเรียนงานกับย่า"

ทศวินรับคำ...ทันใดชัชวินก็ลุกเดินไปกราบแทบเท้ายุบล เขายอมรับผิดทุกอย่าง แต่ขอโอกาสทำงานอีกครั้ง

"อีกครั้งเหรอ คราวนี้แกจะทำพังอีกกี่ล้าน"

"ครั้งนี้ผมจะตั้งใจทำทุกอย่างให้เต็มที่ และผมจะต้องชนะครับ"

เพลินจิตเห็นดังนั้น ช่วยอ้อนวอนอีกแรง ยุบลนิ่งคิดก่อนตัดสินใจ

"ได้ ย่าจะให้เราสองคนเสนอโปรเจกต์ปรับปรุงโรงแรม ถ้าของใครได้ทำ คนนั้นจะได้เป็นประธานคนต่อไป"

เพลินจิตยิ้มออก ชัชวินจ้องหน้าทศวินอย่างเอาเรื่อง มาดหมายว่าต่อไปนี้ทศวินจะต้องเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งเรื่องงานและความรัก แล้วพอกลับออกไปก็บอกกับแม่ที่พาลลิลหน้าระรื่นมาหารือเรื่องหมั้นว่า คนที่เขาจะหมั้นด้วยต้องเป็นจอมใจเท่านั้น ถ้าแม่อยากให้เขาชนะทศวิน...

ลลิลโกรธแทบกรี๊ด...แล้วจากนั้นไม่นานเรื่องก็รู้ถึงหูลลิตา เพลินจิตเลยต้องเดือดร้อนอีกครา

"ฉันไม่ยอมนะเพลิน เธอจะมาทำแบบนี้กับฉันกับลูกไม่ได้ เรื่องงานก็ไม่สำเร็จ หนี้สินฉันก็ยกให้เธอ แล้วอะไร ทำไมจู่ๆนายชัชวินถึงมาหักหลังกันแบบนี้"

"ลิตา ใจเย็นๆก่อนนะ"

"เรื่องแบบนี้ลิลก็เย็นไม่ไหวหรอกค่ะคุณน้า"

"ถ้าลูกฉันไม่ได้แต่งงานกับลูกเธอ ฉันจะแฉเรื่องที่เธอกับฉันเคยร่วมมือกันให้หมด"

สองแม่ลูกประกาศศักดาแล้วพากันลุกหนีไปทันที อุไรริสาที่นั่งอยู่ด้วยได้ทีรีบสับจอมใจ

"เห็นไหมคะคุณน้า นังจอมใจนี่มันร้ายขึ้นทุกวัน เมื่อวานอ่อยคุณวิน วันนี้ก็คุณชัช แล้วจะให้ริสาหมั้นอีกเหรอคะ...ริสาไม่กินน้ำใต้ศอกใครนะคะ"

"ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ น้าเตรียมแผนกำจัดมันแล้ว"

ooooooo

แล้วแผนอันลึกล้ำแต่ไม่รอบคอบของเพลินจิตก็เริ่มขึ้น เพลินจิตให้พนักงานคนหนึ่งแอบเอาแจกันเก่าแก่ของลูกค้าไปใส่ในล็อกเกอร์ จอมใจเพื่อโยนความผิดให้ แต่ทศวินกับอัศวินทำการสอบสวนจอมใจ ประกอบกับมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด  จึงยังสรุปเอาผิดจอมใจไม่ได้ ต้องรอตรวจสอบกันอีกครั้ง

"พวกเธอมันบ้า คนผิดอยู่ตรงหน้ากลับพยายามหาทางช่วย" เพลินจิตโวย

"ผมต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคนครับ ตกลงจะว่า ยังไงครับ ผมจะได้เรียนคุณย่าถูก"

เพลินจิตโมโหเดินออกไปเลย ทุกคนมองตามงงๆ ทศวินจึงสรุปว่า อาเพลินคงไม่เอาเรื่องแล้ว จอมใจรีบขอบคุณทศวิน แต่เขากลับบอกว่าทำตามหน้าที่ จอมใจถึงชะงักด้วยความน้อยใจ

"ฉันทราบ คุณพูดแบบนี้บ่อยแล้ว...ถ้าเป็นแก้ว คุณคงทำด้วยความรู้สึกอีกอย่าง"

ทศวินฟังแล้วอึ้งไปเหมือนกัน...ฝ่ายเพลินจิตที่หัวเสียกลับออกไปกำลังพลุ่ง พล่านด้วยความคับแค้น บ่นกับอุไรริสาว่า นังจอมใจมันดวงแข็งจริงๆ

"ริสาคิดไม่ถึงเลยว่าคุณทศจะเข้าข้างมันขนาดไปเอาหลักฐานกล้องวงจรปิด"

"ไม่รู้นังนี่มันมีดีอะไร ถึงรุมกันรักมันนัก ทั้งตาทศ ตาชัช ตาวิน"

"มันจะมีดีอะไรก็ช่างมัน แต่ริสาจะไม่ให้มันสมหวังแน่ๆ"  อุไรริสาคำราม ดวงตาลุกโชนน่ากลัวกว่าเพลินจิตหลายเท่า...

ooooooo

ทศวินได้รับเอกสารรายละเอียดงบประมาณและการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ตอนพ่อทศ วินยังมีชีวิตอยู่จากสุมนา แต่เรื่องงบประมาณคงใช้ไม่ได้ เพราะผ่านไปยี่สิบปี ราคามันเปลี่ยนไปเยอะ

"ขอบคุณมากครับคุณอา ผมจะได้เอาไว้ดูอ้างอิง"

"ส่วนพวกเรื่องการหาบริษัท การประกวดราคา อะไรพวกนี้อาไม่มีหรอก เพราะสมัยพ่อเธออยู่เขาก็ทำกับอาประกิต แล้วก็มีเพลินจิตช่วย"

"งั้นก็แสดงว่าเหลือแค่อาเพลินคนเดียวที่ให้รายละเอียดผมได้"

"แต่อากลัวเขาจะไม่บอกน่ะสิ เพราะยังไงเขาก็ต้องช่วยตาชัช"

"ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับผมไม่มีหวัง"

"ก็ไม่ถึงกับเป็นศูนย์ มันมีอีกคนที่รู้เรื่องนี้แต่ไม่รู้จะช่วยเราได้แค่ไหนนะ"

บุคคลที่สุมนากล่าวถึงก็คือบดีพ่อของจอมใจนั่นเอง... เย็นนั้นทศวินจึงไปพบบดีถึงบ้าน ซึ่งบดีก็ยินดีตอบและให้ ข้อมูลตามความเป็นจริง

"แล้วทำไมตอนนั้นบริษัทคุณอาถึงประมูลไม่ได้ล่ะครับ"

"ไม่ใช่ประมูลไม่ได้ ผมยังไม่ได้ยื่นซองเลยด้วยซ้ำ เพราะเพลินจิตเขาขวางไว้"

"อาเพลินขวางทำไมครับ"

"ผมกับเพลินเคยคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตั้งใจว่าเรียนจบจะแต่งงานกัน แต่ที่บ้านผมส่งผมไปเรียนต่อเพลินเขาโกรธมาก คิดว่าพ่อแม่ผมกีดกัน เขาก็เลยไปแต่งงานกับคุณประกิต"

"ตั้งแต่นั้นอาเพลินก็เลยไม่ชอบหน้าคุณอาและครอบครัว"

"ใช่ แต่คุณพ่อคุณแม่ผมสนิทกับคุณยุบล เมื่อมีการประมูลโครงการตกแต่งโรงแรม ท่านก็จะให้เกียรติเชิญบริษัทผมเข้าร่วมประมูล เพลินรู้เรื่องเลยขอให้ผมถอนตัว"

"ที่จริงอาเพลินไม่น่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานเลยนะครับ"

"ผิดแล้วคุณทศ เรื่องส่วนตัวผมว่าเป็นแค่ข้ออ้าง งบประมาณที่ผมเสนอถูกกว่าบริษัทที่เพลินเขาหามาทั้งหมด"

"งบประมาณเหรอครับ คุณอายังมีเอกสารพวกนั้นไหมครับ"

"คงต้องใช้เวลาหาหน่อยนะ คุณทศรอได้ไหมครับ ผมจะให้เลขาฯหาให้"

ทศวินยิ้มกว้างอย่างมีหวัง ยกมือไหว้ขอบคุณบดีทันที

ooooooo

เย็นวันเดียวกัน สุมนาเข้ามาเห็นอัศวินในสภาพซึมเศร้าหงอยเหงา เธอทั้งเข้าใจและสงสารลูกชาย จึงไม่คิดจะบังคับใจอีกต่อไป  อนุญาตให้คบกับกุลต่อไปได้ คุณยายเองก็ไม่ว่าอะไรแล้ว...อัศวินตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด รีบไปหากุลถึงบ้าน กลับถูกแม่ของกุลขัดขวางขับไล่ อัศวินยอมถอยออกมา แต่บอกตัวเองว่า ไม่ยอมแพ้อีกแล้ว...

ส่วนทศวินที่ได้เอกสารงบประมาณตกแต่งโรงแรมมาจากบดี พอกลับถึงบ้านก็เอามาเปรียบเทียบกับที่ได้จากอาสุมนา พร้อมกันนี้ก็นึกถึงคำพูดของบดีที่ว่า

"ที่ผมมั่นใจว่าเพลินจิตโกง ก็เพราะว่าตอนแรกที่เราจะเสนอราคา เราใช้วัสดุนำเข้าทั้งหมด แต่คุณปกรณ์กับคุณประกิตเปลี่ยนใจอยากใช้วัตถุดิบพื้นเมืองเป็นหลัก แต่ราคาหลังการประกวดกลับแพงกว่าของผมมาก" พอทศวินถามว่า พ่อของเขาทราบเรื่องนี้ไหม บดีก็ตอบว่า "รู้สิ ทั้งคุณปกรณ์กับคุณประกิตรู้ทั้งคู่ แต่มันทำอะไรไม่ได้เพราะเซ็นสัญญาไปแล้ว ผมก็น้ำท่วมปาก จะพูดก็ไม่ใช่เรื่อง และหลังจากนั้นคุณพ่อ คุณก็เสีย เรื่องนี้ก็เงียบไป"

ทศวินนั่งดูเอกสารอย่างละเอียดแล้วคิดหนัก แต่ค่อนข้าง แน่ใจว่าอาเพลินต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...

สายวันรุ่งขึ้น ทศวินแอบพาประกิตไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล จอมใจเข้างานตอนบ่ายจึงแวะมาดู แล้วขณะที่ ประกิตไปทำกายภาพกับเจ้าหน้าที่ สองคนเกิดทุ่มเถียงกันด้วยเรื่องชัชวินกับแก้วใสที่ทศวินกำลังเข้าใจเธอผิด แต่ทศวินไม่อยากฟังคำอธิบาย จอมใจเลยฮึดฮัดโมโห แต่ไม่ทันจะพูดอะไรอีก เจ้าหน้าที่ก็ออกมาบอกทั้งคู่ว่า

"วันนี้คุณประกิตดีขึ้นมากครับ แขนเริ่มมีกำลังขึ้นเยอะ ว่างๆก็ลองให้ท่านเขียนหนังสือบ่อยๆนะครับ    อ้อ     เมื่อกี้แผนกไตแจ้งว่าคุณหมอกลับมาแล้วครับ ถ้าจะไปพบวันนี้ก็ได้นะครับ"

ทศวินกับจอมใจยุติปัญหาส่วนตัวกันทันที รีบพาประกิตไปพบคุณหมอที่แผนกโรคไต

"โดยทั่วไปก็ดีขึ้นมากนะครับ แต่ผมว่าน่าจะดีกว่านี้นะ ไม่ทราบว่ายาบำรุงต่างๆที่ผมสั่งไว้ก่อนไปนอก   คุณประกิต ได้ทานครบหรือเปล่าครับ"

สองคนมองหน้ากันงงๆ ไม่เคยรู้เรื่องยาบำรุงมาก่อน ครั้นพาประกิตกลับมาถึงบ้านพร้อมยาบำรุงที่หมอให้มาใหม่ จอมใจถามทศวินว่าจะเอายังไงกับยานี้ ทศวินบอกว่าเราคงต้องแอบให้

"อาคุณนี่ร้ายกาจมากนะ แบบนี้มันเท่ากับฆ่ากันให้ ตายทั้งเป็น"

"จอมใจ..." ทศวินปรามทันที จอมใจนึกได้ว่าประกิตนั่งฟังอยู่ จึงยกมือไหว้ขอโทษ ประกิตสีหน้าเหมือนรับรู้ พลาง กระดิกนิ้วมือส่งสัญญาณว่าอยากเขียนหนังสือ ทศวินจึงรีบหา กระดาษกับปากกามาให้ แล้วช่วยจับมือคุณอาให้ด้วย ประกิตพยายามอย่างยากลำบากเขียนคำว่า "เพลินให้ตาย" ทศวินกับจอมใจตะลึงอย่างคาดไม่ถึง

"เพลินให้ตาย...หมายความว่าไงครับ อาเพลินอยากให้คุณอาตายงั้นเหรอ"

"เห็นไหม ฉันว่าแล้ว...ฉันว่าทิ้งอาคุณไว้แบบนี้ไม่ได้นะ คงกะว่าอาคุณจะค่อยๆไปเพราะพิษในอาหาร"

"คุณอาครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่ยอมให้ใครทำอะไรคุณอาอีกแล้ว"

หลังจากนั้นทั้งคู่ออกจากบ้านไปพร้อมกัน และแวะกินข้าวก่อนเข้าทำงาน ทศวินขอโทษจอมใจที่เข้าใจผิดทั้งเรื่องอัศวินและชัชวิน

"คุณเชื่อฉันเหรอ" จอมใจย้ำให้แน่ใจ

"แล้วเธอจะเชื่อฉันเรื่องแก้วไหม ถ้าฉันจะบอกอีกครั้งว่าฉันไม่เคยคิดอะไรกับแก้ว"

"แต่แก้วคงชอบคุณมาก"

"เรื่องแบบนี้บังคับใจใครไม่ได้หรอก ยกเว้นถ้าเธอจะบังคับให้ฉันชอบแก้ว"

"แล้วถ้าฉันขอให้คุณชอบแก้วล่ะ แก้วเป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันอยากเห็นแก้วมีความสุข"

ฟังคำขอของจอมใจแล้วทศวินถึงกับวางช้อนอิ่มทันที...

หลังจากนั้นเข้ามาทำงาน จอมใจพยายามไม่อยู่ใกล้ ทศวิน แต่คอยแอบมองหน้าเศร้ายามที่เขาใกล้ชิดแก้วใส...ส่วนเพลินจิตที่เห็นทศวิน จริงจังกับงานค้นคว้าหาข้อมูลไม่ได้หยุดหย่อน ก็กลัวว่าชัชวินจะพ่ายแพ้ จึงหารือกับวิชาเพื่อหาทางเอาชนะทศวินให้ได้ เพราะเหลือเวลาอีกสองวันเท่านั้นที่ทั้งคู่ต้องนำเสนอแผนการปรับปรุงโรงแรม ต่อคณะกรรมการทุกคน

วิชาเสนอให้ใช้ทางลัดโดยให้ยุทธแอบไปขโมยข้อมูลที่ทศวินเตรียมไว้พร้อมแล้ว เมื่อทศวินรู้ว่าเอกสารทั้งหมดหายไปก็ทำอะไรไม่ทันเสียแล้ว ฝ่ายชัชวินที่ตอนแรกรู้สึกละอายใจเหมือนกันกับวิธีนี้ แต่คิดไปคิดมาเพื่อชัยชนะ ซึ่งเขาจะต้องชนะทศวินทุกอย่างทุกเรื่อง จึงสลัดความรู้สึกนั้นทิ้ง แล้วเดินหน้านำเสนองานในที่ประชุมจนได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการ แต่พอถึงคิวทศวินบ้าง ทศวินกลับทำให้หลายคนแปลกใจ โดยเฉพาะคุณย่า คุณอาสุมนาและอัศวิน

"ผมต้องขอโทษทุกท่านด้วย สำหรับวันนี้ผมไม่มีอะไรจะเสนอครับ"

"นี่นายล้อเล่นหรือเปล่า" อัศวินกระซิบ

"ผมขอโทษอีกครั้งครับ"

ในเมื่อทศวินยืนยันคำเดิม คุณยุบลจึงสรุปทันทีว่าชัชวินคือประธานของสยามธารากรุ๊ปคนต่อไป...ครั้นออก จากห้องประชุม ทั้งย่าทั้งอาก็ซักฟอกทศวินว่าเกิดอะไรขึ้น ย่าไม่อยากเชื่อว่าทศวินจะเหลวไหล ส่วนอาก็เห็นตำตาว่าทศวินเก็บข้อมูลเยอะแยะ ทุ่มเททั้งกลางวันกลางคืน แต่ทำไมถึงไม่มีงานนำเสนอ

ทศวินรู้แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่อยากอธิบายให้ ร้ายชัชวิน จึงได้แต่ขอโทษย่าและอาอีกครั้ง ส่วนชัชวินที่ได้รับตำแหน่งประธาน พอลับหลังทศวิน เขากลับไม่ดีใจเท่าที่ควร จอมใจพอรู้ข่าวนี้จากชัชวินก็ใจแป้ว แอบสงสารทศวิน ครั้นตกเย็นจอมใจไปทำอาหารให้ประกิตที่บ้านและได้เจอทศวิน เธออดถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้

"ฉันรู้เรื่องวันนี้แล้ว ทำไมคุณถึงไม่มีโปรเจกต์เสนอ"

"ช่างมันเถอะ ฉันมาที่นี่ก็ไม่ได้อยากได้ตำแหน่งอยู่แล้ว"

จอมใจถอนใจเฮือก บ่นเสียดายโอกาส ทศวินไม่อยากพูดถึงอีก เปลี่ยนเรื่องถามหาอาเพลินจิต

"เห็นคุณชัชบอกว่าวันนี้จะพาไปฉลองตำแหน่งประธาน" จอมใจพูดขาดคำ ทศวินก็ตรงดิ่งเข้าหาอาประกิตทันที

"คุณอาครับ วันนี้เชิญที่ห้องทำงานผมหน่อยนะครับ"

จอมใจหูผึ่ง แล้วตื๊อตามเขาไปจนได้...เมื่อประกิตได้เห็นเอกสารปึกใหญ่ที่ทศวินข้องใจ สงสัย ประกิตจ้องมองมันอย่างจำได้

"เอกสารสามชุดนี้เป็นการตกแต่งโรงแรมที่เชียงใหม่เมื่อ ยี่สิบปีก่อน คุณอาพอจะทราบไหมครับ" ประกิตพยักหน้ารับช้าๆ ทศวินดีใจรีบถามต่อ "แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อถึงเก็บเอกสารชุดนี้ในที่ลับตา เพราะผมดูแล้วมันก็ไม่มีอะไรนี่ครับ"

ประกิตขยับนิ้วมือ ทศวินรู้ทันทีว่าอาอยากเขียน จึงหยิบกระดาษกับปากกาส่งให้ แล้วลุ้นไปด้วยกันกับจอมใจ จนประกิตเขียนเสร็จ ทศวินหยิบกระดาษมาอ่าน "อาไม่เซ็น"

ไม่ทันที่ทศวินจะซักถามอะไรต่อ เพลินจิตก็พรวดพราดเข้ามาดึงกระดาษแผ่นนั้นไป แล้วกระชากเสียงถามอย่างเอาเรื่อง

"พวกเธอกำลังทำอะไร"

"ก็ถามอะไรบางอย่างที่ผมสงสัยน่ะครับ เรื่องการตกแต่งโรงแรมเมื่อยี่สิบปีก่อน คุณอาพอทราบเรื่องบ้างไหมครับ"

"ก็ไม่มีอะไรนี่ ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ"

"ถ้าปกติทำไมเอกสารสามชุดนี้ถึงแตกต่างกันมากนักล่ะครับ" ทศวินถามพร้อมกับโชว์เอกสารในมือ เพลินจิตเห็นแล้วถึงชะงัก

"เธอเอาเอกสารชุดนี้มาจากไหน"

"จากไหนก็ช่างเถอะครับ แต่คุณอาตอบผมได้ไหมว่าทำไมเอกสารชุดที่คุณพ่อผมเก็บไว้ มันถึงราคาถูกกว่าชุดที่กรรมการอนุมัติ"

"ก็มันเป็นของจริงน่ะสิ ส่วนชุดที่ผ่านอนุมัติคือของปลอมที่พ่อเธอบวกราคาหวังโกงสยามธารา"

"ไม่จริง คุณอาโกหก"

"เสียดายนะ ถ้าอาประกิตของเธอพูดได้ เธอก็จะรู้เรื่องทุกอย่าง" เพลินจิตพูดจบก็เข็นรถประกิตออกไปจากห้อง จอมใจขยับเข้ามาใกล้ทศวิน จึงเห็นเอกสารชุดหนึ่งมีตราบริษัทของพ่อเธอ...

เพลินจิตพาประกิตเข้าห้องแล้วตบหน้าเขาอย่างโกรธแค้น

"ฤทธิ์เยอะนักนะ คิดว่าแกกับหลานจะทำอะไรฉันได้ งั้นเหรอ"

สาวใช้ถือยากับน้ำเข้ามาโดยไม่รู้ว่าเจ้านายกำลังหัวเสีย พอเห็นสีหน้าเพลินจิตก็ตกใจรีบขอโทษ แล้วอึกๆอักๆทันทีที่เพลินจิตตวาดถามว่า "แกไปเอายามาจากไหน"

"เอ่อ...คือ...คุณทศพาคุณประกิตไปหาหมอค่ะ"

เพลินจิตโมโหจัดถึงกับตบหน้าสาวใช้ แล้วปัดยากระเด็น

"ไปคั้นน้ำผลไม้มา มีกี่อย่างปั่นรวมกันมาให้หมด"

สาวใช้ลนลานออกไปทั้งน้ำตา เพลินจิตหันกลับมาจ้องหน้าประกิตอย่างดุดัน

"แกอยากหายมากใช่ไหม ได้ ฉันจะให้แกกินแต่ของดีๆ ก่อนที่แกจะหายไปจากโลกนี้"

ประกิตสีหน้าตื่นตระหนกด้วยความกลัว...ส่วนที่ห้องทำงานของทศวิน จอมใจซักไซ้จนได้คำตอบจากทศวินเรื่องที่บริษัทของพ่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับ สยามธารา แต่ก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้เธอฟังเลย

"ท่านคงไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่ดีกับสยามธารา"

"แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อล่ะ ดูท่าแล้วคุณเพลินจิตคงไม่จนมุมง่ายๆ"

"ใช่ หลักฐานแค่นี้มันพิสูจน์อะไรแทบไม่ได้"

"เอางี้สิ เราก็ไปสืบจากบริษัทที่ได้งานเมื่อยี่สิบปีก่อน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครโกง โกงเท่าไหร่"

"และเธอคิดว่าคนที่ร่วมมือกับอาเพลินทำผิดจะยอมช่วยเราเหรอ ถ้าพวกนั้นรักความถูกต้องก็คงไม่ทำแต่แรกแล้ว"

"จริงด้วย...เฮ้อ...อย่าบอกนะว่าเราจะตันแค่ตรงนี้"

ทศวินยังคิดอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งมองเอกสารที่ได้มาเหมือนมันไม่มีความหมาย...

แล้วคืนนี้เอง ขณะที่จอมใจกำลังจะกลับออกจากบ้านอัครศิริ เธอเห็นเพลินจิตรีบร้อนขึ้นรถขับออกไป จึงตัดสินใจสะกดรอยตามไปจนถึงบ้านวิชา แล้วแอบได้ยินสองคนคุยกันเรื่องอาการของประกิตที่ดีขึ้นเพราะทศวินแอบพาไปหา หมอ ซึ่งวิชาบอกเพลินจิตว่าไม่ต้องห่วง เขาจะรีบจัดการมันทั้งอาทั้งหลาน ก่อนที่ประกิตจะคายความลับออกมาจนพวกเราชวดสมบัติของพวกอัครศิริ

จอมใจ ตื่นตระหนกตกใจ พอเช้าขึ้นมาทำอาหารให้ประกิต จอมใจก็แอบบอกทศวินเรื่องที่ได้ยินเมื่อคืน ทศวินเป็นห่วงจอมใจ กำราบไม่ให้กล้าบ้าบิ่นแบบนั้นอีก จากนั้นทศวินก็สรุปอย่างมั่นใจว่า เพลินจิตต้องมีส่วนรู้เห็นกับการตายของพ่อและการป่วยของอาประกิต และต่อไปนี้พวกเราต้องระวังตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอาประกิตต้องดูแลใกล้ชิด พยายามอย่าให้คลาดสายตา

เพลินจิตแอบเห็นทศวินกับจอมใจคุยกัน แม้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจที่ยังเห็นสองคนสนิทสนมกันดีอยู่ พอเข้ามาถึงออฟฟิศจึงว้ากแก้วใสอย่างหัวเสีย

"ตกลงเรื่องที่ฉันใช้ไป ถึงไหนแล้ว"

"ฉัน...ก็กำลังทำอยู่ค่ะ"

"ทำบ้าอะไร ฉันยังเห็นไอ้ทศกับนังจอมมันกะหนุง กะหนิงที่บ้านฉันทุกวัน"

"ฉันจะ พยายามอีกค่ะ"

"ไม่ใช่พยายาม ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าเธอยังอยากเห็นยายเธอมีชีวิต"

"คุณอย่าทำอะไรยายนะคะ แก้วขอร้อง"

"งั้น ก็รีบทำงานที่สั่งให้เสร็จเร็วๆซะ" ว่าแล้วเพลินจิตสะบัดไป แก้วใสหน้าเครียดกลุ้มใจ

ครู่ต่อมา แก้วใสตัดสินใจไปพบจอมใจที่แผนกดอกไม้ ตั้งคำถามทั้งๆที่ตัวเองก็อึดอัดลำบากใจ

"จอมยังสนิทสนมกับคุณทศใช่ ไหม" จอมใจไม่ทันตั้งตัวถึงกับตอบไม่ถูก "จอม...ฉันขอร้องเธอเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับคุณทศวินซะ"

"ฉันก็ พยายามห่างจากเขาแล้วนะ"

"เธอโกหก คุณเพลินจิตบอกว่าเธอยังสนิทกับเขาอยู่"

"คุณเพลินจิตเหรอ...แก้ว นี่แก้วมีอะไรปิดบังฉันใช่มั้ย"

แก้วใสรู้ตัวว่าพลาด รีบปฏิเสธ แล้วสำทับเรื่องที่ขอร้องจอมใจอีกครั้งก่อนผละไปอย่างรวดเร็ว...ครั้นตกเย็น ทศวินมายืนรอจอมใจตรงทางออก แทนที่จอมใจจะดีใจ เธอกลับรู้สึกหนักใจ พอเห็นแก้วใสก้าวเข้ามาแทรก จอมใจจึงปฏิเสธคำชวนของทศวินที่จะพาไปกินข้าว แล้วบอกให้ทศวินไปกับแก้วใส ทศวินท่าทีลังเล แก้วใสจึงรวบรัดดึงแขนเขาไปทันที ส่วนจอมใจก็ถูกชัชวินจูงมือไปขึ้นรถ

แล้ว สองคู่ก็ไปเจอกันที่ร้านอาหาร ซึ่งเป็นความตั้งใจของชัชวิน

"คุณพา ฉันมาที่นี่ทำไม" จอมใจพยายามขืนตัว แต่ ชัชวินไม่ปล่อย จูงมือจอมใจตรงไปที่โต๊ะทศวินและแก้วใส

"เมื่อกี้คุณถามผมใช่ไหมจอม ว่าพามาที่นี่ทำไม ก็ผมอยากให้คุณเห็นไงว่าเพื่อนที่แสนดีของคุณ กับพี่ชายที่ผมรัก เขาตอบแทนความรู้สึกของคุณกับผมยังไง"

"ชัช...นาย กำลังเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้ชอบแก้วแบบนั้น"

"ใจเย็นๆสิทศวิน ฉันไม่ได้ว่าแกคนเดียว เพราะเรื่องแบบนี้มันต้องหญิงร้ายชายชั่วถึงจะทำได้"

"ชัช นายพูดแรงไปแล้วนะ" ทศวินเริ่มฉุน

"แรงเหรอ กับผู้หญิงอย่างแก้วใสน่ะไม่แรงหรอก ขนาดลากผู้ชายเข้าบ้านได้ แค่นี้ถือว่าเบาไป"

ทศวินหมดความอดทนชกหน้าชัชวิน จนผู้คนในร้านแตกตื่น

"คราวที่แล้วฉันไม่ชกนายคืน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่วันนี้ฉันจะไม่ทนให้นายมาดูถูกคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลอีก"

ชัชวิน โมโหง้างหมัดจะเอาคืน แก้วใสรีบลุกมาขวางพร้อมกับตวาดเสียงเขียว

"หยุด นะคุณชัช ห้ามทำอะไรคุณทศเด็ดขาด...คุณทศ แก้วอยากกลับแล้วค่ะ" พูดจบแก้วใสเดินจ้ำออกจากร้าน ทศวินละล้าละลัง แล้วตัดสินใจตามไปเพราะคำขอร้องของจอมใจ...ชัชวิน มองจอมใจตาขุ่นอย่างไม่พอใจ

"จอมทำแบบนี้ทำไม คุณอยากให้เขารักกันเหรอ"

"ฉันสิต้องถามว่าคุณทำแบบนี้แล้วได้อะไร" จอมใจ ยอกย้อน พลางส่ายหน้าระอาใจ

ทศวินขับรถไปส่งแก้วใสที่บ้าน แก้วใสสีหน้าไม่สู้ดี อึดอัดคับแค้นใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

"แก้ว ขอโทษนะคะที่คุณต้องมาลำบากเพราะแก้ว"

"ไม่เป็นไรหรอก ผมจะหาทางเคลียร์กับนายชัชเอง"

"คุณทศคะ คุณเลิกยุ่งกับจอมได้ไหมคะ"

"แก้ว...ผม เคยบอกแล้วไงว่าเราเป็นได้แค่เพื่อน"

"แล้วถ้าแก้วขอคุณว่าให้คบกับ แก้วเพื่อรักษาชีวิตยายของแก้วล่ะคะ"

"คุณพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ" แก้วใสไม่ตอบแต่ร้องไห้ หนักใจ ทำให้ทศวินยิ่งสงสัย "แก้ว คุณมีอะไรบอกผมมาตามตรงดีกว่า"

"คุณทศ...แก้วเสียใจ แก้วขอโทษ"

หลัง ฟังความจริงจากปากแก้วใสแล้ว ทศวินรีบไปพบจอมใจที่บ้าน จอมใจพอรู้ก็ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที

"นี่อาคุณถึงกับจับตัวยายของแก้วไป เป็นตัวประกัน เขาบ้าหรือเปล่า ทำไมใจร้ายอย่างนี้"

"เบาๆสิ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่เธอก็ได้ยินหรอก"

"พูดแล้วโมโหจริงๆ แก้วก็อีกคน แทนที่จะบอกฉันตรงๆ"

"แก้วเขากลัวว่ายายจะไม่ปลอดภัย แต่นี่เขาคงทนไม่ไหวเลยระเบิดออกมา"

"แล้วนี่เราจะทำยังไงดี"

"คง ต้องเล่นตามเกมอาเพลินไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของยาย"

"ได้ค่ะ ฉันจะอยู่ห่างๆคุณไว้"

"ห่างผมแล้วจะต้องสนิทกับนายชัชด้วยไหม" เขาประชดด้วยความหึงหวง จอมใจอมยิ้มรู้ทัน แกล้งยั่วเขาใหญ่

"ก็ต้อง สนิทสิ คุณชัชหล่อก็หล่อ แถมยังขี้เล่นมีเสน่ห์ ไม่เหมือนบางคน ทื่อ ทึ่ม เก๊กทั้งวัน"

"โอเค งั้นเธอก็ไปสนิทกับนายชัชเลย ฉันจะอยู่ห่างๆจนเธอพอใจ" ว่าแล้วทศวินเดินหน้ามุ่ยกลับไปที่รถ จอมใจยิ้มขำ ตามมาดึงเขาไว้ แต่ดึงแรงไปหน่อยเขาเลยเสียหลักเซมาจูบแก้มเธอเต็มๆ ต่างคนต่างตะลึง พอตั้งสติได้จอมใจก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านอย่างเขินอาย

ooooooo

รุ่ง ขึ้นอัศวินมารอรับกุลหน้าบ้าน กุลพยายามเลี่ยงหลบเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้อัศวินไม่ยอม ดึงดันทำเข้มใส่จนกุลจ๋อยไม่กล้าหือ แล้วพอตอนกลางวันอัศวินก็มารอรับกุลไปกินข้าว กุลปฏิเสธไม่ออกเพราะเขาเข้มจัด แถมพอกุลจะเอ่ยปากตัดสัมพันธ์

เขา อีก เขาจึงพาเธอไปพบแม่กับยายถึงห้องทำงาน

จากที่กลัวๆกลายเป็นดีใจ จนพูดไม่ถูก เพราะได้ยินเต็มสองหูว่าคุณยุบลกับสุมนาเปิดไฟเขียวให้สองคนคบกันได้

"จำ ไว้นะกุล ตาวินน่ะเขาเป็นคนอ่อนโยนจนติดจะอ่อนแอไปบ้างเพราะเขารักครอบครัว รักฉัน รักแม่เขา ฉันอยากให้เธอแข็งๆเข้าไว้ รับรองตาวินไม่กล้ากับเธอหรอก ฝากหลานฉันด้วยนะ"

"ฉันกับแม่ขอโทษหนูกุลนะที่เคยกีดกัน แต่ตอนนี้อะไรที่เป็นความสุขของตาวิน แม่กับคุณยายก็จะมีความสุขกับสิ่งนั้นจ้ะ"

กุลยกมือไหว้ขอบคุณ ผู้ใหญ่ทั้งสอง พลางเหลียวมองอัศวินที่ยิ้มไม่หุบอยู่ข้างๆ จากนั้นกุลกลับออกไปหาแก้วใส ก่อนจะพากันไปตามหาจอมใจ เพื่อจะขอโทษที่เข้าใจผิดจอมใจกับอัศวิน แต่ยังไม่ทันได้เจอจอมใจ ทั้งคู่บังเอิญมาได้ยินพนักงานสองคนที่ร่วมมือกับอุไรริสาจัดฉากใส่ร้าย จอมใจเข้าเต็มๆ จึงเกิดการคาดคั้นก่อนจะนำพาไปพบทศวินกับจอมใจ รวมทั้งอุไรริสาที่ถูกเชิญตัวมาด้วย ตอนแรกอุไรริสาปฏิเสธขึงขังไม่ยอมรับ หาว่าสองสาวพนักงานใส่ร้ายป้ายสีเธอ แต่สุดท้ายก็จนด้วยหลักฐานคลิปเสียงที่ถูกสองสาวอัดเอาไว้ อุไรริสาถึงกับหน้าถอดสี กล่าวขอโทษทั้งน้ำตา...

"ต่อไปนี้คุณริสาคง ไม่กล้าทำอะไรพวกคุณอีกแล้ว" ทศวินเอ่ยขึ้นมา หลังจากคนทำผิดแยกย้ายกันไปแล้ว

"แหม แต่กุลว่าน่าจะให้เขาพูดความจริงกับทุกคนนะคะ จะได้กู้ชื่อเสียงจอมกลับมา"

"แล้ว แก้วกับกุลมาตามหาจอมทำไมเหรอ" ทศวินสงสัย จอมใจพยักพเยิดด้วยทันที

"เออ นั่นสิ ลืมไปเลย"

"ฉันมาขอโทษที่เคยเข้าใจจอมผิด คุณวินอธิบายให้ฉันฟังหมดแล้ว ยิ่งได้มารู้ความจริงแบบจะจะ ยิ่งละอายใจ จอมหายโกรธฉันนะ"

"ฉันไม่เคยโกรธเพื่อนหรอก เพราะรู้ว่าวันหนึ่งกุลจะต้องรู้ความจริง"

จอมใจและกุลยิ้มแย้มจับ มือกัน แก้วใสเขยิบเข้ามาหาหน้าจ๋อยๆ

"จอม ที่ฉันทำไปก็เพราะยาย..."

"คุณ ทศบอกฉันหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะช่วยยายของแก้วเอง"

"ฉันขอโทษนะ ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไง"

"ช่างมันเถอะ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือช่วยยายของแก้ว"

"แล้วเราจะทำยังไงล่ะ"

"ผม กับจอมคิดแผนเอาไว้แล้ว"

และแล้วบ่ายนั้นเอง ทศวิน จอมใจ แก้วใสและกุลก็แอบสะกดรอยตามลูกน้องของวิชาไปจนถึงบ้านหลังที่ยายของแก้วถูก จับมาขังไว้ ทศวินวางแผนอย่างรอบคอบก่อนจะแอบเข้าไปช่วยยายของแก้วออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนลูกน้องสองคนของวิชาถูกตำรวจจับตัวไปดำเนินคดี

วิชาตกใจไม่น้อย เมื่อได้รับการติดต่อจากเพื่อนตำรวจคนหนึ่ง ขณะที่เพลินจิตพอรู้ก็โวยวายเพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อน

"นังแก้ว ใส...ฤทธิ์เยอะนักนะ แล้วทีนี้จะทำยังไง ถ้าลูกน้องคุณเกิดสารภาพ"

"ตอน นี้อยู่ในขั้นรวบรวมพยานหลักฐาน มันยังไม่น่าสาวมาถึงเราหรอก"

"โอ๊ย...คุณ มัวแต่ใจเย็นอยู่อย่างนี้ ไม่นานเรื่องมันโยงมาถึงเราแน่...ทั้งเรื่องพ่อไอ้ทศวิน เรื่องเงินต่างๆที่เราเอามาจากสยามธารา"

"ถ้างั้นพรุ่งนี้เราต้องรีบ จัดการเรื่องประมูลที่ชัชวินกำลังดำเนินการ ได้เงินมางวดนี้แล้วเตรียมตัวหนีไปอยู่ต่างประเทศกันได้เลย"

"แล้ว...ถ้า ไม่เป็นไปตามแผนที่คุณคิดไว้ล่ะ จะทำยังไง"

"ก็คงต้องลบชื่อไอ้คนที่ จะทำให้เราพินาศให้หมดไปเลยไง"

เพลินจิตฟังแล้วเครียดจัด วิตกกังวลไปร้อยแปด...ขณะเดียวกันนั้น จอมใจพาแก้วใสและยายมาอยู่ที่บ้านของเธอ เพราะทุกคนคิดเห็นตรงกันว่า ถ้าพาสองยายหลานกลับไปที่บ้านเดิมอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าที่นี่

บดีกับนงนุชฟังเรื่องราวจากทศวินและทุกคนแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นึกไม่ถึงเลยว่าเพลินจิตจะร้ายถึงขนาดนี้

"ผมว่านี่ยังน้อยนะครับ อาเพลินอาจจะเคยทำอะไรที่มันร้ายกว่านี้มาแล้ว เขาถึงได้เลือดเย็นทำร้ายยายของแก้วได้"

"คุณทศพูดเหมือนรู้ว่าเพลิน เคยทำอะไร"

ทศวินชะงัก ไม่กล้าเผยรายละเอียดเพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน จึงได้แต่ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร ตนก็พูดเรื่อยเปื่อยไปเท่านั้นเอง

ooooooo

ขณะ ชัชวินแต่งตัวเตรียมไปทำงานในเช้าวันใหม่ เพลินจิตนำแฟ้มเอกสารเข้ามายื่นให้

"นี่เป็นรายชื่อบริษัทที่จะเข้า ประมูลโครงการตกแต่งโรงแรมที่เป็นพรรคพวกเรา"

"พวกเรา? คุณแม่หมายความว่ายังไงครับ"

"เอาเถอะน่า แกแค่ยื่นเสนอกับกรรมการก็พอ หลังจากนั้นก็รอฟังผล"

"ทำแบบนี้ถ้า คุณย่ารู้เข้าผมว่ามันจะไม่ดีนะครับ"

"คุณย่าไม่รู้เรื่อง แล้วโปรเจกต์นี้ก็เป็นของแก คุณย่าเขาไม่ยุ่งหรอก"

ชัชวินนิ่ง ครุ่นคิด มองหน้าแม่อย่างไม่แน่ใจ หลังจากนั้นแม่ลูกแยกย้ายกันเข้าออฟฟิศ ชัชวินเตรียมตัวเข้าประชุม ส่วนเพลินจิตเห็นว่ายังพอมีเวลา จึงมุ่งหน้าไปเอาเรื่องแก้วใสถึงโต๊ะทำงาน โดยมีวิชาเดินตามต้อยๆไปด้วย

แต่ การมาครั้งนี้ของเพลินจิตกับวิชาไม่ได้ทำให้แก้วใส สะทกสะท้านหวาดกลัวเหมือนครั้งก่อนๆ แก้วใสลุกขึ้นเผชิญ หน้าตอบโต้อย่างแข็งกร้าว

"แก้วใส...เธอรู้ไหมว่ากำลังท้าทายใครอยู่ " วิชาคำราม... ทันใดนั้นเองทศวินก็ก้าวเข้ามา

"แก้วเขารู้ครับ แต่ถ้าแก้วกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องผมจะสนับสนุนให้เขาสู้ เพราะผมไม่ชอบเห็นคนถูกรังแก"

"ที่แท้ก็เธอนี่เองที่อยู่เบื้องหลัง เรื่องนี้"

"ก็แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว แต่ไม่ทราบว่าคุณอาอยู่เบื้องหลังกี่เรื่องครับ"

เพลินจิตสะอึก จ้องหน้าทศวินและแก้วใสอย่างโกรธแค้น แล้วเดินนำวิชาไปทางห้องประชุม

"คุณ ทศไม่น่าบอกคุณเพลินจิตเลยว่าคุณช่วยแก้ว เขาอาจจะหันไปเล่นงานคุณนะคะ" แก้วใสพูดอย่างเป็นกังวล

"มันคงถึงเวลาที่ผมกับอาเพลินจะต้องเผชิญ หน้ากันแล้ว"

จากนั้นทศวินเข้าร่วมประชุมด้วย โดยมียุบลเป็นประธาน ยุบลตรวจดูเอกสารต่างๆที่ชัชวินเสนอแล้วยิ้มพอใจ

"ดูจากรายละเอียด ของแต่บริษัทแล้ว ย่าว่าดีมากเลย มีทั้งบริษัทที่เคยร่วมงานกับเราและรายใหม่ ทุกคนว่ายังไง"

"นาไม่มี ปัญหาค่ะ ฝ่ายของนาจะได้เร่งเรื่องการเสนอราคา"

"แต่ผมอยากเสนอเพิ่ม อีกบริษัทครับ"

"อะไรกันนายทศ เธอแพ้ไปแล้วก็ต้องถือว่าไม่ควรยุ่งกับเรื่องนี้สิ" เพลินจิตแหวขึ้นมาทันที แล้วค้อนใส่อัศวินที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง

"แต่ผมว่าแค่เสนอบริษัทร่วม ประมูลงานไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับ"

"คุณทศครับ งานใหญ่ระดับนี้จะไปเอาบริษัทเล็กๆไม่ได้ นะครับ"

"ไม่ต้องห่วงหรอก ครับคุณวิชา บริษัทนี่ใหญ่ระดับตกแต่งโรงแรมห้าดาวหลายแห่งทั้งในประเทศแล้วก็ระดับ เอเชียมาแล้ว บริษัทของคุณบดีไงครับ"

เพลินจิตพอได้ยินชื่อบดีก็ หงุดหงิดกว่าเดิม ตรงข้ามกับยุบลที่เห็นดีด้วย เพราะเมื่อยี่สิบปีก่อนยังเสียดายไม่หาย คุณบดีไม่น่าถอนตัวไปเลย ไม่อย่างนั้นอาจจะได้ร่วมงานกัน...

เสร็จสิ้นการประชุม ทศวินรีบไปส่งข่าวบดีกับนงนุชที่บ้าน พร้อมนำเอกสารไปให้ดูด้วย

"ทุก อย่างเหมือนเมื่อยี่สิบปีเลยครับ เพราะสามบริษัทที่เข้าประมูลในวงการเขารู้กันดีว่าจริงๆแล้วก็เหมือนเป็น บริษัทเดียวกัน แต่ถือหุ้นไขว้กันไปมา หรือไม่ก็เอาญาติห่างๆมาใส่ชื่อ"

"แสดง ว่าอาเพลินกับคุณวิชากำลังคิดโกงสยามธาราอีกรอบ"

"ถ้าเป็นแบบนี้ฉัน ว่าเราอย่าเข้าไปประมูลเลยนะคะ เล่นแพ้แต่ต้นมือแบบนี้เหนื่อยเปล่าๆ" นงนุชไม่เห็นด้วย

"เรื่องนั้นคุณอาไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่ยอมให้ เกิดการโกงสยามธาราเป็นครั้งที่สองแน่ครับ"

"หวังว่าเราคงได้มีโอกาส ร่วมงานกันครับ" บดีสรุปด้วยรอยยิ้ม...

ooooooo

แต่คนที่ยิ้ม ไม่ออกอยู่ตอนนี้ก็คือเพลินจิต... เพลินจิตอารมณ์เสียตั้งแต่ออกจากห้องประชุม

"ฉันชักจะรำคาญความจุ้น จ้านของไอ้ทศเต็มทีแล้วนะ เมื่อไหร่จะลงมือซะที"

วิชาไม่ตอบแต่หยิบ หลอดยาเล็กๆขึ้นมาโชว์

"อะไรน่ะ"

"ของฝากจากประเทศเพื่อน บ้าน   แค่ใส่ในอาหารให้ มันกิน"

"จะบ้าเหรอ ถ้าตำรวจชันสูตรศพก็รู้น่ะสิ"

"แล้วไง นังจอมใจมันเป็นคนทำ ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก"

"ดีมาก เท่ากับฉันกำจัดศัตรูได้ถึงสองคน ไม่ใช่สิ ต้องเป็นสี่คน เพราะฉันจะได้เห็นความเจ็บปวดของพ่อแม่นังจอมใจด้วย"

จากนั้นในตอน เย็น เพลินจิตก็แอบเอายานี้ไปใส่ในหม้อซุปที่จอมใจปรุงให้ประกิต แต่สาวใช้มาตักชิมก่อนจะตักใส่ถ้วยยกขึ้นไปให้ประกิตที่ห้อง แล้วสาวใช้เกิดมีอาการปวดท้องและน้ำลายฟูมปาก ทศวินกับจอมใจจึงรู้ทันทีว่ามีคนวางยาพิษ

เพลินจิตกับวิชาแอบดูผลงาน พอเห็นดังนั้นก็โมโหหัวเสีย วิชากลัวจะมีคนมาเห็นจึงชวนเพลินจิตหลบกันไปก่อน เพลินจิตกลับปฏิเสธทันที

"ไม่...โอกาส เป็นของฉันแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไป วันนี้มันต้องตายทั้งอาทั้งหลาน"

เพลินจิต เดินหน้าถมึงทึงเข้ามาขวางทศวินที่จะพาสาวใช้ไปโรงพยาบาล

"หยุด...จะ ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น"

"พวกคุณวางยาพิษในอาหารใช่มั้ย" ทศวินคาดคั้น

"เก่งนี่ แต่เธอคงขวางฉันไม่ได้อีกแล้วทศวิน...จอมใจ ป้อนอาหารให้ประกิต"

เพลินจิตสั่งเฉียบ พร้อมกันนี้วิชาก็หยิบปืนออกมาขู่ จอมใจจำต้องเดินไปที่ถ้วยซุป

"จอม...อย่านะ" ทศวินร้องห้าม

"ใจเย็นๆครับคุณทศ เดี๋ยวก็ถึงคิวคุณ"

จอมใจหยิบถ้วยซุปมาแล้วทำท่าจะป้อน ประกิตกลัวตัวสั่น แต่สุดท้ายจอมใจก็ขว้างถ้วยซุปทิ้งไปมุมห้อง เพลินจิตโกรธมากตรงเข้ามาตบจอมใจทันที

"ฤทธิ์มากนักเหรอ ถ้างั้นแกก็กินเองแล้วกัน"

เพลินจิตจิกหัวลากจอมใจมาที่พื้นที่ซุปหกอยู่ ทศวินอาศัยทีเผลอดึงร่างวิชาจากด้านหลังแล้วต่อสู้แย่งปืนกันจนปืนกระเด็นไปด้านหนึ่ง แต่สุดท้ายทศวินก็เสียหลักถูกวิชาแย่งปืนไปได้

"ถอยไป" วิชาเล็งปืนขู่ ทศวินจำต้องถอยมารวมกับจอมใจและประกิต

"พวกคุณทำแบบนี้ทำไม"

"ก็ย่าแกไม่ยุติธรรม รักพ่อแกคนเดียว มีอะไรก็ทูนให้พ่อแกหมด แล้วมาตอนนี้ตำแหน่งประธานควรจะเป็นของตาชัช แต่พอแกกลับมาอีแก่นั่นก็หาเรื่องให้แกกับตาชัชแข่งกันเอาตำแหน่ง ฉันจะไม่ปล่อยให้แกได้ทุกสิ่งทุกอย่างของลูกฉันไป"

"แต่นายชัชก็ได้เป็นประธานสมใจคุณอาแล้วนี่ครับ"

"ใช่...ทุกอย่างมันน่าจะไปได้ดี ถ้าแกไม่คอยเป็นก้างขวางฉัน แกอยากรู้เรื่องพ่อแกมากใช่มั้ย วันนี้จะให้แกรู้เรื่องทั้งหมด เสร็จแล้วพวกแกสามคนก็จะได้ไปเจอไอ้ปกรณ์ในนรก"

แล้วความจริงเมื่อยี่สิบปีก่อนก็พรั่งพรูออกจากปากเพลินจิตจนหมดสิ้น...เพลินจิตเป็นชู้กับวิชาแล้วรวมหัวกันยักยอกโกงเงินของสยามธาราจำนวนมาก พอปกรณ์รู้เรื่อง วิชาก็ชิงฆ่าปิดปากปกรณ์ ซ้ำยังคิดฆ่าประกิตด้วยอีกคน แต่ ประกิตไม่ตายสมใจ แต่ก็พิการพูดและเดินไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเพลินจิตก็โยนความผิดให้ปกรณ์ทั้งหมด

ส่วนคุณยุบลซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง แต่ก็อยากปิดข่าวนี้ให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้นานผลเสียจะเกิดกับธุรกิจของสยามธาราทั้งหมด คนผิดตัวจริงอย่างเพลินจิตกับวิชาจึงลอยนวล แล้วยังคิดกอบโกยจากสยามธาราอีกเรื่อยมา...

เพลินจิตกับวิชายิ้มเหี้ยม หลังเผยความเลวร้ายของตัวเอง แล้วเตรียมสังหารทุกคนให้ตายตกไปตามกัน โดยคนแรกเล็งไปที่ประกิต แต่ทศวินไม่ยอมง่ายๆ โดดเข้าแย่งปืนในมือวิชา

ยุบล สุมนา อัศวินและชัชวินกลับเข้ามาได้ยินเสียงปืนดังเปรี้ยงมาจากห้องประกิต ทุกคนตกใจรีบร้อนขึ้นไปทันที

ทศวินถูกยิงทรุดฮวบ จอมใจตกใจมากรีบเข้ามาดูอาการ เพลินจิตเริ่มแตกตื่น แล้วสั่งวิชาฆ่ามันให้หมด

"งั้นผมขอเริ่มที่ไอ้ประกิต...ก่อนตาย ฉันจะบอกอะไรให้แกฟังนะไอ้ง่อย ฉันไม่เคยเป็นชู้กับเมียแก แต่แกต่างหากที่เป็นชู้กับเมียฉันมาตลอด"

วิชาเล็งปืนไปที่ประกิต ทันใดนั้นประตูเปิดผางออก ชัชวินนำหน้าทุกคนเข้ามา แล้วโดดเข้าขวางทางปืนทำให้ถูกยิงเข้าที่ไหล่ เพลินจิตตกใจกรีดร้อง วิชาเองก็ตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะหันปืนส่ายไปมาใส่ทุกคน สั่งให้หยุดอยู่กับที่ แล้วให้เพลินจิตพาลูกหนีออกไป

"ชัช...ไปกับแม่นะ"

"เขายิงคุณพ่อทำไม" ชัชวินจ้องไปที่วิชา เพลินจิตอึกอักตอบไม่ถูก ยุบลเป็นห่วงหลานทั้งสองคน บอกอัศวินให้โทร.เรียกรถพยาบาล วิชากลับตวาดขึงขังน่ากลัว

"อย่านะ ห้ามใครใช้โทรศัพท์"

"วิชา มีอะไรไว้ค่อยๆคุยกัน แต่ตอนนี้เราต้องเอาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลก่อน" สุมนาขอร้อง อัศวินก็ช่วยตะล่อมอีกคน เพราะถ้าช้าเกรงว่าคนเจ็บจะแย่

"ไอ้ทศวินน่ะ ฉันจะให้มันตายด้วยซ้ำ...เพลิน เอาลูกมาเร็ว"

"ตาชัช ไปเร็วลูก เราอยู่ไม่ได้แล้ว"

เพลินจิตพยายามจะลากชัชวิน  แต่ชัชวินจับมือประกิตแน่น

"คุณแม่...อย่าทิ้งคุณพ่อ"

"ชัช ฟังแม่นะ เขาไม่ใช่พ่อแก"

ชัชวินไม่ทันจะพูดอะไรก็ฟุบหมดสติไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของทุกคน โดยเฉพาะเพลินจิตกับวิชาที่ร่ำไห้แทบขาดใจ

"ชัช...พ่อขอโทษ"

สิ้นคำของวิชา ยุบลและคนอื่นๆตะลึงงันกันไปหมด

ooooooo

วิชากับเพลินจิตถูกจับไปคุมขังที่สถานีตำรวจ ส่วนทศวินกับชัชวินถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และปลอดภัยในเวลาต่อมา แต่ชัชวินยังไม่ยอมพูดจากับใคร เอาแต่นอนน้ำตาซึมรับไม่ได้กับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือพ่อแม่ของตนเอง

ยุบลกับสุมนานำหลักฐานที่จะเอาผิดเพลินจิตกับวิชาไปมอบให้ตำรวจ เพลินจิตร่ำไห้และยกมือไหว้ยุบลอย่างสำนึกผิด

"เพลินขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ เพลินรู้ว่าสิ่งที่เพลินทำไปมันหนักหนาเกินกว่าจะอภัยให้ได้ เพลินเสียใจ..."

ยุบลนิ่งขรึม แต่สุมนามีสีหน้าโกรธจัด

"เธอมันเนรคุณจริงๆ ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้"

"คุณแม่ครับ ใจเย็นๆเถอะครับ ตอนนี้พวกเขาก็รับกรรมแล้ว" อัศวินเอ่ยขึ้น

"แล้วมันทำให้ชีวิตของพี่ปกรณ์กับพี่ประกิตกลับมาเหมือนเดิมไหมล่ะ"

"ตาวิน พาแม่เราออกไปข้างนอกก่อนไป"

อัศวินทำตามที่คุณยายบอก...พออยู่กันตามลำพัง ยุบลต่อว่าเพลินจิตทั้งน้ำตาที่ซึมๆ

"เธอทำฉันเจ็บปวดมากนะเพลินจิต ไม่ว่าชีวิตเธอจะเป็นยังไงต่อไป ฉันหวังว่าเธอกับวิชาคงจะไม่มาเกี่ยวข้องกับพวกเราอีก"

"แล้วตาชัชล่ะคะคุณแม่"

ยุบลชะงัก มองหน้าเพลินจิตนิ่งไม่ตอบ

ooooooo

ที่โรงพยาบาล แก้วใสและกุลมาเยี่ยมชัชวินกับทศวิน เสร็จแล้วพากันออกมาคุยกับจอมใจที่ด้านนอก

"ฉันสงสารคุณชัช ฉันไม่น่าทำไม่ดีกับเขา" แก้วใสหน้าเศร้า น้ำตาคลอ

"ไม่เอาน่าแก้ว อย่าคิดมากเลยนะ" กุลกอดปลอบเพื่อน

"ฉันเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม ตลอดเวลาฉันทำร้ายจอม ทำร้ายคุณทศ และสุดท้ายก็ทำร้ายคุณชัช คนที่ฉันรักมาก"

"มันเป็นเพราะคุณเพลินจิตเขาบังคับแก้วนี่"

"จอม กุล...ฉันเสียใจ"

"เอาน่าแก้ว เรื่องร้ายๆมันผ่านไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคิดถึงอดีต สิ่งที่รอพวกเราอยู่คืออนาคต เราต้องทำอนาคตให้ดีนะแก้ว"

"ใช่ จอมพูดถูก อดีตเราเก็บไว้เป็นบทเรียนเพื่อเตือนว่าเราจะไม่ทำมันอีก"

แก้วใสพยักหน้าพร้อมกับโอบกอดเพื่อนรักทั้งสองด้วยความซาบซึ้งใจ

ooooooo

ยุบลกับสุมนากลับออกจากสถานีตำรวจโดยมีอัศวินขับรถให้ สุมนาพอได้ฟังยุบลเล่าว่าเพลินจิตฝากฝังชัชวิน ก็มีท่าทีโกรธขึ้งขึ้นมาอีก

"หน็อย...ยังมีหน้ามานึกถึงลูกอีก เห็นแก่ตัวจนวินาทีสุดท้ายเลยจริงๆ"

"แต่ผมว่าก็น่าสงสารนายชัชนะครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะรู้หรือยังว่าลุงประกิตไม่ใช่พ่อของเขา"

"แล้วคุณแม่ตัดสินใจเรื่องตาชัชยังไงคะ"

ยุบลไม่ตอบแต่บอกอัศวินให้แวะที่บ้านให้ยายหน่อย... ยุบลมารับประกิตไปเยี่ยมชัชวินกับทศวินที่โรงพยาบาล

"ตาทศ เป็นไงมั่งลูก"

"ก็มีเจ็บแผลครับ แต่พยาบาลให้ยาแก้ปวดแล้ว เดี๋ยวคงดีขึ้น"

ยุบลพยักหน้ารับรู้ก่อนหันไปมองชัชวินที่นอนอยู่อีกเตียง...พอยุบลเข้ามาลูบหัว ชัชวินที่นอนหลับตานิ่งก็ลืมตาขึ้นมอง

"ย่าทำให้เราตื่นหรือเปล่า"

"ผมตื่นนานแล้วครับ แต่มันไม่อยากลืมตา"

"เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้วนะ"

"ครับท่าน"

"ตาชัช...ทำไมเรียกคุณย่าอย่างนั้นล่ะลูก" น้ำเสียงสุมนาตกใจ

"ผมไม่ใช่อัครศิริ ผมคงไม่กล้า..."

"ทำไมจะไม่ใช่ นี่ไงพ่อของเราเขาก็มาเยี่ยมนะ"

อัศวินเข็นรถประกิตเข้ามาใกล้ ยุบลจึงจับมือประกิตกับชัชวินให้จับกัน แต่ชัชวินขัดขืนเพราะละอายใจ

"ชัช...อย่าทำแบบนี้เลย คุณลุงจะเสียใจนะ" อัศวินเตือน

"ผมกราบขอโทษทุกคนในที่นี้ ผมเองก็ไม่ต่างจากพ่อกับแม่ของผม"

"ต่างสิ ย่าเลี้ยงเรามาแต่อ้อนแต่ออก ย่ารู้ว่าเราเป็นยังไง"

"แต่ท่านคงไม่ทราบว่าผมขโมยแผนงานปรับปรุงโรงแรมของทศวิน"

ทุกคนได้ยินแล้วนิ่งอึ้ง ชัชวินเศร้าเสียใจแทบจะร้องไห้ออกมา

ooooooo

บรรดาพนักงานต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารสยามธารา ในจำนวนนี้มีกลุ่มของลลิลนั่งอยู่ด้วยที่มุมหนึ่งในห้องอาหาร

"ลาออก!!" ลลิล นิลรัตน์ และข้าวปุ้นประสานเสียงอย่างตกอกตกใจต่อหน้าอุไรริสา

"ใช่ คุณพ่อพี่เห็นข่าวแล้ว ท่านบอกว่าเราไม่ควรสนิทสนมกับพวกอัครศิริให้มากนัก เปลืองตัวเปล่าๆ"

"แหม...คุณพ่อพี่ริสานี่เห็นแก่ตัวจังเลยนะคะ" ข้าวปุ้นพูดตรงๆ อุไรริสาเลยจ้องตาเขียวไม่พอใจ

"แล้วพี่ริสาจะทำงานถึงเมื่อไหร่คะ" ลลิลซักต่อ

"พี่ลาพวกเธอเสร็จก็จะไปเลย"

"อ้าว แล้วไม่ต้องเคลียร์งานที่ค้างไว้เหรอคะ"

"เคลียร์ทำไม พ่อพี่ไม่ได้ถือหุ้นโรงแรมนี้นะ จะได้ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรมากมาย"

"สรุป...คุณพ่อพี่ริสานี่นอกจากเห็นแก่ตัวแล้วยังสอนให้ลูกขาดความรับผิดชอบอีกนะคะ"

"นังข้าวปุ้น จะปากเสียอีกนานไหม...ลลิล นิลรัตน์ พี่ไปนะ"   ว่าแล้วอุไรริสาลุกเดินหน้าตึงออกไป   ข้าวปุ้นหมั่นไส้ บ่นไล่หลังเบาๆ

"เชอะ จับใครไม่ได้แล้วก็ชิ่งน่ะสิ พักหลังเห็นจ๋อยจะตาย ทำมาอ้างพ่อ"

"แล้วต่อจากนี้ใครจะคอยคุ้มครองพวกเราล่ะ" นิลรัตน์ บ่นหน้าจ๋อยๆ

"พวกเธอก็เลิกเบ่งสิยะ จะได้มีคนรักเหมือนพวกจอมใจ" ข้าวปุ้นพูดโพล่งอย่างตรงไปตรงมา ทำเอานิลรัตน์กับลลิลค้อนขวับตาแทบกลับ...

ooooooo

อัศวินหามากุลถึงบ้านและต้องการคุยกับแม่ ของกุลเพื่อแสดงความจริงใจที่จะคบกุลในฐานะคนรัก แต่แล้วเพ็ญ แม่ของกุลไม่เชื่อ เพราะรู้เห็นมาตลอดว่าเขาทำให้กุลเสียใจ และเสียน้ำตาหลายครั้งหลายหน

"กุล...เมื่อไหร่ลูกจะรู้จักเข็ดหลาบ ผู้ชายคนนี้ทำลูกเจ็บมากี่ครั้งแล้ว" เพ็ญเสียงขุ่น จ้องอัศวินตาเขียว

"ผมยอมรับผิดที่เมื่อก่อนผมอ่อนแอ แต่จากนี้ต่อไปผมจะไม่เหมือนเดิม ผมสัญญาว่าผมจะดูแลกุลอย่างดีที่สุดครับ ขอให้เราสองคนได้คบกันเถอะนะครับ"

"ไม่"   เพ็ญปฏิเสธเสียงแข็ง   พร้อมกับยื่นคำขาดกับกุลว่า "ถ้าลูกเลือกผู้ชายคนนี้ ลูกกับแม่ขาดกัน"

"แม่..." กุลหน้าเสีย มองตามแม่ที่ลุกหนีไปอย่างมีอารมณ์ ก่อนจะหันกลับมามองอัศวิน...หน้าเศร้าไปด้วยกัน

เพ็ญเข้ามานั่งร้องไห้ในห้องนอน สักครู่กุลตามมานั่งลงข้างๆ แล้วกอดแม่ทั้งน้ำตา

"กุล แม่ขอโทษ แม่ไม่อยากเห็นลูกมีสภาพเหมือนแม่"

"ไม่เป“นไรค่ะแม่ กุลรู้ว่าแม่ทำไปเพราะรักกุล"

"กุล...แม่รักกุลนะ" แม่ลูกสะอื้นไห้ กอดรัดกันด้วยความรัก ผูกพัน และเข้าใจ...

ฝ่ายจอมใจยังคงไปดูแลทศวินที่รักษาอยู่โรงพยาบาลมิได้ขาด สายวันนี้ เธอเข็นรถพาเขาออกมาสูดอากาศนอกห้องพักฟ—้น

"คุณทศคะ ตอนนี้คุณสบายใจขึ้นหรือยังที่ได้แก้ข้อครหาของพ่อคุณ"

"จริงๆฉันก็น่าจะมีความสุขนะ แต่ว่า..."

"เรื่องคุณชัชวินใช่ไหม"

"สำหรับฉัน...เขาก็ยังเป“นน้องชายอารมณ์ดีเสมอ"

"แต่ถ้าฉันเป“นคุณชัช    ฉันก็คงมองคนอื่นเป“นญาติได้ลำบากใจ"

"เธอคิดว่าแก้วใสจะช่วยได้ไหม"

จอมใจอึ้งไป มองหน้ากันไปมาแบบต่างคนก็ต่างไม่แน่ใจ... เวลาเดียวกันนั้นเอง แก้วใสอยู่ในห้องพักฟื้นกับชัชวิน แก้วใสพยายามสร้างกำลังใจให้ชัชวิน แต่ดูเหมือนชัชวินจะไม่ค่อยยินดียินร้าย    เพราะรู้สึกละอายใจกับความผิดของพ่อแม่และตัวเอง จึงตั้งท่าไล่แก้วใสกลับอยู่เรื่อย

"คุณชัช ทำไมไล่แก้วล่ะคะ แก้วอยากอยู่เป“นเพื่อนคุณ"

"ไม่จำเป“นหรอกแก้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว"

"ไม่ค่ะ แก้วบอกแล้วไงว่าทุกอย่างที่แก้วทำเพราะ..."

"มันไม่ใช่ที่แก้ว" เขาแทรกขึ้นทันที "แต่มันเป“นที่ผม ผมไม่มีค่าสำหรับแก้วหรอก"

"ไม่นะคะคุณชัช คุณมีค่ากับแก้วเสมอ"

"มีค่าเหรอ ทั้งๆที่ผมกับครอบครัวทำร้ายแก้วกับยายมาตลอด"

"ไม่ค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ แก้วไม่เคยโกรธคุณ"

"ขอบคุณที่ให้เกียรติผมนะ แก้วจะเป“นผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรักตลอดไป"

แก้วใสยิ้มทั้งน้ำตา...แล้วคืนนี้เอง หลังจากแก้วใสกลับไปตอนหัวค่ำ ชัชวินแอบออกจากโรงพยาบาลในตอนดึก มุ่งหน้าไปยังโรงพัก แจ้งความประสงค์กับตำรวจว่าขอเยี่ยมแม่เพลินจิต

"จริงๆมันหมดเวลาเยี่ยมแล้วนะ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะหมวดแกใจดี คุณไม่ได้เยี่ยมแม่คุณหรอก" นายตำรวจคนหนึ่ง บอกกล่าว ขณะเดินนำชัชวินเข้ามา

"ผมขอบคุณมากครับ"

"ผู้ต้องหาเพลินจิต ลูกมาเยี่ยม"

ขาดคำของตำรวจ เพลินจิตเดินออกมาจากข้างใน ชัชวินเห็นสภาพแม่ทรุดโทรมไร้ราศีถึงกับน้ำตาซึมสงสาร

"เสร็จแล้วจะไปเยี่ยมพ่อก็เลี้ยวไปทางนี้นะ" ตำรวจชี้มือบอกก่อนเดินกลับออกไป

"คุณแม่...เป็นไงบ้าง"

"แม่ไม่เป็นไร ลูกล่ะ คุณย่า...เอ่อ...คุณยุบลว่ายังไง"

"ท่านไม่ว่าอะไรครับ"

"แม่ได้ยินอย่างนี้ก็สบายใจ คุณยุบลดีกับเรามาก ลูกต้องดีกับท่านนะ"

"ครับคุณแม่"

"ชัช ไปเยี่ยมคุณพ่อเขาหน่อยสิลูก" ชัชวินหลบตาแม่ทันที "ชัช...อย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดลูกนะ เขารอมาทั้งชีวิตเพื่อที่จะได้แสดงความเป็นพ่อให้ลูกได้รับรู้ แม่ขอร้องนะ"

ชัชวินมองไปทางห้องขังผู้ต้องหาชาย   แล้วตัดสินใจ

เดินไป เมื่อไปถึงด้านหน้าก็พยายามมองหา แต่ไม่เห็นจึงร้องเรียกคุณวิชา...ไม่กี่อึดใจวิชาก็เดินยิ้มออกมาหาชัชวินที่ยกมือไหว้เขา

"ไม่ต้องไหว้หรอก ผมไม่เหมาะจะรับไหว้จากคนอย่างคุณ คุณไม่เป็นไรแล้วนะ"

"ครับ...ผมจะมาเยี่ยมคุณบ่อยๆนะครับ"

"ถ้าผมไม่โดนโทษประหารชีวิตนะ"

ชัชวินชะงักพูดอะไรไม่ออก นอกจากบอกลา "ผมลานะครับ...คุณพ่อ"

วิชารับไหว้ลูกชายอย่างสุขใจ และมองตามเขาไปจนลับตา...

เช้าขึ้น พวกยุบลพากันตกใจเมื่อมาโรงพยาบาลและรู้ว่าชัชวินหายตัวไป ทศวินขอโทษทุกคนที่ไม่ได้ดูแลว่าชัชวินหายไปตอนไหน ทุกคนไม่โทษเพราะเข้าใจดีว่าทศวินเองก็ยังเจ็บป่วยอยู่...แก้วใสพยายามโทร.ติดต่อ แต่ชัชวินปิดมือถือตลอดเวลา จนอีกครู่ก็ได้เบาะแสจากกล้องวงจรของโรงพยาบาลว่าชัชวินออกไปตอนตีหนึ่ง ส่วนอัศวินกับกุลที่เช็กไปทางโรงพักก็ทราบว่าเมื่อคืนชัชวินไปเยี่ยมเพลินจิตกับวิชา

"โธ่ ชัชหลานย่า...นี่หมายความว่าตาชัชหนีเราไปแล้วใช่ไหม" ยุบลร่ำไห้คร่ำครวญ ทุกคนหน้าสลด ช่วยกันปลอบใจ...

ooooooo

สามอาทิตย์ต่อมา พนักงานสยามธาราต่างรุมอ่านบอร์ดข่าวสารด้วยความสนใจ ในจำนวนนี้มีพวกจอมใจและพวกลลิลรวมอยู่ด้วย...ทางโรงแรมจัดให้มีการประกวดทำอาหารและการตกแต่งโต๊ะอาหารระหว่างโรงแรมในเครือสยามธารา กุลถึงกับบ่นเสียดายที่เราไม่ใช่พนักงาน ไม่งั้นคงลงสมัครด้วยแน่

ลลิลกับนิลรัตน์ได้ยินก็หูผึ่ง ขยับเข้ามาแขวะพวกกุล ทั้งที่ข้าวปุ้นไม่ค่อยเห็นด้วย พอลลิลเถียงสู้พวกกุลไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยนเรื่องแขวะแก้วใสซะงั้น

"ไง อุตส่าห์ทำตัวนกรู้ทิ้งทายาทเก๊ ไปตามตัวจริงอย่างคุณทศวิน แต่เขาไม่สนเลยจ๋อยไปเยอะนะเรา"

"ลลิล เธอว่าแต่คนอื่นน่ะดูตัวเอง ไม่ใช่สิ ดูแม่เธอบ้างนะ กี่โปรเจกต์ที่แม่เธอพยายามฮั้วกับคุณเพลินจิต จะให้ฉันบอกรายละเอียดไหม"

"นังจอมใจ เล่นถึงแม่เลยเหรอ"

แล้วลลิลกับจอมใจเริ่มผลักกัน แต่ยังไม่ทันจะตบตี ทศวินก็เข้ามาขวาง แล้วให้ทั้งหกคนตามเขาไปที่ห้องทำงาน

"ทำไมพวกเธอถึงชอบมีเรื่องกันนักนะ"

"ก็ยัยจอมมาด่าแม่ลิล"

"เธอมาดูถูกแก้วก่อน"

"แล้วเธอชื่อแก้วเหรอ"

"ไม่ใช่ แต่แก้วเป็นเพื่อนฉัน"

สองฝ่ายเถียงกันไปมาแล้วทำท่าจะวางมวย ทศวินระอาหนัก ตวาดห้าม แล้วออกคำสั่ง

"ดี...ในเมื่อตีกันดีนัก ฉันก็จะให้พวกเธอเป็นทีมเดียวกันเพื่อลงแข่งทำอาหารและจัดตกแต่งโต๊ะอาหาร"

"แต่ว่าต้องเป็นพนักงานไม่ใช่เหรอคะ" กุลท้วงทันที

"ไม่จำเป็น   แค่ให้พนักงานเทรนให้ก็ได้   ฉันจะใช้

พวกเธอสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้โรงแรม"

"เอ่อ...คุณทศวินหมายถึงจะให้พวกเราช่วยสร้างภาพเสียๆเหรอครับ"

"อ้าว...นังข้าวปุ้นทำไมพูดงี้ล่ะ"   นิลรัตน์ขึ้นเสียง

"โห...ก็แม่เสือห้าตัวอยู่ร่วมกัน มันไม่เละเหรอ"

"ไม่เละหรอก พวกเธอต้องทำได้" ทศวินมั่นใจ แต่พอไปขอให้เชฟเต่าช่วยเทรนให้  เชฟเต่าถึงร้องจ๊าก  ปฏิเสธว่ายังไง ก็ไม่ได้ ทศวินข้องใจว่าทำไมจะไม่ได้?

"โธ่...แค่มาทีละสามผมยังแทบแย่  นี่เล่นมาครบหกคน แถมยังไม่ถูกกันอีก  ต่อให้ผมมีสิบมือก็เทรนเด็กพวกนี้ไม่ไหวครับคุณทศ"

"ไม่รู้ล่ะ เชฟต้องช่วยผมเทรนเด็กหกคนนี้ ถ้าเขาทำไม่ดี ผมจะย้ายเชฟไปอยู่ภูเก็ต" พูดจบทศวินก็เดินออกไปเลย เชฟเต่ามองผู้ลงแข่งขันในนามสยามธารากรุงเทพฯทั้งหกคนด้วยความกังวลใจ

หลังจากนั้นแก้วใสเข้าไปในห้องทำงานชัชวิน เห็นสิ่งของต่างๆของเขาก็ยิ่งคิดถึง

"คุณชัช คุณอยู่ที่ไหน ฉันคิดถึงคุณ..."

ยุบลเดินเข้ามาเงียบๆ แก้วใสพอเห็นก็ตกใจรีบลุกขึ้นทำท่าจะกลับออกไป แต่ยุบลขอให้อยู่ก่อน "อยู่เป็นเพื่อนย่าหน่อยได้ไหม ย่าขอโทษนะ ที่เคยกีดกันแก้ว"

"แก้วเข้าใจค่ะ"

"ขอบใจ แล้วตาชัชติดต่อมาบ้างไหม"

"ไม่เลยค่ะ"

"หวังว่าสักวันย่าคงได้เจอเขาก่อนตายนะ" ยุบลเสียงสั่นเครือ แก้วใสหน้าเสียแทบจะร้องไห้ออกมา

ooooooo

ถึงเวลาที่เชฟเต่าต้องรับบทหนักช่วยเทรนนัก-ศึกษาฝึกงานทั้งหกคนที่ทศวินส่งเข้าแข่งขันทำอาหาร... แต่ละวันที่ผ่านไป เชฟเต่าทั้งเหนื่อยทั้งเวียนหัว เพราะทั้งหกคนยังตั้งแง่ไม่สามัคคีกัน รสชาติอาหารที่ทำออก มาเลยไม่เป็นสับปะรด   ทศวินได้ชิมถึงกับเททิ้งทันที จากนั้นก็อบรมจนสองฝ่ายยอมร่วมแรงร่วมใจ ปล่อยวาง เรื่องส่วนตัวกันไว้ก่อน

แต่ถึงกระนั้นในวันแข่งขันผลปรากฏว่าทุกคนพลาดตำแหน่งชนะเลิศ ได้แค่อันดับสอง อันดับหนึ่งตกเป็นของสยามธาราภูเก็ต ทั้งหกคนแม้จะผิดหวัง แต่ก็ดีใจที่ได้ทำเต็มที่แล้ว และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือความสมัครสมานสามัคคีที่ต่อไปนี้ทุกคนจะมีให้กันไม่เปลี่ยนแปลง

อัศวินยังหนักใจเพราะแม่ของกุลใจแข็งมาก   ไม่ยอมให้เขาคบหากับกุล ที่สุดยุบลกับสุมนาก็ต้องออกโรงด้วยตัวเอง ทั้งคู่ไปเจรจากับเพ็ญถึงที่บ้าน   ใช้ความจริงใจหว่านล้อมจนเพ็ญ ใจอ่อน ครั้นพอเรื่องของอัศวินกับกุลสำเร็จเสร็จลง ก็ยังมีเรื่องชัชวินที่หายไปอย่างไร้วี่แวว   ซึ่งทุกคนยังคงตั้งตารอคอยการ

กลับมาของเขาอย่างกระวนกระวายไม่สบายใจ   โดยเฉพาะแก้วใสที่เฝ้าคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออก

จนวันหนึ่งทุกคนก็ได้ข่าวของชัชวิน ทศวินนำขบวนไปถึงถิ่น   แล้วให้แก้วใสเข้าไปเซอร์ไพรส์   แต่ดูท่าทีแล้วจะกล่อมชัชวินให้กลับไม่สำเร็จ ทศวิน อัศวิน จอมใจ และกุลจึงต้องปรากฏตัว

"เอาละ ที่พวกเราดั้นด้นมาถึงที่นี่ก็เพราะอยากจะมารับนายกลับ"

"กลับไปทำไม  ที่นั่นไม่มีอะไรเป็นของฉัน  บ้าน  งาน หรือครอบครัว มันไม่ใช่ของฉัน"

"ไม่จริงนะคะ ทุกคนที่นั่นรอคุณชัชอยู่"

"ผมอยากเริ่มต้นใหม่"

"คุณชัชคะ   แล้วแก้วล่ะ   ทำไมคุณไม่คิดถึงแก้วบ้าง คุณกลับไปเถอะนะคะแก้วขอร้อง"

"แก้ว...ผมตัดสินใจแล้ว ผมขอโทษ"

ทุกคนมองหน้ากัน ต่างก็กลุ้มในความดื้อของชัชวิน

"พอเถอะพวกเรา คุณชัชเขาเป็นคนใหม่แล้ว คนที่ไม่คิดจะกตัญญูรู้คุณคน" จอมใจโพล่งขึ้นมาด้วยท่าทีโมโห

"จอม พูดอะไรออกมา" กุลท้วงทันที

"ก็จริงไหมล่ะ ทุกคนในบ้านอัครศิริก็ถูกหลอกเหมือนกันหมด แต่พอความจริงเปิดเผย ทุกคนกลับรักและต้องการเขาเหมือนเดิม แต่ดูสิ่งที่เขาทำสิ เขาไม่ได้มีความไยดีให้กับใครเลย นายชัชวิน อาประกิตอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพื่อนาย และถ้าวันนี้อาประกิตเป็นอะไรไปก็เพราะนายนั่นแหละ"

"คุณพ่อ...เอ่อ...คุณประกิตเป็นอะไร" ชัชวินตกใจ

"นายอยากรู้ก็ไปดูเอาเองสิ ไอ้คนใจร้าย" ว่าแล้วจอมใจบีบน้ำตา ทุกคนเริ่มเข้าใจว่าจอมใจเล่นละครตบตาชัชวิน เลยนิ่งกันเอาไว้ แต่ชัชวินร้อนใจจนอยู่เฉยไม่ได้ บอกให้ทุกคนรอเดี๋ยว เขาขอไปเก็บของก่อน

ooooooo

เมื่อพากันกลับมาถึงอัครศิริ ชัชวินถึงรู้ว่าถูกจอมใจหลอกเสียแล้ว...

ประกิตไม่ได้เป็นอะไร อาการดีขึ้นมากด้วยซ้ำ และยินดีที่เป็นพ่อของชัชวินตลอดไป ยุบลเองก็ดีใจที่ได้หลานชายคนเดิมกลับมา พร้อมกันนี้ยุบลก็ตามตัวทิพย์อาภาแม่ของทศวิน กลับมาเซอร์ไพรส์ด้วยอีกคน บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความสุข และหนุ่มสาวกำลังจะสมหวังกันทุกคู่ เพราะพวกผู้ใหญ่ไฟเขียวให้หมั้นหมายกันไว้ก่อน หลังจากสามสาวเรียนจบและรับปริญญา เร็วๆนี้

ทิพย์อาภาได้เจอตัวเป็นๆของจอมใจก็รู้สึกรักและถูกชะตาทันที ทศวินเลยสบายใจที่แฟนสาวเข้ากับแม่ของตนได้ดี ไม่มีปัญหา...

หลังรับปริญญาและงานหมั้นของทั้งสามคู่ผ่านพ้นไป จอมใจมีโครงการไปเรียนต่อเมืองนอกอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่ ยังเลือกไม่ถูกว่าจะเป็นที่ไหน ทศวินจึงขอเลือกให้แต่ก็ไม่ถูกใจ จอมใจจึงเลือกเองเป็นลอนดอน

"ไปที่นิวยอร์กจะได้อยู่กับแม่ฉันไง" ทศวินอ้อน แต่ จอมใจชักฉุน น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น

"ไปอังกฤษฉันก็อยู่กับลลิล"

"ไม่เอา ไปอังกฤษไม่มีคนคุม ผมไม่ไว้ใจ"

"นี่...ฉันไม่ใช่นักโทษนะ ยังไงก็จะไปลอนดอน"

จอมใจหน้าตูมตึง ทศวินก็หน้าเข้มไม่ยอม สองคนเลยเถียงกันไม่จบ จนสุดท้ายจอมใจต้องใช้กำลังชกหน้าเขาด้วยความโมโห แต่ถูกทศวินสวนกลับด้วยมือและปาก ทั้งกอดทั้งหอมจอมใจเข้าเต็มรัก...

ooooooo

อวสาน

หวานใจกับนายจอมหยิ่ง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด