ตอนที่ 15
ค่ำนั้น เตชิตกลับเข้าบ้านก็ต้องเจอกับระเบิดลูกใหญ่...โตมรโกรธเตชิตมากหลังรู้เรื่องที่เตชิตขอกลับไปทำบ้านทอฟ้าแทนที่จะเอาที่ดินตรงนั้นไปลงทุนอย่างอื่นที่ตนต้องการ แล้วไหนจะเรื่องรีสอร์ตที่นครนายก ที่ตนต้องการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เตชิตกลับ
ไม่ใส่ใจ ทั้งที่รัญญาก็จะร่วมลงทุนอยู่แล้วด้วย
เตชิตพยายามอธิบายเหตุผลที่ไปทำบ้านทอฟ้าก็เพื่อเด็กกำพร้าอีกหลายคนที่ไม่มีบ้านจะอยู่ แต่โตมรก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เอาแต่โมโหแล้วตบหน้าเตชิตก่อนไล่ออกจากบ้านในคืนนั้นเลย
ด้านรตี หลังจากข้าวหอมกลับไปแล้ว รตีจึงได้อยู่เฝ้ารัญญาคนเดียว รตีดูแลเอาใจรัญญาเป็นอย่างดี รัญญาพอเห็นรตีอารมณ์ดีขึ้นแล้ว จึงเลียบเคียงพูดเรื่องจะขอข้าวหอมเป็นลูกบุญธรรม รตีชะงักเล็กน้อย ก่อนตีหน้าเศร้า บอกว่าเข้าใจแม่ ถ้าแม่ต้องการ
แบบนั้นจริงๆ รตีก็ไม่ขัด รตีอยากเห็นแม่มีความสุข
"จริงเหรอรตี" รตีพยักหน้าแทนคำตอบ รัญญาดีใจมากดึงรตีมากอดแน่น "ขอบใจนะรตี ลูกรักของแม่"
สองมือรตีกอดตอบรัญญา แต่ซ่อนสีหน้าเคียดแค้นเอาไว้
ooooooo
เช้าขึ้นข้าวหอมเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย รตีกลับจากเฝ้ารัญญามาเจอพอดี จึงบอกให้ข้าวหอมรอก่อน เดี๋ยวค่อยออกไปพร้อมกัน เธอขอเวลาไปอาบน้ำแต่งตัวสักครู่...แล้วขณะนั่งรถออกไปด้วยกันสองคน รตีถึงได้รู้ว่าข้าวหอมไม่ได้มาเรียน แต่จะมาทำ
เรื่องพักการเรียนต่างหาก
"เธอจะดร็อปเรียนงั้นเหรอ"
"ใช่ ฉันคงไม่เรียนแล้ว"
"ทำไม"
"ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคุณเตชิต" ข้าวหอมหน้าเศร้า รตีแอบยิ้มสะใจ แต่ทำเป็นปากหวาน
"ก็ดีนะ ที่เธอคิดได้อย่างนั้น แต่ความจริง ถ้าคุณแม่ฉันรู้เรื่องเข้า คุณแม่ก็คงส่งเธอเรียนต่อเองแหละ"
"คุณน้ารัญญาเมตตาฉันจริงๆ"
"ฉันกับคุณแม่ต่างก็มีบุญคุณกับเธอ ตอนนี้เป็นคราวที่เธอต้องตอบแทนบ้างแล้วล่ะ เธอยังจำได้ไหม ที่ฉันช่วยเธอไม่ให้จมน้ำตาย เธอสัญญาจะตอบแทนฉัน"
"ฉันเป็นหนี้ชีวิตเธอ เธออยากให้ฉันทำอะไร ฉันจะยอมทุกอย่าง"
"คุณแม่คุยกับฉัน อยากให้ฉันยอมรับเธอเป็นลูกอีกคนของคุณแม่"
"จริงเหรอ รตี"
"แต่ฉันไม่อยากให้เธอมาเป็นลูกอีกคนของคุณแม่ เธอลองคิดดูนะข้าวหอม ใครบ้างล่ะจะอยากแบ่งแม่กับคนอื่น เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยเจอคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก เราเพิ่งจะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน แล้วอยู่ๆเธอก็จะมาแบ่งเวลาของแม่ฉันไป มาแบ่งความรักของแม่ฉัน
เธอเห็นใจฉันมั่งไหมข้าวหอม ว่าฉันจะรู้สึกยังไง"
"ฉันเข้าใจ"
"งั้นเธอก็ต้องรับปากฉันว่าเธอจะไม่รับเป็นลูกบุญธรรมคุณแม่...สัญญาสิ"
"จ้ะ...ฉันสัญญา" ข้าวหอมรับปากทั้งที่เศร้าสะเทือนใจอย่างที่สุด...รตีแอบยิ้มสะใจ
ครั้นตกเย็นพากันไปที่โรงพยาบาล พอเห็นรัญญาเอ่ยปากเรื่องขอข้าวหอมเป็นลูกบุญธรรม รตีก็รีบจิกตาใส่ข้าวหอมย้ำเตือนเรื่องสัญญา เพราะกลัวข้าวหอมจะเปลี่ยนใจ ถ้าถูกรัญญารุกเร้าหนักเข้า
"ว่าไงล่ะข้าวหอม เธอจะตอบคุณแม่ว่ายังไง"
ข้าวหอมเงยหน้ามองรตี รตีส่งสายตาข่มขู่ ข้าวหอมก้มหน้า น้ำตาเริ่มคลอ
"ข้าวหอมคงรับปากคุณน้าไม่ได้ ข้าวหอมขอโทษคุณน้าด้วยค่ะ"
"ทำไมเหรอจ๊ะ น้าคิดว่าหนูอยากเป็นลูกสาวน้า เหมือนที่น้าอยากเป็นแม่ของหนู" รัญญาเสียงเครือๆ จะร้องไห้ ข้าวหอมสงสารและเสียใจ "ทำไมเหรอจ๊ะ ทำไมหนูถึงไม่อยากเป็นลูกสาวน้า...หรือว่าน้าไม่ดีพอที่จะเป็นแม่หนู"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณน้า"
"ถ้างั้นเพราะอะไรล่ะจ๊ะ ทำไมหนูถึงไม่อยากมาเป็นลูกน้า"
"ตั้งแต่วันแรกที่ข้าวหอมได้พบและรู้จักคุณน้า ข้าวหอมก็รู้สึกว่าคุณน้าเป็นเหมือนแม่ของข้าวหอม และคุณน้าจะต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุด ข้าวหอมต่างหากค่ะที่ไม่ดีพอที่จะเป็นลูกของคุณน้า"
"ถึงยังไงหนูก็ไม่ยอมมาเป็นลูกน้าใช่ไหมจ๊ะ"
"ข้าวหอมขอโทษค่ะ ที่ทำตามที่คุณน้าต้องการไม่ได้ ทั้งที่คุณน้ามีบุญคุณกับข้าวหอมมากเหลือเกิน ขอให้ข้าวหอมได้ตอบแทนคุณน้าด้วยวิธีอื่นนะคะ"
รัญญาไม่เข้าใจข้าวหอม แต่ก็ยังรู้สึกรักและเอ็นดู เอื้อมมือลูบผมข้าวหอมทั้งที่ยังร้องไห้เสียใจ...รตีกลับยืนมองสองแม่ลูกเศร้าเสียใจอย่างสดชื่นสมใจ
ooooooo0
เช้าตรู่ นาวาขับรถเข้ามาจอดในไซต์งานก่อ สร้างบ้านทอฟ้าด้วยสีหน้าแช่มชื่น แต่พอได้คุยกับหัวหน้าคนงาน นาวาเกิดหงุดหงิดโมโหขึ้นมาทันที เข้าไปเอาเรื่องเตชิตถึงในห้องทำงานของตน
"แกเข้าทำอะไรในห้องฉัน"
"เอกสารมันอยู่ในห้องนี้ ฉันก็เลยต้องเข้ามา อย่าลืมสิว่าลุงภูผาให้ฉันมาทำงานร่วมกับนาย"
"มาช่วยหรือว่าขัดขวางกันแน่ ฉันสั่งของมาทำไมถึงส่งกลับไป"
"ของที่นายสั่งมันไม่ได้คุณภาพ"
"ไม่ได้คุณภาพหรือว่านายตั้งใจจะป่วนงานฉันกันแน่" นาวายัวะ กระชากแฟ้มมาจากมือเตชิต
"นายมีสิทธิ์จะคิดอย่างนั้น ฉันไม่ได้ขอให้นายมาเข้าใจ แต่ฉันตั้งใจจะทำบ้านทอฟ้าให้ข้าวหอมจริงๆ"
"ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่นายทำก็เป็นสิ่งที่ฉันทำอยู่แล้ว งานนี้ไม่จำเป็นต้องมีนายก็ได้"
"ในเมื่อเราต่างทำเพื่อผู้หญิงคนเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นบ้านทอฟ้าเสร็จเมื่อไรก็ให้ข้าวหอมตัดสินใจก็แล้วกันว่าจะเลือกใคร" เตชิตดึงแฟ้มคืนแล้วเดินออกไปจากห้อง นาวามองตามอย่างฉุนเฉียว...
ooooooo
ขณะเดียวกันนั้น พวกรตีพารัญญาออกจากโรงพยาบาลกลับมาถึงบ้านแล้ว ยุวรินทร์เห็นข้าวหอมดูแลห่วงใยรัญญาก็อดพูดเรื่องขอเป็นลูกบุญธรรมขึ้นมาไม่ได้
"ห่วงใยรักใคร่กันขนาดนี้ แล้วทำไมไม่ตอบรับเป็นลูกน้ารัญเขานะข้าวหอม"
ข้าวหอมอึกอัก เหลือบมองรตีแวบหนึ่ง รตีชักสีหน้าใส่ยุวรินทร์อย่างไม่พอใจ
"เรื่องมันจบไปแล้ว น้าฝนจะเซ้าซี้ข้าวหอมเขาอีกทำไมคะ ไม่คิดบ้างเหรอคะว่าข้าวหอมเขาจะรำคาญ...น่ารำคาญจริง"
"ไม่เอาน่ารตี" รัญญาปราม
"ก็จริงนี่คะ คุณแม่ก็เสียใจพอแล้ว น้าฝนก็มาตอกย้ำอยู่ได้"
"น้าไม่ได้อยากตอกย้ำนะ แค่อยากรู้ว่าข้าวหอมเขาก็รักรัญเหมือนแม่แต่ทำไมไม่ยอมรับเป็นลูก หรือว่ามันมีนางมารคอยขัดขวาง"
"ถ้าน้าฝนคิดว่ามีใครมาสั่งห้ามข้าวหอมไม่ให้เป็นลูกคุณแม่ก็เชิญไปสืบค้นหาตัวมันมาให้ได้สิคะ รตีก็อยากรู้ เหมือนกันว่าใคร"
ยุวรินทร์มองรตีอย่างเจ็บใจ แต่เห็นแก่เพื่อนจึงไม่ ตอบโต้ รัญญากับข้าวหอมมองหน้ากันอย่างเหนื่อยใจ...จากนั้นรตียิ้มย่องเดินขึ้นห้อง แต่ยังไม่ทันปิดประตูที่เปิดออก ยุวรินทร์ ก็ตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"มีธุระอะไรอีกเหรอคะ น้าฝน"
"ฉันรู้นะว่าเธอเป็นคนสั่งข้าวหอมไม่ให้รับปากเป็นลูกของรัญ"
"รู้แล้วยังไงคะ"
"ฉันจะไปบอกรัญ" ยุวรินทร์ขยับจะออกจากห้อง รตีรีบผลักประตูปิดอย่างแรง
"คิดเหรอคะว่าคุณแม่จะเชื่อน้าฝน แล้วน้าฝนคิดเหรอคะว่าข้าวหอมจะยอมพูดว่ารตีเป็นคนสั่งห้าม"
"เธอนี่มันร้ายกาจเหมือนใครกันแน่ ทั้งรัญทั้งมงคลเขาก็เป็นคนดี ข้าวหอมซะอีกที่เหมาะจะเป็นลูกแท้ๆของรัญ คอยดูนะ ยังไงฉันก็จะหาทางให้ข้าวหอมยอมเป็นลูกของรัญให้ได้"
"อยากทำอะไรก็เชิญ แต่รตีไม่มีทางยอมให้น้าฝนทำสำเร็จ รตีจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ต่อให้สองคนนั้นจะเป็นแม่ลูกกันจริงๆก็เถอะ หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ เชิญค่ะ"
ยุวรินทร์เดินออกไปด้วยความโมโห รตียิ้มเหยียดอย่างไม่กลัว ยุวรินทร์เดินโมโหฮึดฮัดออกมาบ่นอุบ
"เด็กบ้า...ร้ายอย่างนี้ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นลูกจริงๆของรัญหรอก" พูดไปแล้วชะงัก "แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น..."
ยุวรินทร์หันกลับไปมองทางห้องรตี เริ่มสงสัยมากขึ้น
ooooooo
ยุวรินทร์ทั้งหมั่นไส้ทั้งสงสัยรตี พอมีโอกาสอยู่กับรัญญาโดยปราศจากรตี ยุวรินทร์จึงชี้ชวนให้รัญญาเห็นถึงความอ่อนหวานน่ารักของข้าวหอมที่แตกต่างจากรตีอย่างสิ้นเชิง ซึ่งข้อนี้รัญญารู้แก่ใจอยู่แล้ว แต่ เมื่อยุวรินทร์แสดงความเห็นเรื่องรัญญาขอข้าว
หอมเป็นลูกบุญธรรม ข้าวหอมกลับปฏิเสธ สาเหตุอาจมาจากถูกรตีข่มขู่ รัญญาไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะเด็กสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ที่บ้านทอฟ้า รตีไม่มีทางทำอย่างนั้นกับข้าวหอมแน่
"แล้วถ้าฉันบอกว่ารตียอมรับกับฉันแล้วล่ะ"
"ฉันว่าที่รตีบอกเธอน่ะ เขาประชดมากกว่า เฮ้อ ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าเธอกับรตีมีอคติอะไรกันนักหนา เจอหน้ากันเป็นต้องเถียงกันทุกที"
"แปลกใจเหมือนกันเหรอ ทั้งที่ฉันกับเธอก็เป็นเพื่อนรักกัน เข้ากันได้ทุกเรื่อง แต่ลูกสาวเธอกลับไม่มีอะไรเหมือนเธอเลยซักนิด จนทะเลาะกับฉันได้ทุกเรื่องเหมือนกัน"
"เธอจะพูดอะไร ฝน"
"ฉันว่าเราสรุปเร็วไปหรือเปล่า...ว่ารตีเป็นลูกเธอจริงๆ"
รัญญาตกใจ หันมองซ้ายขวากลัวใครได้ยิน แล้วบอกเพื่อนรักว่า
"ไม่ว่าเธอจะไม่พอใจรตีแค่ไหนนะ แต่เธอก็ห้ามพูดเรื่องนี้อีกเด็ดขาด คิดไหมว่าถ้ารตีมาได้ยินเข้าจะรู้สึกยังไง"
"แต่ว่า..."
"พอเถอะฝน ฉันว่าเราข้ามพ้นเรื่องนั้นไปแล้ว ฉันมั่นใจว่ารตีเป็นลูกสาวฉัน แล้วฉันก็ไม่ต้องการเถียงกับเธอเรื่องนี้อีก" พูดจบรัญญาหยิบหนังสือมาเปิดดูเพื่อเป็นการปิดประเด็น ยุวรินทร์มองแล้วหนักใจ ไม่กล้าพูดต่อ...ส่วนรตีที่ยืนแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง แค้น
แสนแค้น สบถเบาๆอย่างอาฆาต
"เล่นไม่เลิกใช่ไหมนังฝน...อยากเล่นกับรตี เดี๋ยวก็รู้ว่ามันสนุกแค่ไหน"
แล้วในบ่ายนั้นเอง รตีก็เล่นงานยุวรินทร์ด้วยการเอาของบูดเน่าไปละเลงรถยุวรินทร์จนเหม็นไปหมด ขณะยุวรินทร์ ขับไปจอดทำธุระที่ตลาดหลักทรัพย์ พอกลับลงมาเห็นสภาพรถ ยุวรินทร์โกรธจัดแต่ก็หาตัวคนทำไม่ได้ กลับถึงบ้านจึงเล่าให้ รัญญากับข้าว
หอมฟัง ระหว่างนี้รตีเดินหน้าซื่อตาใสเข้ามาถามทุกคนว่าคุยอะไรกันอยู่ หน้าเครียดเชียว ข้าวหอมบอกรตีว่ามีเรื่องนิดหน่อย รถของน้าฝนถูกใครก็ไม่รู้ละเลงปลาเน่าใส่
"มิน่าล่ะ รตีเดินเข้ามาในบ้านมาถึงได้กลิ่นตุๆ แย่จังเลยนะคะน้าฝน"
ยุวรินทร์ฟังแม่งๆหู เริ่มสงสัย สวนอย่างมีอารมณ์ว่า
"ก็แค่รถที่มันสกปรก ล้างแล้วก็หายเหม็น แต่จิตใจคนที่มันทำสิ คงสกปรกเหม็นเน่าพอๆกัน แต่ไม่รู้ว่าต้องล้างยังไงถึงจะหาย"
"แต่สิ่งที่น้าฝนไปทำกับเขามันอาจจะแย่ หรือแย่ยิ่งกว่าที่เขาทำกับน้าฝนก็ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำกับน้าฝนแรงๆแบบนี้"
"น้าว่าเธอดูจะเข้าข้างคนที่มันทำกับน้าเหลือเกินนะ"
"ก็แล้วแต่น้าฝนจะคิดนะคะ รตีห้ามน้าฝนไม่ได้หรอก รตีก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ไม่เข้าใจความเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบผู้ใหญ่หรอกค่ะ รตีขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบนก่อนนะคะคุณแม่"
ยุวรินทร์มองตามรตีอย่างเคืองแค้น พอตกกลางคืน ยุวรินทร์ให้แจงแอบเอากุญแจรถรตีมาให้เพื่อพิสูจน์หลักฐาน ปรากฏว่าท้ายรถรตียังมีกลิ่นบูดเน่าหลงเหลือ แต่ไม่ทันยุวรินทร์ จะทำอะไรต่อ รตีก็ออกมาเจอ สองคนจึงทุ่มเถียงกันหน้าดำหน้าแดง กระทั่ง
ยุวรินทร์ทำท่าจะเข้าไปตามรัญญามาช่วยดมกลิ่น รตียิ่งแสดงความถ่อย กระชากดึงยุวรินทร์เอาไว้
"ยังไม่เข็ดใช่ไหม ถึงได้วอนหาเรื่องอีก"
"นี่เธอยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเป็นคนเอาปลาเน่ามาละเลงรถฉันจริงๆ"
"ช่วยไม่ได้ น้าฝนหาเรื่องเองที่ไปบอกคุณแม่ว่ารตีไม่ใช่ลูก"
"แล้วถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมเธอต้องร้อนตัวด้วย ทองแท้น่ะมันไม่กลัวไฟหรอก แต่สำหรับเธอคงกลัวสินะ ว่าวันนึงรัญเขาจะรู้ว่าเลือดชั่วๆของเธอมันเข้ากับเลือดดีๆของเขาไม่ได้"
"ฉันเป็นลูกคุณแม่ และไม่ว่าแกจะยุแหย่ยังไงก็เปลี่ยนเรื่องนี้ไม่ได้" รตีไม่พูดเปล่า ตบหน้ายุวรินทร์ดังฉาด ยุวรินทร์ โมโหมากตบคืนรตี แล้วสู้นัวเนียจนล้มไปด้วยกัน รัญญา ข้าวหอม แจง วิ่งกรูออกมาเห็นยุวรินทร์กำลังคร่อมตัวรตี รัญญาตวาดห้ามยุวรินทร์อย่างไม่พอใจสุดๆ
รตีแสบมาก แอบกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดออก แล้วฟ้องแม่รัญญาว่าน้าฝนทำร้ายเธอ รัญญาโกรธจัด ตำหนิยุวรินทร์ ทำรุนแรงกับลูกของเธอจนเลือดตกยางออก พอยุวรินทร์ปฏิเสธ รัญญาก็ว่าเห็นอยู่ตำตา เธอยังบอกว่าไม่ได้ทำอีกหรือ รตีได้ทีบีบน้ำตาเป็นเผาเต่า
"น้าฝนหาว่ารตีเป็นคนเอาปลาเน่ามาสาดรถเขาวันนี้ค่ะ เขามาเปิดรถรตี บังเอิญวันนี้รตีซื้อแกงไตปลามากิน น้าฝนคงได้กลิ่นแล้วคิดว่ารตีแกล้งเขา แต่รตีเปล่านะคะคุณแม่"
"นังงูพิษ เมื่อกี๊แกยอมรับออกมาเองว่าแกเป็นคนทำ คราวนี้ทำไมไม่พูดความจริงล่ะ"
"รตีแค่บอกว่าถ้าน้าฝนจะคิดอย่างนั้นรตีก็ห้ามไม่ได้ แต่รตีไม่ได้พูดว่ารตีเป็นคนทำนะคะ"
"นังตอแหล!" ยุวรินทร์จะเข้าทำร้ายรตีอย่างลืมตัว
"พอทีฝน ถ้าขืนเธอทำอะไรลูกสาวฉันอีก เธอก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าเพื่อน"
"นี่เธอไม่ฟังฉันเลยใช่ไหมรัญ"
"ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบรตี ฉันทนได้ที่เธอว่ารตีก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะ เรื่องนี้ฉันก็ไม่เข้าข้างลูก แต่เธอมองดูตัวเองบ้างสิ เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำไมถึงไม่ยับยั้งชั่งใจแล้วลงมือเอากับเด็กอย่างนี้"
ข้าวหอมเห็นใจทุกคนอยากจะช่วยไกล่เกลี่ย แต่ยุวรินทร์ รีบขัดขึ้น
"ช่างเขาเถอะข้าวหอม เขาจะต่อว่าน้ายังไงก็ปล่อยเขา ฉันเพิ่งรู้วันนี้เองว่าความเป็นเพื่อนที่ฉันมีให้เธอมายี่สิบปี มันไม่มีค่าพอให้เธอเชื่อใจฉันเลย ฉันผิดหวังจริงๆ" ว่าแล้วยุวรินทร์ เดินเข้าบ้าน รัญญาหน้าเครียดกลุ้มใจ ตรงกันข้าม รตีกลับแอบยิ้มสมใจ
เช้าขึ้น ยุวรินทร์เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าหิ้วลงมาบอกลาข้าวหอมและรัญญา รัญญาไม่แม้แต่จะห้ามสักคำ กลับอวยพรให้โชคดี แล้วบอกข้าวหอมหลังจากยุวรินทร์หิ้วกระเป๋าออกไปแล้วว่า ที่น้าไม่ห้ามก็เพราะต้องการให้ยุวรินทร์ไปสงบสติอารมณ์สักพัก เขา
จะได้มีเวลาคิดใคร่ครวญเรื่องนี้ เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาต้องรู้ว่าไม่ควรทำรุนแรงกับรตี บางทีอยู่ห่างๆกันสักพักอาจจะทำให้อะไรมันดีขึ้น...
สายหน่อย โตมร มาขอพบรัญญาด้วยเรื่องรีสอร์ตที่นครนายก ซึ่งรอดำเนินการมานานมากแล้ว โตมรจึงนำเอกสารอนุมัติการสร้างมาให้รัญญาเซ็นในฐานะหุ้นส่วน รัญญารับแฟ้มเอกสารมาอ่านครู่หนึ่งก็นิ่วหน้าแปลกใจ
"เอ๊ะ ผู้รับผิดชอบโครงการไม่ใช่เตชิตหรอกเหรอคะ"
"พอดีเตชิตเขาอยากไปทำบ้านทอฟ้าน่ะครับ เลยต้องเปลี่ยนคนรับผิดชอบ แต่คุณรัญวางใจได้ เพราะคนนี้เขาทำงานมาหลายปี รีสอร์ตสวยๆหรือตึกใหญ่ๆดังๆก็ผ่านมือเขามาแล้วทั้งนั้น"
"แต่ที่ฉันตกลงร่วมทุนด้วยก็เพราะเห็นว่าเตชิตจะเป็นคนคุมงานเอง คุณคงเข้าใจนะคะว่าเงินลงทุนมันไม่ใช่น้อยๆ แล้วฉันเองก็ไม่เคยหยิบจับงานอย่างนี้มาก่อน ฉันอยากให้คนรับผิดชอบเป็นเตชิต ฉันจะได้วางใจ"
"เอาอย่างนี้ดีไหมครับ บ้านทอฟ้าก็กำลังคืบหน้าไปมากแล้ว เราเริ่มโปรเจกต์รีสอร์ตไปก่อน แล้วพอบ้านทอฟ้าเสร็จ ค่อยให้เตชิตมารับช่วงต่อ"
"เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะ ฉันจะรอให้เตชิตทำบ้านทอฟ้าให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยมาตกลงเรื่องรีสอร์ตที่นครนายกใหม่นะคะ" รัญญายื่นแฟ้มคืนให้ โตมรหน้าเสียพูดไม่ออก กลับออกมาที่รถด้วยท่าทางหงุดหงิด รตีตามออกมาเรียกลุงโตมร จึงรู้ว่าเตชิตไปทำบ้านทอฟ้า รตีเลยใส่ไฟไปอีกว่า ข้าวหอมเป็นคนปั่นหัวเตชิต แต่เธอมีทางแก้ไขเรื่องนี้ เธอจะช่วยลุงเอง จะพาเตชิตกลับมาคืนลุงให้ได้
หลังจากโตมรกลับไปแล้ว รตีก็เข้ามาออดอ้อนรัญญาขอไปพักผ่อนสมองที่บ้านทอฟ้า เพราะเครียดอดหลับอดนอนอ่านหนังสือสอบมาหลายวันแล้วก็จะได้ไปดูด้วย ว่าตึกเรียนหลังใหม่ของบ้านทอฟ้าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ตอนแรกรัญญาเป็นห่วงและไม่อยากห่างลูก แต่พอรตีตื๊อหนักเข้า รัญญาก็ใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่ารตีต้องไปกับข้าวหอม รตีไม่พอใจแม่ แต่ก็ไม่กล้าขัดใจ
เมื่อรตีมาบอกแกมเหน็บแนมข้าวหอมว่าคงดีใจที่จะได้ไปหาเตชิต ข้าวหอมแปลกใจไม่รู้ว่าเตชิตไปอยู่ที่นั่น
รตีหาว่าข้าวหอมแกล้งเซ่อ ก็เตชิตบอกเธอเองไม่ใช่เหรอ ว่าเขาจะกลับไปทำบ้านทอฟ้าขึ้นมาใหม่เพื่อเธอ
"ฉันไม่คิดว่าเขาจะพูดจริง"
"อ๋อ นี่ยอมรับแล้วเหรอว่าคุณเตชิตเขาทำบ้านทอฟ้าเพื่อเธอ"
"ไม่ใช่นะรตี ฉันหมายถึง ฉันไม่คิดว่าคุณเตชิตจะขึ้นไปทำบ้านทอฟ้าจริงๆต่างหาก เอาเถอะ ฉันเองก็ไม่อยากทิ้งคุณน้ารัญไว้คนเดียวเหมือนกัน ถ้างั้นฉันจะไปเรียนท่านว่าฉันไม่ไปแล้วกันนะ"
"จะบ้าเหรอ ถ้าเธอไม่ไปแล้วคุณแม่จะยอมให้ฉันไปเหรอ"
"แล้วเธอจะเอายังไงล่ะ"
"ก็ไปด้วยกันนั่นแหละ แต่ถ้าขึ้นไปถึงบ้านทอฟ้าเมื่อไรก็อย่าลืมตัวแล้วกันว่าเธอน่ะไม่ใช่คู่ หมั้นของคุณเตชิตแล้ว"
ข้าวหอมแอบเศร้า พยักหน้ารับ แล้วรตีก็เดินกระแทกเฉียดข้าวหอมกลับเข้าบ้าน เป็นจังหวะที่นาวาโผล่เข้ามาพอดี นาวามีของฝากมาให้ทั้งรัญญาและข้าวหอม แต่ตอนนี้เขาอยากคุยกับข้าวหอมก่อน ข้าวหอมสีหน้ากระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที เหมือนรู้ว่า
นาวาจะคุยเรื่องอะไร
สองคนนั่งคุยกันในสวน นาวาพอรู้ว่าข้าวหอมกำลังจะไปที่บ้านทอฟ้าก็บ่นเสียดาย พรุ่งนี้ตนมีประชุมเลยไปด้วยไม่ได้ ทั้งๆที่ไม่อยากให้ข้าวหอมไปเจอกับเตชิตโดยไม่มีตน
ข้าวหอมนึกไปถึงเตชิตกับรตีก็สะท้อนใจ บอกนาวาว่ารตีไปด้วยทั้งคน เตชิตคงไม่มีเวลามาหาเรื่องเธอหรอก เขาไม่ต้องห่วง นาวาจับมือข้าวหอมบีบเบาๆ บอกความรู้สึก
"ฉันห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เป็นห่วงเธอไม่ได้หรอก ความจริงที่ฉันมาหาเธอก็เพราะอยากคุยเรื่องที่เราพูดค้างกันไว้ที่วัด...เธอ ตอบรับฉันได้ไหมข้าวหอม"
ข้าวหอมอึกอัก...กล่าวคำขอโทษ นาวาหน้าจ๋อยรู้ทันทีว่ากำลังจะได้รับการปฏิเสธ ข้าวหอมรู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่อยากให้นาวามีความหวัง
"เธอรักเตชิตใช่ไหม" นาวาตัดสินใจถามตรงๆ
"ฉันคงไม่มีหัวใจให้คนใจร้ายคนนั้น...อีกอย่างคุณเตชิตกับรตีก็ดูจะเข้ากัน ได้มากกว่า..."
"ถ้างั้นฉันจะถือว่าเธอไม่พร้อมจะมีใคร ฉันยังไม่แพ้ เตชิตใช่ไหม"
"ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะพร้อมรักใครซักคน คุณอย่ารอเลยนะคะ"
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะรอเธอเสมอ ไม่แน่นะ พรุ่งนี้เธออาจจะรักฉันก็ได้...ให้ฉันได้รอเธอต่อไปนะ"
ข้าวหอมนิ่งไปด้วยความซึ้งใจในความแสนดีของนาวา...ข้างฝ่ายรตีที่คิดจะรวบ หัวรวบหางเตชิต โดยวางแผนขึ้นไปหาเขาถึงบ้านทอฟ้า แต่รตีโทร.ไปก่อนที่จะเดินทางพรุ่งนี้ เตชิตกลับไม่รับสาย ทำให้รตีหงุดหงิด อยากเอาชนะเขาให้ได้
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่รตีกับข้าวหอมออกเดินทางด้วยรถยนต์โดยมีคนขับรถขับให้นั่งสบายๆ ยุวรินทร์กำลังมุ่งหน้าไปบริษัทภูผา พอไปถึงเลขาฯบอกว่าคุณภูผามีประชุมข้างนอก เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่ ยุวรินทร์นึกโกรธตัวเองที่ไม่โทร.มาก่อน เลขาฯถามว่า
จะฝากข้อความไว้ไหม ท่านกลับมาจะได้เรียนให้ทราบ นาวาเดินเข้ามาได้ยิน เขายกมือไหว้ยุวรินทร์ก่อนบอกว่า ฝากกับผมก็ได้ ผมต้องออกไปประชุมกับพ่ออยู่แล้ว
ยุวรินทร์หน้าเครียดหนักใจ จะพูดกับนาวาดีไหม นาวาสังเกตเห็นสีหน้ายุวรินทร์ก็พอจะเดาได้ว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญ จึงบอกให้น้าฝนโทร.เข้ามือถือพ่อก็ได้ ตอนนี้คงยังไม่เข้าประชุม
"ไม่เป็นไรจ้ะ...นาวาพอจะมีเวลาคุยกับน้าซักสิบนาทีไหม"
นาวาตกลงทันที สองคนเข้ามาคุยในห้องทำงานที่มิดชิด ยุวรินทร์ขอความช่วยเหลือจากนาวาเพราะเคยอยู่บ้านทอฟ้ามาก่อน เธออยากรู้ความเป็นมาของรตี
"ความเป็นมาของรตี? ไม่รู้หรอกครับ ผมไม่ค่อยได้คบหาสมาคมกับเขาซักเท่าไหร่"
"แล้วถ้าน้าอยากจะสืบประวัติรตีล่ะ"
"เห็นจะลำบากครับ...ไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารประวัติเด็กบ้านทอฟ้าวอดวายไม่ เหลือเลย"
"ไฟไหม้...อุบัติเหตุหรือเจตนา ไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ... มันจงใจเผาทำลายประวัติตัวเองแน่ๆ"
"เดี๋ยวก่อนนะครับน้าฝน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ครับ ทำไมน้าฝนถึงสนใจประวัติรตีขนาดนี้ มีอะไรเหรอครับ"
"น้ากำลังสงสัยว่ารตีไม่ใช่ลูกแท้ๆของรัญ"
"น้าฝนว่าไงนะครับ"
"ถึงมันจะเป็นแค่ความรู้สึกของน้า ไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้รัญเขาเชื่อ แต่นาวาลองคิดดูสิ รัญเป็นคนดี เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว แล้วน้าก็รู้จักมงคลที่เป็นสามีเขา รายนั้นถึงจะจนแต่ก็เป็นคนดีเหมือนกัน แล้วรตีไปเอาสันดานหยาบคายร้ายกาจอย่างนั้นมาจาก
ไหน ถ้าไม่ใช่เลือดชั่วที่ได้มาจากกรรมพันธุ์ นี่ไม่นับว่ารตีมีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกับรัญเขานะ"
"แต่เรื่องกรุ๊ปเลือดนั่น รตีเขาอาจจะมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับพ่อเขาก็ได้นะครับ"
"น้าถึงต้องหาทางพิสูจน์อยู่นี่ไง ว่าจริงๆแล้วรตีเป็นใครมาจากไหน"
"ถ้าจะสืบประวัติรตี ผมว่าคงจะยาก แต่ถ้าจะพิสูจน์ว่ารตีเป็นลูกน้ารัญหรือเปล่า ผมว่าเรายังพอมีทางนะครับ"
ยุวรินทร์ท่าทีตื่นเต้น รอฟังวิธีของนาวาอย่างตั้งใจ...แล้วหลังจากนั้นยุวรินทร์ก็รีบไปที่บ้า นรัญญา เรียกแจงมากระซิบ กระซาบก่อนจะพากันขึ้นไปที่ห้องรตี ช่วยกันหาเส้นผมหรือเศษเล็บของรตี แต่ไม่พบสักนิด เพราะแจงเพิ่งทำความสะอาดเกลี้ยงเกลา
ไปก่อนหน้านี้เอง
ทางรตีกับข้าวหอมที่เดินทางมุ่งหน้าไปบ้านทอฟ้า ระหว่างทางรตีให้คนรถแวะซื้อเหล้าหนึ่งขวด อ้างว่าจะเอาไปฝากเตชิต...พอสองสาวไปถึง เตชิตดีใจมากที่เห็นข้าวหอม แต่ต้องอึดอัดรำคาญรตีที่ทำฝรั่งจ๋า กอดทักทายเขาจนเกินงาม
"พอทีเถอะรตี เราไม่ใช่ฝรั่งถึงได้มากอดทักทายกัน"
"ก็รตีคิดถึงคุณนี่คะ หายหน้าไปเลย ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่บอก"
"แล้วพวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่"
"รตีคิดถึงคุณเตชิต แล้วก็คิดถึงบ้านทอฟ้า ก็เลยมาให้หายคิดถึงไงคะ"
ข้าวหอมยืนนิ่ง รู้สึกว่าตัวเป็นคนนอกเพราะไม่ใช่คู่หมั้นของเตชิตแล้ว มองรตีว่าคู่ควรกับเตชิตมากกว่าก็สะท้อนใจ...ครู่ต่อมา เตชิตพาข้าวหอมกับรตีไปดูในโรงนอนที่สภาพยังเหมือนเดิม แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย ข้าวหอมจึงจะขอนอนที่นี่คืนนี้
"จะบ้าเหรอข้าวหอม" รตีค้านเสียงหลง "เธออยากนอนที่นี่ก็นอนไปคนเดียวเถอะ อยู่กันสองคนทั้งโรงนอน ฉันไม่เอาด้วยหรอก น่ากลัว"
"กลัวอะไรกันรตี ที่นี่เคยเป็นบ้านของเรานะ"
"ฉันก็ยังแปลกใจอยู่ว่าเมื่อก่อนฉันทนอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง"
ข้าวหอมมองรตี หน้าเศร้าอย่างผิดหวัง...รตีไม่สน คิดแต่เรื่องแผนของตัวเอง จึงหันไปถามเตชิตว่านอนที่ไหน เตชิตบอกว่าเขากลับไปนอนที่บ้านพัก และให้ทั้งคู่ไปค้างด้วยกัน รตีตาวาวสมใจแต่ข้าวหอมยังอยากจะพักที่นี่ เตชิตเป็นห่วงไม่ยอมให้ปล่อย
ข้าวหอมไว้ที่นี่คนเดียวเด็ดขาด เพราะข้างนอกมีคนงานพักอยู่หลายคน รตีฟังแล้วหมั่นไส้เต็มแก่ โพล่งขึ้นว่า
"คุณเตไม่น่าไปห้ามเขาเลยนะคะ บางทีเขาอาจจะชอบแบบนั้นก็ได้"
ข้าวหอมอึ้งหน้าชา รตีเห็นแววตาไม่พอใจของเตชิต จึงรีบแก้ว่าเธอแค่ล้อเล่น พูดแล้วกอดแขนเตชิต ชวนเขาปาร์ตี้คืนนี้ รวมทั้งข้าวหอมด้วย ถ้าไม่มีข้าวหอม งานนี้ก็คงไม่สนุก
ooooooo
หลังจากแอบไปที่บ้านรัญญาแล้วไม่ได้สิ่งที่ต้องการติดมือกลับมา ยุวรินทร์ร้อนใจและไม่อยากรอ เธอนัดพบนาวาอีกทีในตอนค่ำ ขอร้องนาวาช่วยขึ้นไปที่บ้านทอฟ้า หาทางเอาอะไรก็ได้จากตัวรตีที่พอจะนำไปตรวจดีเอ็นเอได้
"ผมอยากขึ้นไปที่นั่นอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับน้าฝน ผมสัญญาว่าน้าฝนจะได้ตรวจดีเอ็นเอรตีกับน้ารัญแน่นอนครับ"
"แต่เราต้องไม่ลืมนะว่างานนี้จะกระโตกกระตากไม่ได้ น้าไม่อยากให้รตีไหวตัวทัน แล้วเราก็จะต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกกับใคร แม้แต่ข้าวหอม"
นาวารับปากแข็งขัน...ขณะเดียวกันนั้นที่บ้านพักของเตชิตที่เพชรบูรณ์ รตีเป็นตัวตั้งตัวตีจัดปาร์ตี้แบบกันเอง รตีแต่งตัวสุดเซ็กซี่จนข้าวหอมออกปากเตือนว่าโป๊เกินไป แต่รตีมีหรือจะฟัง กลับหาว่าข้าวหอมกลัวเตชิตจะหันมาสนใจตนมากกว่า ข้าวหอมพยายามจะอธิบาย รตีเมินหนีไปหาโถน้ำพั้นช์ที่สั่งไว้ แล้วหยิบขวดเหล้าเอามาเทเติมใส่โถพั้นช์ ข้าวหอมเพิ่งเห็นเหล้า ถามรตีว่าเอามาจากไหน รตีตอบยียวน และไม่สนใจจะฟังที่ข้าวหอมห้ามดื่มด้วย
เตชิตเข้ามาได้ยิน สั่งห้ามรตีกินเหล้าในบ้านนี้ รตีทำหูทวนลม ยกแก้วเครื่องดื่มนั้นจิบ แถมยังเชิญชวนเตชิตดื่มด้วย จะได้รู้ว่ามันอร่อยแค่ไหน
"ฉันว่าฉันมีเรื่องต้องคุยกับแม่เธอนะ" เตชิตเดินไปที่โทรศัพท์ รตีรีบตามมาเกาะแขนเขาไว้
"ไม่เอาน่าคุณเตก็...ให้รตีฉลองหน่อยไม่ได้เหรอคะ อุตส่าห์ได้กลับมาบ้านทอฟ้าทั้งที รตีมีความสุขม้ากมาก...คุณเตสนุกไปกับรตีหน่อยสิคะ ข้าวหอมก็เอาแต่หน้าบูดหน้าบึ้งเพราะคิดถึงแต่คุณนาวาไปคนนึงแล้ว"
เตชิตหันขวับมองข้าวหอม น้ำเสียงเริ่มไม่ดี "คงเสียดายสินะที่นาวาไม่อยู่ที่นี่...เขาไม่ได้บอกเธอเหรอว่าเขากลับ กรุงเทพฯไปแล้ว"
"บอกค่ะ เขาไปหาฉันที่บ้านน้ารัญด้วยซ้ำ"
"ข้าวหอมเขาไม่ได้เต็มใจมาที่นี่หรอกค่ะ แต่คุณแม่ ให้เขามาเป็นเพื่อนรตี เขาก็เลยต้องจำใจมา"
"อ้อ ที่แท้ก็โดนบังคับ...ตัวอยู่ที่นี่ แต่ใจคงอยู่ที่กรุงเทพฯ"
"ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้อยากมา แล้วใจฉันก็อยู่ที่กรุงเทพฯ จริงๆซะด้วย...ขอโทษนะคะ สงสัยฉันจะทำให้งานกร่อยซะแล้ว ฉันขอตัวแล้วกันค่ะ" ข้าวหอมกลับขึ้นห้องทันที เตชิตมองตามหน้าเครียด รตีแอบยิ้มพอใจที่แผนยุยงเริ่มไปได้สวย...ข้าวหอมกลับเข้ามา
ในห้อง เสียใจและน้อยใจเตชิต พยายามไม่คิด เดินไปหยิบหนังสือมาอ่าน แต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง
ส่วนรตีที่สบโอกาสอยู่สองต่อสองกับเตชิต รตีเริ่มนัวเนีย เตชิตกลับไม่เล่นด้วย ขอตัวหนีขึ้นห้องหน้าตาเฉย ทำเอารตีฮึดฮัดขัดใจเป็นบ้า ความพยายามในการยั่วยวนไร้ผลโดยสิ้นเชิง...
เตชิตเข้าห้องหยิบกล่องนาฬิกาที่เคยจะให้ข้าวหอมตอนเปิดเทอมวันแรก แต่มีเหตุต้องเก็บมันเอาไว้...นั่งอยู่ไม่กี่อึดใจ เตชิตก็ถือกล่องนาฬิกาออกไปหาข้าวหอมอีกห้อง
"คุณเตชิต...ฉันไม่เข้าใจเลยว่าการคอยตามหาเรื่องฉันมันสนุกนักหรือไงคะ ทำไมคุณไม่กลับไปสนุกกับรตี เขาคงรอคุณอยู่นะคะ"
"เดี๋ยวข้าวหอม ฉันขอโทษ" เขาดันประตูไว้ "เธอก็รู้ว่าฉันกับนาวาเป็นคู่แข่งกันมาตลอด...ฉันคงฉุนเฉียวไปบ้างเวลาที่ ได้ยินเธอพูดถึงมัน...นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากให้เธอมานานแล้ว แต่ฉันเห็นว่านาวามันก็ให้เธอเหมือนกัน มันอยู่กับฉันมานานแล้ว เธอจะเก็บ
ไว้ได้ไหม"
"คุณก็รู้ว่าฉันมีแล้ว คุณจะมาให้ฉันอีกทำไม เอาไปให้รตีเถอะค่ะ"
"แต่ฉันไม่ได้ซื้อมาให้รตี ฉันซื้อมาให้เธอ หรือว่าของที่นาวาให้มันมีค่ามากกว่า เธอเลยไม่เห็นค่าของที่ฉันให้"
"ใช่ค่ะ ฉันเห็นคุณค่าสิ่งที่คุณนาวาให้เสมอ เพราะสิ่งที่เขาให้ไม่ต้องการอะไรตอบแทน แล้วเขาก็ไม่คิดจะซื้อฉันด้วยของมีค่าอะไรทั้งนั้น"
"นี่เธอกำลังหาว่าฉันซื้อเธอด้วยของสิ่งนี้งั้นเหรอ"
"ใช่ค่ะ แล้วฉันก็ขอบอกว่าฉันต้องเจ็บเพราะคุณมามากแล้ว ฉันจะไม่ยอมเจ็บอีก"
ข้าวหอมปิดประตูใส่หน้า เตชิตถึงกับอึ้งไปเลย รตีแอบมองมา รอยยิ้มร้ายกาจผุดเต็มหน้า ส่วนข้าวหอมที่ในห้อง นั่งอ่อนล้าอ่อนแรง รำพึงกับตัวเองหน้าหมองเศร้า
"เราทำถูกแล้วใช่ไหม...เขาเป็นของรตี...เขาแค่จะซื้อใจเราด้วยของมีค่าพวก นั้น เราต้องไม่ใจอ่อนนะข้าวหอม...ต้องไม่ใจอ่อน"
ooooooo