icon member

เงารักลวงใจ

ตอนที่ 14

หน้าห้องฉุกเฉิน รตีเดินไปมาอย่างร้อนรุ่มใจ พลางก็รำพึงว่าซวยชะมัด ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย... ยุวรินทร์ร้อนรนมา
พร้อมข้าวหอม  ถามรตีว่ารัญญาอยู่ไหน แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่า?

"หมอยังไม่ออกมาเลยค่ะ"

"มันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วมันเรื่องอะไรเธอถึงต้องขับรถหนีแม่เธอจนมันเกิดเรื่องขนาดนี้"

"น้าฝนจะตอกย้ำรตีให้มันได้อะไรขึ้นมาคะ คิดว่าแค่นี้รตียังรู้สึกผิดไม่พอหรือไง"

"น้าแค่อยากเตือนเรา ทีหน้าทีหลังอย่าใช้อารมณ์เอาแต่ใจตัวอย่างนี้อีก คิดบ้างรึเปล่าว่าถ้าแม่เธอเป็นอะไรไปขึ้นมา เธอจะอยู่
ยังไง"

"ค่ะ รตีทนอยู่ไม่ได้อยู่แล้วถ้าไม่มีคุณแม่...แต่น้าฝนเองก็คงคิดเหมือนกันใช่ไหมคะ ว่าจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเพื่อนที่แสนดีให้เกาะ"

"รตี!!" ยุวรินทร์โมโหมากเงื้อมือจะตบรตี ข้าวหอมรีบคว้ามือยุวรินทร์ไว้

"อย่าค่ะคุณน้า ข้าวหอมขอร้องนะคะ รตีพูดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ไม่ได้คิดอย่างที่พูดหรอกค่ะ...รตี ขอโทษน้าฝนสิ"

"ไม่ต้องมาเล่นละครเป็นคุณหนูแสนดีแถวนี้หรอกข้าวหอม เธอรู้ตัวไหมว่าเธอนั่นแหละ ที่ทำให้คุณแม่เป็นแบบนี้"

"ยังมีหน้ามาโทษข้าวหอมอีกเหรอ" ยุวรินทร์สวนทันควัน

"ทำไมรตีจะโทษมันไม่ได้ เพราะที่รตีต้องทะเลาะกับแม่ ก็เพราะเรื่องที่แม่จะรับมันมาเป็นลูกบุญธรรมนั่นแหละ ถ้าเธอไม่มา
อ้อนวอนขอร้องให้คุณแม่รับเธอเป็นลูกบุญธรรม เรื่องวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น คุณแม่ต้องทะเลาะกับฉันเพราะเรื่องของเธอ รู้ตัวไว้
ซะด้วย"

"แต่ฉัน..." ข้าวหอมจะอธิบาย

"ไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันรู้ว่าเธออิจฉาฉัน อยากได้แม่ของฉันไปเป็นแม่ของตัวเอง เธอมันเพื่อนประสาอะไรกันแน่" รตีผลักข้าวหอม
จนเซเกือบล้ม ถ้ายุวรินทร์ช่วยประคองไว้ไม่ทัน

"พอได้แล้วรตี นี่มันโรงพยาบาลนะ"

รตีกลัวซะที่ไหน   สะบัดหน้าใส่ยุวรินทร์แล้วตวาดข้าวหอมอย่างดุดันเอาเรื่อง

"ถ้าคุณแม่เป็นอะไรไป ขอให้รู้ไว้ด้วยว่าเป็นเพราะเธอ"

ข้าวหอมเสียใจอย่างที่สุด วิ่งร้องไห้ออกไปด้านนอก แล้วแหงนหน้าขึ้นไปบนอาคาร ภาวนาขอให้รัญญาปลอดภัย อย่าเป็น
อะไรไปเลย...ส่วนภูผาที่กำลังประชุมพนักงาน พอยุวรินทร์ ส่งข่าวรัญญาประสบอุบัติเหตุ ภูผาตกใจมาก ขอเลิกประชุมกลาง
คัน แล้วรีบเดินทางไปโรงพยาบาลพร้อมนาวา โตมรและเตชิต

รัญญาต้องผ่าตัดด่วน แต่ทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดกรุ๊ปของรัญญา  รตีเองก็ไม่ได้มีเลือดกรุ๊ปนี้  ทั้งที่เป็นแม่ลูกกัน ข้าวหอม
เลยให้พยาบาลเช็กดูของตน ปรากฏว่าเป็นกรุ๊ปเดียวกับรัญญา ข้าวหอมซึ่งรักและนับถือรัญญาเสมือนแม่อยู่แล้ว จึงยินดีให้
เลือดแก่รัญญาในทันที

พวกภูผามาถึงแล้ว ยุวรินทร์บอกเล่าอย่างลนๆ ร้อนใจว่า

"ปอดมีเลือดออก หมอกำลังผ่าตัดให้ เกือบเป็นเรื่องใหญ่ แล้วรู้ไหม เพราะโรงพยาบาลขาดเลือดกรุ๊ปของรัญ แต่โชคดีที่หนู
ข้าวหอมเขามีเลือดตรงกับรัญ"

"ข้าวหอมน่ะเหรอครับ" นาวาแปลกใจ

"ใช่ ตอนนี้อยู่ในห้องผ่าตัดกำลังถ่ายเลือดให้ยัยรัญ...ก็น่าแปลกนะ ลูกสาวแท้ๆกลับมีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกับแม่ ต้องให้คนอื่นมา
ถ่ายเลือดให้"

รตีชะงัก  ท่าทางมีพิรุธ  กลัวโดนจับได้  แต่แล้วก็โล่งอก เมื่อได้ยินโตมรแย้งขึ้นมาว่า

"ก็ไม่แปลกนักหรอกคุณฝน บางทีหนูรตีอาจมีกรุ๊ปเลือดเดียวกับคุณพ่อเขาก็ได้"

"รตีผิดเองค่ะ  ที่ช่วยถ่ายเลือดให้คุณแม่ไม่ได้  แต่รตี ก็เลือกไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ ว่าจะเกิดมามีเลือดกรุ๊ปเดียวกับพ่อหรือแม่...
ตอนนี้รตีขออย่างเดียว ขอให้คุณแม่ปลอดภัยเท่านั้นก็พอ"

รตีเล่นบทลูกสาวผู้แสนดี แต่ยุวรินทร์ไม่ได้อินไปด้วยเหมือนคนอื่นๆ กลับเหลือบมองรตีด้วยความหมั่นไส้

หลังการผ่าตัด หมอบอกว่ารัญญาพ้นขีดอันตรายแล้ว ทุกคนพากันโล่งใจ...เตชิตกับนาวาเห็นข้าวหอมอ่อนเพลียจากการถ่าย
เลือดก็แย่งกันประคับประคอง รตีเห็นแล้วหมั่นไส้ แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ แสร้งตีหน้าสลดสำนึกบุญคุณข้าวหอม

"ข้าวหอม ขอบใจมากนะที่เธอช่วยแม่ฉันไว้ ถ้าเธอไม่ บังเอิญกรุ๊ปเลือดตรงกับคุณแม่ จะต้องแย่แน่เลย...คุณเตชิตคะ คุณแม่
ปลอดภัยแล้ว รตีดีใจจังค่ะ" รตีมั่วนิ่มกอดแขนเตชิตหน้าตาเฉย นาวาไม่สนใจใครนอกจากข้าวหอมคนเดียว เขาอาสาไปซื้อน้ำ
หวานมาให้ข้าวหอมดื่มแก้อาการอ่อนเพลีย พอเตชิตเห็นนาวาป้อนน้ำหวานให้ข้าวหอมก็เจ็บใจและเศร้าใจ

รัญญาฟื้นขึ้นมาในตอนค่ำ  รตีกับข้าวหอมยังเฝ้าอยู่ ข้าวหอมแสดงออกอย่างจริงใจว่าห่วงใยรัญญาอย่างมาก ขณะที่รตีดูเส
แสร้งและพยายามกีดกันข้าวหอมให้ออกห่างรัญญา...

ยุวรินทร์เพิ่งกลับจากซื้อของกินให้สองสาว เห็นรัญญาฟื้นพูดคุยได้ก็ยิ้มแย้มดีใจ

"รัญ...ฟื้นแล้วเหรอ โชคดีนะที่หมอช่วยเธอไว้ได้

ฉันนึกว่าจะต้องกำพร้าเพื่อนซะแล้ว"

"เธอก็รู้นี่ฝนว่าฉันดวงแข็งอยู่แล้ว ไม่งั้นคงอยู่มาถึงวันนี้ไม่ได้หรอก"

"ย่ะ แม่แมวเก้าชีวิต แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าถ้าไม่ได้ ข้าวหอมช่วยถ่ายเลือดให้เธอตอนผ่าตัด ไม่รู้ป่านนี้เธอจะเป็นไงบ้าง
เหมือนกัน"

"ขอบใจนะจ๊ะ หนูข้าวหอม"

ข้าวหอมยิ้มรับ...จากนั้นรัญญาให้ยุวรินทร์พาข้าวหอมกลับไปพักผ่อน แต่ข้าวหอมขออยู่ช่วยรตีเฝ้ารัญญา รตีปฏิเสธทันที ทำ
เอาข้าวหอมหน้าจ๋อย

"ให้ข้าวหอมอยู่ช่วยนั่นแหละดีแล้ว เผื่อเธอเกิดงอนคุณแม่วิ่งแจ้นหนีไปอีกจะเป็นเรื่องเปล่าๆ"

"น้าฝน..."

"พอเถอะน่า ทั้งสองคน เรื่องมันก็จบไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันอีกเลยนะ" รัญญาตัดบท...ยุวรินทร์เหลือบมองรตีเอือมๆ คร้านจะ
เอาเรื่อง รตีมองยุวรินทร์อย่างไม่พอใจเช่นกัน แล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง...

ส่วนที่บริษัทของภูผา...โตมรยังเคลียร์เอกสารอยู่ในห้องทำงาน ภูผากำลังจะกลับเดินผ่านเห็นไฟยังเปิด จึงเคาะประตูก่อนเปิด
เข้ามาถามน้องชายว่า

"มืดค่ำแล้ว นายยังไม่กลับอีกเหรอ"

"มีเอกสารที่ต้องเตรียมนิดหน่อยน่ะ   พรุ่งนี้คุณรัญฟื้นแล้ว จะได้รีบให้เขาดู"

"นายจะบ้าเหรอโตมร เขาเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุนะ จะไปเร่งรัดเขาอย่างนั้น ไม่น่าเกลียดเกินไปเหรอ"

"จะทำธุรกิจก็ต้องหน้าด้านหน้าทนหน่อยสิ ขืนรอคุณรัญเป็นอะไรไปมากกว่านี้ โปรเจกต์ผมไม่ล่มเหรอ"

"โปรเจกต์ของนายจะล่มหรือไม่ล่ม มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับหุ้นส่วนอย่างรัญหรอกนะ แต่มันอยู่ที่แกมีฝีมือหรือเปล่าต่างหาก"

โตมรกำมือแน่นด้วยความแค้น แต่พยายามเก็บอาการ "ขอบคุณมาก โชคดีที่ผมมีพี่คอยให้คำแนะนำ"

"ถ้านายเชื่อคำแนะนำฉันจริง ฉันก็ขอแนะนำว่าถ้าจะไปเยี่ยมคุณรัญญาก็อย่าให้เขาจับได้ว่าแกห่วงเงินเขามากกว่าห่วงว่าเขา
จะเป็นตายร้ายดียังไง   เดี๋ยวงานนายจะล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม"

โตมรสะอึก มองตามพี่ชายที่หันหลังกลับออกไปอย่างเจ็บแค้น

"สักวันเถอะ ฉันจะทำให้แกรู้ว่าที่นี่ไม่ได้มีแกคนเดียว"

ooooooo

รตีเบื่อหน่ายที่ต้องเฝ้ารัญญา แต่จำต้องแสดงออกว่าห่วงใย เพราะลูกตัวจริงอย่างข้าวหอมคอยป้วนเปี้ยนดูแลอย่างใกล้ชิด
แต่พอตกดึกรตีก็นอนหลับสบาย รัญญาถึงเวลาต้องเปลี่ยนถุงปัสสาวะ รตีรู้สึกตัวแต่ก็ไม่ลุกมาดูแล มีแต่ข้าวหอมที่เอาใจใส่ รีบ
เรียกพยาบาลจัดการให้ รัญญาซึ้งจนน้ำตาซึม บีบมือข้าวหอมอย่างอุ่นใจ

"ขอบใจจ้ะข้าวหอม...ถ้าน้าได้หนูมาเป็นลูกสาวอีกคน น้าคงจะมีความสุขมากแน่ๆ"

รตีนอนลืมตาโพลง ได้ยินคำพูดของรัญญาชัดเจน ยิ่งรู้สึก ชิงชังเคียดแค้นข้าวหอม

เช้าแล้ว ยุวรินทร์เตรียมตัวจะไปเยี่ยมรัญญา แจงนำกาแฟมาให้ดื่ม พลางก็พูดคุยกันเรื่องรตีที่ถ่ายเลือดให้รัญญาไม่ได้ แต่ข้าว
หอมกลับทำได้ แจงเกิดสงสัยและว่าข้าวหอมน่าจะเป็นลูกของรัญญามากกว่ารตี ยุวรินทร์เองก็แปลกใจอยู่ เหมือนกัน แต่ไม่
อยากพลอยผสมโรงอะไรไปกับแจง

จิบกาแฟแล้ว ยุวรินทร์คว้าหนังสือพิมพ์มาเปิด แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นภาพข่าวมังกรตกตึกตาย ซึ่งทางตำรวจเพิ่งรู้สาเหตุว่าเขา
เมายา...ครั้นยุวรินทร์ไปถึงโรงพยาบาล ข้าวหอมตกใจมากกับข่าวของมังกร รตีกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว นั่งนิ่งอ่านนิตยสารเฉย ยุว
รินทร์สังเกตท่าทีรตีก็แปลกใจ เพราะเคยเห็นรตีท่าทางสนิทสนมกับมังกรอยู่ไม่น้อย

"ดูรตีจะไม่ตกใจกับการจากไปของเพื่อนเก่าเลยนะจ๊ะ"

"ก็แค่เพื่อนเก่านี่คะ ไม่ได้คบหากันตั้งนานแล้ว จะให้ รตีเศร้าใจฟูมฟายอะไรนักหนา อีกอย่างคนที่เมายาจนตกตึกตายอย่าง
นั้นน่ะ รตีไม่เห็นว่าจะน่าสงสารซักนิด"

"เธอรู้ข่าวมาก่อนแล้วเหรอ ว่านายมังกรเมายาตกตึกตาย" ยุวรินทร์จี้...รตีถึงกับอึกอักหาทางแก้ตัว

"รตี...เอ่อ...รตีเห็นข่าวทีวีตอนลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารน่ะค่ะ"

"เธอรู้ข่าวมาก่อนแล้วทำไมไม่เล่าให้ฉันฟังมั่งเลยล่ะ" ข้าวหอมต่อว่า

"จะให้พูดเรื่องเป็นเรื่องตายอะไรนักหนา คุณแม่ฉันนอนแบ็บอยู่อย่างนี้ทั้งคน เกรงใจกันมั่งสิ"

ข้าวหอมหน้าเจื่อน รีบขอโทษรัญญา

"ไม่เป็นไรจ้ะ น้าไม่ถือ คนเราจะอยู่หรือตาย สวรรค์ เบื้องบนกำหนดไว้แล้ว มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น"

"ได้ข่าวเพื่อนตายไปทั้งคน เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นแหละ คนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยนี่สิ ที่น้าว่าแปลก"

รตีรู้ว่ายุวรินทร์หมายถึงตน แต่ทำเชิดหน้าไม่สน ไม่ ยอมรับ...

เช้าวันเดียวกัน เตชิตตัดสินใจเข้ามาพบภูผาในห้องทำงานเพื่อปรึกษาเรื่องบ้านทอฟ้า

"บ้านทอฟ้าเหรอ...นาวาเขามาสานต่อโครงการนี้จนเดินหน้าไปตั้งเยอะแล้วนี่"

"ผมทราบดีครับคุณลุง"

"แกรู้ดี...แล้วจะมาคุยกับฉันเพื่ออะไร"

"ผมจะขอคุณลุงกลับมาช่วยดูแลโปรเจกต์นี้ครับ"

"แล้วเรื่องรีสอร์ตที่นครนายกของพ่อแกล่ะ แกยังต้องช่วยพ่อแกดูแลอยู่ไม่ใช่เหรอ"

"เรื่องนั้นผมคิดว่าผมคุยกับพ่อได้ครับ...คุณลุง... ให้โอกาสผมเถอะนะครับ"

"ถึงฉันจะยกให้นาวาเขาเป็นคนดูแลโครงการนี้ก็จริง แต่ถ้าแกจะเข้ามาช่วยฉันก็ไม่ขัดข้องหรอก แต่ฉันอยากแน่ใจว่า ที่แก
ขอกลับมาทำโครงการนี้เป็นเพราะแกอยากจะทำมันจริงๆ หรือแกมีเหตุผลอื่น...ทำไมโครงการบ้านทอฟ้าถึงมีความหมายกับ
แกมากนัก แกจะใช้โครงการบ้านทอฟ้ามาต่อรองอะไรกับ ข้าวหอมอีกหรือเปล่า"

"ผมขอโทษคุณลุงด้วยนะครับ ที่เคยใช้ความไว้ใจของคุณลุงเป็นเครื่องมือต่อรองกับข้าวหอม ผมทำให้โครงการบ้านทอฟ้าต้อง
มาเสียเวลาเพราะความอยากจะเอาชนะบ้าๆของผมเอง"

"แล้วแกจะแน่ใจยังไงว่าถ้าแกทำสำเร็จ ข้าวหอมจะเห็นใจแก"

"เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่ากับที่ผมจะได้เห็นข้าวหอมมีความสุขจริงๆเสียทีหรอกครับลุง"

"เอาล่ะ...อย่างน้อยแกก็ได้บทเรียนจากสิ่งที่ทำมาแล้ว ฉันเชื่อว่าแกมีเจตนาดีที่จะกลับมาทำบ้านทอฟ้า ถ้าบ้านทอฟ้าจะทำให้
เด็กคนหนึ่งมีความสุขได้ ฉันก็จะลองไว้ใจแกอีกสักครั้ง"

"คุณลุงอนุญาตแล้วใช่ไหมครับ"

"นาวาเขาก็เพิ่งลงมาช่วยงานแบบเต็มตัว ถ้าได้แกเข้ามาช่วยอีกแรง บ้านทอฟ้าก็จะสำเร็จเร็วขึ้น"

"คุณลุงให้ผมขึ้นไปช่วยคุมงานก่อสร้างที่ไซต์งานก็ได้ครับ ผมยินดี"

"เอางั้นเหรอ คุมงานก่อสร้างมันไม่หนักเกินไปสำหรับแกแน่นะ"

"ครับ ผมขอบคุณคุณลุงมากนะครับที่ไว้ใจผม ผมจะไม่ ทำให้คุณลุงผิดหวังครับ"

ภูผาพยักหน้ายิ้มรับ  เตชิตยิ้มกว้างอย่างมีความสุข  มีความหวัง

ooooooo

รตีเบื่อหน่ายกับการเฝ้ารัญญา เลยแต่งชุดนักศึกษามาหลอกรัญญากับยุวรินทร์ว่าจะไปเรียน อ้างว่าช่วงนี้ ใกล้สอบ ไม่อยาก
ขาด แต่พอพ้นออกจากห้อง รตีกลับมุ่งหน้าไปพารากอน...

ส่วนข้าวหอมที่ลงมาโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะหานาวา บอกเล่าอาการของรัญญาด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ดีว่ารัญญายังเจ็บแผล
แต่ไม่อยากแสดงให้ใครเห็นเพราะกลัวทุกคนจะเป็นห่วง ซึ่งเธอไม่สบายใจเลย รู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ รัญญาต้องนอนเจ็บ
แบบนี้

"อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิ คิดมากอย่างนี้ถ้าเธอแย่ไปอีกคนแล้วใครจะดูแลน้ารัญ ถ้ามีอะไรที่ช่วยให้เธอสบายใจได้ ก็บอกฉัน
มาเลยนะ"

"คุณพอจะรู้ไหมคะว่าแถวโรงพยาบาลนี้มีวัดใกล้ๆบ้างหรือเปล่า ฉันอยากไปทำบุญจังค่ะ เผื่อจะช่วยให้อาการของน้ารัญดีวัน
ดีคืน"

"ก็ดีนะข้าวหอม ถ้าเธออยากไปทำบุญ เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอเอง ตกลงไหม"

"ขอบคุณนะคะ คุณนาวา"

จากนั้นข้าวหอมกลับขึ้นมาบอกกล่าวแก่รัญญาและยุวรินทร์ในห้อง ทั้งสองคนชื่นชมชื่นใจกับความคิดดีๆของข้าวหอมเหลือ
เกิน โดยเฉพาะรัญญา พอข้าวหอมออกจากห้องไปแล้ว รัญญาถึงกับเปรยกับยุวรินทร์ว่า ถ้าตนได้ข้าวหอมมาเป็นลูกสาวอีก
คนก็น่าจะดี

"ไอ้ดีน่ะมันดีอยู่แล้ว แต่ว่าลูกสาวเธอเขาจะยอมเหรอ"

รัญญานึกถึงข้อนี้ มีสีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที ยุวรินทร์ มองเพื่อนอย่างเห็นใจ

"เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดมาก ลองคุยกับรตีดูก่อน แม่เจ็บอยู่อย่างนี้ทั้งคน บางทีเขาอาจจะยอมตามใจเธอก็ได้"

รัญญาพยักหน้ารับ ทั้งที่ยังหนักใจอยู่ดี ส่วนข้าวหอมที่ลงไปนั่งรอนาวามารับ กลับได้เจอเตชิตขับรถเข้ามาก่อน พอเขาถามว่า
จะไปไหน ข้าวหอมตอบตามตรงว่าจะไปทำบุญให้น้ารัญญา เตชิตจึงบอกให้เธอขึ้นรถเขาจะไปส่ง และเรามีเรื่องต้องคุยกัน

จังหวะนี้เอง รถของนาวาแล่นเข้ามาจ่อท้ายรถเตชิต ข้าวหอมเหลือบมอง เตชิตรู้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร จึงขับรถออกไปโดยไม่
พูดไม่ถามข้าวหอม แต่พอรถของนาวาที่มีข้าวหอมนั่งคู่แล่นออกจากโรงพยาบาล เตชิตซึ่งจอดรถแอบมองอยู่มุมหนึ่งก็ค่อยๆ
ขับตามไป

ข้าวหอมนั่งเงียบคิดเรื่องเตชิตมาตลอดทาง กระทั่งถึงวัด นาวาถือดอกไม้ธูปเทียนลงจากรถเดินตามข้าวหอมที่ดูซึมๆมุ่งหน้าไป
ทางโบสถ์ นาวารู้สึกสงสัยอดถามข้าวหอมไม่ได้ว่า

"เป็นอะไรหรือเปล่าข้าวหอม ตอนนั่งมาในรถเธอก็ดูเหม่อๆเหมือนคิดถึงใครอยู่"

"ในหัวฉันตอนนี้ก็มีเรื่องน้ารัญเรื่องเดียวล่ะค่ะ...วัดนี้ดูร่มรื่นดีนะคะ"

"นั่นสิ ฉันก็ขับรถผ่านวัดนี้บ่อยๆแต่ไม่เคยคิดจะแวะเลย"

"ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ ฉันไม่เคยได้เข้าวัดไหว้พระสักครั้ง ขอบคุณนะคะที่เป็นธุระพามา"

พอสองคนคล้อยหลังเข้าไปในโบสถ์แล้ว รถของเตชิตก็คืบคลานเข้ามาจอดที่มุมหนึ่ง แล้วตามมายืนหน้าเศร้าแอบมองสองคน
นั้นไหว้พระ...นาวาอยากรู้ว่าข้าวหอมขออะไรถึงได้หลับตาอธิษฐานนานนัก ข้าวหอมบอกว่าเธอขอพรให้

น้ารัญอาการดีขึ้น ให้หายวันหายคืนจะได้กลับบ้านเร็วๆ

"แล้วเธอขออะไรให้ตัวเอง"

"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ แค่น้ารัญหายออกจากโรงพยาบาลได้ฉันก็มีความสุขแล้ว เพราะที่น้ารัญต้องมาเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน"

"เธอรู้สึกผิดได้นะข้าวหอม แต่เธอก็ไม่ควรลงโทษตัวเองด้วยการบอกว่าทุกอย่างเป็นเพราะเธอแบบนี้"

"ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกผิดมากมายอย่างนี้ด้วย"

"ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอเป็นห่วงน้ารัญมาก แต่เธอก็เห็นอยู่นี่ว่าน้ารัญมีคนดูแลเอาใจใส่รอบตัวแล้ว"

"ไม่รู้สิคะ ฉันรู้สึกว่ามีสายใยบางๆ ที่เชื่อมระหว่างฉันกับน้ารัญอยู่ ฉันไม่เคยรู้สึกกับใครมากขนาดนี้มาก่อน ยิ่งน้ารัญเจ็บ
ความรู้สึกแบบนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น"

"เหมือนความผูกพันระหว่างแม่กับลูกแบบนั้นน่ะเหรอ"

"ฉันไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้นะคะ เพราะเด็กกำพร้าอย่างฉัน อย่างพวกเราที่บ้านทอฟ้า ลึกๆ
แล้วก็อยากจะได้เจอแม่สักครั้งในชีวิตทั้งนั้น"

"แล้วทำไมเธอไม่อธิษฐานขอพรให้เจอกับแม่บ้างล่ะ"

ข้าวหอมยิ้มกว้างอย่างเห็นด้วย...หลังออกจากโบสถ์ ทั้งคู่ไปให้อาหารปลาหน้าวัด ระหว่างนี้นาวาได้พูดเรื่องบ้านทอฟ้าที่เดิน
หน้าไปเยอะแล้ว ถ้าเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่เขาจะพาข้าวหอมไปที่นั่น และจะขอข้าวหอมแต่งงานด้วย...หญิงสาวฟังแล้วชะงักงัน
นาวาเห็นเธอนิ่งไปก็ใจเสีย

"ฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอลำบากใจ...ถ้าเธอยังไม่พร้อมที่จะให้คำตอบตอนนี้ก็ไม่เป็นไรนะ"

ข้าวหอมไม่รู้จะบอกนาวาอย่างไร ทันใดนั้นเตชิตปรากฏตัว สองคนมองอย่างแปลกใจ ข้าวหอมเกรงจะมีเรื่อง รีบขอร้องนาวา
แล้วทำท่าจะพากันกลับ แต่เตชิตมีเรื่องอยากคุยกับข้าวหอมจริงๆ และไม่ได้ตั้งใจมาชวนนาวาทะเลาะ

"แต่ฉันไม่ไว้ใจให้ข้าวหอมไปกับแก" นาวาเสียงแข็ง

"ฉันรู้ดีว่าไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับแกได้ ฉันขอในฐานะที่เรายังเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฉันอยากคุยกับข้าวหอมสักครั้ง"

นาวาแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเตชิต แล้วให้ข้าวหอมตัดสินใจเอาเอง...ข้าวหอมยอมไปกับเตชิต ซึ่งเขาพาเธอไปคุยกันที่
ร้านอาหาร พอเขาจะสั่งอาหาร ข้าวหอมขัดขึ้นทันที เธอไม่อยากเสียเวลา ให้เขาพูดธุระมาเลย

"ข้าวหอม...เธอยังโกรธฉันมากเหรอ"

"เรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่าค่ะ คุณพูดธุระของคุณมาดีกว่า"

"ก็นี่แหละ ธุระของฉัน...ฉันอยากขอโทษเธอ สำหรับทุกอย่างที่ทำลงไป"

"แค่นี้ใช่ไหมคะธุระของคุณ" เตชิตนิ่งอึ้ง ข้าวหอมรวบรัดทันที "งั้นเราก็กลับกันได้แล้ว" เธอลุกขึ้น เตชิตคว้ามือเธอไว้หมับ

"เดี๋ยวสิข้าวหอม เธอทำเหมือนคำขอโทษของฉันไม่มีความหมาย"

"ค่ะ เพราะฉันไม่เชื่อว่าคุณรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ"

"นั่งลงคุยกันดีๆก่อนได้ไหม ฉันยอมรับว่าทำไม่ดีกับเธอไว้มาก มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่เชื่อฉัน แต่ฉันอยากให้เธอให้
โอกาสฉันได้พิสูจน์ ลุงภูผายอมให้ฉันทำโปรเจกต์ บ้านทอฟ้ากับนายนาวา  ฉันจะขอทำบ้านทอฟ้าให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม"

"คุณเคยพูดแบบนี้แล้วเพื่อให้ฉันยอมหมั้นกับคุณ แล้วตอนนี้คุณต้องการอะไรอีกเหรอคะ"

"ฉันยอมรับว่าฉันเคยพูดไปเพราะต้องการเอาชนะเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น"

"แล้วอะไรล่ะคะที่คุณต้องการ คุณกำลังจะทำอะไรอีก"

"ฉันไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธออภัยให้ฉัน"

"คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะฉันจะรู้สึกกับคุณยังไงมันก็ไม่สำคัญอะไร แค่คุณไม่ขัดขวางงานของคุณนาวา ฉันก็
ขอบคุณมากแล้ว...ฉันคิดว่าเราหมดเรื่องพูดกันแล้ว พาฉันกลับไปหาคุณน้ารัญญาได้หรือยังคะ"

เตชิตมองข้าวหอมอย่างเจ็บช้ำและผิดหวัง ข้าวหอมเห็นสายตาเขาแล้วเกือบใจอ่อน รีบเบือนหน้าหนี เดินออกไปโดยเร็ว พอ
เดินไปถึงรถ ข้าวหอมนึกห่วงความรู้สึกของเตชิต พึมพำกับตัวเองว่าเราพูดแรงไปหรือเปล่า...แต่พอเตชิตเดินตามออกมา ข้าว
หอมก็ข่มใจ แล้วนั่งนิ่งไปในรถกับเขาตลอดทาง

ส่วนนาวากลับไปบริษัท ถูกพ่อเรียกไปคุยเรื่องที่เตชิตมาขอช่วยดูแลการปรับปรุงบ้านทอฟ้า ซึ่งพ่ออนุญาตไปแล้ว... นาวาออก
อาการหงุดหงิดและบ่นมากมาย จนภูผาต้องขัดขึ้น

"ที่แกหงุดหงิดไม่อยากให้เตชิตมายุ่มย่ามกับโครงการนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องข้าวหอมใช่ไหม" นาวานิ่งเงียบ "ถึงแกไม่ตอบ แต่พ่อ
ก็หวังว่าแกจะเลิกคิดเอาชนะกันเองกับเตชิตเสียที อย่างไรเราก็อยู่ในครอบครัวเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน จะโกรธแค้นอย่างไร
มันก็ตัดกันไม่ตายขายกันไม่ขาดหรอก

เรื่องนี้พ่อขอได้ไหมนาวา"

"ครับ...พ่อ"

"พ่อถือว่าแกรับปากแล้วนะ"

นาวาพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก

ooooooo

รตีแอบไปช็อปปิ้งได้ข้าวของมาหลายถุง พอจอดรถก็รีบเอาเก็บไว้ท้ายรถเพราะกลัวพลาด ถ้ารัญญารู้ความจริงว่าไม่ได้ไปเรียน
อย่างที่บอก มีหวังเสียคะแนนแน่ๆ แต่พอจะกลับขึ้นไปเล่นละครกับรัญญา รตีเหลือบเห็นเตชิตขับรถมาจอด มีข้าวหอมนั่งมา
ด้วย รตีแค้นกำมือแน่น จ้องข้าวหอมตาวาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

รัญญาแปลกใจที่เห็นข้าวหอมกลับมากับเตชิต ทั้งที่ตอนจะไปบอกว่านาวามารับ แต่ไม่ทันรัญญาจะซักถาม รตีก็โผล่เข้ามา
เหน็บแนมข้าวหอม

"แอบไปเที่ยวกับคุณเตสองคนตอนฉันไม่อยู่เหรอข้าวหอม"

"ฉันไม่ได้ไปเที่ยวหรอก ฉันไปทำบุญให้คุณน้ารัญน่ะ ฉันมีของมาฝากเธอด้วยนะ" พูดจบหยิบสายสิญจน์สองเส้นจากกระเป๋า
สะพายออกมาส่งให้รตีเส้นหนึ่ง รตีไม่อยากได้ แต่ต้องฝืนใจรับมา เพราะอยู่ต่อหน้ารัญญา ส่วนรัญญาก็ได้ด้วยหนึ่งเส้น

"ขอบใจจ้ะ ขอให้ผลบุญกลับไปสู่ตัวหนูด้วยนะจ๊ะ ขอให้หนูเจอแต่สิ่งดีๆนะ" รัญญาลูบหัวข้าวหอมอย่างเอ็นดู รตีแอบจิกตา
มองไม่พอใจ แค้นที่ข้าวหอมจะแย่งทั้งแม่ทั้งเตชิต

"แล้วคุณนาวาล่ะ" รตีโพล่งขึ้น "คุณนาวาเขาไม่ไปด้วยเหรอ ปกติเห็นเธอก็ต้องเห็นคุณนาวานี่"

"จริงด้วยสิ เมื่อกี๊น้าก็ว่าจะถาม หนูไปกับนาวา แล้วเตชิตไปรับกลับมาได้ยังไง"

"อุ๊ย เธอนัดคุณนาวากับคุณเตไปวัดกับเธอเหรอ...หนึ่งหญิงสองชาย จะทำให้คนเข้าใจผิดได้นะ น่าจะชวนฉันด้วย น้อยใจจัง
เลย"

"ข้าวหอมไม่ได้นัดฉันหรอกรตี ฉันตามเขาไปเอง พอดีมีเรื่องต้องคุยกับเขา" เตชิตออกรับแแทน...รตียังอยากรู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน
เตชิตแอบรำคาญรตี เลยตอบว่าเรื่องส่วนตัว

"คงไม่ได้ทะเลาะกันอีกนะ" รัญญาถามเพราะเป็นห่วง

"ไม่ใช่หรอกครับ เรื่องดีๆที่ผมจะทำให้เขาต่างหาก แล้วน้ารัญก็จะได้เห็นสิ่งนั้นด้วย"

เตชิตหันมายิ้มให้ข้าวหอม แต่ข้าวหอมหลบตา รตีมองเตชิตที่ส่งสายตาให้ข้าวหอมอย่างเจ็บใจ มือดึงทึ้งสายสิญจน์ บิดไปบิด
มาอย่างไม่รู้ตัว...พอเตชิตลากลับ ข้าวหอมเดินออกไปส่งหน้าลิฟต์ เตชิตยังเว้าวอนทั้งคำพูดและสายตา

"เราจะพูดกันดีๆไม่ได้เหรอ ข้าวหอม"

"คุณแค่ต้องการให้ฉันหายโกรธ ให้ฉันดีกับคุณ แล้วก็กลับไปเป็นทาสรับใช้คุณอีกใช่ไหมคะ...สำหรับฉัน คุณก็ยังเป็นคนใจแคบ
ที่ทำอะไรก็ต้องมีผลตอบแทนอยู่ดี"

"ฉันรู้ว่าเธออยากมีบ้านทอฟ้าไว้เพื่ออะไร ฉันเองก็อยากให้เด็กกำพร้ามีบ้านที่อบอุ่นและมีความสุข ถ้าวันที่บ้านทอฟ้าเสร็จ
แล้วเธอยังมองว่าฉันทำเพื่อหวังสิ่งตอบแทน ฉันก็ไม่ว่าอะไร"

เตชิตหน้าเศร้าก้าวเข้าลิฟต์ และยืนมองข้าวหอมจนลิฟต์ปิด ข้าวหอมนึกเสียใจเหมือนกันที่พูดไม่ดีกับเตชิต แต่แล้วต้องสะดุ้ง
ตกใจ เมื่อหันกลับไปเห็นรตียืนน้ำตาไหลมองมา พอข้าวหอมขยับ รตีก็รีบเดินหนี ข้าวหอมกลัวเพื่อนจะโกรธรีบตามไปง้อ รตี
กลับหาว่าข้าวหอมตามมาเยาะเย้ย

"รตี...ฉันจะไปเยาะเย้ยเธอเรื่องอะไร"

"เรื่องที่เธอแย่งคุณแม่กับคุณเตชิตไปจากฉันได้สำเร็จไง"

"ฉันเปล่านะรตี ฉันไม่ได้..."

"งั้นทำไมเธอไม่อยู่ห่างๆคุณเตชิต ฉันเผลอทีไรเธอก็ไปไหนมาไหนกับเขาทุกที แถมเธอยังเอาสายสิญจน์มาประจบเอาใจคุณ
แม่ฉัน เธอทำอย่างนี้ทำไมข้าวหอม เธอทำกับเพื่อนแบบนี้ทำไม"

"รตี ฉันไม่เคยคิดแย่งคนที่เธอรักเลย ฉันขอโทษ ฉันสัญญาจะอยู่ห่างๆคุณเตชิตให้มากกว่านี้ เธอจะได้สบายใจ... อย่าร้องไห้
เลยนะรตี"

รตีสงบลงได้ แต่ยังมีเรื่องที่อยากขอข้าวหอม

"คืนนี้เธอกลับไปที่บ้านเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เฝ้าคุณแม่ เราอยากอยู่กันตามลำพังสองแม่ลูกบ้าง เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม"

"ฉันจะไปว่าอะไรได้ล่ะ ยังไงฉันก็เป็นคนนอก งั้นฉันขอเข้าไปลาคุณน้ารัญก่อนนะ" ข้าวหอมหน้าจ๋อยเดินกลับเข้าห้อง ไม่รู้เลย
ว่าข้างหลังนั้นรตีแสยะยิ้มเยาะหยัน แถมพึมพำด่าซ้ำให้ด้วย

"นังโง่เอ๊ย...บีบน้ำตาใส่หน่อยก็ใจอ่อนแล้ว"

ooooooo

เงารักลวงใจ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด