ตอนที่ 15
ขณะกินอาหารเช้าด้วยกันวันนี้ นิภาพรรณกับมงคลพูดคุยเรื่องแฟนของเพชรที่รู้สึกคุ้นหน้าตาเหลือเกินเหมือนเพิ่งเคยเห็นเมื่อไม่กี่วัน
จังหวะที่พ่อแม่พยายามนึกกันอยู่นี่เอง เพชรโผล่ลงมาพอดี เขามองหาน้องสาวรอบทิศก่อนถามหา แล้วก็ได้คำตอบ จากแม่ว่าบัวไปทำงานแต่เช้าแล้ว
“มีแต่แกคนเดียวที่ตื่นสายไปทำงาน แกเป็นผู้จัดการนะไอ้เพชร ดูน้องเป็นตัวอย่างซะบ้าง” มงคลตำหนิ
“พอดีเมื่อคืนผมกลับดึกไปหน่อย ไปกินข้าวกับแฟน”
“เออ แกมานั่งนี่ซิ แม่ขอสอบสวนหน่อย”
“สอบสวนอะไรครับ”
“แม่แกเขาอยากรู้ว่าหนูรินเป็นลูกเต้าเหล่าใคร”
“อ้าว ผมยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่หรือว่าเธอเป็นน้องสาวไอ้รัญ”
“น้องสาวนายรัญ ลูกคุณหญิงรมณีย์น่ะหรือ”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นแกก็เตรียมตัวเลิกกับเขาได้เลย”
“อ้าว ทำไมล่ะพ่อ”
“ก็แม่แกเขาเกลียดคุณหญิงรมณีย์เข้ากระดูก”
“เกลียดเขาเรื่องอะไรล่ะแม่”
“ก็เรื่องความเย่อหยิ่งเหยียดคน แกไม่รู้หรอกเวลาเขามองแม่เหมือนแม่เพิ่งอพยพมาจากเมืองจีน”
“ผมว่าแม่คิดมากไปนะ”
“แต่แม่ว่าแกควรจะเปลี่ยนแฟน”
“ไม่...ผมรักน้องริน”
“แต่น้องรินของแกมีแต่ตัวนะ”
“โอ๊ยแม่ เรามีเงินตั้งเยอะแบ่งให้คนอื่นเขาใช้บ้างเถอะ ใช่มั้ยพ่อ”
“เออ ถูกของเอ็ง”
“ผมไปทำงานก่อนล่ะ” เพชรชิ่งทันที ทิ้งนิภาพรรณหงุดหงิดโวยวายอยากจะคุยให้รู้เรื่อง
“สมน้ำหน้า เกลียดตัวได้ไข่” มงคลว่าให้
“อย่าหวังเลย ฉันไม่มีวันให้เจ้าเพชรได้กับลูกสาวนังคุณหญิงถังแตกนั่นหรอก” นิภาพรรณพูดขึงขังก่อนลุกพรวดเตรียมตัวออกไปทำงาน
ooooooo
ที่บริษัท การ์ตูนเยี่ยมหน้าเข้ามาหาบัวในห้องทำงาน ถามขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า “เป็นยังไงบ้างจ๊ะเมื่อคืนสวีตมั้ย”
บัวนิ่งเงียบและยังคงทำงานต่อไปเหมือนไม่ได้ยิน
“แหม ไม่ต้องทำขรึมหรอกน่า เล่ามาซิว่าพี่รัญขอโทษวิธีไหน เอากุหลาบมาให้ แล้วก็บอกว่าขอโทษครับน้องบัวพี่หลงผิดไปแล้ว ให้อภัยพี่เถอนะ นะจ๊ะสุดที่รัก...ใช่มั้ย”
คราวนี้บัวหันมาจ้องหน้าการ์ตูนอย่างไม่พอใจ “แกอย่าทำแบบนี้กับฉันอีกนะไอ้ตูน ถ้าแกขืนทำล่ะก็ แกกับฉันขาดกัน”
การ์ตูนเหวอหนัก อึกๆอักๆ ไปไม่เป็น
“แกออกไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
“ฉันขอโทษนะ ฉันแค่...”
“แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าอย่าทำอย่างนี้กับฉัน เพราะฉันไม่ชอบ” บัวบอกเด็ดขาด การ์ตูนหน้าจ๋อย จำใจต้องถอยออกมา แล้วเจอเพชรเข้าพอดี
“อ้าวไอ้ตูน เป็นไง ไหนเล่ามาซิ บัวมันคืนดีกับไอ้รัญ แล้วใช่มั้ย”
“พี่เพชรเข้าไปถามเองดีกว่า”
“ทำไม ดีใจถึงกับเล่าไม่ถูกเลยเหรอ มาฉันคุยเอง” เพชรเปิดประตูเข้าไปส่งยิ้มให้น้องสาว “ว่าไงบัว เล่ามาซิ เมื่อคืนเป็นไง”
“พี่เพชร บัวเข้าใจว่าพี่หวังดีกับบัว แต่บัวอยากจะบอกให้พี่รู้ว่าเรื่องของบัวกับเพื่อนพี่มันจบไปแล้ว”
“เฮ้ย นี่หมายความว่าเมื่อคืนแกกับไอ้รัญไม่ได้คุยกัน”
“คุย แล้วมันก็จบลงแล้ว บัวกับเขาไม่มีอะไรกัน”
“แต่ว่า...”
“พอเถอะพี่เพชร บัวขอบคุณในความหวังดีของพี่”
“แกฟังพี่ก่อนได้มั้ย”
“ไม่ ต่อให้พี่พูดจนตายบัวก็ไม่มีวันกลับไปคืนดีกับเพื่อนพี่ พี่ออกไปได้แล้ว” น้ำเสียงบัวเด็ดขาดมากจนเพชรไม่กล้าตอแยอีก หันหลังกลับออกมาเจอการ์ตูนยืนรออยู่หน้าห้อง
“ไอ้บัวมันด่าเละเลยใช่มั้ย”
“แล้วทำไมแกไม่บอกฉันว่ามันไม่ได้คืนดีกัน”
“ก็ไม่รู้จะบอกยังไง อยากให้พี่เพชรไปฟังด้วยตัวเอง”
“แกนี่มันน่าชกจริงๆ ฉันไม่ขึ้นเงินเดือนให้แกแล้ว” เพชรเดินลิ่วออกไป การ์ตูนยิ่งจ๋อย ถอนใจอย่างสุดเซ็ง
“เฮ้อ...ทำไมไอ้บัวมันดุอย่างนี้วะ”
ooooooo
ข้างฝ่ายรินลดาที่ลุ้นตัวโก่งก็อยากทราบเรื่องจากพี่ชายเหมือนกัน เธออุตส่าห์เข้ามาถามเขาถึงในห้องนอน แต่กลับได้รับคำตอบที่ทำให้หน้าซีดหน้าเสียว่า
“เรื่องของพี่มันจบแล้วริน แกเองก็ควรจะเลิกกับไอ้เพชรซะ”
“ทำไมคะ ทำไมรินต้องเลิกกับเขาด้วย”
“เพราะฐานะของเรากับเขาไม่เท่าเทียมกัน แกลืมไปแล้วเหรอวันนี้เราไม่มีอะไรแล้ว พี่ไม่อยากให้เขาดูถูกแกแล้วก็แม่”
รินลดาอึ้ง พลันเสียงโทรศัพท์มือถือรัญดัง พอเขากดรับก็ชะงักงันไปทันที
“ดิฉันโทร.จากคุณรวินวรกานต์นะคะ”
“มีธุระอะไรกับผมหรือครับ”
“คุณรวินวรกานต์ให้โทร.มาถามคุณรัญว่าหนี้สินที่คุณรัญมีอยู่คุณรัญจะใช้คืนได้เมื่อไหร่คะ”
“อะไรนะครับ ผมไม่เข้าใจ”
“คืออย่างนี้นะคะ เงินที่คุณเพชรให้คุณรัญยืมไปห้าสิบล้านบาทนั้นเป็นส่วนของคุณรวินวรกานต์ยี่สิบห้าล้าน ของคุณการ์ตูนอีกสิบล้าน คุณรวินวรกานต์อยากให้คุณรัญชำระในส่วนของเธอกับคุณการ์ตูนก่อนค่ะ”
รัญสูดหายใจลึกอย่างควบคุมความรู้สึก ตอบกลับไปว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณรัญจะชำระได้เมื่อไหร่คะ”
“ผมขอเวลาสองวันนะครับ แล้วผมจะโทร.กลับไปแจ้งให้ทราบ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” รัชนีวางสาย หันมาบอกบัวว่าอีกสองวันเขาจะโทร.กลับมา บัวขอบใจรัชนีแล้วเดินยิ้มสะใจออกไป
ฝ่ายรัญยังอึ้งไม่หาย จนรินลดาสงสัยถามเขาว่ามีเรื่องอะไร?
“บัวโทร.มาทวงเงินที่เพชรยืมมาให้เราใช้หนี้”
“เป็นไปได้หรือคะ บัวต้องไม่ทำอย่างงั้นหรอกค่ะ”
“นี่ไง พี่ถึงบอกแกว่าเลิกกับเพชรซะ ครอบครัวเขาไม่ต้อนรับเราหรอก”
รินลดาพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อเลยว่าบัวจะทำแบบนี้ ต่อมาเมื่อเธอไปเจอเพชรและบอกเล่าให้ฟัง เพชรก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าบัวจะทวงหนี้รัญได้ลงคอ
“ไอ้นี่มันบ้าใหญ่แล้ว มันคิดอะไรของมัน”
“บัวคงโกรธพี่รัญ นี่รินจะทำยังไงดี รินกับพี่รัญจะไปหาเงินที่ไหนมาคืนเขา”
“คุณไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวผมจะพูดกับบัวเอง ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เชื่อผม เรื่องแค่นี้ผมจัดการได้”
รินลดามองหน้าเพชรอย่างลังเล พลางมองแหวนที่เพชรเพิ่งสวมนิ้วให้เมื่อคืน
“รินว่าเรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะริน ไม่ว่ายังไงผมก็ยังรักคุณนะ”
“รินรู้ค่ะ แต่พ่อแม่คุณจะรังเกียจรินรึเปล่า แล้วก็บัว...”
“ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น ผมเชื่อว่าพ่อแม่ผมไม่มีวันรังเกียจคุณ ส่วนบัวมันก็ไม่รังเกียจคุณหรอกเพียงแต่ที่มันทำไปมันคงต้องการแก้แค้นประชดไอ้รัญเท่านั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ขอให้เป็นหน้าที่ผม”
หลังจากนั้นเพชรรีบร้อนกลับบริษัท มุ่งหน้าไปหาบัวทั้งๆที่รู้ว่าเธอกำลังประชุมพนักงานอยู่
“อ้าวพี่เพชร เราประชุมกันอยู่นะ”
“ทุกคนออกไปก่อน ผมมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณรวินวรกานต์”
พนักงานทุกคนงุนงงแต่ก็รีบเก็บของออกจากห้อง ประชุม...ทันทีที่ประตูห้องปิด เพชรก็โวยวายใส่บัวอย่างไม่พอใจ
“ทำไมแกถึงทำแบบนี้ แก โทร.ไปทวงหนี้ไอ้รัญทำไม”
“ก็เขาเป็นหนี้บัว”
“แต่แกเป็นคนให้มันยืมเองนะ”
“ก็ตอนนั้นบัวรักเขา แต่ตอนนี้บัวหมดรักเขาแล้ว บัวก็ขอคืน”
“แกก็รู้นี่ว่าไอ้รัญมันไม่มีเงิน มันจะหาที่ไหนมาใช้แกสามสิบห้าล้าน”
“ช่วยไม่ได้ นั่นมันเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของบัว”
“แกนี่มันใจดำจริงๆ ฉันเกิดมาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนใจดำเหมือนแกเลย”
“แล้วทีเพื่อนพี่ใจดำ ดูถูกว่าบัวเป็นผู้หญิงสำส่อน ไม่เห็นพี่โกรธเขาบ้างเลย”
“ก็...” เพชรหยุดไปอย่างเถียงไม่ขึ้น
“ก็เพราะว่าเขาไม่รู้ เขาหูเบา เขาฟังแม่เล้าคนนึงมาบอกแค่นั้นน่ะเหรอ”
“นั่นมันเรื่องเก่าแล้วแกจะพูดถึงมันทำไม ตอนนี้ทุกอย่างมันลงตัวหมดแล้ว แกรู้มั้ยคุณฉัตรชัยกับไอ้ตูน พี่กับคุณริน พวกเรากำลังจะแต่งงานกัน ถ้าแกปิดสวิตช์เรื่องนี้ซะเราทั้งหมดก็จะแต่งงานพร้อมกันสามคู่”
“บัวดีใจกับพี่แล้วก็ไอ้ตูนด้วย แต่สำหรับคู่ของบัวเป็นไปไม่ได้” บัวเน้นหนักแล้วเดินออก
“นี่แกจะไปไหน”
“จะไปเรียกพนักงานมาประชุมต่อ”
“เฮ้ย บัว...”
“พอเถอะพี่เพชร พี่ไปบอกเพื่อนพี่ให้รีบหาเงินมาใช้หนี้บัวเถอะ เพราะไม่อย่างงั้นล่ะก็บัวจะให้ทนายฟ้อง”
บัวขึงขังเด็ดขาดเสียจนเพชรรู้สึกโกรธระคนหนักใจ
“เฮ้อ ทำไมเราถึงมีน้องสาวแบบนี้วะ”
ooooooo
หลังจากบัวให้ลูกน้องโทร.มาทวงหนี้ รัญจึงตัดสินใจบอกแม่ให้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้
“อะไรนะ แกจะให้แม่ย้ายออกจากบ้านงั้นหรือ”
“ใช่ครับ เพราะผมจำเป็นต้องขายบ้านหลังนี้เพื่อไปใช้หนี้เขา”
“อ้าว ไหนเพชรบอกว่าไม่รีบร้อนไง”
“แต่บัวเขาต้องการเงินคืน”
“มันเกี่ยวอะไรกับบัวระวง”
“เงินส่วนนึงเป็นของเขาครับ”
“หมายความว่าบัวระวงเอาเงินมาใช้แทนแกงั้นหรือ”
“ใช่ครับ แต่เรากลับไม่เห็นความดีของเขา”
“นี่เรื่องมันผ่านไปแล้วนะ แกอย่าพูดถึงมันเลย แม่ว่าแกรีบไปขอร้องหนูบัว พูดจากับเขาดีๆ เอาดอกไม้ไปช่อนึง แม่เชื่อว่าเขาต้องใจอ่อน ผู้หญิงมันก็ต้องมีงอนมีโกรธกันบ้าง ไปลูกรีบไป”
“ผมคงไม่ทำอย่างงั้นหรอกครับแม่ เราเป็นหนี้เขา ยังไงเราก็ต้องใช้เขา ไม่วันนี้ก็ต้องพรุ่งนี้ ผมแค่บอกให้แม่รู้ตัวก่อน”
“แล้วนี่แกจะไปไหน”
“ผมจะไปหานายหน้าขายบ้าน” รัญเดินหน้าเครียดจากไป รมณีย์สีหน้าไม่ยอมแพ้ ในเมื่อลูกชายไม่ไป ตนก็จะไปพบบัวด้วยตัวเอง
เมื่อไปถึงบริษัทของเสี่ยมงคล ไม่ทันได้พบบัวก็เจอมงคลกับนิภาพรรณเสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณนิภาพรรณ คุณมงคล”
“วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่ครับ”
“ถ้าจะมาหานายเพชร เขาไม่อยู่นะคะ ไปดูโรงงานต่างจังหวัดกับลูกค้า แล้วกว่าจะกลับคงอีกหลายวัน”
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันไม่ได้มาหาเพชรหรอกค่ะ มาหาหนูบัวลูกสาวคุณ”
“มาหายัยบัวเรื่องอะไรคะ”
“เรื่องธุรกิจน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าอยู่ห้องไหนคะ”
“ตรงไปเลี้ยวซ้ายครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณมงคล”
รมณีย์เดินจากไป นิภาพรรณมองตามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“คุณว่าแปลกมั้ย คุณหญิงจะมีเรื่องอะไรมาคุยกับยัยบัว”
“ก็เขาบอกว่าธุรกิจ คงมาชวนลงทุนทำอะไรมั้ง”
“ไม่มีทาง มีแต่ตัวจะลงทุนทำอะไร ฉันว่าเจ้าเพชรไม่อยู่ก็เลยจะมากู้เงินยัยบัวมากกว่า”
“นี่คุณอย่ามองคนในแง่ร้ายนักเลย เขาอาจจะมีเรื่องดีมาคุยกับลูกสาวเราก็ได้”
“ฉันไม่เชื่อ” นิภาพรรณค้อนสามี แล้วหันมาจับตามองทางห้องลูกสาวที่รมณีย์กำลังตรงดิ่งไป
รมณีย์เข้ามานั่งคอยบัวในห้อง โดยมีพนักงานเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“คุณรวินวรกานต์บอกรอสักครู่นะคะ”
รมณีย์พยักหน้ารับทราบ พอพนักงานออกไปเธอก็ยกถ้วยชาจิบแล้วเบ้หน้าบ่นเหยียดๆ
“ชาราคาถูกจริงๆ นึกว่าชาฝรั่ง”
แต่พอบัวเปิดประตูเข้ามา รมณีย์ก็ปั้นยิ้มเข้าใส่
“หวัดดีจ้ะหนูบัว”
“ขอโทษนะคะคุณหญิงที่ทำให้รอ”
“ไม่เป็นไรจ้ะลูก”
“ไม่ทราบว่าคุณหญิงมีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ”
“อย่าเรียกคุณหญิงเลยลูกมันดูทางการเกินไป เรียกแม่ดีกว่าจ้ะ คือที่แม่มาวันนี้แม่อยากจะมาขอโทษลูกบัวจ้ะ ตั้งแต่เกิดเหตุวันนั้นแม่ไม่สบายใจเลย”
“ดิฉันลืมไปหมดแล้วค่ะ”
“แต่แม่ไม่ลืมนะจ๊ะ แม่เสียใจจริงๆ ถ้าแม่ไม่โดนยัยอ้อมกับแม่ แล้วยัยแม่เล้านั่นยุล่ะก็ แม่ไม่มีวันเชื่อหรอกว่าคนอย่างลูกบัวจะเป็นผู้หญิงอย่างว่า”
“ขอบคุณค่ะ”
“ลูกบัวยกโทษให้แม่นะจ๊ะ”
“ค่ะ”
“โอ๊ย แม่นึกแล้วว่าลูกบัวต้องมีจิตใจงดงาม ขอแม่กอดทีนะจ๊ะ” รมณีย์เข้าไปกอดบัวที่สีหน้ายังเรียบเฉย “แล้วอีกเรื่องนึง แม่อยากให้ลูกกลับไปคืนดีกับพี่รัญนะ พี่รัญรักลูกมากนะ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีความสุขเลย”
“ค่ะ ดิฉันเข้าใจดี”
“หมายความว่าลูกจะกลับไปรักกับพี่รัญเหมือนเดิมใช่มั้ย”
“คงไม่ล่ะค่ะ”
“หา! ลูกบัวพูดอะไรนะ” รมณีย์ผงะออกหน้าตาตื่น
“เรื่องของดิฉันกับลูกชายคุณมันจบไปนานแล้วค่ะ คงจะเหลือความสัมพันธ์แค่เรื่องหนี้สินที่มีต่อกัน ขอตัวนะคะ ดิฉันมีงานต้องทำเยอะค่ะ”
บัวเดินมาดึงประตูเปิดให้ รมณีย์ถึงกับหน้าเสีย จำใจเดินออกไป
“พอมีเงิน ทุกอย่างก็ดูดีหมด” บัวสบถเบาๆ สีหน้าหยามหยัน
รมณีย์เดินหน้าสลดออกมาเจอนิภาพรรณยืนรออยู่
“ว่าไงคะคุณหญิง ธุรกิจที่คุยกับลูกสาวดิฉันเป็นไงบ้างคะ”
“อ๋อ หนูบัวแกไม่ชอบข้อเสนอของดิฉัน”
“หมายความว่าลูกบัวเขาไม่ลงทุนร่วมกับคุณหญิงใช่มั้ย”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” รมณีย์เดินพรวดๆจากไป ส่วนนิภาพรรณรีบเข้ามาคาดคั้นบัวในห้อง
“คุณหญิงถังแตกมาคุยอะไรกับลูก”
“เปล่าค่ะ เขาแค่มาเสนอทำธุรกิจกับหนู”
“ธุรกิจอะไร อย่าไปลงทุนกับเขานะลูก เขาถังแตกมีแต่ตัว”
“หนูรู้แล้วค่ะ”
“ดีมาก อย่าให้ใครหลอกนะลูก อ้อ ว่าแต่เขาจะทำธุรกิจอะไรเหรอ”
“ความลับทางธุรกิจบอกไม่ได้ค่ะแม่”
“ลูกนี่ร้ายจริงๆ” นิภาพรรณค้อนน้อยๆให้ลูกสาว
ข้างฝ่ายรมณีย์ที่หน้าแตกยับเยินกลับไป พอถึงบ้านก็ระบายอารมณ์ด้วยการขว้างปาหนังสือกระจัดกระจายจนรินลดาตกใจรีบเข้ามาถาม
“แม่เป็นอะไรคะ โกรธใครมา”
“แกออกไป แม่อยากอยู่คนเดียว” รมณีย์ตวาดแว้ด รินลดาจึงไม่กล้าเซ้าซี้อีก ถอยห่างออกมาแต่สายตายังจับจ้องแม่ที่นั่งซึม ท่าทางเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก...
ooooooo
บ่ายวันเดียวกันนี้ รัญนัดพบเพชรที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งด้วยธุระเรื่องหนี้สิน โดยรัญนำโฉนดบ้านมายื่นให้เพชรบอกให้ช่วยเอาไปให้น้องสาวของเขา วันนี้ตนไปตีราคาที่แบงก์มาแล้วมันมีมูลค่าที่ดินสิบเจ็ดล้าน แล้วช่วยบอกเธอด้วยว่าอีกสิบแปดล้านตนจะพยายามหาคืนให้เร็วที่สุด
“แกไม่ต้องทำอย่างนี้หรอกไอ้รัญ ไอ้บัวมันบ้า มันแกล้งแก อีกสองวันมันก็ลืมเรื่องนี้แล้ว”
“ไม่หรอก ฉันเป็นหนี้เขา ฉันก็ต้องใช้เขา”
“แต่ฉันว่า...”
“ฉันขอบใจแกมาก แกกับน้องแกดีกับฉันมาก ฉันต่างหากที่ไม่ดีกับแกสองคน”
“ไม่เอาน่ารัญ เราก็รู้อยู่ว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด แล้วถ้าไอ้บัวไม่เป็นคนเริ่มต้นปลอมตัวเป็นผู้หญิงหากินไปอยู่กับแกมันก็ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา”
“จะยังไงก็ตาม มันก็เป็นความผิดของฉันอยู่ดีที่ฉันไม่หนักแน่น ไม่เชื่อมั่นในความรักของตัวเอง แล้วฉันก็ไม่โกรธบัวด้วยที่เธอทำแบบนี้กับฉัน ดีซะอีกที่เธอสอนให้ฉันรู้ว่าถ้าจะมีความรักเราต้องเข้มแข็งและหนักแน่น”
“แต่ฉันว่าแกเอาโฉนดนี่กลับไปก่อนเถอะ เรื่องหนี้สินของไอ้บัวฉันจะหาทางจัดการให้เอง”
“อย่าเลย แกช่วยฉันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องช่วยเหลือตัวเองบ้าง ขอบใจแกมากนะเพชร แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” รัญตบบ่าเพชรแล้วลุกเดินคอตกออกไป เพชรหยิบโฉนดนั้นมาถือไว้อย่างหนักใจ
ตกเย็นการ์ตูนและฉัตรชัยนัดบัวกินข้าว การ์ตูนซึ่งรู้เรื่องจากเพชรว่าบัวทวงหนี้รัญก็พยายามไกล่เกลี่ยแกมขอร้องบัว แต่บัวใจแข็งไม่ยอมท่าเดียว ยืนยันว่าตนต้องได้เงินของตนคืนมา ในส่วนของการ์ตูนสิบล้านถ้าจะยกให้เขาฟรีๆ ก็ตามใจ
ทั้งการ์ตูนและฉัตรชัยเห็นความเด็ดขาดของบัวแล้วก็อึ้งพูดไม่ออก ได้แต่คุยกันเองหลังจากบัวกลับไปแล้วว่า บัวไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ทั้งน่ากลัวทั้งน่าหนักใจจริงๆ
ด้านรัญก็กำลังดิ้นรนทุกทาง หลังจากเอาโฉนดบ้านไปให้เพชรแล้ว รัญยังเอารถยนต์ส่วนตัวไปขายก่อนกลับเข้าบ้านมาบอกแม่และน้องสาวว่าพรุ่งนี้จะเอารถของแม่ไปขายอีกคัน ส่วนรถของรินลดายังเก็บเอาไว้ใช้
“ไม่นะ...แกจะขายรถแม่ไม่ได้นะ” รมณีย์ขึ้นเสียง
“แม่คะ ขายไปเถอะค่ะ ถึงวันที่เรามีเราก็ซื้อใหม่ได้”
“เราไม่มีวันมีแล้วล่ะ นอกซะจากว่ารัญยอมไปขอโทษหนูบัว”
“เราเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วแม่ แล้วผมก็จะบอกแม่อีกอย่าง วันนี้ผมเอาบ้านไปขายใช้หนี้เขาแล้ว”
“แกว่าอะไรนะ” รมณีย์แตกตื่นอีกครา
“แม่ฟังไม่ผิดหรอก ผมขายบ้านหลังนี้ให้บัวเขาไปแล้ว ริน...ถ้าแกว่างก็เริ่มเก็บข้าวของที่จำเป็นของเรา แล้วก็บอกพวกคนงานด้วยว่าเราจะจ้างเขาถึงสิ้นเดือนนี้”
รินลดารับคำ มองตามพี่ชายที่เดินเลี่ยงขึ้นไปข้างบน ก่อนหันมามองแม่ที่นิ่งไปอย่างทำใจไม่ได้
“นี่ชีวิตฉันไม่เหลืออะไรแล้วเหรอ...ไม่...ไม่...มันต้องไม่เป็นแบบนี้ ไม่มมมมมมม....” รมณีย์หวีดร้องแล้วทรุดลงหมดสติ รินลดากับรัญต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลด้วยความตกอกตกใจ หมอบอกว่าสาเหตุมาจากเครียดมากไปความดันเลยสูงขึ้นจนช็อก อาการไม่อันตราย แต่อย่าให้เป็นอีก เพราะจะทำให้เส้นโลหิตในสมองแตกอาจเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
ooooooo
คืนนั้น เพชรเอาโฉนดบ้านรัญมาให้บัว และพูดประชดประชันน้องสาวว่า
“แบงก์เขาตีมาสิบเจ็ดล้าน พอใจรึยัง”
“ยัง เพราะเขาเป็นหนี้บัวกับไอ้ตูนสามสิบห้าล้าน”
“เขาบอกที่เหลืออีกสิบแปดล้านจะเอามาให้เร็วที่สุด”
“เมื่อไหร่” บัวเสียงแข็งจนเพชรชะงักไม่พอใจ
“ฉันว่าแกหน้าเลือดเกินไปแล้วนะ คนกำลังลำบาก เห็นใจเขาบ้าง อย่างน้อยก็เห็นแก่ครั้งนึงที่แกเคยมีอะไรกับเขา...ไอ้คนไม่มีหัวใจ” เพชรว่าให้แล้วเดินตึงๆออกไปด้วยความโมโห บัวหยิบโฉนดมาดูแล้วโยนลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด
ออกจากห้องน้องสาวมาแล้ว เพชรตัดสินใจลงมาคุยกับพ่อแม่ว่าตนจะแต่งงาน พ่อกับแม่ต้องไปสู่ขอผู้หญิงให้ตนด้วย มงคลดีใจถามว่าวันไหนบอกมาเลย พ่อจะได้เตรียมตัวถูก แต่นิภาพรรณดักคอว่า ถ้าเป็นลูกคุณหญิงรมณีย์ล่ะก็โนเวย์
“แต่ผมรักรินนะครับแม่”
“แต่แม่บอกแล้วไงว่าครอบครัวเขาไม่มีเงิน ขืนเอาลูกสาวเขามาเราต้องไปเลี้ยงแม่กับพี่ชายเขาอีก แม่ว่าแกไปหาคนอื่นเถอะ”
“พูดแบบนี้เดี๋ยวไอ้เพชรมันก็หนีไปแบบยัยบัวอีกคนหรอก”
“ดีเลย แม่อยากให้แกหายไปจากบ้านนี้ แม่จะไม่ไปตามแก”
“อย่าพูดเล่นน่ะแม่ นี่มันเรื่องสำคัญนะ”
“สำคัญอะไร”
“รินกำลังเดือดร้อน ผมต้องการช่วยเหลือเขา”
“เห็นมั้ย พูดไม่ทันขาดคำ”
“นี่คุณ หุบปากแล้วฟังลูกบ้าง” มงคลเริ่มเสียงดัง นิภาพรรณค้อนขวับ แล้วให้ลูกชายว่ามา
“ผมจะเอาเงินสินสอดให้ริน เพื่อให้เขาไปใช้หนี้ไอ้บัว”
“เดี๋ยวๆ แกพูดอะไรแม่งงไปหมด”
“อย่าบอกนะว่ายัยบัวกับแกช่วยเหลือเรื่องเงินนายรัญ”
“ถูกแล้วครับพ่อ แต่ตอนนี้ไอ้บัวมันทวงคืน”
“อ้าว แล้วบัวมันไปเกี่ยวอะไรกับนายรัญ”
“แม่อย่ารู้เลย”
“นี่เจ้าเพชร ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญแกก็ควรจะเล่าให้พ่อกับแม่ฟังนะ”
“ใช่ เล่ามาให้หมดว่ายัยบัวไปเกี่ยวอะไรกับเพื่อนแก”
“ก็ที่บัวมันหนีไปเมืองนอก มันไปอยู่กับไอ้รัญ”
พ่อแม่อุทานอย่างแตกตื่น ถามย้ำว่าจริงหรือ เพชรยืนยันเป็นความจริง แล้วมันสองคนก็ไม่ได้แค่รักกันเฉยๆ มันได้เสียกันแล้วด้วย
เท่านี้เอง นิภาพรรณถึงกับเป็นลมหงายหลังตึง พอฟื้นขึ้นมาก็ยังคร่ำครวญว่าทำไมบัวถึงทำอย่างนี้ ถึงกับเอาตัวเข้าแลกเชียวหรือ
“เอาน่าคุณ ถึงตอนนี้ก็เรียกเอาความสาวกลับมาไม่ได้หรอก”
“ฉันว่าเป็นเพราะคุณน่ะแหละชอบทำลายพรหมจรรย์เด็กๆ”
“อ้าวคุณ อย่าพูดจาซี้ซั้วน่า”
“เอาล่ะครับ ตกลงแม่ยอมให้เงินผมไปเป็นสินสอดนะ”
“เท่าไหร่”
“ไอ้รัญใช้หนี้ไปแล้วสิบเจ็ด ผมขอยี่สิบแล้วกันจะได้ลงตัว”
“ยี่สิบล้านเลยหรือ” นิภาพรรณครางเสียงแผ่วอย่างเสียดาย
“ให้เขาไปเถอะ ลูกจะมีเมียทั้งที เงินสิบล้านยี่สิบล้านมันไม่ได้มากมายหรอกน่า”
“แกแน่ใจนะว่านังคุณหญิงถังแตกจะยอมเอาเงินยี่สิบล้านนี่มาใช้คืนน้องสาวแก”
“ใช้สิแม่ รินสัญญากับผมแล้วว่าเธอจะเก็บเงินก้อนนี้ไว้เอง”
“เอ้า นี่สมุดเช็ค เซ็นซะจะได้จบเรื่อง” มงคลส่งสมุดเช็คมาให้ นิภาพรรณรับมาเซ็นแล้วฉีกส่งให้ลูกชายอย่างจำใจ
ooooooo
เพียงเช้าวันรุ่งขึ้น เช็คยี่สิบล้านก็ถึงมือรินลดา เพชรบอกเธอว่ามันเป็นเงินสินสอดที่ตนเอามาให้เธอเพื่อให้รัญเอาไปใช้หนี้บัว จะได้หมดเรื่องกันเสียที รินลดาตื้นตันใจพนมมือไหว้ขอบคุณเพชรทั้งน้ำตา
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ”
“อีกไม่ช้าเราก็ต้องแต่งงานกัน ไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก”
“คุณดีกับครอบครัวฉันจริงๆ ฉันรักคุณค่ะ”
“ขอแค่ให้คุณมีความสุข ผมก็ดีใจแล้ว”
สองคนโอบกอดกันด้วยความรัก รินลดาเหลือบเห็นพี่ชายก็ผละออกนำเช็คมายื่นให้ บอกให้เอาไปใช้หนี้บัว แต่รัญกลับมองเช็คใบนั้นนิ่งเฉย
“หลังจากที่ฉันหมั้นกับน้องรินเรียบร้อย แกก็เอาเช็คนี่ไปตบหน้าไอ้บัวได้เลย”
“ฉันขอบคุณในความหวังดีของแกนะเพชร แต่ฉันขอไม่รับ”
“ทำไมล่ะคะพี่รัญ เช็คนี่เป็นค่าสินสอดหมั้นน้องนะคะ”
“พี่ไม่อยากขายน้องเพื่อปลดหนี้”
“คิดมากน่าไอ้รัญ นี่มันเป็นเงินตามประเพณี เพราะฉันจะมาขอน้องสาวแก ฉันก็ต้องมีสินสอดทองหมั้นมา จริงๆ
ต้องมากกว่านี้อีกหลายเท่า”
“นะพี่รัญ รับไว้เถอะนะ เราจะได้หมดหนี้”
“ที่พี่ไม่รับเพราะพี่ไม่อยากให้ใครดูถูกน้อง แกอยากให้ คนเขาพูดกันหรือ ว่าเราใช้หนี้ได้เพราะแกยอมเอาตัวเข้าแลก”
เพชรลุกขึ้นผลักอกรัญด้วยความโกรธ “เฮ้ยไอ้รัญ ฉันว่าแกดูถูกน้องสาวแกมากไปแล้วนะ ที่รินกับฉันจะแต่งงานกันเพราะเราสองคนรักกันนะโว้ย ถึงแกจะไม่เอาเงินนี้ไปใช้หนี้ไอ้บัว ฉันก็ต้องเอาเงินนี้ให้แม่แกอยู่ดี เพราะคนอย่างฉันไม่เหมือนแก ที่ได้น้องสาวฉันฟรีๆแล้วก็ทิ้งมันเหมือนกับหมูกับหมา”
“พี่เพชร...”
“หยุดก่อนริน ให้พี่พูดกับมัน ให้มันได้สำนึกบ้างว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แกรู้มั้ยว่าน้องฉันปลอมตัวเป็นผู้หญิงหากินไปหาแกเพราะอะไร มันยอมเสียศักดิ์ศรี ยอมเสียตัวให้กับแกเพราะว่ามันรักแก”
“ฉันรู้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เสียใจ ฉันขอโทษเขาแล้วแต่เขาไม่ให้อภัยฉัน แกจะให้ฉันทำยังไงไอ้เพชร หรือจะให้ฉันตาย ฉันยอมตายได้นะ ถ้ามันจะลบล้างความผิดของฉันได้”
“พอเถอะค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยรินขอร้อง”
“ฉันจะบอกให้แกรู้นะไอ้รัญ เรื่องระหว่างฉันกับรินไม่เกี่ยวอะไรกับแก ถึงแกจะเลิกกับน้องฉัน แกก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ให้รินรักฉัน เข้าใจรึเปล่า...ไปริน เราไปคุยเรื่องงานหมั้นกันที่อื่น ปล่อยให้คนบ้ามันอยู่คนเดียว”
รินลดาละล้าละลังกลัวรัญดุ เพชรจึงประกาศกร้าวก่อนฉุดแขนเธอออกไป
“ริน...ชีวิตคุณก็คือชีวิตคุณ อย่าผูกติดอยู่กับใคร”
รัญได้แต่มองตาม รำพึงถามตัวเอง “แล้วจะให้เราทำยังไง”
ooooooo
ที่สุดรัญก็ตัดสินใจมาขอพบบัวถึงบริษัท แต่บัวไม่ยอมออกมาพบ โดยให้การ์ตูนเป็นคนออกมารับหน้าแทน การ์ตูนสงสารและเห็นใจรัญที่มาพร้อมช่อดอกไม้เพื่อง้อบัว จึงบอกให้เขานั่งรอสักครู่ จากนั้นการ์ตูนก็หน้าตาตื่นไปหาบัวที่ยังคงนิ่งเฉยเหมือนไม่ยินดียินร้ายต่อการมาครั้งนี้ของรัญ
“นี่บัว พี่รัญเขาเอาดอกไม้มาด้วยนะ”
“แล้วทำไมแกต้องตื่นเต้น”
“ก็แสดงว่าเขายอมแพ้แกจริงๆ เขาเอาดอกไม้มาขอโทษ ง้อขอคืนดีกับแก”
“งั้นหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แหม...ถ้าผู้ชายทำขนาดนี้แสดงว่าเขายังรักแกอยู่นะ”
“แต่เสียใจด้วย ฉันไม่ได้รักเขาแล้ว”
“เฮ้ยบัว ไม่เอาน่า แกจะแกล้งเขาไปถึงไหน ฉันรู้นะว่าจริงๆแกยังรักเขาอยู่ ให้อภัยเขาเถอะนะ นี่เขาก็ยอมมากแล้วนะ อุตส่าห์บากบั่นมาหาแกถึงนี่...นะ ออกไปหาเขาหน่อย”
“ถ้าแกรักเขาแกก็ออกไปหาเขาสิ ฉันมีงานต้องทำ” บัวตัดบทลุกเดินออกจากห้องโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองรัญที่ตั้งท่ารอ เมื่อเห็นการ์ตูนเดินหน้าจ๋อยๆมา ก็เดาได้ไม่ยาก เขาจึงฝากดอกไม้ไว้ให้บัวแล้วลากลับไปอย่างหงอยๆ
ครู่ต่อมา การ์ตูนถือดอกไม้ช่อนั้นกลับมาหาบัว บอกว่าเขาไปแล้ว บัวสีหน้าเรียบนิ่ง เอ่ยขึ้นอย่างไม่แคร์
“ดี...สั่งยามด้วยว่าถ้าเขามาอีกไม่ต้องให้เข้ามาในออฟฟิศ”
“ทำไมแกรุนแรงอย่างนี้วะ เอ้า ถ้างั้นช่วยรับดอกไม้เขาหน่อยแล้วกัน”
“แกช่วยเอาไปไหว้ศาลพระภูมิข้างล่างด้วย”
“เฮ้ยบัว...”
“นี่แกไม่มีงานทำหรือตูน ถึงได้พูดแต่เรื่องผู้ชายคนนี้”
การ์ตูนจ๋อยสนิท กลับออกไปพร้อมดอกไม้ในมือ บัวมองตามแล้วเหยียดยิ้มสะใจที่ได้เล่นงานรัญ
“แค่ดอกไม้ช่อเดียว นึกหรือว่าจะลบล้างความผิดได้ เมินซะเถอะ”
ถึงแม้บัวจะใจแข็งเพียงใด แต่รัญก็ยังไม่ละความพยายาม ตอนกลางวันเขาไปโผล่ที่ร้านอาหารที่บัวกับการ์ตูนและฉัตรชัยมากินกัน
“เฮ้ยบัว ฉันว่าเขาตามแกมานะ”
“ไม่ใช่หรอก บังเอิญมากกว่า อย่าไปสนใจเขาเลย”
“แต่ผมว่าตูนพูดถูกนะ เขากำลังเดินมาหาเรา”
บัวพยายามควบคุมใจตัวเอง เมินไม่มองรัญที่เดินมาหยุดใกล้โต๊ะ
“สวัสดีครับคุณรัญ”
“สวัสดีครับคุณฉัตรชัย สบายดีนะครับ”
“ครับ มาทานข้าวเหรอครับ”
“ครับ” รัญตอบรับพลางชำเลืองมองบัวที่ก้มหน้าก้มตากินอาหารไม่สนใจใคร ฉัตรชัยสบตาการ์ตูนอย่างหนักใจ ก่อนถามรัญอีกว่านัดใครไว้หรือเปล่า เมื่อรัญบอกเปล่า จึงชวนเขานั่งด้วยกัน แต่พอรัญจะนั่งลง บัวก็ลุกขึ้นขอตัวทันที
“อ้าว แกจะไปไหน” การ์ตูนถาม
“ฉันอิ่มแล้ว เชิญแกคุยตามสบาย ขอตัวนะคะคุณฉัตรชัย”
บัวเดินลิ่วออก รัญอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็ตัดสินใจก้าวตามเธอไป ท่ามกลางอาการลุ้นๆของการ์ตูนกับฉัตรชัยที่อยากให้รัญง้อบัวสำเร็จเสียที
รัญวิ่งตามมาทันบัวตรงหน้าร้าน “เดี๋ยวสิบัว ขอให้ผมพูดอะไรหน่อยได้มั้ย”
“มีอะไรหรือคะ”
“ผมเข้าใจว่าคุณโกรธผมมาก แต่ผมอยากขอโทษคุณอีกซักครั้งนึงสำหรับความผิดที่ผมได้ทำกับคุณทั้งหมด บอกผมได้มั้ยว่าผมต้องทำยังไงถึงจะลบล้างความผิดนี้ได้ บอกผมเถอะบัว คุณจะได้หายโกรธผมซะที ผมขอร้องล่ะบัว ผมรักคุณนะ ได้โปรดเห็นแก่ความรักที่เรามีต่อกันเถอะนะ”
บัวนิ่งฟังด้วยความหวั่นไหว แต่ใจยังลังเล รัญเดินเข้ามายืนเผชิญหน้า
“นะบัว บอกผมสิว่าคุณจะให้อภัยผมและยังรักผมอยู่”
“ฉันบอกคุณก็ได้ ฉันหมดรักคุณไปตั้งแต่วันที่คุณไล่ฉันแล้ว และฉันก็หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะ” พูดจบบัวเดินจากไป ทิ้งรัญยืนอึ้งเป็นหุ่น การ์ตูนกับฉัตรชัยแอบมองมาจากในร้าน เหนื่อยใจด้วยกันทั้งคู่
“สงสารพี่รัญจังเลย จะช่วยเขาได้ยังไง”
“เรื่องแบบนี้ช่วยลำบากนะ มันอยู่ที่คุณบัวคนเดียว”
ว่าแล้วทั้งคู่ก็ได้แต่ถอนใจ จนปัญญาจริงๆ
ooooooo
รุ่งขึ้นเพชรมาที่บ้านรมณีย์แต่เช้า โดยเขานัดแนะกับรินลดาไว้แล้ว แต่รมณีย์ไม่รู้เรื่องจึงผวาเล็กน้อยเพราะกลัวเพชรจะมาทวงหนี้สิน
“หวัดดีครับคุณแม่”
“จ้ะ ลมอะไรหอบมาแต่เช้าจ๊ะเนี่ย”
“ลมรักน่ะครับ”
ได้ยินแบบนี้รมณีย์ค่อยโล่งใจ สีหน้าดีขึ้นทันตา “นี่กระเซ้าแม่หรือกระเซ้ายัยรินจ๊ะ”
“กระเซ้าน้องรินครับ”
“หมายความว่ายังไง แม่ไม่เข้าใจ”
“ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะจะมาเรียนให้คุณแม่ทราบว่าผมจะให้พ่อแม่มาสู่ขอน้องรินครับ”
“นี่เพชรพูดจริง หรือล้อเล่น”
“ไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ไม่เชื่อถามน้องรินก็ได้”
“จริงค่ะแม่ เราสองคนรักกัน”
“แล้วไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมแม่ไม่รู้”
“ก็รักกันมานานแล้วครับ เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยให้คุณแม่ทราบ”
“ทำไมถึงปิดแม่ล่ะริน”
“ก็จะให้หนูบอกยังไงล่ะคะ”
“แกนี่นะ เรื่องดีๆแบบนี้ไม่บอกแม่...เพชร แม่พูดจริงๆนะ แม่ดีใจมากที่ได้เพชรเป็นลูกเขย”
“ผมก็ดีใจครับ ที่ได้คุณแม่เป็นแม่ยาย แต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าจะยกน้องรินให้ผมรึเปล่า”
“ให้สิจ๊ะ ถึงเพชรไม่ขอแม่ก็อยากจะยกให้อยู่แล้ว แต่ไม่ฟรีนะจ๊ะ เพราะแม่เลี้ยงของแม่มาแต่อ้อนแต่ออก”
“เรื่องนี้ผมเข้าใจครับ”
“แต่แม่ต้องขอเวลาคิดเรื่องสินสอดก่อนนะ”
“ไม่ต้องคิดหรอกค่ะแม่ คุณเพชรเตรียมสินสอดมาให้เรายี่สิบล้าน”
“ยี่สิบล้าน?”
“ครับ หวังว่าคุณแม่คงพอใจนะครับ”
“แม่เกรงว่ามันจะน้อยไปรึเปล่าเพชร เพราะแม่มีลูกสาวคนเดียว ถ้าแม่ยกให้มันก็จะ...” กำลังจะยึกยัก ก็พอดีรัญเข้ามาแทรก
“แม่ครับ ผมว่ายี่สิบล้านมันก็มากพอแล้วครับ”
รมณีย์มองรัญอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ตัดใจตกลง “ก็ได้ ยี่สิบก็ยี่สิบ แล้วพวกเพชรทองล่ะจ๊ะ”
“แม่คะ ไม่มีทองหรอกค่ะ มีแต่เงินสด เพราะพี่รัญจะเอาไปใช้หนี้บัว”
“หมายความว่าแม่ไม่ได้อะไรเลยงั้นหรือ”
“ถูกต้องแล้วครับแม่ ผมต้องใช้หนี้สิบแปดล้าน อีกสองล้านก็ควรจะให้รินเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่”
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามใจ เดี๋ยวนี้แม่พูดอะไรไม่ได้ต้องฟังพวกแก จะหมั้นจะแต่งกันวันไหนก็บอกแม่นะเพชรแม่จะได้เตรียมตัดชุดถูก”
“ครับ ถ้าผมได้ฤกษ์จะบอกคุณแม่ทันที”
เป็นอันว่าเรียบร้อยลงตัว หลังจากนั้นเพชรได้พูดคุยกับรัญเป็นการส่วนตัว
“ฉันรู้เรื่องแกกับไอ้บัวแล้วนะ ฉันว่ามันทำเกินไป”
“อย่าไปว่าเขาเลย บัวเขาทำถูกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันควร จะจบลงแค่นี้ เราต่างคนก็ควรจะเดินหน้าดำเนินชีวิตกันต่อไป”
“แล้วแกตัดใจจากไอ้บัวได้จริงๆเหรอ”
“ได้ ฉันเข้าใจเรื่องทั้งหมดดีแล้ว เสร็จงานแกกับยัยริน ฉันก็คงจะกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก”
“หมายความว่าแกจะไม่กลับมาเมืองไทยแล้ว”
“ก็คงมีบ้าง แต่ฉันคิดว่าชีวิตฉันคงเหมาะกับเมืองนอกมากกว่า”
“แต่ถึงยังไงก็อย่าเกลียดผู้หญิงไปตลอดชีวิตนะ”
“ไม่หรอก วันนึงฉันก็คงเจอใครที่คล้ายๆน้องแกแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับเขา”
“งั้นก็ขอภาวนาให้แกเจอเร็วๆแล้วกัน”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน จับมือกันด้วยไมตรีที่เหนียวแน่นคงเดิม
ooooooo