icon member

กลรักลวงใจ

ตอนที่ 13

หลังจากบัวมาพบรัญที่บ้าน รัญเตรียมพาเธอไปพบแม่ของเขาที่โรงพยาบาลวันนี้เลย ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่เพียงเพ็ญคะยั้นคะยออ้อมให้มาเยี่ยมรมณีย์ด้วยเช่นกัน

แต่สองแม่ลูกมาถึงก่อนรัญกับบัว รมณีย์แสดงความดีใจที่อ้อมมาเพราะเธอยังอยากได้อ้อมเป็นสะใภ้เพียงคนเดียว เพื่อหวังจะให้ครอบครัวนี้พยุงฐานะของตนที่กำลังย่ำแย่ถึงขีดสุด

เมื่อเพียงเพ็ญสอบถามอาการ รมณีย์ตอบได้อย่างคล่องปาก แต่พอถูกถามถึงสาเหตุทำไมโจรบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านได้ รมณีย์กลับอึกๆอักๆโกหกว่า

“ก็...ก็มันเห็นเรามีสมบัติเยอะน่ะสิ”

“แล้วโจรมันได้อะไรไปบ้างไหมคะ”

“เครื่องเพชรโบราณของคุณแม่พี่ไปทั้งเซตเลย”

“ว้ายตาย...เสียดายจัง”

“ก็เสียดายน่ะสิ ชุดนี้พี่กะจะเก็บไว้รับขวัญหนูอ้อมวันหมั้น”

“แหม...คุณหญิงป้าพูดยังกะว่าพี่รัญจะมาขออ้อม”

“ก็ต้องขอสิจ๊ะ”

“แล้วแฟนเขาล่ะคะ เขาจะยอมเลิกรากันหรือคะพี่หญิง”

“พี่รับรอง สะใภ้ของสิงหบวรเดช จะต้องเป็นหนูอ้อมพันเปอร์เซ็นต์”

คนเป็นแม่กำลังรับรองแข็งขัน ก็พอดีลูกชายเปิดประตูพาบัวเข้ามา ทุกคนหันมองเป็นตาเดียว รัญแนะนำบัวต่อผู้ใหญ่ทั้งสอง บัวไหว้ท่านอย่างนอบน้อม แต่รมณีย์ปั้นปึ่งไม่รับไหว้ ขณะที่เพียงเพ็ญรับไหว้อย่างเสียไม่ได้

“เนี่ยหรือผู้หญิงที่อยู่กับแกที่เมืองนอก”

“บัวเป็นแฟนผมครับ แล้วเราก็กำลังจะแต่งงานกัน”

“ไหนเมื่อกี้คุณหญิงป้าบอกว่าพี่รัญจะต้องแต่งกับหนูพันเปอร์เซ็นต์ไงคะ”

“ป้ายังยืนยันคำนั้นจ้ะ จะไม่มีใครมาเป็นสะใภ้ป้า นอกจากหนูอ้อมคนเดียว”

บัวได้ฟังถึงกับอึ้งหน้าชา อ้อมและเพียงเพ็ญสะใจหันมายิ้มเยาะบัว

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าวันนี้คุณแม่ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับบัวระวงวันหลังผมจะมาใหม่...ไปบัว”

“หนูลานะคะ” บัวยกมือไหว้ รมณีย์เมินหน้าหนีทันที รัญเห็นใจบัวรีบจูงมือเธอออกไป

“ยังไม่ทันได้เป็นสะใภ้คุณพี่เลย ทำเย่อหยิ่งชูคอ” เพียงเพ็ญพูดอย่างหมั่นไส้ อ้อมได้ทีเสริมขึ้นว่า แม่ยังไม่รู้ฤทธิ์ของมัน อยู่เมืองนอกมันร้ายกว่านี้หลายเท่า “แล้วคุณพี่รู้รึยังคะว่าแม่นี่เป็นลูกเต้าเหล่าใคร”

“ยัง...เอาไว้ให้พี่ออกจากโรงพยาบาลก่อนพี่จะสืบให้รู้”

“ไม่ต้องสืบหรอกค่ะ หนูว่ามันเป็นลูกก๊ะค่ะ”

“ก๊ะอะไรลูก” เพียงเพ็ญสีหน้างงๆ

“เวลาเราไปมวกเหล็กคุณแม่ซื้อขนมอะไรกลับมาบ้านล่ะคะ”

“กะหรี่ปั๊บน่ะหรือจ๊ะ ตายแล้วคุณพี่ ใครรู้เข้าเสียชื่อวงศ์ตระกูลคุณพี่หมดเลยนะคะ”

รมณีย์นิ่งอึ้งไปด้วยความไม่พอใจลูกชาย

ooooooo

ออกจากโรงพยาบาลมาแวะที่ร้านกาแฟและเบเกอรี่ รัญปลอบบัวไม่ให้สนใจคำพูดของแม่ตน

“แต่บัวว่าแม่พี่รัญคงไม่มีทางชอบบัวแน่”

“ก็พี่บอกแล้วไงไม่เกี่ยวกับแม่พี่ พี่เป็นคนที่อยู่กับบัวนะ ไม่ใช่แม่”

“แต่พี่รัญจะมีความสุขหรือคะ”

“มีสิ ขอเพียงแค่มีบัวอยู่ข้างๆพี่ก็พอแล้ว”

“พี่รัญพูดจริงหรือคะ”

“จริงสิ ถ้าเราสองคนรักกันคนอื่นก็ไม่สำคัญ”

“บัวรักพี่รัญที่สุดเลยค่ะ”

“พี่ก็รักบัวที่สุดเหมือนกัน”

ขณะทั้งคู่กำลังโอบกอดแสดงความรักกันอยู่นั้น รัญเหลือบเห็นมงคลกับนิภาพรรณเดินเข้ามาเลือกขนม

“อ้าว นั่นพ่อกับแม่เพชรนี่”

บัวสะดุ้งตกใจ แล้วปฏิเสธพัลวันเมื่อรัญชวนไปสวัสดี อ้างว่าตนไม่รู้จักพวกเขา

“แต่บัวก็รู้จักกับเพชรนี่”

“บัวว่าอย่าเลยค่ะ วันนี้บัวดวงไม่ค่อยดีกับผู้ใหญ่ พี่รัญไปคนเดียวเถอะ”

รัญลุกเดินไปหาสองสามีภรรยา สวัสดีทักทาย ก่อนตอบพวกท่านว่าตนมากับแฟน นิภาพรรณอยากเห็นหน้าแฟน รัญจึงหันไปที่โต๊ะ ปรากฏว่าบัวไม่อยู่เสียแล้ว

“สงสัยไปห้องน้ำน่ะครับ”

“แหม...อยากจะเห็นหน้าจังเลยว่าแฟนจะสวยขนาดไหน”

“ได้แล้วครับ” คนขายส่งถุงขนมให้นิภาพรรณ...มงคลจึงบอกลารัญแล้วเดินนำนิภาพรรณกลับออกไป ส่วนรัญเดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมๆกับบัวโผล่ออกมาจากมุมหนึ่ง

“พ่อแม่คุณเพชรไปแล้วเหรอคะ”

“จ้ะ เมื่อกี้แม่เขายังอยากเห็นหน้าบัวเลย”

“เหรอคะ...บัวว่าเราจ่ายตังค์แล้วไปกันเถอะค่ะ”

ขณะเดินออกมาที่รถ รัญถามบัวเรื่องที่พักซึ่งเขาอยากให้บัวย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน แต่บัวยังเกรงๆแม่ของเขาจึงขออยู่กับเพื่อนไปก่อนดีกว่า เอาไว้อีกสักพักค่อยว่ากัน

“ก็ได้จ้ะ”

“พี่รัญคะ บัวมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่รัญ”

“เรื่องสำคัญ เรื่องอะไร?”

บัวกำลังจะพูดความจริงว่าตนเป็นใคร แต่เสียงโทรศัพท์มือถือรัญดังขัดจังหวะเสียก่อน...รินลดานั่นเอง เธอโทร.บอกพี่ชายว่าแม่จะกลับบ้าน
“หมอให้กลับได้แล้วเหรอ”

“ค่ะ แม่บอกให้พี่รัญมาจ่ายเงิน พี่รัญรีบมาหน่อยนะ แม่โวยวายใหญ่ว่าพี่รัญหายไปไหน”

“เอาล่ะๆ บอกแม่ว่าเดี๋ยวพี่ไป” รัญกดปิดโทรศัพท์อย่างเหนื่อยใจกับแม่

“มีเรื่องอะไรหรือคะ” บัวถาม

“แม่จะออกจากโรงพยาบาล พี่ต้องไปรับแม่”

“งั้นพี่รัญไปเถอะค่ะ เดี๋ยวบัวนั่งแท็กซี่ไปเอง”

“เดี๋ยวสิบัว เมื่อกี้บัวบอกมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับพี่”

“เอาไว้คุยพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”

“โอเค งั้นเย็นๆพี่โทร.หา”

“ค่ะ พี่รัญไปเถอะ”

รัญขึ้นรถขับออกไป บัวมองตามแล้วถอนใจ บ่นกับตัวเองว่าไม่ได้บอกความจริงซะที

ooooooo

เมื่อรัญมาถึงโรงพยาบาล รมณีย์ทำปั้นปึ่งไม่ยอมให้ลูกชายช่วยเหลือ จนกระทั่งไปถึงบ้านเธอก็เริ่มออกฤทธิ์ เรียกรัญมาคุยเรื่องผู้หญิงที่ชื่อบัวระวง

“รัญฟังแม่นะ ถึงยังไงแม่ก็ไม่ต้อนรับผู้หญิงคนนี้”

“แต่แม่ยังไม่รู้จักเธอเลยนะครับ”

“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้จัก แค่เห็นหน้าฉันก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายตีนอะไร มันไม่ได้มาส่งเสริมแก มีแต่มาดึงให้ลงต่ำ”

“ผมเข้าใจความหวังดีของแม่นะครับ ที่แม่พยายามจะหาผู้หญิงที่มีฐานะ มีการศึกษา มีทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมให้ผมเหมือนอย่างน้องอ้อม แต่ผมกับอ้อมไปด้วยกันไม่ได้ เธอไม่มีส่วนไหนที่ผมชอบเลย ผิดกับบัวระวงที่ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข”

“แต่นังบัวระวงของแกมันไม่มีอะไรเลย มีแต่ความดีความน่ารักที่แกชอบ แม่จะบอกให้รู้นะ สิ่งเหล่านี้มันกินเข้าไปไม่ได้ แกไม่เห็นหรือว่าตอนนี้สถานการณ์ของบ้านเรากำลังแย่”

“แต่ที่มันแย่ก็เพราะแม่นะครับ เพราะแม่เล่นการพนัน”

เพี๊ยะ! รมณีย์ตบหน้ารัญแล้วโวยวาย “แกไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน”

“ถ้าอย่างงั้นเราคงพูดกันไม่รู้เรื่อง ผมขอตัว”

“แกอย่าคิดว่าแกจะชนะแม่นะ แม่ไม่มีวันยอมให้แกไปลากผู้หญิงที่ไหนมาเป็นเมียหรอก”

รัญเดินหนีขึ้นห้อง รมณีย์มองตามอย่างโกรธจัด ส่วนรินลดายืนมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆด้วยความสงสารพี่ชาย สักครู่จึงตามขึ้นไปถามเขาว่า จะทำยังไงต่อไปเรื่องบัว

“ก็คงไม่ต้องทำอะไร พี่จะกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับบัวที่เมืองนอก”

“แล้วแม่ล่ะ แม่จะยอมหรือ”

“ยอมหรือไม่ยอมก็เป็นเรื่องของแม่ เพราะพี่ตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตกับบัวไปแล้ว”

“รินเข้าใจ แล้วก็ไม่ว่าพี่หรอกที่ไม่ตามใจแม่ แต่ถ้าเป็นริน รินก็คงต้องทำตามที่แม่บอก”

“ริน...พี่จะบอกแกอย่างนะ อย่าตามใจแม่จนไม่รู้ว่าอะไรถูกหรือผิด”

“แล้วพี่จะกลับไปเมื่อไหร่”

“ถ้าแม่หายดีแล้วก็คงอีกวันสองวัน”

“ริน...ยัยริน!” เสียงรมณีย์ตะโกนเรียกอยู่ข้างล่างอย่างฉุนเฉียว รินลดาผวาเฮือกรีบขอตัวลงไปดูแม่ก่อน

ครั้นน้องสาวกลับออกไปแล้ว รัญก็ได้แต่บอกตัวเองอย่างมั่นคงต่อหญิงที่รักว่า

“ไม่ว่าแม่จะพูดยังไง เราก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจจากบัว”

ooooooo

ค่ำนั้น ฉัตรชัยมากินข้าวที่บ้านเสี่ยมงคล โดยมีสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านและเพชรลูกชายกับการ์ตูนหลานสาวร่วมโต๊ะกันพร้อมหน้า

นิภาพรรณแสดงออกนอกหน้าว่าปลื้มฉัตรชัยมาก เจ้ากี้เจ้าการให้การ์ตูนตักกับข้าวให้ฉัตรชัยฐานะเจ้าของบ้านที่ต้องดูแลแขก

“ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดว่าผมเป็นแขกเลยครับ คิดว่าผมเป็นญาติดีกว่า”

พูดแบบนี้ก็เข้าทางนิภาพรรณอย่างแรง ถามเขาว่าอยากจะเป็นญาติฝ่ายไหน เป็นหลานเขยเลยดีมั้ย?

“ป้านิ...ตูนแค่ชวนคุณฉัตรชัยมาทานข้าวนะ”

“ว่าไงคุณฉัตรชัย อย่าช้านะ ตอนนี้แม่ผมเปิดทางแล้ว ถ้าจะขอก็รีบขอเลย” เพชรก็เป็นไปด้วย

“ถ้าคุณอาไม่รังเกียจ ผมก็จะให้คุณพ่อคุณแม่มาสู่ขอตูนเลยนะครับ”

“ฉันยังไม่เคยบอกตกลงอะไรกับคุณเลยนะ” การ์ตูนสวนทันควัน

“อ้าว งั้นก็บอกซะตอนนี้เลย ลุงกับป้าจะได้เป็นพยาน”

“ใช่...ถือซะว่าเป็นการตีตราจองก็แล้วกัน คุณฉัตรชัยมีแหวนมาบ้างมั้ย”

“วันนี้ผมไม่ได้เตรียมมา”

“ไม่ต้องแหวนก็ได้ครับ เอาหัวใจแทนแหวน”

“พี่เพชรน่ะ พูดอะไรลิเก” การ์ตูนเขินหน้าแดง

“ถ้าคุณอาทั้งสองไม่ขัดข้อง ผมก็ขอหมั้นปากเปล่าไว้ก่อนนะครับ หวังว่าคุณคงไม่หนีผมไปไหนเหมือนคุณบัวนะ”

“ก็ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำตัวดีรึเปล่า”

“มันต้องอย่างนี้สิหลานรัก ขู่ไว้เยอะๆ ผู้ชายจะได้อยู่ในกำมือเรา”

“เหมือนกับลุงนี่ไง”

ทุกคนหัวเราะเฮฮา พลันเพชรสะดุ้งกับเสียงมือถือของตนที่ดังขึ้น บัวโทร.มาชวนเพชรกินข้าว เพชรจึงบอกน้องสาวว่าพี่กำลังกินกับพ่อแม่อยู่ นิภาพรรณพอรู้ว่าเป็นบัวก็รีบขอคุยด้วย บัวทักทายแม่แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่เมืองไทย แม่จึงเร่งให้รีบกลับมาเพราะการ์ตูนจะแต่งงาน

“จริงหรือคะ”

“จริงสิ นี่คุณฉัตรชัยเขามาขอมันแล้ว”

“น่าอิจฉาไอ้ตูนจัง”

“อย่ามัวแต่อิจฉา รีบพาแฟนมาหาแม่ได้แล้ว”

“ค่ะ อีกไม่เกินสองวันหนูจะพาไป แค่นี้ก่อนนะคะ”

“จ้ะ แม่รักลูกนะ”

“ค่ะ หนูก็รักแม่ ฝากจุ๊บพ่อด้วยนะคะ”

บัววางสาย ยิ้มกับตัวเองด้วยความหวังว่าพ่อกับแม่คงจะชอบพี่รัญของเธอ ข้างฝ่ายนิภาพรรณก็หันมาบอกสามีด้วยความดีใจว่า อีกไม่เกินสองวันลูกจะพาแฟนมาเปิดตัว... การ์ตูนกับฉัตรชัยแอบสบตากันยิ้มๆ

“มันบอกรึเปล่าแม่ว่าเป็นใคร” เพชรซัก

“มันยังไม่บอกน่ะสิ ไม่รู้จะปิดทำไม”

“เออ พูดถึงแฟนไอ้บัว วันนี้เจอนายรัญเพื่อนแกมากับแฟนซะด้วย”

ทั้งเพชร การ์ตูน และฉัตรชัยต่างก็ชะงัก ก่อนที่การ์ตูนจะถามมงคลว่าได้เห็นแฟนพี่รัญหรือเปล่า

“ไม่เห็นหรอก เขาจะแนะนำให้รู้จัก พอดีแฟนเขาเข้าห้องน้ำ”

“พูดถึงนายรัญมีแฟน แล้วแกล่ะไอ้เพชร เมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที แม่อยากจะมีหลานแล้วนะ”

“ไม่ช้านี้แหละครับ ผมจะพาแฟนมาให้ดู”

“จริงหรือลูก แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอย่างว่าแม่ไม่เอานะ”

“คุณก็...ขอให้เป็นผู้หญิงก็พอแล้วน่า เอ้า มาฉลองกันหน่อย วันนี้เป็นวันดีลูกและหลานจะแต่งงานสามคู่พร้อมกัน...ส้มเช้งเอ๊ย เอาแชมเปญมาเปิดหน่อย” มงคลเรียกหาสาวใช้ นิภาพรรณยิ้มหน้าบานชื่นมื่นไปด้วยกันทั้งหมด

ooooooo

แต่วันรุ่งขึ้นไม่นึกว่าเหตุการณ์จะพลิกผัน...เมื่อเพชรกับบัวนัดเจอกันโดยไม่รู้ว่ารินลดาก็มาสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้านนี้ด้วย รินลดาแอบมองเพชรกับบัวหัวเราะต่อกระซิก จับมือถือแขนและโอบกอด ซ้ำบัวยังหอมแก้มเพชรราวกับคู่รักก็ไม่ปาน

“นี่เขาสองคนสนิทกันขนาดนี้เลยหรือ” เธอพึมพำด้วยความเสียใจ ก่อนจะโทร.เข้ามือถือเพชรเพื่อจับผิด

“ฮัลโหล...ว่าไงจ๊ะน้องริน นี่อยู่ไหน”

“รินอยู่บ้านค่ะ แล้วคุณล่ะทำอะไรอยู่”

“อ๋อ ผมประชุมอยู่”

“ประชุมหรือคะ”

“ใช่ ประชุมอยู่ที่บริษัท” เพชรทำท่าบอกใบ้ไม่ให้บัวส่งเสียง รินลดาเห็นก็ยิ่งเสียใจน้ำตาแทบร่วง “เดี๋ยวผมประชุมเสร็จเจอกันมั้ย”

“ไม่ได้ค่ะ รินต้องพาแม่ไปหาหมอ”

“งั้นเดี๋ยวโทร.หากันอีกทีนะ”

“ค่ะ” รินลดารับคำเสียงอ่อย ผิดหวังและเสียใจทำไมเขาถึงต้องโกหกเธอด้วย

ขณะเดียวกันนั้น รัญกำลังขับรถออกจากบ้านและโทร.หาบัวเพื่อนัดกินข้าวเที่ยง บัวตกลงทันที ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้พูดความจริงกับรัญให้ได้ เพชรเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ถ้าพูดแล้วรัญโกรธ บัวก็ต้องพยายามอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ อย่าปล่อยไว้นานเรื่องจะยิ่งยุ่ง

ไม่ทันที่รัญจะถึงร้านอาหาร รินลดาก็โทร.มาถามเขาว่าอยู่ไหน เธอมีเรื่องจะบอก แต่ไม่อยากพูดทางโทรศัพท์    รัญจึงนัดรินลดาให้มาเจอกันที่ร้านอาหาร

ไม่นึกว่ารมณีย์กับเพียงเพ็ญและอ้อมก็มากินที่ร้าน นี้ด้วย ทั้งสามคนมาถึงก่อนและขึ้นไปนั่งอยู่ชั้นบนซึ่งถ้ามองลงมาก็จะเห็นทุกโต๊ะที่ชั้นล่าง

“ป้ายื่นคำขาดไปแล้วว่าต้องเป็นหนูอ้อมคนเดียวป้าถึงจะยอมรับ” รมณีย์เปิดประเด็นเพื่อเอาใจสองแม่ลูก แต่พออ้อมอยากรู้ว่าพี่รัญตอบว่ายังไง รมณีย์ก็ชะงัก อึกอักเอ้ออ้าไม่กล้าพูดตรงๆ

“ว่าไงคะพี่หญิง ตารัญรับปากใช่ไหมคะว่าจะแต่งกับยัยอ้อม”

“ก็แบ่งรับแบ่งสู้อยู่”

“เห็นมั้ยแม่ หนูบอกแล้วไงว่าพี่รัญเขาไม่อยากแต่งกับหนูจริงๆ หนูกลับล่ะ” อ้อมลุกจะไป เพียงเพ็ญรีบคว้าแขนไว้ ขณะที่รมณีย์ก็ทำแข็งขันให้ความมั่นใจ

“ใจเย็นสิหนูอ้อม ป้าการันตีแล้วไงว่าเจ้าสาวของตารัญต้องเป็นหนูพันเปอร์เซ็นต์หมื่นเปอร์เซ็นต์”

“พอใจรึยังล่ะลูก”

“ถ้าอย่างงั้นก็โอเคค่ะ”

ทันใดนั้น อ้อมเหลือบสายตามองไปด้านล่างเห็นรัญกับบัวเดินควงกันเข้ามา “คุณหญิงป้าคะ คุณหญิงป้าดูนั่นสิคะ”

สองคุณแม่มองลงไป แล้วก็ตกใจไปด้วยกัน เพียงเพ็ญจากที่ยิ้มๆเมื่อครู่กลายเป็นบึ้งตึงขึ้นมาฉับพลัน

“เห็นภาพนี้แล้วน้องว่าตารัญคงจะเลิกยากแล้วล่ะค่ะ”

“นั่นสิคะ หนูว่าพี่รัญไม่มีวันเลิกกับมันเด็ดขาดเรากลับกันเถอะค่ะคุณแม่ เสียเวลา เสียค่าน้ำชาเลี้ยงคุณหญิงป้าเปล่าๆ ไปเถอะค่ะ”

“เดี๋ยวสิจ๊ะ ป้าขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย มันก็แค่มากินข้าวกันธรรมดา ตารัญอาจจะมาคุยเพื่อขอเลิกกับมันก็ได้”

สองแม่ลูกหน้าตึง มองรัญกับบัวไม่วางตา เจ๊อ้อเจ้าแม่โมเดลลิ่งเดินผ่านมาเห็นคุณหญิงรมณีย์ก็จำได้ ปรี่เข้ามาทักทายประสาคนรู้จัก พลางถามทุกคนว่าดูอะไรกันอยู่หรือ?

“ไม่มีอะไร ดูลูกชาย”

“ไหนคะลูกชาย อ้อขอดูบ้าง” เจ๊อ้อชะโงกหน้ามองลงไปเห็นบัวนั่งอยู่กับชายหนุ่มรูปหล่อ “อุ๊ย นั่นมันน้องบัวระวงนี่ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

ทุกคนชะงักมองหน้ากัน แล้วรมณีย์ก็ซักเจ๊อ้อจนรู้ว่าบัวระวงคือเด็กในสังกัดของเจ๊อ้อนั่นเอง

“หมายความว่ายัยบัวระวงเป็นผู้หญิงหากินงั้นหรือ”

“ค่ะ อย่าบอกนะคะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกคุณหญิง”

“ใช่ค่ะ เขาเป็นลูกชายคุณหญิง” เพียงเพ็ญย้ำ

“แล้วก็เป็นแฟนฉันด้วย” อ้อมทึกทัก

“อุ๊ยตาย...อ้อขอโทษ อ้อไม่น่าปากเสียพูดไปเลย ทำให้เรื่องมันยุ่ง”

“ไม่ยุ่งหรอกจ้ะ ถ้าเจ๊อ้อช่วยพี่หน่อย”

“ช่วยคุณหญิง ช่วยยังไงหรือคะ”

รมณีย์ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างมีแผนเด็ด...

ooooooo

ที่โต๊ะอาหารชั้นล่าง บัวกำลังเกริ่นกับรัญเพื่อจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเธอ ซึ่งเธอขอคำสัญญาจากเขาก่อนว่าถ้าเธอพูดออกไปแล้วเขาจะไม่โกรธเธอ

“ก็ได้ พี่จะไม่โกรธบัว”

“บัวจะบอกความจริงพี่รัญเรื่องนึงซึ่งเป็นเรื่องที่บัวปกปิดพี่รัญมาตลอด”

“นี่บัวยังมีเรื่องอะไรปิดพี่อีกงั้นหรือ”

“ค่ะ จริงๆแล้วบัวเป็น...”

“เป็นผู้หญิงสำส่อน ดอกส้มสีทอง” เสียงรมณีย์แทรกขึ้นมา ทั้งคู่ตกใจหันมอง โดยเฉพาะบัวที่เห็นเจ๊อ้อเดินรั้งท้ายมาด้วย

“พี่รัญคะ พี่รัญควรจะหูตาสว่างได้แล้วนะคะ เพราะนังบัวระวงของพี่มันเป็นผู้หญิงขายตัว เป็นนางทางโทรศัพท์” อ้อมใส่เป็นชุด

“ถ้าหลานไม่เชื่อหลานก็ลองถามแม่เล้าดูสิ”

เจ๊อ้อสะดุ้งไม่พอใจสรรพนามที่เพียงเพ็ญเรียก  เพียงเพ็ญรู้ตัวก็เลยยิ้มเจื่อนๆ จำใจขอโทษ

“ขอโทษค่ะ ถามเจ๊อ้อดูสิคะว่าบัวระวงมีอาชีพอะไร”

“ผมรู้เรื่องของบัวหมดแล้ว เพราะผมเป็นคนจ้างบัวมาเอง”

“อ๋อ นี่หมายความว่าลูกจ้างนังบัวระวงมาตบตาแม่งั้นหรือ”

“ตอนแรกน่ะใช่ครับ แต่ตอนนี้ผมกับบัวรักกันจริง”

“รักหรือคะ พี่รัญรักมันเข้าไปได้ยังไง มันนอนกับผู้ชายร้อยแปดพันเก้า มากกว่านังเรยาอีกนะคะ”

“พอทีเถอะ ฉันว่าพวกคุณคงเข้าใจผิดแล้ว” บัวโพล่งขึ้น

“เข้าใจผิดอะไรอีกยะ ก็ในเมื่อเจ๊อ้อยืนยันนั่งยันว่าหล่อนขายตัวมาไม่รู้กี่คนแล้ว”

“ทำไมเจ๊อ้อพูดอย่างนี้ล่ะคะ ในเมื่อเจ๊เพิ่งรู้จักกับหนูแค่ครั้งเดียว”

“นี่น้องบัว พี่อยู่วงการนี้มาสามสิบปี พี่ยังไม่เคยเจอผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไหนมาขายกับพี่เลย”

“เอาล่ะคุณอ้อ ไม่ว่าอดีตของบัวจะเป็นยังไงผมไม่สนใจหรอก ไปเถอะบัว” รัญคว้าแขนบัวหันเดินออก

“แกไม่สนใจแม้กระทั่งมันเคยนอนกับเพื่อนรักของแกงั้นหรือ”

รัญกับบัวชะงักกึก หันกลับมามองทุกคนอย่างไม่เชื่อ

“พี่รัญจะยอมกินน้ำใต้ศอกคุณเพชรงั้นหรือคะ”  อ้อมตอกย้ำ

“เกี่ยวอะไรกับเพชร” รัญเสียงแข็ง

“ก็คุณเพชรเพื่อนรักของพี่เคยใช้บริการนังบัวระวงมาก่อนน่ะสิคะ ถ้าไม่เชื่อก็ถามเจ๊อ้อดู”

“ไม่จริงนะคะพี่รัญ มันเป็นเรื่องโกหก พี่เพชรเขาเป็นพี่ชายบัว”

“อุ๊ย อย่างงั้นหนูก็ต้องแพศยากว่านังเรยาจริงๆ เพราะหนูนอนกับพี่ชายตัวเองงั้นเหรอ” เจ๊อ้อพูดจีบปากจีบคอ บัวจึงขึ้นเสียงอย่างทนไม่ไหว

“พวกคุณบ้ากันใหญ่แล้วนะ พูดจาใส่ร้ายฉันอย่างนี้ได้ไง อย่าไปเชื่อนะคะพี่รัญ บัวเป็นน้องสาวพี่เพชรจริงๆ แล้ว บัวก็กำลังจะบอกความจริงพี่รัญ”

รัญมองบัวอย่างลังเลไม่แน่ใจ

“จริงๆนะคะ บัวเป็นน้องสาวพี่เพชร”

“เลิกโกหกซะทีเถอะบัว!” รินลดาปรากฏตัวได้จังหวะพอดี เธอยืนยันหนักแน่นว่า “ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว...พี่รัญคะ บัวกับคุณเพชรมีอะไรกันจริงๆ ถ้าพี่รัญไม่เชื่อ ก็ดูนี่สิคะ”

รินลดายื่นโทรศัพท์มือถือให้รัญดูรูปบัวกอดหอมเพชรที่เธอแอบถ่ายเอาไว้ รัญอึ้งไปอย่างไม่คาดคิด ส่งหลักฐานนั้นให้บัวดูด้วยตาตัวเอง

บัวเห็นแล้วตกใจ วิงวอนเสียงสั่นเครือ “พี่รัญคะ...ให้บัวอธิบายก่อนนะคะว่าเหตุการณ์เป็นยังไง”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นบัว”

“แต่พี่รัญกำลังเข้าใจผิดนะคะ บัวกับพี่เพชรเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไม่เชื่อถามพี่เพชรดูก็ได้”

“ไม่ต้องหรอก พี่เสียใจนะ ไม่คิดเลยว่าบัวจะเป็นคนแบบนี้”

“ไม่นะคะพี่รัญ พี่รัญเข้าใจผิดจริงๆ เรื่องทั้งหมดบัวอธิบายได้ ขอให้พี่รัญเชื่อใจบัว”

รมณีย์เข้ามากระชากแขนบัวออกจากรัญด้วยท่าทีฉุนเฉียว “พอกันที แกยังมีหน้ามาหลอกล่อลูกชายฉันอีกหรือ ในเมื่อความจริงมันเปิดเผยออกมาแล้วว่าแกเป็นผู้หญิงสำส่อน”

“มิน่า...อ้อมเคยเห็นมันแอบจู๋จี๋กับคุณเพชรที่เมืองนอก นึกสงสัยอยู่แล้วเชียวว่าต้องมีอะไรกัน”

“ไม่จริงนะคะพี่รัญ พวกนี้เขาใส่ร้ายบัว พี่รัญต้องเชื่อใจบัวนะคะ เชื่อในความรักที่บัวมีต่อพี่รัญ”

“ฉันว่าเธอเลิกเล่นละครซะที ตอนนี้มันถึงตอนอวสานแล้ว” เพียงเพ็ญยิ้มเยาะ

“พี่ต้องขอโทษด้วยนะน้องบัวที่พี่จำเป็นต้องเปิดเผยอดีตของเธอ เพราะพี่ไม่อยากให้ผู้ชายดีๆต้องเสียคนไปกับเธอ ขอตัวนะคะ” เจ๊อ้อผละไปทันที

บัวคว้ามือรัญไว้ทั้งน้ำตาคลอๆ ขอร้องเสียงสั่นเครือ “เชื่อบัวนะคะพี่รัญ บัวไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด บัวกับพี่เพชรเป็นพี่น้องกันจริงๆ”

รัญไม่เชื่อ แกะมือบัวออก “ผมผิดหวังในตัวคุณจริงๆ ผมไม่น่าหลงรักคุณเลย”

“พี่รัญ...”

“ไปซะ ไปจากชีวิตผม ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”

บัวน้ำตาไหลพราก มองรัญด้วยความผิดหวังและเสียใจ พวกรมณีย์ต่างพากันยิ้มเยาะสะใจ แล้วหันไปปลอบ รัญที่นั่งหน้าเครียดเคร่ง ไม่แม้แต่จะชายตามองบัวที่ทรุดลงร่ำไห้จนตัวโยน

ooooooo

กลับไปถึงบ้านด้วยความเจ็บแค้นใจเพราะเชื่อว่าบัวกับเพชรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริงแล้วเธอยังมาหลอกลวงเขาอีก...รัญเอาแต่กินเหล้า ซ้ำยังกำแก้วจนแตกบาดมือเลือดนอง เดือดร้อนรินลดาต้องมาทำแผลให้ เพราะจะพาไปโรงพยาบาลแต่เขาไม่ยอม

“บัว...ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณ ทำไมคุณต้องหลอกผมด้วย...พี่โง่มากใช่มั้ยริน โง่ที่ไปรักผู้หญิงขายตัว โง่ที่ไว้ใจเพื่อน”

“รินก็คงเหมือนกับพี่ รินไม่น่าหลวมตัวไปรักเขา ทั้งๆที่พี่ก็เคยเตือนรินแล้วว่าเขาไว้ใจไม่ได้ รินมันโง่จริงๆเลย” รินลดาสะอึกสะอื้นโผเข้ากอดพี่ชาย...รมณีย์แอบมองภาพนั้นอยู่ห่างๆ พึมพำออกมาด้วยความสะใจ

“แกสองคนไม่ได้โง่หรอก เพียงแต่พวกแกไม่ฉลาดเท่าแม่”

ข้างฝ่ายนายเพชร บ่ายนี้รีบเคลียร์งานเพื่อจะนัดเจอรินลดา แต่พอโทร.หา ปรากฏว่าเธอไม่รับสาย ครั้นเขาโทร.หลายครั้งเข้าก็ปิดเครื่อง การ์ตูนผ่านมาได้ยินเพชรบ่น จึงแนะนำว่า

“งั้นพี่เพชรก็โทร.หาพี่รัญให้เขาบอกน้องสาวรับสายก็หมดเรื่อง”

“เออใช่” เพชรทำตามทันที แต่รัญก็ไม่รับสายอีก ทำให้เพชรชักเอะใจ “ไอ้รัญก็ไม่รับสาย หรือจะมีเรื่องอะไร”

“จะมีเรื่องอะไร พี่รัญคงอยู่กับไอ้บัวน่ะสิ พี่ก็โทร.บอกไอ้บัวให้บอกพี่รัญรับสายพี่สิ”

“โอ๊ย...อะไรวะ แค่จะนัดกินข้าวกับแฟนทำไมมันยุ่งอย่างนี้” เพชรบ่นอุบ ครั้นโทร.หาบัว บัวก็ไม่รับสาย เพชรจึงตัดสินใจไปหารินลดาที่บ้านด้วยตัวเอง

รมณีย์เพิ่งจะออกไปซื้อกับข้าวได้สักครู่ ส่วนรัญก็กำลังจะออกไปขับรถเล่นแก้กลุ้ม เพชรขับรถมาเจอรัญพอดี เขาทักทายรัญด้วยดีเป็นปกติ แต่รัญกลับแสดงท่าทีหมางเมิน ทั้งยังตวาดไล่เขาออกจากบ้านราวกับไม่ใช่เพื่อน

“นี่มันเรื่องอะไรวะ อยู่ๆมาไล่ฉันเนี่ย”

รัญไม่พูด แต่ต่อยโครมเข้าให้จนเพชรเซถลา

“โอ๊ย นี่มันเรื่องอะไร อยู่ๆมาต่อยฉัน”

รัญตามไปซัดอีกหมัดด้วยความแค้น “เรื่องอะไรงั้นหรือ...ไอ้เพื่อนเลว”

คราวนี้เพชรถึงกับหงายหลัง ปากแตกเลือดไหล

“ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นคนเลวแบบนี้” ด่าเสร็จรัญจะซ้ำอีก แต่รินลดาวิ่งเข้ามาดึงแขนเขาไว้เสียก่อน

“อย่าค่ะพี่รัญ พอแล้ว”

“ปล่อยพี่ พี่จะเอาเลือดชั่วมันออก”

“อย่าค่ะ พอเถอะ”

“นี่มันเรื่องอะไรกันริน บอกผมหน่อย”

“คุณกลับไปซะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก” รินลดาไล่เขาแล้วดึงพี่ชายให้เข้าบ้าน

“เดี๋ยวสิ พูดกันให้รู้เรื่องก่อน” เพชรทำท่าจะตาม แต่รัญหันมาตวาดด้วยสีหน้าท่าทางเอาเรื่อง

“แกอยากตายใช่มั้ย”

“อย่าค่ะพี่รัญ” รินลดาขวางพี่ชาย แล้วผลักไสเพชร “กลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”

สองพี่น้องหายเข้าไปในบ้านแล้ว เพชรได้แต่ยืนอึ้ง จับต้นชนปลายไม่ถูก จนกระทั่งการ์ตูนโทร.มาบอกเพชรว่าบัวเลิกกับรัญแล้ว ให้เขารีบมาที่ห้องของตนด่วน เพชรจึงกระหืดกระหอบออกไป

ถึงห้องเช่าของการ์ตูน เพชรสอบถามบัวว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเลิกกับรัญ แล้วทำไมรัญต้องต่อยพี่ด้วย

“เขาคิดว่าบัวนอนกับพี่” บัวตอบเสียงสั่นเสียใจ

“ไอ้เพื่อนเลว มันคิดชั่วๆอย่างนี้ได้ไง แล้วทำไมแกไม่บอกความจริงมันไปว่าเราเป็นพี่น้องกัน”

“บัวบอกไปแล้วแต่เขาไม่เชื่อ แถมคุณรินยังเห็นพี่กับบัวเมื่อเช้านี้”

“นี่มันปัญญาอ่อนกันทั้งพี่ทั้งน้องหรือไงวะ เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะเอาทะเบียนบ้านกับบัตรประชาชนให้มันดู ไอ้ตูนแกไปเอาทะเบียนบ้านมาซิ เอาตัวจริงเลยนะ”

“ไม่ต้องไปหรอกตูน” บัวห้าม

“อ้าว ทำไมล่ะ เราจะได้เอาหลักฐานความจริงให้เขาดู เขาจะได้เชื่อซะทีว่าแกเป็นพี่น้องกับพี่เพชรจริงๆ”

“ใช่...มันจะได้เห็นว่าเราคลานตามกันออกมา”

“ไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าเขาหูเบาตาบอดขนาดนั้น ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก”

“อย่าไปว่าไอ้รัญมันเลย เป็นพี่พี่อาจจะสับสนคิดแบบมันก็ได้”

“ใช่บัว เข้าใจเขาหน่อยเถอะ เพราะเขาดันรู้จักแกในฐานะผู้หญิงขายตัว”

“แต่ฉันก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขา ทำได้แม้กระทั่งยอมนอนกับเขา เพียงเพราะว่าฉันรักเขา แต่เขากลับตีค่าความรักของฉันเพียงแค่ฉันเป็นผู้หญิงขายตัวคนนึงงั้นหรือ”

“บัวฟังพี่ก่อนนะ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไร ขอให้พี่ได้คุยกับไอ้รัญก่อน แล้วพี่ก็คิดว่ามันจะเข้าใจและเสียใจที่ทำกับบัวแบบนี้ พี่เชื่อว่าถ้ามันรู้ความจริงมันต้องมาขอโทษแก”

“อย่าเลยพี่เพชร บัวเป็นคนที่นอนอยู่กับเขา บัวพูดทุกอย่างกับเขาเขายังไม่ฟังเลย แต่เขากลับเชื่อคำพูดของคนอื่น”

“ใจเย็นน่าบัว”

“แกก็รู้จักฉันนี่ตูน ถ้ารักฉันก็จะรักสุดหัวใจ แต่ถ้าฉันเกลียดฉันก็จะเกลียดไปจนวันตาย” บัวทิ้งท้ายเด็ดเดี่ยวก่อนพาตัวเองออกจากห้องไปทั้งที่บอบช้ำ

“มันจะจบอย่างนี้จริงๆหรือพี่เพชร ไอ้บัวมันจะเกลียดพี่รัญไปตลอดชีวิตเลยเหรอ แล้วพี่ล่ะ พี่ก็ต้องเลิกกับคุณรินด้วยงั้นหรือ”

“ไม่...ใครจะเลิกยังไงก็ช่าง แต่พี่ไม่มีวันเลิกกับน้องริน พี่จะหาทางพูดให้เธอเข้าใจให้ได้”

การ์ตูนพูดไม่ออก ได้แต่ถอนใจเฮือกใหญ่ หนักใจแทนทั้งพี่ทั้งน้อง

ooooooo

ตกเย็นวันนี้ รมณีย์ชวนอ้อมมากินข้าวที่บ้านเพื่อให้อ้อมเร่งทำคะแนนกับรัญที่กำลังบาดหมางกับบัว โดยเปิดไฟเขียวให้อ้อมขึ้นไปตามรัญถึงบนห้องให้ลงมากินข้าว

“พี่รัญคะ คุณป้าให้มาตามไปทานข้าวค่ะ”

“บอกแม่ว่าผมยังไม่หิว ทานไปก่อนเลย”

“พี่รัญคะ อย่าหาว่าอ้อมยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เลย

นะคะ อ้อมเข้าใจนะคะว่าพี่รัญเฮิร์ต แต่อ้อมว่าพี่รัญเจ็บซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่ามารู้ทีหลังว่าถูกบัวระวงสวมเขานะคะ อ้อมพูดตามตรงนะคะ อ้อมก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีมาก แต่อ้อมก็คงไม่มั่วถึงขนาดบัวระวงที่นอนกับคุณเพชร แล้วยังมานอนกับพี่รัญอีก อ้อมว่ามันเลวเกินไปค่ะ”

“เอาล่ะ ผมว่าเราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันเลยทุกอย่างมันจบแล้ว”

“ถ้าพี่รัญจบจริงก็ออกไปทานข้าวกับอ้อมสิคะ ไปเถอะค่ะ อย่ามานั่งเสียใจกับอะไรที่ไม่มีคุณค่าเลยนะคะ”

อ้อมเข้ามาคล้องแขน รัญจำใจต้องออกไปร่วมโต๊ะอาหารกับเธอและแม่ ส่วนรินลดายังหมกตัวอยู่บนห้อง อ้างว่าเธอยังไม่หิว

รมณีย์ยิ้มพอใจที่อ้อมตักอาหารให้รัญอย่างเอาใจ รัญฝืนกินไปทั้งๆที่ไม่รู้รสชาติ เพราะจิตใจเขายังเป็นทุกข์เรื่องบัวอยู่

“รัญ...แม่ว่าพรุ่งนี้เราไปเที่ยวหัวหินกันมั้ย แม่อยากไปพักฟื้นซะหน่อย ไปกันแม่ๆลูกแล้วก็หนูอ้อม”

“ดีเลยค่ะ อ้อมไม่ได้ไปหัวหินนานแล้ว เดี๋ยวอ้อมให้คุณพ่อจองบ้านพักของกระทรวงให้เลยค่ะ”

“ตกลงมั้ยลูก”

“ผมไม่ไปได้ไหมครับ แม่ไปกับคุณอ้อมเถอะ”

“ทำไมล่ะ ที่แม่ไปก็เพราะอยากให้ลูกไปพักผ่อนนะ”

“ผมมีเรื่องหลายเรื่องต้องคิด”

“เรื่องนังบัวระวงอีกน่ะหรือ”

“ไม่ใช่หรอกครับ ผมเลิกคิดเรื่องนั้นไปนานแล้ว เอาล่ะครับ ผมขอตัวนะครับ”

“เดี๋ยวสิคะพี่รัญ” อ้อมเรียกแต่รัญไม่เหลียวหลัง “ท่าทางพี่รัญจะไม่ลืมมันง่ายๆนะคะ”

“จะลืมหรือไม่ลืมมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะตารัญไม่มีทางกลับไปเอามันแน่ หนูไม่ต้องกังวล ถึงยังไงตารัญก็ต้องแต่งงานกับหนูอยู่ดี”

“ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า” อ้อมฉีกยิ้มอย่างฝันหวาน

ooooooo

หลังจากตั้งสติได้แล้ว คืนนั้นเองบัวตัดสินใจกลับบ้าน โดยบอกกับพ่อแม่ว่าเธอเพิ่งมาถึงเมืองไทย ไม่อยากให้ใครวุ่นวายก็เลยไม่แจ้งล่วงหน้า

“วุ่นวายอะไร พ่อก็แค่สั่งคนขับรถไปรับ”

“เอ๊ะ แต่เมื่อวานเราเพิ่งคุยโทรศัพท์กันไม่ใช่หรือลูก ทำไมมาถึงเร็วจัง”

“หนูพูดบนเครื่องบินน่ะค่ะ”

“อ๋อ นี่กะจะให้แม่เซอร์ไพรส์ใช่มั้ย แล้วไหนจ๊ะคนที่จะให้แม่เซอร์ไพรส์น่ะอยู่ไหน”

“ใครคะ”

“อ้าว ก็แฟนลูกไงล่ะ พามาให้พ่อรู้จักหน่อยสิ”

“หนูเลิกกับเขาแล้วค่ะ”

“หา! นี่ลูกพูดว่าไงนะ”

“หนูบอกว่าหนูเลิกกับเขาแล้วค่ะ”

“ทำไมมันถึงรวดเร็วอย่างนี้ล่ะลูก”

“นั่นสิ เมื่อวานลูกเพิ่งบอกจะพามาหาแม่ แต่มาวันนี้บอกเลิกกันแล้ว แม่ตามไม่ทันนะ”

“เอาไว้หนูจะเล่ารายละเอียดให้ฟังวันหลังนะคะ วันนี้หนูเพลียขออาบน้ำนอนพักหน่อย”

บัวผละไป มงคลกับนิภาพรรณมองตามแล้วหันกลับมาคาดคั้นการ์ตูนว่ารู้เรื่องอะไรกับเขาหรือเปล่า?

“ไม่...ไม่ทราบค่ะ”

“แกอย่าโกหก บัวมีอะไรมันต้องบอกแก เล่ามาซิว่าทำไมอยู่ๆว่าที่ลูกเขยฉันถึงหายวับไปกับตา”

“ตูนไม่รู้จริงๆนะคะคุณป้า บัวมันไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย ถามอะไรก็ไม่พูด ตูนว่าพรุ่งนี้คุณป้ากับคุณลุงค่อยถามมันเองนะคะ ตูนขอตัวก่อนล่ะค่ะ ตูนมีนัดกับคุณฉัตรชัย” การ์ตูนเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว สองผัวเมียเลยได้แต่หันมองกันเองอย่างงงงวย

“นี่มันยังไงกันคุณ ฉันงงไปหมด หนุ่มสาวสมัยนี้มันเร็วขนาดนี้เลยหรือ ได้เช้าแต่งเย็นเลิกสว่าง”

“ถ้าผมเกิดสมัยนี้ก็ดีสิ”

“ว่าอะไรนะ”

“เปล่า...”

“นี่อยากเลิกกับฉันงั้นหรือ”

“โถแม่คุณ...ใครจะไปเลิกได้ คุณออกสวยน่ารักขนาดนี้ ผมไม่มีวันเลิกกับคุณหรอก นอกซะจากว่าความตายเท่านั้นที่จะพรากเราจากกัน” มงคลกลับลำได้ทัน งานนี้เลยรอดตัวไป

ooooooo

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว บัวก็ยังคงจมอยู่กับความคิดตัวเอง ย้อนไปตั้งแต่ตัวเองหนีไปเมืองนอกเพื่อไปหารัญ แล้วก็ได้อยู่กับเขาอย่างมีความสุข จนกระทั่งสัญญากันว่าจะแต่งงาน แต่ทุกอย่างต้องจบลงเพราะเหตุการณ์เข้าใจผิดที่ร้านอาหารในวันนี้

คิดแล้วก็ทำใจไม่ได้ บัวถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจ แต่แล้วเธอต้องรีบปาดน้ำตาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง

นิภาพรรณเข้ามาพร้อมโสมร้อนๆหนึ่งถ้วย ตั้งใจให้ลูกดื่มจะได้หายเหนื่อยจากการเดินทาง

“บัว...นี่ลูกร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรรึเปล่า” นิภาพรรณตกใจ

“ไม่มีค่ะ หนูเพียงแต่เสียใจที่หนูหนีแม่ไปเมืองนอก”

“เรื่องมันแล้วไปแล้วลูก แม่เองก็เป็นฝ่ายผิดที่ไปคาดคั้นให้ลูกแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก อย่าไปสนใจเลยลูก แม่ขอแค่ให้ลูกกลับมาอยู่กับแม่ก็พอแล้ว”

“หนูรักแม่ค่ะ  หนูสัญญาหนูจะไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจอีก”

“รู้มั้ย แม่ไม่เคยเสียใจเพราะลูก เพราะลูกเป็นเด็กน่ารักตั้งแต่เกิด ไม่ซนไม่ดื้อเหมือนเจ้าเพชรพี่ชายแก เจ้านั่นแม่อยากจะยกให้คนอื่นเช้าเย็นแต่ไม่มีใครเอา”

บัวฟังแม่แล้วบัวถึงกับยิ้มออกมา

“เห็นลูกยิ้มได้แบบนี้ แม่ก็มีความสุขแล้ว เออ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิว่าทำไมอยู่ๆถึงได้เลิกกับแฟน”

“เขาไม่ได้ดีอย่างที่หนูคิดค่ะ”

“มันทำอะไรลูก”

“เขาไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ เขาเพียงแต่ไม่เห็นคุณค่าความรักที่หนูมีให้เขา”

“ถ้าอย่างงั้นก็ถูกต้องแล้วที่ลูกเลิกกับมัน ไหนมันเป็นใครบอกแม่ซิ แม่จะไปด่ามันให้ หน็อย...ลูกสาวแม่ทั้งสวยทั้งรวยมีการศึกษา มันยังไม่เห็นคุณค่า สมควรไปตายได้แล้ว มันชื่ออะไร”

“หนูว่าแม่อย่ารู้เลยค่ะ เพราะเขาไม่มีคุณค่าอะไรที่เราจะไปจดจำ”

“ดีแล้วลูก ที่ลูกลืมมันได้ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น เอาล่ะ แม่ไม่กวนแล้วลูกจะได้พักผ่อน อ้อ พรุ่งนี้ไปใส่บาตรกันนะ แม่จะพาไปล้างซวย กู๊ดไนต์จ้ะลูก” นิภาพรรณหอมหน้าผากลูกสาวก่อนกลับออกไป

บัวสูดลมหายใจลึก บอกกับตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยว “ใช่...คุณไม่มีคุณค่าอะไรที่ฉันควรจะจดจำอีกต่อไป”

ooooooo

กลรักลวงใจ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด