ตอนที่ 17
วันนี้ นิรดาจะใช้คอมพิวเตอร์แต่เปิดโน้ตบุ๊กไม่ได้ จึงเรียกก้อยสาวใช้ให้ขึ้นไปหยิบโน้ตบุ๊กที่ห้องเนติยาให้ที
"แต่คุณเนสั่งไม่ให้ใครเข้าห้องค่ะ" ก้อยทำหน้ากลัวๆ
"ก็ตอนนี้เขาไม่อยู่ แกไปหยิบให้ฉันหน่อยไม่ได้หรือ"
"ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเนบอกว่าถ้าใครเข้าไปในห้องแก แกจะไล่ออกจากงานค่ะ"
"ฉันไปเอาเองก็ได้" นิรดาลุกขึ้นตรงไปที่ห้องเนติยา มองซ้ายมองขวาอย่างระวังก่อนไปหยิบโน้ตบุ๊ก เห็นสมุดธนาคารวางอยู่เลยหยิบดูประสาอยากรู้อยากเห็น
พอเปิดสมุดธนาคารดู เธอก็ตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อเห็นตัวเลขเรียงกันยาวพืด นับได้ 220 ล้านบาท พึมพำอย่างเหลือเชื่อ
"หา...นี่พี่เนมีเงินตั้งสองร้อยล้านเลยหรือ"
ความอยากรู้ เลยค้นเอกสารบนโต๊ะดูอีก พบเอกสารใบขายหุ้นกวาดตาอ่านอย่างเร็ว
"นี่พี่เนขายหุ้นของร้านเพชรให้เบลเยียมหมดเลยหรือ ไม่ได้แล้ว ต้องรีบบอกแม่" ว่าแล้วหยิบทั้งเอกสารใบขายหุ้นและสมุดธนาคารจะออกจากห้อง แต่พอมาถึงประตูก็ชะงักกึก เมื่อเห็นเนติยายืนอยู่
"แกเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน" เนติยาจ้องเขม็ง
นิรดารีบเอาใบขายหุ้นและสมุดธนาคารซ่อนไว้ข้างหลัง แก้ตัวอึกๆอักๆว่า
"เปล่า...ฉันแค่จะมายืมคอมฯ"
เนติยามองอย่างไม่ไว้ใจ ย้ำว่า "ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งในห้องฉัน"
"ก็บอกแล้วว่ามายืมคอมฯ ไม่เอาก็ได้ นิรดาเอาโน้ตบุ๊กวางไว้แล้วจะดันออกไป เนติยาไม่ยอมให้ออก คว้าแขนไว้ จ้องถมึงทึงถามว่านั่นอะไร นิรดาก็ยังทำปากแข็งไม่ยอมรับ
จนถูกคาดคั้นหนักก็โกหกว่าเป็นกระดาษของตัวเอง
"เอามาให้ฉันดู" เนติยากระชากมือที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเอาเอกสารไปดู
พอถูกจับได้คาตาเช่นนี้ นิรดาพลิกสถานการณ์ทันที รุกถามอย่างเอาเรื่องว่า
"พี่เนขายหุ้นให้ฝรั่งเบลเยียมหมดเลยหรือ" เนติยาปฏิเสธทั้งที่เห็นเอกสารใบขายหุ้นอยู่ทนโท่ "อย่ามาโกหก ไม่งั้นจะมีเงินจากไหนตั้งสองร้อยล้าน คิดจะอมไว้คนเดียวใช่ไหม ฉันจะไปบอกแม่"
"เดี๋ยว" เนติยาคว้าแขนนิรดาไว้ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อนิรดากระชากมีดสปริงออกมาจ้องขู่
"อย่าคิดจะทำอะไรฉันนะ เดี๋ยวนี้ฉันไม่เหมือนเก่าแล้ว ปล่อยมือ!"
เห็นท่าทางขึงขังของนิรดา เนติยาใช้ไม้อ่อน เอาน้ำเย็นเข้าลูบว่า
"ฟังพี่ก่อนนะ พี่ไม่ได้คิดจะอมเงินไว้คนเดียว พี่ตั้งใจจะบอกพ่อกับแม่เย็นนี้" นิรดาพูดใส่หน้าว่าไม่เชื่อ "ถึงพี่จะไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อกับแม่ แต่พี่ก็ไม่เลวขนาดนั้นหรอก พี่รู้ว่าพ่อกับแม่แล้วก็เธอมีบุญคุณกับพี่ แล้วพี่ก็ตั้งใจจะบอกพ่อกับแม่ว่าให้แบ่งเงินส่วนนี้ให้เธอร้อยล้าน"
"จริงหรือ" นิรดาแววตาอ่อนลง พอเนติยายืนยันว่าจริง เธอเก็บมีดบอกว่า "ก็ได้ งั้นฉันจะรอตอนเย็น" พูดแล้วเดินออกไป เนติยามองตามด้วยแววตาแค้นจัด พึมพำลอดไรฟัน
"นังนี่ วอนหาที่ตายซะแล้ว"
ooooooo
ครู่หนึ่ง เนติยาเดินลงมา มองเข้าไปเห็นนิรดากำลังนั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์อยู่ เธอยิ้มเหี้ยมแล้วเดินเลยไปทางห้องครัว หยิบน้ำส้มเทใส่แก้วสองใบ มองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคนจึงแอบเอายาเบื่อใส่ลงไปในแก้วหนึ่ง คนจนทั่ว พึมพำเหี้ยม
"นึกหรือว่าแกจะได้เงินร้อยล้านจากฉัน"
จากนั้นหยิบแก้วเดินหน้าอำมหิตเข้าไปหานิรดาที่นั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ พอเข้าใกล้ก็ยิ้มหวานเข้าไปถามว่าทำอะไรอยู่ นิรดาบอกว่าส่งเมล์ไปหาสิงหา
"พี่เอาน้ำส้มมาให้" เนติยาวางแก้วน้ำส้มลง นิรดาขอบใจ ยกแก้วน้ำส้มขึ้นทำท่าจะดื่ม เนติยาพูดอ่อยเอาใจว่า "ความจริงพี่ว่าพี่สิงเขาเหมาะกับเธอมากกว่ามัสยานะ"
"พี่อย่ามาแกล้งพูด ฉันไม่เชื่อหรอก" นิรดาวางแก้วน้ำส้มลงอย่างหมดอารมณ์จะกิน เนติยาเสียดายมากที่ทำให้ พลาดโอกาสทอง แต่ยังพยายามต่อ ยอว่า
"พี่พูดจริงๆนะ เธอสวยกว่ามัสยาตั้งเยอะ" นิรดาฟังแล้วนิ่ง หยิบปากกาขึ้นมาหมุนเล่นในมือ ถามว่าจริงหรือที่ตนน่ารักมากกว่า บังเอิญทำปากกาหลุดจากมือตกลงที่พื้นข้างขาเนติยา เลยวาน "อุ๊ย...หยิบปากกาให้ที"
เนติยาก้มลงเก็บปากกาให้ นิรดายกแก้วน้ำส้มจะดื่ม พอดีเนติยาจะเงยขึ้นมา เธอจึงวางแก้วน้ำส้มลง เอาปากกามาหมุนเล่นอีก บอกเนติยาว่าสมัยนี้ผู้ชายชอบผู้หญิงเทรนด์เกาหลีขาวเตี้ยตาเฉี่ยวนิดๆ
"ใช่ พี่ถึงบอกว่าเธอเหมาะกับพี่สิงไง" เนติยารีบยอ นิรดามองหน้าถามว่าไม่ได้หลอกให้ตนตายใจใช่ไหม "คิดมากน่า คนอย่างพี่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรหรอกจ้ะ"
"ฉันจะเชื่อพี่สักครั้งนึง" นิรดายกแก้วน้ำส้มขึ้นชูชวนดื่ม "สำหรับพี่สิงของฉัน"
เนติยาหยิบแก้วน้ำส้มของตัวเองชูอวยพรให้เธอสมหวัง นิรดายกจะดื่ม แต่แล้วก็ชะงักขอแลกแก้วกับเนติยาดีกว่า พอฝ่ายนั้นถามว่าทำไม เธอลอยหน้าบอกว่า
"อ้าว ฉันจะไปรู้ได้ยังไง เผื่อพี่เนวางยาพิษฉันก็ได้"
แต่พอเนติยาบอกว่าถ้าทำแบบนั้นตนก็ไม่ใช่คนแล้ว พลางทำใจกล้าจะดื่มให้ดู แค่นั้นนิรดาก็ทำเป็นเชื่อ พลันก็ยกแก้วของตัวเองดื่ม เนติยามองอย่างสาแก่ใจ นิรดาเห็นเนติยายังเฉยถามว่าทำไมไม่ดื่ม
"ได้...นี่ไง" เนติยายกน้ำส้มดื่มหมดแก้ว พลันนิรดาก็ร้องอย่างตระหนกว่า เนติยาวางยาตนหรือ ฝ่ายนั้นหัวเราะสะใจ
"ใช่ ฉันวางยาแก ฮ่ะๆๆ"
คราวนี้นิรดาตกใจจริงๆ ถามว่าจริงหรือ เนติยาบอกว่าจริง เพราะเธอแส่มาหาเรื่องตนเอง ทั้งยังพูดอย่างอาฆาตว่า
"ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมดทุกคน และคนต่อไปก็คือนังมัสยา"
"พี่ทำอย่างนี้ได้ไงเนี่ย"
"ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ในเมื่อพวกแกกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน และเมื่อพวกแกตายหมด สมบัติทุกชิ้นก็จะเป็นของฉันคนเดียว"
นิรดาบอกเนติยาว่าถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องไปล้างท้องแล้ว เพราะเมื่อกี้ตอนที่เธอก้มเก็บปากกาตนวางแก้วน้ำส้มสลับกัน
เนติยาแทบช็อกคิดว่านิรดาโกหก แต่นิรดายืนยันไม่ ได้โกหก เพราะตนนึกอยู่แล้วว่าคนอย่างเธอไม่มีทางดีกับตนแน่ๆ
"โอ๊ย..." เนติยาร้องเพราะปวดท้องรุนแรง "นี่แกพูดจริงนี่ นัง...นังนังนิรดา แกอย่าอยู่เลย" เนติยาคว้ามีดจะแทง นิรดาหลบ ทำให้เนติยาเสียหลักล้มลงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ดิ้นทุรนทุรายร้อง "ช่วย...ด้วย...ช่วย...ฉันด้วย..."
พอเห็นอาการของเนติยา นิรดาก็ตกใจร้องขอความช่วยเหลือ ตำรวจวิ่งเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นิรดาบอกว่าเนติยากินยาพิษเข้าไป ให้เรียกรถพยาบาลเร็วๆเข้า
ตำรวจนายนั้นเข้าไปดูเนติยาที่นอนน้ำลายฟูมปาก บอกนิรดาว่า เนติยาเสียชีวิตแล้ว
"หา..." นิรดาช็อก มองเนติยาที่น้ำลายฟูมปากนอนตายตาค้างน่ากลัว
ooooooo
ที่บ้านพักริมทะเล...
มัสยาได้รับโทรศัพท์จากนราธิป เขาโทร.จากระเบียงบ้านโดยมีสิงหากับอัยรานั่งอยู่ใกล้ๆคอยฟังด้วย นราธิปแจ้งข่าวเรื่องเนติยาวางยานิรดาแต่พลาดตัวเองเลยกินยาพิษนั้นเอง และเสียชีวิตแล้ว
มัสยาแทบไม่เชื่อหูตัวเองถามนราธิปว่าจริงหรือ
"จริง ไม่คิดเลยว่ายัยเนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ เสียแรงที่พ่อกับแม่รักและไว้ใจคิดว่าเขาเป็นลูกสาวคนนึง"
"ยัยนิปลอดภัยก็ดีแล้วค่ะ เนทำไปก็เพราะความโลภน่ะค่ะ มัสไม่กลับไปงานศพเขานะคะ"
"ไม่ต้องหรอก พี่เองก็อาจจะไม่ไป แล้วน้องเป็นยังไงบ้าง หายเครียดหรือยัง"
"ก็ดีค่ะ มัสอยู่ที่นี่เล่นน้ำทั้งวันเลย" เสียงมัสยาร่าเริงแจ่มใส
"เอ่อ...เดี๋ยวนะมัส มีคนจะพูดด้วย" นราธิปบอกแล้วยื่นโทรศัพท์ให้สิงหา "พูดกับยัยมัสหน่อย"
สิงหารับโทรศัพท์ไปอย่างตื่นเต้น แต่พอส่งเสียง "ฮัลโหล" เท่านั้น เขาก็ชะงักเมื่อปลายสายปิดเครื่องทันที
สิงหาถือโทรศัพท์อึ้ง นราธิปกับอัยราเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิงหาส่งโทรศัพท์คืนให้นราธิป แล้วลุกเดินคอตกออกไป นราธิปกับอัยราสบตากันอย่างเข้าใจความรู้สึกของเพื่อน...
ตกเย็น มัสยาไปนั่งดื่มไวน์ที่ร้านอาหารริมทะเล เธอมองออกไปทางทะเลอย่างไร้เป้าหมาย โดยไม่รู้ตัวว่า ก้องชายหนุ่มวัย 30 เศษเจ้าของร้าน นั่งสังเกตอยู่ พอมัสยายกไวน์ดื่มเขาก็ยกดื่มบ้าง ปากดื่มไวน์ แต่ตามองมัสยาอย่างสนใจ...
ooooooo
นราธิปกับอัยราตามมานั่งที่ร้านอาหารกับสิงหา นราธิปถามว่าเขาจะจบเรื่องกับมัสยาแค่นี้หรือ สิงหาถามว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร ในเมื่อมัสยาไม่ให้โอกาสตนเลย
นราธิปบ่นว่าทำไมมัสยาถึงหัวดื้ออย่างนี้ สิงหาบอกว่าเธอคงหมดรักตนแล้วกระมัง นราธิปรีบขอร้องว่าอย่าเพิ่งถอดใจ
อัยราที่รู้เรื่องนี้มาโดยตลอด พูดแทรกขึ้นว่า
"แต่ถ้าฉันเป็นมัส ฉันก็คงทำอย่างเขา" นราธิปถามว่าทำไมพูดอย่างนี้ อัยราก็ยังยืนยันว่า "ก็เท่าที่ฉันดู ฉันยังไม่เห็นเลยว่าสารวัตรสิงหาทำอะไรเพื่อความรัก"
สิงหาแก้ตัวว่าตนขอโทษเธอแล้ว อัยราแย้งว่ามันง่ายไป เพราะเขาเป็นฝ่ายหันหลังให้มัสยาก่อน นราธิปแก้ต่างแทนเพื่อนว่าสิงหาทำเพราะแม่ อัยราหันขวับถามนราธิปว่า
"แล้วคุณล่ะ ทำไมคุณถึงไม่ทำตามที่แม่บอกแล้วเลิกกับฉัน" นราธิปอ้างว่า มันไม่เหมือนกัน "ทำไมจะไม่เหมือน ในเมื่อเราสองคนก็รักกันไม่น้อยไปกว่าพวกเขา แต่คุณต่างกับสารวัตรสิงหาตรงที่คุณกล้าพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าฉันคือคนที่สำคัญสำหรับคุณ"
นราธิปอึ้งเถียงไม่ออก หันมองหน้าสิงหาทำนองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
"ใช่ ถูกของคุณไอซ์ ผมยังไม่ได้ทำอะไรที่พิสูจน์ให้มัสยารู้ว่าเขาสำคัญที่สุดในชีวิตของผม"
"ถูกต้องค่ะ นั่นล่ะคือสิ่งที่คุณควรจะทำ" อัยราย้ำ นราธิปเร่งให้สิงหารีบไปเร็วๆ ก่อนที่มัสยาจะมีคนอื่น
ooooooo
หารู้ไม่ว่า สิงหายังไม่ทันจะขยับ ทางโน้นก็เคลื่อนไหวแล้ว เพราะคืนนี้เอง ก้องก็ถือดอกไม้ไปยื่นให้มัสยาที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม มัสยาอนุญาตตามมารยาท พอนั่งลงเขาแนะนำตัว
"ผมก้องครับ"
"ฉัน..."
"มัสยา" ก้องพูดขึ้นก่อนที่มัสยาจะบอกชื่อตัวเอง เธอถามว่ารู้จักชื่อตนได้ยังไง ก้องบอกอย่างภูมิใจว่า "ผมเห็นคุณมาทานทุกวันก็เลยถามเด็กเสิร์ฟดู"
มัสยาบอกว่าไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย ก้องชี้แจงว่าตนดูเธอจากกล้องวงจรปิด บอกว่าตนเป็นเจ้าของร้านที่นี่
"แล้วทำไมวันนี้ถึงกล้าเปิดเผยตัวล่ะคะ"
"ผมคิดว่าถ้าผมยังช้าอยู่ผมอาจจะเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต" ก้องปากหวานเผยใจเสียจนมัสยาเขินถามว่าขนาดนั้นเชียวหรือ "ขอโทษนะครับ ถ้าผมจะถามตรงๆอย่าว่าอะไรนะครับ"
พอมัสยาอนุญาต เขาถาม "คุณมีแฟนหรือยัง"
"มีแล้ว" มัสยาตอบทันที ก้องชะงักรีบขอโทษ มัสยาจึงพูดต่อ "แต่เลิกแล้วค่ะ"
"งั้นผมก็นั่งต่อได้สิครับ" ก้องตาเป็นประกายยินดี เมื่อมัสยาอนุญาต เด็กเสิร์ฟเอาไวน์มาให้ ก้องยกแก้วไวน์ชูเชิญชวน มัสยายกแก้วชนอย่างมีไมตรีต่อกัน
ooooooo
รุ่งขึ้น ขณะที่มัสยานั่งรถจี๊ปเปิดประทุนเที่ยวกับก้องอย่างสนุกสนานร่าเริงนั้น สิงหาเพิ่งจะเข้าไปในร้านดอกไม้ บอกที่ร้านว่า อยากได้ดอกไม้ช่อใหญ่ๆ
"ให้แฟนหรือคะ" คนขายถามยิ้มๆ เขาบอกว่าใช่ คนขายทำมือถามว่า "ช่อเท่านี้พอไหมคะ"
"ผมอยากได้ใหญ่มากๆเลยครับ จะไปขอคืนดีเธอ"
"ได้เลยค่ะ เดี๋ยวจัดให้" คนขายตอบอย่างรู้แนวว่าแบบนี้จะต้องจัดแบบไหน ขนาดไหนถึงจะได้ใจคนรักคืนมา
ขณะที่สิงหารอดอกไม้จากร้านขายดอกไม้นั้น...
มัสยากับก้องกำลังนั่งดื่มไวน์กันในรถที่จอดอยู่บนเนินผาริมทะเล เขารินไวน์ให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ ที่นี่สวยจังเลยนะคะ" มัสยามองไปรอบๆ อย่างพอใจมาก ก้องถามว่าเธอชอบหรือ เพียงเธอตอบ "ค่ะ" คำเดียวเขาถามทันทีว่า
"งั้นเดี๋ยวผมจะติดต่อเจ้าของที่ให้เอาไหมครับ เผื่อคุณจะอยากซื้อที่อยู่ที่นี่"
"ก็ดีเหมือนกันนะคะ ฉันอาจจะมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่เลย"
"จริงเหรอครับ" ก้องทำตาโตดีใจ เมื่อได้รับคำยืนยันว่าจริง เขาถามมองอย่างค้นหาว่า "ต้องการจะลืมใครสักคนรึเปล่าครับ"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันลืมเขาไปนานแล้วค่ะ" ตอบแล้วเห็นเขายิ้มเธอถาม "คุณยิ้มทำไมคะ"
"อ๋อ...ผมดีใจน่ะครับที่คุณจะมาอยู่ที่นี่"
ooooooo
สิงหามาถึงแล้ว มาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ลงจากรถตรงเข้าไปที่บ้าน เจอตำรวจอารักขาเข้ามาต้อนรับ สิงหาถามว่ามัสยาอยู่ไหม ตำรวจนายนั้นบอกว่าไปเดินเล่นแถวนี้เดี๋ยวคงมา เชิญเขาเข้าไปข้างในก่อน
พอเข้าไปในบ้าน สิงหาเอาดอกไม้ใส่โถแก้วตั้งไว้กลางห้องแล้วถอยมายืนมองยิ้มกับดอกไม้อย่างคาดหวัง
ทันใดนั้น มัสยาเปิดประตูเข้ามา เขาหันไปยิ้มกว้างทักเสียงแจ่มใส
"สวัสดีครับ ผมเอาดอกไม้มาขอโทษคุณ"
มัสยามองหน้าสิงหาเหมือนคนแปลกหน้า ขณะเดียวกันก้องเดินตามเข้ามา สิงหาชะงักอึ้งก้องเองก็ชะงักกึก มองมัสยากับสิงหาไปมา แล้วรีบเอ่ยขอตัวกลับ มัสยายังไม่ให้กลับ ก้องตอบอย่างเกรงใจว่าเห็นเธอมีแขก
"ผมไม่ใช่แขกหรอกครับ ผมเป็นแฟนมัสยา" สิงหาแสดงตัว ถูกมัสยาติติงว่าเขาไม่ควรพูดอย่างนี้ สิงหากลับถามอย่างต้องการตอกย้ำว่า "ทำไมล่ะมัสยา ก็ในเมื่อผมยังรักคุณอยู่และคุณก็ยังรักผม"
มัสยาพูดอย่างไม่ไว้หน้าว่าเขาคิดไปคนเดียวมากกว่า บอกให้กลับไปได้แล้ว พลางก็หันไปเชิญก้องอย่างอ่อนหวานชวนไปนั่งที่ระเบียงกันดีกว่า
สิงหาไม่ยอมให้ไป คว้ามือเธอไว้ มัสยาสั่งให้ปล่อยมือตนเดี๋ยวนี้เพราะเขาไม่มีสิทธิ์อะไรจะมาทำแบบนี้ สิงหาโต้ว่ามี มัสยาเลยผลักเสียเซแล้วคว้าขวดน้ำจะฟาด
"ใจเย็นครับ คุณมัสยา" ก้องรีบเข้ามาห้าม ตำรวจอารักขาเข้ามา ก้องเลยบอกสิงหา "ผมว่าคุณกลับไปก่อนดีไหมครับ"
"ไม่ใช่เรื่องของคุณ นี่มันเป็นของผมกับคนรัก" สิงหาอ้างเต็มปากเต็มคำ แต่พอก้องแย้งว่ามัสยาไม่ได้พูดอย่างนี้ มัสยาก็เสริมทันทีว่า
"ใช่ค่ะ ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน"แล้วหันไปบอกตำรวจอารักขา "ผู้กอง เอาตัวผู้ชายคนนี้ออกไปและอย่าให้เขาเข้ามาที่นี่อีกเด็ดขาด"
ตำรวจนายนั้นอึกอักเพราะสิงหาคือเจ้านาย จะทำอย่างไรดี จนสิงหาเป็นฝ่ายพูดว่า
"ก็ได้ผมจะไป แต่คุณอย่านึกนะว่าผมจะยอมแพ้ง่ายๆ" พูดแล้วหันหลังจะออกไป
"เดี๋ยว...เอาดอกไม้ของคุณกลับไปด้วย" มัสยาบอก
สิงหามองมัสยาอย่างปวดร้าว เธอไม่สนใจ หันมาพูด อย่างอ่อนหวานกับก้องเชิญไปที่ระเบียงกันดีกว่า พูดแล้วก็พากันเดินออกไปที่ระเบียงราวกับไม่มีสิงหาอยู่ตรงนั้น
ตำรวจอารักขาบอกสิงหาว่าเดี๋ยวตนจะช่วยยกดอกไม้ออกไปให้ สิงหาบอกว่าไม่ต้องแล้วตรงไปคว้าช่อดอกไม้เดินไปที่รถ
ขึ้นรถแล้วก็ยังอดหันมองมาที่บ้านพักไม่ได้ เห็นมัสยารินไวน์ให้ก้องแล้วชนแก้วดื่มกันเย้ยสายตาสิงหาที่มองอย่างเจ็บปวด เสียใจอย่างที่สุด...
ooooooo
ตกกลางคืน ขณะมัสยากำลังนั่งวาดรูปอยู่นั้น ผู้กองทัชที่รักษาความปลอดภัยให้มัสยาอยู่ก็เข้ามาบอกว่าสิงหามาขอพบ มัสยาสวนไปทันทีว่าบอกแล้วไงว่าไม่ให้เขาเข้ามา พูดไม่ทันขาดคำสิงหาก็เดินเข้ามาบอกเธอว่า
"แต่ผมว่าเราต้องคุยกันนะ" มัสยาไม่พูดด้วยแต่หันมองผู้กองทัชอย่างตำหนิ สิงหารีบแก้ต่างว่า "อย่าว่าเขาเลย ผมเองเป็นฝ่ายบุกรุกเข้ามา ผมแค่ต้องการคุยกับคุณสองสามนาทีเท่านั้น"
เมื่อมัสยายอมให้พูด สิงหาบอกให้ผู้กองทัชออกไปก่อน มัสยาบอกว่าไม่จำเป็นเพราะตนไม่มีความลับอะไร แล้วเร่งสิงหามีอะไรก็รีบว่ามา สิงหาถามว่า
"ผู้ชายที่มากับคุณเมื่อเย็นเขาเป็นใคร" มัสยากวนประสาทว่าจะรู้ไปทำไม สิงหาพูดไม่เต็มปากเต็มคำนักว่า "ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าเขากับคุณ..."
"ฉันบอกคุณก็ได้ ฉันกับเขากำลังคบกันอยู่ แล้วมันก็กำลังไปได้ด้วยดี"
"หมายความว่าคุณชอบผู้ชายคนนั้นจริงๆ" มัสยาตอบหนักแน่นว่าใช่ สิงหาถามอีก "คุณกำลังประชดผมใช่ไหม"
"ฉันบอกคุณได้เลยว่าไม่ใช่ เอาล่ะ เมื่อคุณรู้คำตอบแล้วก็เชิญกลับไปได้แล้วไม่ต้องกลับมาอีก ผู้กองทัชปิดประตูให้ด้วย และฉันไม่รับแขกไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น"
สิงหาอึ้ง ขยับจะไปแต่แล้วก็หยุดหันมาถามอีก "ถ้าอย่างนั้นผมจะขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณหมดรักผมแล้วใช่ไหม"
คำถามนี้ทำให้มัสยาที่ท่าทีแข็งกร้าวท้าทายตลอดมาถึงกับอึ้งน้ำตารื้นขึ้นมาทันที แต่ยังแข็งใจบอกเขาว่า "ก็ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้วไงว่าใช่"
"งั้น...ผมก็ขอโทษคุณด้วยที่คิดว่าคุณยังรักผมอยู่...จากนี้ไปผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกต่อไป" สิงหาต้องเก็บกลั้นความรู้สึกอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาและไม่ให้ เสียงสั่นเครือ
แต่พอเขาหันหลังเดินออกไปเท่านั้น มัสยาก็หัวใจแทบสลาย พู่กันที่ป้ายสีหล่นรูดลงมา เธอปล่อยให้น้ำตาไหลลงอาบแก้ม
หลังจากนั้น สิงหาไปนั่งดื่มอย่างหนัก นั่งเหม่อลอย
น้ำตาไหลรินอยู่ตามลำพัง ไม่ต่างกับมัสยา
ooooooo
จนดึก สิงหาโทร.ไปหานราธิป พอรับสายนราธิปถามอย่างตื่นเต้นว่ามัสยายอมใจอ่อนแล้วใช่ไหม สิงหาขับรถไปคุยโทรศัพท์ไปบอกว่าเธอมีคนอื่นแล้ว และที่สำคัญมัสยาไม่ได้รักตนแล้ว
อัยราถามว่าแล้วสิงหาบอกมัสยาหรือเปล่าว่าเขายังรักเธออยู่
"ผมบอกแล้ว แต่เขาบอกว่าเขาหมดรักผมแล้ว เขาไม่รักผมแล้วจริงๆ"
นราธิปเชื่อว่ามัสยาทำประชด แต่สิงหาเชื่อว่าจริงเพราะรู้นิสัยเธอดี อัยราบอกสิงหาว่าตนเชื่อว่ามัสยายังรักเขา แต่ไม่ว่านราธิปกับอัยราจะพูดอย่างไร สิงหาก็ยืนยันคำเดียวว่ามัสยาไม่รักตนแล้ว และมันคือความจริง พูดแล้วตัดสายเลย
"ไม่อยากเชื่อเลยว่ามัสยาจะมีแฟนใหม่" อัยรามั่นใจ นราธิปก็ยังเชื่อว่ามัสยาทำประชดสิงหามากกว่า ทั้งสองมองหน้ากัน อัยราถามว่า "แล้วเราจะช่วยเขาได้ยังไงเนี่ย" แล้วต่างก็ถอนใจยาว
ooooooo
คืนนี้มัสยาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาดัง เธอลุกพรวดขึ้นมา พอตื่นขึ้นมาก็อดคิดถึงสิงหาไม่ได้
จนกระทั่งเช้า เธอไปที่ร้านอาหารตามปกติ ก้องนำอาหารมาเสิร์ฟบอกอย่างภูมิใจว่า
"นี่ครับ ผมทำข้าวต้มรวมมิตรทะเลให้คุณ" มัสยามองทึ่งถามว่าทำเองจริงๆหรือ เขายืนยันว่าจริง ถามว่าไม่เชื่อหรือว่าตนทำกับข้าวเก่ง พอมัสยาตักชิมเธอพยักหน้าบอกว่า "เชื่อแล้วค่ะ"
ครู่หนึ่งก้องถามว่าแล้วแฟนเธอล่ะ มัสยาหน้าตึงขึ้นมาทันที บอกก้องว่าถ้าจะคบตนก็อย่าพูดถึงเขาอีกเพราะเขาไม่ใช่แฟนตน จนก้องต้องรีบขอโทษ ชวนว่าทานข้าวเสร็จจะพานั่งเรือเที่ยวเกาะและดำน้ำดูปะการังกัน มัสยาบอกว่าตนดำน้ำไม่เป็น ก้องอาสาจะเป็นคนสอนให้ เธอจึงตอบตกลงอย่างตื่นเต้นกับกีฬาใหม่นี้
"งั้นเชิญคุณตามสบาย เดี๋ยวผมไปสั่งงานเด็กก่อน" ก้องขอตัวลุกไป มัสยามองตามนึกบอกกับตัวเองว่า
"เราควรจะจบเรื่องกับเขาเสียที แล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่" พลางตักข้าวต้มกิน ครู่เดียวก้องก็กลับมาพร้อมมะพร้าวอ่อน ยกมาวางบอกว่าหวานเย็นมาก "ขอบคุณค่ะ" มัสยายิ้มให้อย่างรู้สึกอบอุ่น
ooooooo
จัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก้องยกแท็งก์ดำน้ำมาใส่รถสองแท็งก์ บอกมัสยาว่าถ้าพร้อมแล้วเดินทางกันเลยเดี๋ยวสายแดดจะร้อน
แต่ขณะมัสยากำลังจะขึ้นรถนั่นเอง อัยราก็ขับรถเข้ามาจอดเปิดประตูลงมาอย่างเร็ว มัสยาชะงักบอกก้องว่ารอเดี๋ยวแล้วก็เดินไปหาอัยรากับนราธิปที่นั่งอยู่ในรถ ถามว่าจะมาทำไมไม่บอกก่อน
อัยราบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก เตือนว่าฟังแล้วทำใจดีๆไว้ มัสยาร้อนใจถามว่ามีอะไรหรือ นราธิปจึงบอกสั้นๆว่า
"สิงรถคว่ำ"
มัสยาชะงักไปนิดหนึ่งแล้วทำเชิดบอกว่าก็เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับตน แล้วจะกลับไปที่รถ อัยราเรียกไว้อีก เธอหันมาถามอย่างหงุดหงิดว่าอะไรอีกล่ะ
"สารวัตรสิงหาตายแล้ว"
คราวนี้มัสยาชะงักนิ่งอึ้ง นราธิปรีบบอกว่าที่มานี่ก็เพราะจะมารับศพสิงหา ถามว่าจะไปด้วยกันไหม มัสยาน้ำตาไหลถามว่าเขาตายแล้วจริงๆหรือ
"จริง เมื่อคืนเขากินเหล้าแล้วโทร.บอกเราเรื่องแก" อัยรายืนยัน นราธิปช่วยย้ำว่าสิงหาเสียใจมากรู้ไหมที่เธอบอกว่าไม่รักเขาแล้ว มัสยายังคงยืนนิ่งน้ำตาไหลอยู่อย่างนั้น จนอัยราทำทีขยับบอกว่า "งั้นฉันไปก่อนนะ"
"เดี๋ยวไอซ์...ฉันไปด้วย" บอกอัยรากับนราธิปแล้วเธอหันไปทางก้อง "คุณก้องคะ..."
"ไปเถอะครับ อย่างน้อยครั้งนึงคุณกับเขาก็เคยรักกัน" ก้องชิงพูดขึ้นก่อน มัสยาจึงหันไปขึ้นรถไปกับอัยราและนราธิป
ooooooo
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล อัยราให้มัสยารอก่อน ส่วนตัวเธอกับนราธิปจะไปทำเรื่องรับศพสิงหา ระหว่างนั่งรออยู่คนเดียวนั้น มัสยาอดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานไม่ได้ เธอทั้งตัดสัมพันธ์และสาปส่งขออย่าได้พบเจอกับสิงหาอีกเลย คิดแล้วก็ยิ่งเจ็บปวดนั่งร้องไห้ อยู่คนเดียว
จนครู่หนึ่งอัยรากับนราธิปก็มา มัสยาถามว่าเขาให้เราเข้าไปรับศพได้หรือยัง อัยราบอกว่าเจ้าหน้าที่ให้รอเดี๋ยวเขากำลังทำเรื่องออกใบมรณบัตรอยู่ พูดพลางนั่งลงข้างๆมัสยา
นราธิปปรารภเสียงเครือว่าไม่น่าเชื่อเมื่อคืนยังคุยกันอยู่ดีๆ วันนี้ก็จากเราไปแล้ว
"สารวัตรสิงหาเขาคงเสียใจเรื่องแกมากก็เลยกินเหล้าหนักทำให้คุมรถไม่อยู่" อัยราเสริม
ทั้งนราธิปและอัยราช่วยกันบรรยายถึงความเสียใจของสิงหาที่ถูกมัสยาสลัดรักจนมัสยาพูดอย่างทนไม่ได้ว่าตนไม่ได้ตั้งใจ ที่พูดไปก็แค่ต้องการให้สิงหาเจ็บปวดบ้างเหมือนอย่างที่เขาทำกับตน
อัยราปลอบใจเพื่อนว่าไม่ใช่ความผิดของเธอเพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะรักหรือไม่รักใครก็ได้
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันบอกเขาว่าฉันให้อภัยเขาแล้้วฉันก็ยังรักเขาอยู่งั้นหรือ"
"แต่แกไม่ได้รักเขาแล้ว แกก็ไม่ควรพูดแบบนั้น ฉันว่าแกทำถูกแล้วล่ะ ที่แกบอกเขาไปตรงๆ ว่าแกหมดรักเขาแล้ว"
"ไม่...ฉันรักเขา...ฉันยังรักเขาอยู่" มัสยาร้องไห้อย่างหนัก นราธิปกับอัยรามองหน้ากัน นราธิปถามมัสยาว่าพูดอะไร มัสยาย้ำอีก "ฉันรักเขา ฉันไม่น่าคิดที่จะเอาชนะเขา เป็นเพราะฉันเขาถึงต้องมาตาย เขามาตายเพราะฉันจริงๆ"
นราธิปบอกว่าพูดไปตอนนี้สิงหาก็ไม่ฟื้นแล้ว อัยราบอกให้เธอกลับไปก่อนทางนี้พวกตนจัดการเอง มัสยาไม่ยอมกลับ จะขออยู่เห็นสิงหาเป็นครั้งสุดท้าย พูดเสียงเครือสะท้านว่า
"อย่างน้อยฉันจะได้บอกให้เขารู้ว่าฉันยังรักเขาอยู่"
พูดแล้วก็โผเข้ากอดอัยราร้องไห้สะอึกสะอื้น อัยราตบหลังเพื่อนเบาๆ บอกว่า
"ถ้าอย่างนั้นแกก็บอกเขาสิ เขาอยู่ตรงนี้แล้ว" มัสยาหยุดร้องไห้ ถามว่าอะไรนะ อัยราถามว่า "แกอยากบอกรักเขาครั้งสุดท้ายไม่ใช่หรือ"
"ใช่"
"ก็บอกเขาสิ เขาอยู่ตรงนี้แล้ว"
มัสยาชะงักผละออกมาหันมองเห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้ามา มัสยาโผเข้าไปหา เห็นสิงหานอนนิ่ง เธอโผเข้ากอดพร่ำบอกน้ำตาอาบหน้า
"ฉันขอโทษ เป็นความผิดของฉันคนเดียวที่ทำให้คุณต้องเป็นแบบนี้ ฉันอยากบอกให้คุณรู้ว่าฉันรักคุณ...ได้ยินไหมคะว่าฉันรักคุณ...ตื่นขึ้นมาสิคะ คุณจะได้รู้ว่าฉันไม่เคยหมดรักคุณเลย..."
มัสยากอดร่างสิงหาพร่ำบอกน้ำตาอาบหน้า พริบตานั้น สิงหาลืมตาขึ้นมาพูดเสียงอ่อนโยน
"ผมก็รักคุณมัสยา"
มัสยาสะดุ้งเฮือกผละออกมามอง ถามอย่างทึ่งว่า "นี่คุณ ...คุณยังไม่ตาย?..."
"ใช่ ผมจะตายได้ยังไง ถ้าผมตายไปผมก็คงไม่รู้ว่าคุณยังรักผมอยู่"
มัสยามองขวับไปที่นราธิปกับอัยรา ทั้งสองรีบเอาตัวรอดว่าไม่ใช่ความคิดของพวกตน
"ผมเอง ผมเป็นคนขอร้องให้เขาสองคนช่วยพิสูจน์อีกครั้งว่าคุณหมดรักผมแล้วจริงๆ"
"คุณนี่มันบ้าจริงๆ" มัสยาทั้งโกรธทั้งเขินผลักเตียงอย่างแรงแล้ววิ่งออกไป สิงหาร้องเรียก นราธิปเร่งให้รีบตามไป อัยราเตือนว่าอย่ามัวแต่เรียกเดี๋ยวมัสยาก็ไปหาคนอื่นหรอก
ในที่สุดภารกิจยิ่งใหญ่ของนราธิปกับอัยราก็สิ้นสุดลง นราธิปบ่นว่าลุ้นกันแทบตาย ส่วนอัยราเชื่อว่าต้องสำเร็จ เพราะรู้ว่ามัสยารักสิงหาคนเดียวเท่านั้น นราธิปมองอัยราตาเชื่อมบอกว่า
"เหมือนที่ผมรักคุณคนเดียว"
"ค่ะ ฉันก็รักคุณคนเดียว" อัยราก้มจูบนราธิปที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยความรัก
ooooooo
สิงหาวิ่งไล่ตามทันดึงมัสยาเข้าไปกอดไว้แน่น เธอบอกให้ปล่อย เขาไม่ยอมปล่อยเพราะเธอบอกแล้วว่ายังรักเขาอยู่ สิงหากอดเธอไว้และขอแต่งงาน มัสยาตอบเสียงแข็งว่า "ไม่มีวันเสียหรอก" พลางศอกใส่ จนสิงหาปล่อยมือ เธอวิ่งหนีอีก
สิงหายังวิ่งไล่ตามไปกอดไว้ บอกว่าจะไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะแต่งงานด้วย เมื่อมัสยาปฏิเสธอีก เขาเลยปล่อยไม้เด็ดว่า "ถ้าคุณบอกว่าไม่ผมจะจูบคุณนะ"
"ก็ลองดูสิ" ทำปากกล้าท้า พอสิงหาจะก้มจูบจริงๆ เธอรีบบอก "ก็ได้ ก็ได้ ฉันยอมแล้ว"
"ถึงคุณยอม ผมก็ต้องจูบคุณ" สิงหาประทับจูบอย่างแสนรักจนมัสยาระทวยอยู่ในอ้อมกอดเขา
เมื่อพากันกลับมาที่บ้านพักริมทะเล คืนนี้สิงหานอนกอดมัสยาอย่างมีความสุข เขาไม่ลืมที่จะขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ แต่มัสยาขอร้องเขาอย่าพูดถึงมันอีกเลย พูดให้เขาสบายใจว่า
"ฉันเข้าใจค่ะ ถึงคุณจะเลือกฉันจริง ฉันก็คงไม่มีความสุขหรอกถ้าแม่ไม่ชอบคุณ"
"แต่คุณนี่ใจแข็งจริงๆ คุณรู้ไหมถ้าเมื่อบ่ายนี้นราธิปกับคุณไอซ์มาหาคุณ แล้วคุณบอกว่าไม่รักผม ผมคงต้องตายจริงๆ"
"คุณรักฉันมากถึงขนาดนั้นจริงหรือ"
"จริงสิ จะให้ผมพิสูจน์ให้ดูไหมล่ะ"
"ไม่ต้อง ถ้าคุณตาย ฉันจะอยู่กับใคร"
เป็นคำตอบที่ทำให้สิงหาปลื้มปีติจนดึงร่างเธอเข้าไปกอดไว้แนบแน่นอีก
ooooooo
รุ่งขึ้นก้องเอาดอกไม้มาเคาะประตูเรียกมัสยาแต่เช้า พอเธอเปิดประตูออกมาในชุดเสื้อคลุมนอน ก้องชะงักรีบขอโทษ ตนไม่ทราบว่าเธอเพิ่งตื่น บอกว่าจะมารับเธอไปดำน้ำ
มัสยาบอกว่าตนคงไปไม่ได้แล้ว ก้องเดาว่าเธอคงยังเสียใจเรื่องแฟน ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้จะมารับใหม่ ก้องยังไม่ทันจะพูดอะไรอีก สิงหาก็ออกมาบอกว่า
"ผมว่าคุณไม่ต้องมาแล้วล่ะ เพราะพรุ่งนี้มัสยาจะกลับกรุงเทพฯกับผมแล้ว"
ก้องมองตะลึง มัสยาบอกว่าสิงหายังไม่ตายและก็ขอโทษก้องด้วยที่ทำให้ต้องเสียเวลากับตน บอกก้องว่าตนจะแต่งงานกับสิงหาแล้ว สิงหาเอ่ยปากเชิญก้องไปร่วมงานด้วย ก้องได้แต่ฝืนยิ้ม ขอบคุณที่เชิญและเอ่ยลาทันที
พอก้องไปแล้ว สิงหาถามมัสยาว่าชอบผู้ชายคนนี้บ้างไหม มัสยาย้อนถามว่า ถ้าบอกว่าชอบล่ะ สิงหาตอบทันทีว่า
"ผมไม่เชื่อ"
"ทำไม"
"ก็เพราะผมรู้ว่าคุณมีผมคนเดียวในหัวใจ" พูดแล้วก้มจูบมัสยาด้วยความรัก...
ooooooo
-อวสาน-