ตอนที่ 16
ระหว่างที่มัสยาเดินมากับนิรดาที่ทางเดินในโรงพยาบาลนั้น นิรดาชวนไปเยี่ยมสิงหากันก่อนไหม มัสยาตอบทันทีว่า "ไม่ล่ะ"
นิรดามองหน้ามัสยาขวับถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่า "อะไรนะ...ไม่?" พอมัสยายืนยันว่าใช่ นิรดาถามต่ออย่างสงสัยว่า
"ตั้งแต่วันที่พี่สิงโดนยิง พี่มัสยังไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลยนะ เป็นแฟนกันไม่ใช่หรือ"
"เคยเป็น" เสียงมัสยาเย็นชามาก
"หา...หมายความว่าตอนนี้เลิกกันหรือ" นิรดาหยุดเดินก้าวมายืนตรงหน้ามัสยามองหน้าถามอย่างคาดคั้น "เดี๋ยว เลิกจริงหรือว่าแกล้งเลิก"
"จริง...เอาล่ะ พี่ขอตัวนะ พี่จะลงไปซื้อกาแฟ" พูดแล้วมัสยาแยกไปอีกทาง นิรดามองตาม พึมพำงงๆ
"ทำไมอยู่ๆพี่มัสถึงเลิกกับพี่สิง เอ๊ะ...หรือว่าพี่สิงจะชอบเรามากกว่า...ฮิๆ ต้องไปถามให้รู้เรื่อง"
นิรดาหัวเราะคิกคักอย่างร่าเริงใจเดินบ่ายหน้าไปที่ห้องพักคนไข้ของสิงหาทันที
ooooooo
เมื่อมาถึง ผลักประตูเข้าไปไม่เห็นสิงหาอยู่ในห้อง นิรดากวาดตามองบ่น "พี่สิงไปไหน"
ทันใดนั้น มีเสียงชักโครกในห้องน้ำ นิรดายิ้มดีใจรีบวิ่งไปแอบที่หน้าประตู พอประตูห้องน้ำเปิดเท่านั้น เธอกระโดดกอดหมับ เอาหน้าแนบหลังหลับตาพริ้มพร่ำรำพัน...
"พี่สิงคะ นิรู้ว่าพี่สิงรักนิจริง ขอบคุณนะคะ"
"เอ่อ..." ร่างนั้นสะดุ้งเล็กน้อย เสียงที่เปล่งออกมาก็อึกอัก
"ไม่ต้องเอ่อหรอกค่ะ พี่มัสเล่าให้ฟังหมดแล้ว"
"คุณนิครับ..."
นิรดาถามอย่างมีความสุขว่ามีอะไรหรือ อยากจูบตนหรือ เชิญเลย พลางหลับตา พลิกตัวเขากลับมา ทำปากจู๋รอจูบ รออยู่นานก็ไม่เห็นจูบสักทีเลยลืมตาดู เธอผงะแทบหงายหลังร้องลั่น
"ว้าย...ผู้กองธาวี"
"ใช่ครับ ผมเอง"
นิรดาทำไก๋ถามว่าแล้วสิงหาไปไหน ธาวีบอกว่าเห็นบ่นเบื่อๆก็เลยออกไปสูดอากาศข้างนอก ธาวีมองนิรดาขำๆที่หลับหูหลับตาทำลงไปได้...นิรดาหลบเขินๆถามว่า
"เมื่อกี้ที่ฉันกอดคือคุณหรือ"
"ครับ ผมพยายามจะบอกคุณนิแล้ว แต่คุณนิไม่ยอมฟัง
"เอาล่ะๆฉันขอโทษ ฉันไม่ทันมองคิดว่าพี่สิง" นิรดาตัดบทค้อนเขินๆอีกทีแล้วรีบผละไป ธาวีเห็นท่าทางของนิรดาแล้วก็อดขำไม่ได้
ooooooo
มัสยาแยกไปซื้อกาแฟที่ร้านในโรงพยาบาล ซื้อเสร็จเลี้ยวตึกออกมา ก็เจอสิงหาที่นั่งรถเข็นเล่นอยู่ในสวน เขารีบเข้าไปทึกทักว่า
"ผมนึกแล้วว่าคุณต้องมาเยี่ยมผม"
มัสยาชะงักมองเขาแวบหนึ่งแล้วจะเลี่ยงไป สิงหารีบคว้าแขนไว้ ถูกมัสยาทำหน้าตึงปรามว่า
"อย่ามาทำตีสนิทกับฉัน คุณลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นลูกนายกฯ คุณมันแค่ตำรวจติดตาม ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้"
สิงหาอึ้งตีหน้าไม่ถูก รีบปล่อยมือ มองมัสยาที่เดินเชิดไปด้วยความเสียใจกับท่าทีของเธอ
เมื่อมัสยาเล่าให้อัยราฟังขณะไปทานอาหารด้วยกัน อัยราตำหนิว่าเธอทำรุนแรงเกินไป มัสยาก็ยังเถียงว่าน้อยไปด้วยซํ้า
"แต่คุณสิงเขาต้องเสียใจมากนะที่แกพูดอย่างนั้น"
"แกพูดแต่ว่าเขาเสียใจ แล้วฉันล่ะเวลาที่เขาทำกับฉันไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าฉันเสียใจแค่ไหน"
"แต่แกก็รู้นี่ว่าเขาจำเป็นต้องทำเพราะแม่แก"
"หยุดเถอะ เราอย่าหาเหตุผลเลย เรื่องของฉันมันจบไปแล้ว เรามาพูดเรื่องของแกดีกว่า ตอนนี้พี่ธิปเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว แกยังรักเขาอยู่รึเปล่า"
"รักสิ" อัยราตอบทันทีอย่างหนักแน่น ยืนยันว่า "ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง ฉันก็รักเขา และถึงแม่แกจะไม่ยอมรับฉัน ฉันก็จะไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว"
มัสยาฟังแล้วพูดอย่างตื้นตันใจแทนนราธิปว่า
"ฉันอยากให้พี่ธิปได้ยินคำนี้จริงๆ"
ooooooo
ผละจากธาวีมาอย่างเขินๆแล้ว นิรดามากับนภาลัย เพื่อไปหานราธิปที่ห้อง เธอถามผู้เป็นแม่ว่า รู้เรื่องมัสยาหรือยังว่าเลิกกับสิงหาแล้ว นภาลัยถามอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าใครบอก
"ก็พี่มัสน่ะสิ เขาบอกหนูว่าเขาไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว อย่างนี้หนูก็มีสิทธิ์รีเทิร์นกับพี่สิงใช่ไหมแม่" นิรดาลอยหน้าถามอย่างกระดี๊กระด๊าเต็มที่
"แม่บอกแล้วไงว่าแม่ไม่ชอบให้เราไปยุ่งกับนายสิงหา แล้วที่พี่มัสเขาทำก็ถูกต้องแล้ว แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นลูกแม่ เข้าใจไหม"
"ค่ะ" นิรดาหน้าจ๋อยขณะรับคำ แต่พอพ้นสายตาแม่ก็ทำหน้าเบ้เข้าใส่อย่างไม่ชอบใจ
เมื่อมาถึงห้องคนไข้นราธิป สองแม่ลูกเข้าไปเห็นนราธิปกำลังทำหน้าเบื่อๆอยู่ นภาลัยถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง นราธิปตอบเซ็งๆว่า "ก็เหมือนเดิมครับ"
นิรดาเดินไปแกะถุงซาหริ่มเทใส่ถ้วยให้พี่ชาย ในขณะที่นภาลัยให้กำลังใจลูกชายว่า
"ไม่เอาสิลูก อย่าเพิ่งท้อ แม่กำลังให้คนติดต่อหมอที่เยอรมัน เขากำลังดูรายละเอียดอยู่"
"เสียเวลาเปล่าครับแม่ ถ้าหมอที่นี่บอกว่าหมดหวัง มันก็รักษาไม่หายหรอกครับ"
นิรดาเอาถ้วยซาหริ่มมาส่งให้ บอกให้ทานเสียเย็นๆหวานๆ จะได้ใจเย็น นราธิปไม่อยากกิน นิรดาคะยั้นคะยออ้อนๆว่า
"ทานหน่อยน่า นิอุตส่าห์ลงรถไปซื้อมาให้นะ กินสักคำ" นราธิปยังปฏิเสธบอกว่าตนไม่อยากกิน นิรดาก็ยังเซ้าซี้อีก "เอาน่า คำเดียว มาน้องป้อนให้"
นิรดาคะยั้นคะยอทำท่าจะป้อนให้จริงๆ นราธิปฉุนขาดปัดถ้วยซาหริ่มตกจากมือตวาดใส่
"พี่บอกว่าไม่กิน พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง"
นิรดาหน้าเสียหันไปมองหน้าแม่ นภาลัยถามว่าทำไมต้องดุน้องด้วยล่ะ
"ก็บอกว่าไม่กิน ไม่กิน มาเซ้าซี้อยู่ได้ คนยิ่งรำคาญ แม่ออกไปก่อนได้ไหม ผมอยากอยู่คนเดียว" นภาลัยจะท้วงติงก็ถูกนราธิปเสียงดังกว่าเก่าว่า "ผมบอกแล้วไงว่าผมอยากอยู่คนเดียว"
นภาลัยเห็นลูกอารมณ์เสีย หงุดหงิด รีบบอกว่าแม่จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ พลางหันไปบอกนิรดาให้ออกไปด้วยกัน นิรดาจ้องนราธิปพูดใส่หน้า "พิการแล้วยังไม่เจียมตัว"
"ออกไป!" นราธิปไล่ตะเพิดขว้างกล่องทิชชูใส่สุดแรง พอแม่กับน้องออกไปแล้ว เขาทุบขาตัวเองอย่างแรงแต่ไม่รู้สึกเจ็บเลย เขายิ่งทุบพูดอย่างอัดอั้นเสียใจ "ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยวะ"
ooooooo
นภาลัยดึงนิรดาออกมาปรามว่าทีหลังอย่าพูดอย่างนี้กับพี่เขาอีก พี่เขายิ่งไม่สบายใจอยู่ นิรดาเบ้ปาก สวนไปทันทีว่า
"แต่มาวันนี้ คุณนึกแค่เรื่องของตัวคุณแล้วคุณก็ตัดสินโดยที่คุณไม่ได้สนใจความรู้สึกของฉันเลย"
แม้เวลานั้นเขาจะพยายามขอให้เธอเข้าใจ เธอบอกอย่างผิดหวังที่สุดในชีวิตว่า
"ฉันไม่เข้าใจ และฉันก็ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นผู้ชายแบบนี้"
จากวันนั้นมา เธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนไม่มีตัวตนในโลก...
คิดแล้วสิงหาก็ยิ่งเสียใจ ได้แต่พึมพำกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วว่า "ผมขอโทษ มัสยา..."
ooooooo
เข็นรถตัวเองกลับเข้าไปนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้อง จนกระทั่งเนติยามาเคาะประตูแล้วเข้ามาถามอย่างห่วงใยว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอเขาบอกว่าหายดีแล้วพรุ่งนี้ก็คงกลับบ้านได้ เธอจัดแจงเอาอาหารออกมา บอกว่า วันนี้ที่บ้านตุ๋นซุปไก่ให้ บอกให้ทานเลย พลางจะป้อนให้
"ไม่ต้องครับคุณเน ผมทานเองได้" สิงหาพยายามบ่ายเบี่ยง แต่เธอก็รั้นจะป้อนให้ได้
"อย่าเลยครับ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี"
"พี่สิงลืมไปแล้วหรือคะ วันนี้เนไม่ใช่ลูกจริงๆของคุณแม่ เนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้"
กระนั้น สิงหาก็ยังยืนกรานว่ามันไม่ดี ขอทานเองดีกว่า เนติยาจำต้องส่งถ้วยให้ถามอย่างน้อยใจว่า เขาไม่รักตนเพราะตนไม่ใช่ลูกจริงๆของพ่อกับแม่หรือเปล่า
"ไม่ใช่นะครับคุณเน ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเนเกินเลยไปกว่าน้องสาว"
"แต่เนรักพี่สิงนะคะ รักตั้งแต่แรกจนวันนี้เนก็ยังรักพี่สิงไม่เปลี่ยนแปลง"
สิงหาจำต้องบอกเธออีกครั้งว่า ตนมีคนรักอยู่แล้ว เนติยาดักคอว่ามัสยาใช่ไหม เมื่อเขาไม่ตอบ เธอตอกย้ำให้เขาคิดว่า
"พี่สิงก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม่ไม่มีวันยอมให้พี่สิงรักกับมัสยาเด็ดขาด"
"เรื่องนั้นไม่เกี่ยวหรอกครับ ผมแค่อยากบอกให้คุณเนทราบว่าถึงผมจะไม่มีมัสยา ผมก็คงไม่สามารถรักคุณเนได้"
เมื่อสิงหายืนยันหลายครั้งหลายคราทุกแง่มุมขนาดนี้ เนติยาได้แต่อึ้ง น้ำตารื้น แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตัดพ้ออย่างน้อยใจว่า เป็นเพราะตอนนี้ตนไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรสักอย่างที่สู้มัสยาได้
สิงหายืนยันอีกว่าไม่ใช่อย่างนั้น เนติยาก็ยังย้ำว่าไม่จริง เมื่อก่อนไม่เห็นเขาพูดอย่างนี้
"คุณเนครับ..."
"พี่สิงไม่ต้องพูดหรอกค่ะ เนจะบอกให้รู้นะคะ คนอย่างเน ถ้าเนไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน" เนติยาพูดอย่างอาฆาตแล้วเดินออกไป
"ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้..." สิงหาพึมพำอย่างหนักใจ
ooooooo
ที่บ้านนายกฯปฐวี...คืนนี้นภาลัยเดินเข้ามาหามัสยาที่นั่งเหม่ออยู่คนเดียว ชวนอย่างอารมณ์ดี
"พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงที่ทำเนียบ พ่อเขาอยากให้แม่พาหนูไปเปิดตัว"
"หนูไม่ไปได้ไหมคะ"
"อ้าว...ทำไมล่ะลูก แม่เห็นหนูไม่เจอใครมาตั้งนานแล้วนะ ออกจากบ้านไปเจอคนอื่นบ้างเถอะลูก" นภาลัยรบเร้า มัสยาบอกแต่เพียงว่าตนขี้เกียจ นภาลัยเปลี่ยนเป็นชวนว่า "งั้นพรุ่งนี้กลางวันเราไปสปากัน ไปนวดคลายเครียด"
"ไม่ล่ะค่ะ แม่ไปเถอะ" มัสยาปฏิเสธอีก นภาลัยถามว่าเป็นอะไร ดูเหมือนลูกไม่มีความสุข "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูเพียงแต่เบื่อๆชีวิต"
"ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก หรือลูกมีเรื่องอะไรในใจ" นภาลัยมองหน้ามัสยาอย่างค้นหา
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ มัสอาจจะเป็นแค่ช่วงนึงอีกวันสองวันมัสอาจจะดีขึ้นก็ได้"
"ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์หน้าเราไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกงกันนะ" นภาลัยเสนออย่างเอาใจ
"ดูก่อนแล้วกันค่ะ หนูขอตัวนะคะ" มัสยาปฏิเสธกลายๆ แล้วลุกเดินไป นภาลัยได้แต่มองตามลูกไปอย่างเป็นห่วง...
ooooooo
ตกค่ำ นภาลัยไปเยี่ยมนราธิปที่โรงพยาบาล เปิดประตูห้องหิ้วข้าวต้มกระดูกหมูเข้าไปอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ถามว่าหิวหรือยังแม่มีข้าวต้มกระดูกหมูมาฝาก
"ยังหรอกครับแม่ เดี๋ยวผมรอไอซ์ก่อน วันนี้ไอซ์ เขาจะซื้อเกี๊ยวน้ำมาให้ผม"
"อ้าว...อยากกินทำไมไม่บอกแม่ล่ะ แม่ก็ซื้อให้ได้" นภาลัยถามเชิงตัดพ้อนิดๆที่ลูกเลือกวานคนอื่น แล้วก็ยิ่งเสียความรู้สึกเมื่อนราธิปบอกว่า
"แม่ไม่รู้จักร้านที่ผมกินกับไอซ์หรอก"
วางข้าวต้มกระดูกหมูแล้วเดินไปเก็บหนังสือกับผ้าคลุมของอัยราที่โซฟา ได้ยินเสียงนราธิปบอกมาอีกว่า "แม่ไม่ต้องเก็บครับ นั่นหนังสือของไอซ์"
นภาลัยชะงักแต่ยังพูดดีว่าแม่เห็นว่ามันรก นราธิปบอกว่าเดี๋ยวไอซ์ก็มาเก็บเอง ฟังลูกแล้วนภาลัยพยายามเก็บความไม่พอใจไว้ เปลี่ยนเรื่องพูดที่ไม่ต้องเกี่ยวพันกับอัยราว่า
"เมื่อกี้ แม่เจอหมอ หมอบอกว่าเย็นนี้จะให้ลูกลองไปทำกายภาพ แม่จะพาไปนะ"
"ไม่ต้องครับเดี๋ยวผมให้ไอซ์พาไป"
"ธิป" นภาลัยเสียงเข้มขึ้นอย่างหมดความอดทน "แม่ว่าลูกกำลังหลงผู้หญิงคนนี้มากไปนะ เอะอะอะไรก็บอกไอซ์ จะเอาอะไรก็รอไอซ์ แล้วถ้าไม่มีไอซ์ ลูกจะทำยังไง"
"ถ้าไม่มีไอซ์ ผมก็คงจะตาย"
นภาลัยแทบช็อกถามเสียงปร่าว่าทำไมลูกพูดอย่างนี้ คำตอบของนราธิปยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดให้หนักขึ้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณว่า
"ก็ผมบอกแม่แล้วไงว่าผมรักเขา"
ขณะนั้นเอง อัยราเปิดประตูเข้ามาพร้อมร้องบอกเสียงแจ่มใสว่า
"มาแล้วค่ะ" พลันเธอก็ชะงักเมื่อเข้ามาเห็นนภาลัย "เอ่อ...ขอโทษค่ะ หนูไม่ทราบว่ามีคนอยู่" พูดพลางจะขยับถอยออกไป
"ไม่ต้องหรอกไอซ์ แม่กำลังจะกลับ" นราธิปร้องบอก นภาลัยมองหน้านราธิปอึ้งทั้งตกใจและเสียใจระคนกันที่ลูกพูดเหมือนไล่ เลยคว้าของเดินงอนๆออกไป
อัยราเข้ามาถามนราธิปว่าทะเลาะกับคุณแม่อีกแล้วหรือ นราธิปบอกว่าเปล่า ตนแค่อยากให้แม่รู้ว่าตนรักเธอมากแค่ไหนเท่านั้น ถามเสียงอ่อนมองด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรักว่า
"คุณล่ะ คุณยังรักผมอยู่ไหม"
"รักสิคะ ฉันรักคุณเสมอ"
เป็นคำตอบที่ให้กำลังใจแก่นราธิปอย่างมากจนแม้จะต้องอยู่ในสภาพนี้เขาก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปนานเท่านานตราบที่มีเธออยู่เคียงข้าง...
ooooooo
ส่วนนภาลัยพอหิ้วของออกจากห้องนราธิปแล้วก็เดินไปด้วยความรู้สึกที่สูญเสียลูกไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว...
เมื่อกลับถึงบ้าน เจอนายกฯปฐวีกำลังดูแฟกซ์รายงาน ผลการตรวจของนราธิปจากเยอรมันรีบเข้าไปถามว่าทางนั้นว่ายังไงบ้าง
"เขาดูผลเอกซเรย์แล้วบอกว่ารักษาไม่ได้"
"โธ่...ธิปลูกแม่...นี่มันเป็นเวรกรรมอะไรของเรา พอเราได้ลูกสาวคืน เราก็ต้องเสียลูกชายไป" นภาลัยตีโพยตีพาย
"อย่าพูดอย่างนั้นสิคุณ นายธิปแค่เป็นอัมพาต แล้วเท่าที่วันนี้ผมเห็น เขาก็มีความสุขดีกับอัยรา"
นภาลัยของขึ้นทันที อารมณ์ค้างจากเมื่อตอนหัวค่ำเดือดปุดโพล่งขึ้นว่า
"อัยรา อะไรอะไรก็อัยรา นี่ฉันต้องยอมแพ้ให้ผู้หญิงคนนั้นรักกับลูกเรางั้นหรือ"
"คุณหญิง...ผมว่าตอนนี้เราต้องขอบคุณเธอมากกว่านะ ที่เธอไม่ทิ้งนายธิป"
"นี่คุณพูดอะไรของคุณ" นภาลัยรับไม่ได้
"คุณลืมไปแล้วหรือว่า ตอนนี้ลูกเราเป็นคนพิการ นายธิปจะเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต เขาหมดโอกาสที่จะเลือกใครแล้ว"
นภาลัยอึ้งกับความจริงที่สามีชี้ให้ตระหนัก ปฐวีมองไปที่ระเบียง เห็นมัสยานั่งเหม่ออยู่บอกนภาลัยว่า
"นั่นก็อีกคนนึง ถ้าคุณไม่อยากเสียมัสยาไป ผมว่าคุณควรจะเลิกกีดกันความรักของเขากับสิงหาเสีย"
พูดทิ้งไว้ให้นภาลัยคิดแล้วปฐวีก็เดินออกไป นภาลัยมองไปที่มัสยา เห็นเธอนั่งเหม่อลอยเศร้าสร้อยจนเหมือนหุ่นที่ไร้ชีวิตจิตใจ
ooooooo
ได้ลูกกลับมาไม่ทันไร ก็ต้องมาเห็นลูกเศร้าสร้อยจนเหมือนไม่มีชีวิตจิตใจเช่นนี้ นภาลัยสะเทือนใจทนไม่ได้ เข้าไปถามว่าคิดอะไรอยู่หรือ
มัสยายิ้มเจื่อนๆ บอกแม่ว่าไม่ได้คิดอะไร นภาลัยถามตรงๆ ทันทีว่าสิงหาเป็นอย่างไรบ้าง กลับได้รับคำตอบว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้ไปเยี่ยมเขาเลย
"ทำไมล่ะ ก็ลูกกับเขา..." นภาลัยยังไม่กล้าเอ่ยคำนั้น ออกมา แต่มัสยาเดาได้บอกแม่ว่าเราไม่มีอะไรกันแล้ว นภาลัยมองหน้าลูกเต็มตาถามย้ำเพื่อความแน่ชัด "ลูกกำลังจะบอก แม่ว่า ลูกกับนายสิงหาเลิกกันแล้วหรือ"
"ค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะไม่ทำให้แม่เสียใจ" เสียงมัสยาสะท้านน้อยๆ จนนภาลัยอึ้งไปนิดหนึ่งก่อนจะถามว่าแล้วลูกไม่เสียใจหรือ
"ไม่หรอกค่ะ" มัสยาตอบทันที เล่าให้แม่ฟังอย่างสะเทือนใจว่า "แม่รู้ไหมคะ ตอนที่หนูอยู่กับสมิงสา หนูไม่เคยมีความสุขเลย หนูเจอแต่เรื่องเลวร้ายตั้งแต่เกิด จนหนูมาเจอผู้ชายคนนี้ หนูถึงได้รู้ว่าความสุขคืออะไร แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ"
นภาลัยสะเทือนใจจนน้ำตาไหล โผเข้ากอดลูกพร่ำบอกว่า
"แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ ที่แม่กีดกันความรักของลูก"
"ไม่ใช่ความผิดของแม่หรอกค่ะ หนูรู้ว่าแม่ทำไปก็เพราะว่าแม่รักหนู"
"แต่แม่เห็นแก่ตัว แม่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่จนไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของลูก แม่จะไม่ห้ามเรื่องลูกกับสิงหาอีกแล้ว"
"ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะแม่ เพราะถึงวันนี้ หนูตัดใจจากเขาแล้ว" นภาลัยตกใจถามว่าลูกว่าอะไรนะ มัสยาจึงพูดรายละเอียดให้ฟังว่า "ในเมื่อเขาไม่เห็นคุณค่าความรักที่หนูมีต่อเขา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่หนูจะรักเขาต่อไป" พูดแล้วมัสยาขอตัวลุกไป
นภาลัยนิ่งอึ้งมึนงันกับเรื่องที่ทำร้ายจิตใจของลูกอย่างรุนแรงเพราะความยึดมั่นถือมั่นของตัวเอง
ooooooo
วันนี้ สิงหาหายดีแล้ว พอออกจากโรงพยาบาล เขาก็รีบไปหานายกฯปฐวีที่ห้องทำงาน เพื่อรายงานตัวและขอบคุณ ปฐวีถามอย่างตื่นเต้นดีใจว่าหายดีแล้วหรือ พอสิงหาตอบรับ ปฐวีบ่นตัวเองว่า
"ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลยที่ช่วยมัสยาไว้"
"ผมต่างหากครับที่ต้องกราบขอประทานโทษท่านที่ไม่สามารถปกป้องนราธิปได้"
"มันเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่า แต่ถึงเขาจะพิการก็ยังดีกว่าตาย"
"ท่านเลขาฝากเอกสารให้ท่านเซ็นครับ" สิงหาบอกพลางวางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วจะออกไป
ปฐวีขอบใจ แต่พอสิงหาจะออกไปเขาเรียกไว้ พูดยิ้มๆว่ามีข่าวดีจะบอก สิงหาหันกลับมาถามอย่างแปลกใจมีข่าวดีอะไรหรือ
"คุณหญิงให้ผมบอกคุณว่า จากนี้ไปเขาจะไม่กีดกันเรื่องคุณกับมัสยา"
สิงหาอึ้งไปครู่หนึ่งจึงถามว่าจริงหรือครับท่าน นายกฯยืนยันว่าจริง และแสดงความดีใจด้วย เขาขอบคุณ นายกฯแนะว่า ตอนนี้เขาควรจะรีบไปง้อมัสยาได้แล้ว
"ครับผม งั้นผมขออนุญาตนะครับ" สิงหารีบขอตัว แล้วเดินตัวปลิวออกไป
ปฐวีมองตามสิงหาไป ยิ้มดีใจกับข่าวดีของเขาด้วย
ooooooo
วันนี้ อัยราเข็นรถพานราธิปออกไปที่ระเบียงบ้าน ทั้งสองคุยกันกะหนุงกะหนิงอย่างมีความสุข นภาลัยมองแล้วถอนใจ แม้จะยังขัดตาขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็สบายใจ โล่งใจ ที่เห็นลูกมีความสุข
ส่วนสิงหา รีบไปที่บ้านปฐวี พอลงจากรถก็เจอนภาลัยเข้าพอดี เขารีบเข้าไปสวัสดี บอกว่าตนมาหามัสยา นภาลัยตอบสั้นๆแค่ "เชิญ"
"เอ่อ...ผมต้องกราบขอบพระคุณคุณหญิงที่ไม่รังเกียจผม"
"ฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยที่ตั้งแง่ไม่ชอบเธอตั้งแต่แรก" แม้จะพูดไม่เต็มเสียงแต่ก็เต็มใจที่จะพูด
"ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณหญิงดีครับ"
"หวังว่าเธอจะรักลูกสาวฉันตลอดไปและไม่ทำให้เขาเสียใจ"
"ผมสัญญาครับ ผมจะรักมัสยาตลอดไป"
ไม่ทันสิ้นเสียงของสิงหาดี นิรดาก็ทักเสียงแจ่มใสเข้ามาว่า จะมาหาตนทำไมไม่โทร.บอกก่อน ตนเลยแต่งตัวไม่สวย สิงหาปากหวานไปตามประสาว่าเธอแต่งอะไรก็สวยอยู่แล้ว นิรดายิ้มแก้มแทบปริถามว่าวันนี้จะพาตนไปเที่ยวไหนหรือ นภาลัยทนไม่ไหวเลยบอกว่าสิงหามาหามัสยาไม่ใช่มาหาเธอ
นิรดาทำหน้างงถามว่าอะไร นภาลัยเลยบอกตรงๆว่า "แม่ยกพี่มัสให้พี่สิงเขาแล้ว" นิรดาโวยวายว่าไม่จริง เพราะสิงหากับมัสยาเลิกกันแล้ว
"ใช่ค่ะ ที่ยัยนิพูดน่ะถูกต้องแล้ว" มัสยาแทรกเข้ามา สิงหารีบหันไปบอกว่าตนจะมาขอโทษเธอ มัสยาตัดบททันทีว่า "ฉันบอกคุณแล้วไงว่าเรื่องระหว่างเรามันจบไปแล้ว" พูดแล้วเดินผ่านไปเลย
"เดี๋ยวสิลูก คือแม่..." นภาลัยพยายามจะบอกบางอย่าง มัสยาตัดบททันทีว่า
"หนูรู้ค่ะว่าแม่จะพูดอะไร แต่หนูได้บอกกับแม่ไปแล้วไงคะว่ามันไม่มีประโยชน์ หนูจะไปต่างจังหวัดสักพักนะคะ"
นิรดาถามว่าเธอจะไปไหน มัสยาบอกว่ายังไม่รู้ ไปถึงที่เมื่อไรจะโทร.มาบอก แล้วเอ่ยลานภาลัย โน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มแม่ฟอดหนึ่งก่อนไป นภาลัยรีบหันมาบอกสิงหาให้ตามไป สิงหายังอึกอักเงอะงะ จนนภาลัยเร่งว่าไปเถอะ เขาจึงตามมัสยาไป
แต่ตามไปจนถึงรถจะคุยด้วย มัสยาไม่ฟังก้าวขึ้นรถ สิงหาถามอย่างเว้าวอนว่า
"นี่คุณจะไม่ให้อภัยผมเลยหรือ"
"ฉันว่าฉันพูดทุกอย่างชัดเจนแล้วนะ" พูดแล้วปิดประตูรถขับออกไป ทิ้งสิงหาให้ยืนอึ้งตรงนั้น
ส่วนนภาลัยมองตามอยู่อย่างใจระทึก พอเห็นมัสยาขับรถออกไปและสิงหาเดินหน้าสลดกลับมานภาลัยก็หน้าเสียอย่างรู้สึกผิด...
ooooooo
มัสยาไปพักที่ริมทะเล นั่งที่โขดหินริมหาด สายลมแสงแดดในยามโพล้เพล้ ทำให้เธอยิ่งเศร้ากับเรื่องราวในอดีต...
วันนั้น ที่บังกะโลริมทะเล...เป็นวันที่มัสยากำลังสับสนกับชีวิตของตัวเองที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากนางโจรในแก๊งสมิงสามากลายเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรี...และในวันนั้นก็เป็นวันที่ทั้งเธอและสิงหาต่างยอมรับและเปิดเผยความรู้สึกต่อกัน เขาบอกรักเธอและจะอยู่กับเธอไปจนวันตายขณะนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เวลานั้นเขาทวงว่าเธอยังไม่ได้บอกรักเขาเลย เธอย้อนถามว่ายังต้องบอกอีกหรือ
"คุณอย่าพูดเล่นสิ ผมอยากรู้ว่าคุณรักผมจริงๆเหมือนที่ผมรักคุณ"
"ค่ะ ฉันรักคุณ" มัสยาบอกโผเข้าจูบเขาด้วยความรัก
เวลานั้น เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานนัก...แต่เวลานี้การณ์ กลับกลายเป็นอื่นไปแล้ว...
เวลาเดียวกันนั้น สิงหาที่นั่งทอดถอนใจอย่างทุกข์ทรมานใจอยู่นั้น มีโทรศัพท์เข้ามือถือ เขาหยิบดูเห็นเป็นเบอร์ของธาวี เขาวางโทรศัพท์ลง เมินหน้าเหม่อมองไปอย่างไร้เป้าหมาย...
ooooooo