ตอนที่ 12
โต้งมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อยอดขายไก่ทอดกะต๊าก กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขายได้หลายพันบาทต่อวัน จนอ้นกับป๋องคาดหวังว่าอีกไม่นานพวกตนน่าจะได้เงินเดือนขึ้นหรือได้โบนัสบ้าง
ยิ่งพอรู้จากเจี๊ยบว่าเมื่อวานท่านประธานมาแอบดูและชื่นชมเขา โต้งดีใจและคาดหวังว่าเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้พ่อภาคภูมิใจได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันไอศูรย์ที่ต้องการฮุบกิจการทั้งหมดของเจ้าสัวก็พยายามหว่านล้อมมะลิให้ใส่ยาบำรุงในชาให้เจ้าสัวกินทุกวันทั้งที่มันคือยาพิษ นอกจากหว่านล้อมแล้วไอศูรย์ยังปรนเปรอความสุขให้มะลิด้วยการแอบมีสัมพันธ์สวาทจนเกือบโดนอี๊จินจับได้
หลายวันผ่านไป เจ้าสัวได้รับรายงานจากฝ่ายการตลาดว่านอกจากสาขาสีลม ลาดพร้าว เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่จะติดท็อปไฟว์ยอดขายไก่สูงสุดแล้ว ยังมีสาขาที่น่าจับตามองอีกสาขาหนึ่งคือตลาดแม่ตลับ จากที่เคยติดลบมาตลอด ตอนนี้รายได้กลับค่อยๆกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เจ้าสัวดีใจมากและจำได้ว่าสาขาตลาดแม่ตลับอยู่ใกล้บ้านเจี๊ยบ จึงฝากเธอดูแลเป็นพิเศษ ผ่านไปผ่านมา ให้แวะดูร้านและช่วยสอนงานอบรมพนักงานด้วย เจี๊ยบรับปากด้วยความเต็มใจ
“ขอบใจๆ เออ...อีกอย่างนึง ยาดมนี่อาไอศูรย์บอกว่าลื้อทำเองเหรออาหนูเจี๊ยบ”
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ทำเองได้อย่างนี้ทำไมลื้อไม่ทำขาย เก่งแต่ไม่มีหัวการค้าแล้วจะรวยได้ยังไง ลื้อไปทำมานะ แรกๆอั๊วจะให้ลองวางขายไม่กี่สาขาก่อน ถ้าขายดีแล้วลื้อทำไหวค่อยกระจายไปวางขายทั่วประเทศ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ เชื่ออั๊ว รวยแน่ๆ ว่าแต่ถ้าลื้อรวยกลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยแล้วอย่าลืมอั๊วนา ฮ่าๆๆ อั๊วล้อเล่น” เจ้าสัวหัวเราะอารมณ์ดี แล้วนึกได้ถามไอศูรย์ว่า “วันก่อนลื้อบอกว่าพนักงานร้านสาขาตลาดแม่ตลับมันเกเรทะเลาะกัน ตีกันจนร้านพังไม่ใช่เหรอ”
ไอศูรย์อึกอักก่อนตอบรับหน้าเจื่อนๆ เจ้าสัวหันไปบอกในที่ประชุมว่าจริงๆแล้วพวกนักเลงเข้ามาอาละวาด แต่พนักงานร้านเราเก่งจริงๆ จัดการมันได้หมด
“วันหลังลื้ออย่าซี้ซั้วรายงานแบบนี้สิอาไอศูรย์ ตอนนั้นอั๊วตกใจหมดเลย” เจ้าสัวตำหนิ ทุกสายตาจึงจ้องมาที่ไอศูรย์คนเดียว
ออกจากห้องประชุม เจี๊ยบบอกข่าวดีเรื่องผลิตยาดมสมุนไพรขายให้ฝนฟัง ฝนดีใจกับเพื่อนและไม่วาย แซวว่าถ้ารวยเป็นเถ้าแก่เนี้ยแล้วอย่าลืมเพื่อนคนนี้
“เว่อร์ รวยเรยอะไร แค่ได้ทำสมุนไพรของแม่ให้เป็นที่รู้จัก แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว”
“จ้า...แม่นางฟ้า ถ้าเงินไม่เอาก็ให้เพื่อนนะ”
ฝนกับเจี๊ยบหัวเราะไปด้วยกัน ลีน่ากับติ๋วติ้วผ่านมาเห็น ถามกึ่งตำหนิว่าขำอะไรกัน งานการไม่ทำ
“แล้วเธอสองคนมาแอบฟังอะไร ทำไมไม่ไปทำงาน” เจี๊ยบยอกย้อน
“นี่!! เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะ ถือว่าเป็นคนโปรด เจ้าสัวเหรอยะ ร้ายนะเธอเนี่ย เห็นเงียบๆฟาดเรียบนะยะ ตอนแรกก็คุณไอศูรย์ ตอนนี้ถึงขั้นเล่นรุ่นใหญ่ ถามจริง ไหวเหรอ ทั้งแก่ทั้งอ้วนอย่างกะหมู”
“ก็เพราะเธอมันแบบนี้ไง งานการไม่ทำ วันๆนั่งมโนแต่เรื่องสกปรก ไร้สาระ ที่ฉันก้าวหน้าข้ามหัวเธอพรวดๆ ได้เป็นคนโปรดเจ้าสัวอย่างที่เธอพูด ก็คงเพราะฉันขยันทำงาน ใช้สมองทำงานจนถูกใจเจ้านาย ไม่ใช่เอาเต้าไต่แบบเธอ ที่พูดยาวนี่ก็นึกว่าทำบุญ เผื่อชาตินี้เธอสองคนจะได้เลิกต่ำตม ได้เป็นคนโปรดเจ้านายอย่างฉันมั่ง”
เจี๊ยบพูดจบก็คว้ามือฝนเดินออกไป ทิ้งให้ลีน่ากับติ๋วติ้วเต้นเร่าๆ แทบร้องกรี๊ดด้วยความโกรธ ส่วนไอศูรย์ก็อยู่ในอารมณ์เดียวกัน แค้นเคืองเจ้าสัวที่ตำหนิตน ในที่ประชุม เขากลับมาห้องทำงานกวาดข้าวของบนโต๊ะหล่นกระจายและคำรามออกมาอย่างหัวเสีย
“เก่งนักเหรอไอ้โต้ง แค่นี้ก็เก่งแล้วเหรอไอ้แก่ ได้!! ฉันจะทำให้แกเห็นว่าใครกันแน่ที่เก่งจริง”
ooooooo
เมื่อเจี๊ยบนำเรื่องยาดมสมุนไพรที่เจ้าสัวเปิดไฟเขียวให้วางขายในร้านกะต๊ากมาเล่าให้โต้งฟัง ชายหนุ่มดีใจกับเธอและคาดหวังว่ายาดมนี้จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
“ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันก็แค่ยัยลูกเจี๊ยบตัวเล็กๆ”
“กลัวทำไม เธอมีนายไก่โต้งตัวบึ้กๆอยู่ข้างๆ ทั้งคน...คนเราทุกคนต้องมีความฝัน แล้วก็ทำความฝันนั้นให้เป็นจริง เธอเป็นคนบอกฉันเองจำไม่ได้เหรอ เธอต้องทำให้ได้นะ ฉันจะคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอ”
“ขอบใจนะโต้ง นายจะไม่ทิ้งฉันจริงๆใช่มั้ย สัญญานะ”
สองคนเกี่ยวก้อยสัญญาและสบตากันหวานซึ้ง
“เออจริงสิ ท่านประธานยังบอกเลยว่าถ้าฉันรวยขึ้นมาได้เป็นเถ้าแก่เนี้ยต้องอย่าลืมท่านประธานนะ ท่านตลกจัง ตอนแรกก็นึกว่าจะดุๆ แต่ฉันว่าเอาจริงท่านใจดีจะตาย ใครเป็นลูกนี่โชคดีชะมัด พูดแล้วก็อยากเห็นหน้า ลูกชายท่านนะ ได้ยินเขาลือกันว่าเกเร ไม่เอาไหน เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง งานการก็ไม่ทำ จริงหรือเปล่าโต้ง”
ชายหนุ่มสะดุ้งวาบ ตอบอ้อมแอ้มว่าคงไม่ขนาดนั้น
“เฮ้อ! ถ้าเป็นงั้นจริงก็แย่จัง น่าเสียดาย เป็นฉันนะ ฉันจะไม่เกเรอย่างนั้นเด็ดขาด เสียดายโอกาสที่อุตส่าห์เกิดมาโชคดีซะขนาดนั้น ฉันจะต้องทำให้พ่อแม่ฉันภูมิใจสุดๆเลย แม่จ๋า...เป็นกำลังใจให้เจี๊ยบด้วยนะจ๊ะ”
เจี๊ยบแหงนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน โต้งมองตามและอดนึกถึงแม่ตัวเองไม่ได้ คิดอยู่ในใจว่าเขาต้องทำให้แม่ผู้จากไปภูมิใจเหมือนกัน
อยู่ดีๆเช้าวันนี้แอ๊บมาปรากฏตัวที่ร้านกะต๊ากโต้งตกใจมากรีบดึงเธอไปมุมลับตาถามว่ามาที่นี่ทำไม?
“ก่อนโทนี่จะพูดอะไร ดูแอ๊บให้ดีๆ”
โต้งมองอดีตคนรักหัวจดเท้าเห็นความเปลี่ยนแปลงสุดขั้ว เธอใส่เสื้อผ้าธรรมดาหิ้วถุงผ้ารักษ์โลกแทนกระเป๋าแบรนด์เนม แถมใส่รองเท้าราคาถูก บอกว่าตนเปลี่ยนไปแล้ว
“แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ได้หมายความว่าอะไรๆจะเปลี่ยน”
“ช่วงที่เราห่างกัน เกิดเรื่องกับแอ๊บมากมาย พ่อแอ๊บล้มละลาย แอ๊บช่วยพ่อใช้หนี้จนหมดตัว พอไม่มีเงิน เพื่อนก็ไปกันหมด แอ๊บไม่เหลือใครแล้วนอกจากโทนี่”
“แต่แอ๊บก็รู้ว่าโต้งมีแฟนแล้ว”
“แอ๊บต้องการแค่ความเป็นเพื่อนจากโทนี่ แอ๊บสัญญาจะไม่สร้างปัญหาให้โทนี่กับแฟนเด็ดขาด เรื่องที่แฟนโทนี่ยังไม่รู้ว่าโทนี่เป็นใคร แอ๊บก็จะไม่พูด ขอโอกาสให้แอ๊บสักครั้งนะโทนี่ แอ๊บไม่เหลือใครแล้วจริงๆ”
โต้งไม่ไว้ใจยังไม่กล้ารับปาก แอ๊บตีหน้าเศร้าบอกว่าแค่คำพูดเขาคงไม่เชื่อ เธอจะพิสูจน์ให้เห็นว่าตนเป็นคนใหม่ บริสุทธิ์ใจกับเขาจริงๆ
อ้นแอบดูสองคนอยู่ห่างๆด้วยความแปลกใจ
พอหันกลับก็เจอเจี๊ยบมองมาเหมือนกัน...เสียงอ้นทักเจี๊ยบทำให้โต้งกับแอ๊บได้ยินรีบเดินตรงไปหา
แอ๊บขอคุยกับสองสาว โต้งใจคอไม่ดียืนฟังอยู่ด้วย แอ๊บออกตัวกับเจี๊ยบว่า
“อย่าคิดมากนะที่เห็นฉันกับโต้งคุยกัน โต้งเป็นลูกน้องเก่าของพ่อฉัน เจอกันก็เลยทักทายตามปกติ ส่วนเรื่องที่เราเคยมีปัญหากัน ฉันขอโทษ ลืมๆไปเถอะนะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า”
“จากหลังเท้ากลายมาเป็นหน้ามือ...ต้องการอะไรกันแน่”
“อย่ามองโลกในแง่ร้ายสิ ฉันรู้จักโต้งมานาน เห็นโต้งเป็นเพื่อนคนนึง เธอเป็นแฟนโต้งก็เท่ากับเป็นเพื่อนฉัน ถ้าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ จริงไหมโต้ง”
โต้งกลัวแอ๊บปากโป้งจึงรีบพยักหน้า เจี๊ยบไม่พอใจแอ๊บแตะแขนโต้ง ตอบเสียงแข็งว่า
“ได้! ที่แล้วก็ให้แล้วไป นางเอกมาก็นางเอกไป แต่ถ้าเธอร้ายมาเมื่อไหร่ ฉันก็ร้ายไปเมื่อนั้น”
“เธอออกจะน่ารักขนาดนี้ ฉันจะไปร้ายอะไรกับเธอได้...ส่วนเธอ ฉันก็ต้องขอโทษที่ฉันเคยจะขายที่ดินตรงที่พ่อเธอแสดงลิเก จริงๆฉันไม่ได้อยากทำอย่างนั้น ฉันถูกพ่อบังคับ ตอนนี้ที่ตรงนั้นก็ไม่ขายแล้ว กะว่าจะเก็บเอาไว้ให้คนในตลาดได้ทำมาหากิน”
แอ๊บยิ้มหวานราวนางงามมิตรภาพ เจี๊ยบกับอ้นสบตากันอย่างไม่อยากเชื่อ ขณะที่โต้งแอบโล่งอกที่สาวแอ๊บไม่สร้างปัญหา หารู้ไม่ว่าเธอจงใจแตะแขนเขาให้เจี๊ยบเห็น แตะแล้วแตะอีกขณะพูดคุย
เจี๊ยบหึงและโมโหโต้งที่ไม่ปัดมือแอ๊บออก จึงปฏิเสธเมื่อเขาชวนดูหนังกินข้าวเย็นนี้ หลังจากเจี๊ยบกลับไปแล้วโต้งบ่นให้อ้นฟังอย่างไม่เข้าใจ แต่อ้นฟันธงได้ไม่ยากว่าแฟนเขาไม่ได้เป็นอะไรนอกจากงอน
“งอน? งอนเรื่องอะไร เจี๊ยบพูดอยู่หยกๆว่าไม่ได้โกรธ”
“ไม่รู้จักภาษาผู้หญิงจริงๆเหรอ ถ้าผู้หญิงบอกว่าไม่แปลว่าใช่ เช่น ไม่โกรธ แปลว่าโกรธ ไม่งอนแปลว่างอน แต่ถ้าบอกว่าโอเค แปลว่าไม่โอเค”
“เฮ้ย! อะไรว้า...โกรธก็บอกว่าโกรธ งอนก็บอกว่างอนสิ ถ้าไม่บอกจะรู้ได้ไงว่าโกรธเรื่องอะไร”
“เรื่องคุณแอ๊บไง”
“เรื่องคุณแอ๊บเนี่ยนะ จะงอนพี่ทำไม”
“โอ๊ย...พี่โต้งจะรู้เรื่องอะไรบ้างไหมเนี่ย แอ๊บยังงั้น แอ๊บยังงี้ พูดไปแตะแขนไป ส่งสายตาหวานให้พี่ไป เป็นอ้น อ้นก็ไม่ชอบ”
“คิดมากน่า”
“นี่ไงผู้ชาย!! เอะอะก็หาว่าผู้หญิงคิดมากพวกตัวเองนั่นแหละคิดน้อย”
“อ้าวอ้น...แล้วอ้นมาโกรธพี่ด้วยทำไมเนี่ย”
โต้งเกาหัวแกรกๆ มองตามอ้นที่เดินตัวปลิวหนีไป