ตอนที่ 15
จนแล้วจนรอดจีราวัจน์ก็ไม่รับสายสาธิต เอาแต่นั่งร้องไห้ในรถด้วยความสะเทือนใจสุดขีด สามีภรรยาคู่หนึ่งขับรถผ่านมาเห็นก็ซักถามด้วยความเป็นห่วง จีราวัจน์เลยตัดสินใจรับความช่วยเหลือด้วยการหลบไปพักบ้านของทั้งสองคนนั้นเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับสาธิตเวลานี้
ข่าวฉาวของจีราวัจน์กลายเป็นประเด็นหน้าหนึ่งเช้าวันต่อมา สองสามีภรรยาเข้าใจความรู้สึกดีและเสนอให้เธอพักด้วยจนกว่ากระแสจะซา จีราวัจน์ไม่มีทางเลือกและคิดว่าการช่วยงานสองสามีภรรยาที่ปั้นตุ๊กตาดินเหนียวขายคงช่วยให้ลืมเรื่องวุ่นวายใจได้ชั่วขณะจึงยอมตกลง
เมื่อตกลงใจได้ จีราวัจน์เลยโทร.บอกดารากาให้หยิบเสื้อผ้ามาให้ เจตรกลับจากแท่นขุดเจาะน้ำมันพอดีและเสนอตัวไปส่ง สาธิตที่มาดักรอหน้าคอนโดเลยสะกดรอยตามแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเจตร
“คุณสาธิตคงอยากตามไปเจอจี”
น้ำเสียงเห็นอกเห็นใจของแฟนหนุ่มทำให้ดาราการีบห้าม “ไม่ได้นะ...จะให้เขาตามไปไม่ได้เด็ดขาดถ้าจีรู้ เขาอาจจะคิดว่าเราหักหลัง คราวนี้เขาคงไม่ให้เรารู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะหลบไปที่ไหน”
เจตรตัดสินใจหักหลบข้างทาง ดารากาเลยลงไปหาสาธิต
“มาสะกดรอยตามพวกเราทำไม”
“ผมอยากเจอจี ผมอยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเราจะไปหาจี”
“ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณจะไปไหน บอกผมหน่อยว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมอยากเจอเขา”
“แล้วเขาอยากเจอคุณรึเปล่า ที่เขาไม่ติดต่อคุณมาก็เพราะเขาไม่อยากเจอหน้าคุณไง”
“เขาอาจจะกำลังเข้าใจอะไรผมผิด ผมอยากมีโอกาสปรับความเข้าใจ เราช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องลูกได้ ผมเป็นห่วง ไม่อยากเห็นเขาต้องแบกปัญหาไว้คนเดียวอย่างนี้”
“ถ้าคุณรู้จักจี คุณต้องรู้ว่าเขาใจแข็งแค่ไหน ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ ลองเขาตัดคุณออกไปจากชีวิตแล้ว ชาตินี้ทั้งชาติคุณก็ไม่มีวันได้กลับเข้าไปในชีวิตเขาใหม่ มันสายไปแล้ว...”
ooooooo
ระหว่างที่สาธิตตามหาจีราวัจน์ สุกี้ก็วางแผนเอาคืนพิมด้วยการแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท จีราวัจน์ นางเอกสาวจอมลวงโลกตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องตอนนักข่าวรุมสัมภาษณ์ ก่อนจะหน้าซีดเมื่อมีตำรวจเชิญไปสอบปากคำ
“ปากคำอะไร...พิมว่าคุณตำรวจเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ พิมไม่ได้ทำอะไรผิดจะให้พิมไปสอบปากคำเรื่องอะไรคะ”
สุกี้คิดอยู่แล้วว่าพิมต้องแถ ตัดสินใจมากับตำรวจด้วยและโพล่งออกไปด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“เรื่องที่เธอโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทใส่ร้ายว่าจีท้องกับคุณชยันต์ไง!”
“พี่สุกี้มีหลักฐานอะไรมากล่าวหาพิม”
“เธอแน่ใจนะว่าอยากให้ฉันโชว์หลักฐานที่นี่ แกลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันถีบแกกระเด็นออกจากวงการเป็นเพราะฉันหลักฐานแน่น จำไว้นะ...คนอย่างแกไม่มีวันจะฆ่าจีได้!”
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะฝังพิมได้เหรอ”
“ฉันรู้...ทำแค่นี้ฝังแกไม่ได้หรอก ฉันถึงเตรียมของแถมให้แกก่อนไปติดคุก”
ขาดคำเอมภรรยาหลวงของผู้อำนวยการสถานียักษ์ใหญ่ก็โผล่มาตบพิมหน้าหัน
“อ๊าย...คุณเอมมาตบพิมทำไม”
“แล้วแกไปทำอะไรกับคุณสวิตผัวฉันล่ะ แกถึงได้เป็นนางเอกละคร! รู้ไว้ซะด้วยว่านางเอกคนนี้...กว่าจะได้เป็นนางเอก ไม่ได้ใช้ความสามารถแค่การแสดงแต่ยังใช้ความสามารถทางการตะแคงนอนแก้ผ้ากับผัวคนอื่นด้วย!”
นักข่าวที่รุมล้อมส่งเสียงฮือฮา พิมหน้าเสีย ร้องเรียกให้ลูกน้ำพาหนี สุกี้สะใจมาก ตะโกนไล่หลัง
“นี่ต่างหากที่เขาเรียกว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า ลาก่อนนะนังพิม...งานนี้ฉันฝังชื่อแกมิดพสุธา!”
ด้านเจนจิรา...ทำใจเรื่องสาธิตได้มากขึ้น มุ่งมั่นกับการทำงานและการเรียนจนได้รับจดหมายตอบรับจากต่างประเทศ เจตรตื่นเต้นดีใจกับน้องสาวคนเดียวมากแต่ก็ไม่วายเย้าแหย่
“อะไรนะ...นี่ถึงกับต้องหนีเรื่องอกหักไปเรียนเมืองนอกเลยเหรอ”
“ถ้าพี่ล้ออีกที เจนจะไม่ใช้แค่ครีมแต่จะยกเค้กทั้งก้อนป้ายหน้าพี่เลย เจนส่งเรื่องเรียนต่อตั้งนานแล้วย่ะ ต่อไปพี่เจตรจะไม่ได้มีน้องเป็นแค่ทนายนะ แต่จะมีน้องเป็นผู้พิพากษา”
ท่าทางภูมิอกภูมิใจของน้องสาวทำให้เจตรปลื้มมาก ยินดีที่เธอคลายจากอาการอกหัก
“เก่งทั้งเรื่องเรียน เก่งที่เข้มแข็งกับเรื่องความรักได้”
“เพราะเจนรู้ว่าเศร้าไปก็ไม่มีประโยชน์ เจนรักเขาข้างเดียว ยังไงก็ไม่มีหวัง สู้เอาเวลาเดินหน้าต่อไปดีกว่า”
“คิดได้ดีขนาดนี้...เอารางวัลไป!”
จบคำก็แกล้งปาดครีมเค้กบนโต๊ะป้ายหน้า
น้องสาว เจนจิราร้องโวยวายแบบไม่จริงจังนัก มีความสุขและสดชื่นขึ้นกว่าเดิมที่ทำใจเรื่องสาธิตได้...เชื่อมั่นว่าชีวิตข้างหน้าจะต้องเจอเรื่องราวและคนดีๆ
ooooooo
สาธิตจนหนทางจะตามหาจีราวัจน์เลยตัดสินใจไปหาจริยาที่วัด อดีตคุณหญิงที่ปลงแทบทุกอย่างมองมาด้วยแววตาเห็นใจ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบแต่นุ่มนวล
“คุณคงรู้ความจริงทั้งหมดแล้วสินะ”
“ครับ...ผมถึงได้มาขอโทษคุณหญิง เพราะผมเคยล่วงเกินเกียรติของคุณหญิงและทำร้ายลูกสาวคุณหญิง ทั้งๆที่ผมเป็นทนาย ผมควรเป็นคนค้นหาความจริงเพื่อตัดสินถูกหรือผิดอย่างยุติธรรม แต่ผมกลับตัดสินว่า
จีผิด...เพียงแค่เห็นนายสิทธาช่วยจีและใช้กฎของผมลงโทษเขา ต่อให้จีจะใช้ความดีไถ่โทษ...ผมก็ไม่เคยมอง คิดแต่จะฟาดฟันชีวิตเขาให้พังเหมือนที่เขาทำกับชีวิตผม จนวันนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมทำ มันไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกใครดีขึ้น แต่มันกลับทำร้ายทั้งผมและจี ผมขอโทษ...อภัยกับการกระทำเลวๆของผมด้วยนะครับ”
“ฉันอโหสิกรรม...ไม่ถือโทษกับสิ่งที่คุณทำกับฉัน และฉันก็อยากขอโทษคุณ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฉัน ถ้าฉันไม่ทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง จีก็คงไม่ต้องโดนนายสิทธาคุกคามชีวิต และคงไม่เกิดเหตุการณ์ทำให้คุณเสียคุณติวดีไป...ฉันขอโทษ ส่วนเรื่องของคุณกับจี...ฉันให้อภัยคุณแทนจีไม่ได้ มันเป็นเรื่องของคุณกับจีต้องชดใช้กันเอง”
สาธิตหน้าหมอง เครียดหนักเพราะรู้ดีถึงความใจแข็งของจีราวัจน์ จริยาสงสารเลยช่วยแนะ
“จีก็เหมือนฉัน...เป็นคนปากไม่เคยตรงกับใจ ปากบอกไม่ต้องการความรักแต่ในหัวใจกลับโหยหาความรักมากที่สุด ถ้าคุณพิสูจน์ให้จีเห็นความจริงใจของคุณได้ สิ่งที่คิดว่ายากอาจจะง่าย และสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้อาจจะสมหวังก็ได้ คุณพร้อมจะทำให้ลูกสาวฉันเห็นขนาดนั้นได้รึเปล่า”
“ผมขอสัญญาครับ ต่อไปนี้ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้จีรู้ว่าเมื่อก่อนจีอาจไม่มีใคร แต่วันนี้จีมีผม ผมจะไม่มีวันทิ้งจีกับลูกไปไหน ขอโอกาสให้ผมได้เริ่มต้นกับจีได้ไหมครับ...”
จริยาขอให้เขารับปากจะดูแลจีราวัจน์หากเธอต้องติดคุก สาธิตรับปากด้วยความเต็มใจ อดีตคุณหญิงเลยยื่นกล่องพัสดุที่จีราวัจน์ปั้นตุ๊กตาดินเหนียวส่งมาเมื่อหลายวันก่อนให้ ทนายหนุ่มตื่นเต้นมากบุกไปหาดาราสาวถึงบ้านของสองสามีภรรยาช่างปั้นดินเหนียว จีราวัจน์เห็นก็ตกใจ เดินหนี สาธิตต้องตามไปรั้งไว้
“อย่าหนีอีกเลยนะ อยู่กับผมเถอะจี กลับมาอยู่ด้วยกัน...คุณ ผมแล้วก็ลูก”
“ไม่จำเป็น คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ทั้งหมดเป็นความผิดฉันเอง...เราแค่พลาด”
“เราพลาดที่ไม่รู้ใจตัวเองมากกว่า ระหว่างเรามันอาจไม่ราบรื่น แต่ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดพลาด...ผมแน่ใจ”
คำสารภาพง่ายๆของเขาทำให้จีราวัจน์ยืนอึ้ง สาธิตเลยจับตัวเธอหมุนมาเผชิญหน้า
“กลับไปกับผมนะ ไม่ต้องหนี ผมจะปกป้องจีกับลูกให้”
“ไม่จำเป็นต้องฝืนทำขนาดนี้”
“ผมไม่ได้ฝืน ผมเต็มใจ ไม่ใช่แค่หน้าที่หรือความรับผิดชอบด้วย ผมทำเพราะรู้ว่าเราสองคนขาดกันไม่ได้”
“คุณก็รู้ว่าเด็กไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ”
“ถ้าจะมีใครสักคนที่ผูกมัด บอกเลยว่าผมนี่แหละที่เป็นฝ่ายเอาเด็กมาจับคุณไว้ ผมรู้ตัวว่าผมมันไม่ดีพอ อาจจะสู้ผู้ชายอีกหลายๆคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจีไม่ได้ แต่ให้โอกาสผมหน่อย ผมจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ถ้าคุณยอมหยุดที่ผู้ชายห่วยๆอย่างผม ผมยอมแลกทุกอย่างที่ผมมี แล้วทั้งชีวิตนี้ผมจะมีชีวิตอยู่เพื่อคุณคนเดียว”
พูดจบก็กอดเธอแน่น จีราวัจน์พูดไม่ออกเพราะยังสับสน สาธิตเลยอ้อนเสียงหวาน
“ขอเวลาผมพิสูจน์ ถ้าเมื่อไหร่คุณไม่มีความสุข ผมจะยอมให้คุณไป แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งปิดโอกาสผมได้ไหม...”
ooooooo
จีราวัจน์คิดหนัก สาธิตไม่เร่งรัด ตัดสินใจอยู่ช่วยสองสามีภรรยาด้วยเพราะอยากอยู่ใกล้ๆเธอ ดาราการู้เรื่องทั้งหมดก็เห็นใจเพื่อนรักมากแต่ก็อยากเตือนสติ
“สำหรับดาว...คำพูดมันไม่สำคัญเท่าการกระทำ สิ่งที่คุณสาธิตทำ มันยังแทนคำว่ารักไม่พออีกเหรอจี”
“จะว่างี่เง่าก็ได้ แต่เขาเป็นคนดี เขาอาจจะอยู่กับจีเพราะสงสาร ถ้าเป็นอย่างนั้นจีจะสมเพชตัวเองยิ่งกว่า”
สาธิตเห็นจีราวัจน์หลบไปคุยโทรศัพท์ ท่าทางลับๆล่อๆเลยตามมาดู ระแวงว่าเธอจะแอบหนีอีกรอบจนต้องยึดกุญแจรถ ดารากาได้ยินเพื่อนรักต่อปากต่อคำกับทนายหนุ่มก็เบาใจ เชื่อแน่ว่าอีกไม่นานจีราวัจน์ต้องใจอ่อน
เจตรนั่งฟังแฟนสาวคุยกับเพื่อนรักอีกต่อ แกล้งเปรยลอยๆหลังจากเธอวางสาย
“ขอให้คุณจีใจอ่อนสักทีเถิด...เพี้ยง! ขืนยังไม่ลงเอยกันแบบนี้ ผมมีหวังต้องโสดไปจนตาย”
ดารากาค้อนด้วยความหมั่นไส้ แต่เจตรก็ไม่สนใจ ยื่นหน้าไปใกล้แฟนสาว ตัดพ้องอนๆ
“เมื่อก่อนมีแค่คุณจี ตอนนี้มีหลานอีก ผมคนนี้ไม่รู้จะเป็นหมาหัวเน่าไปถึงไหน”
“สรุปว่าเห็นแก่ตัวเองล้วนๆเลยใช่ไหม”
“ก็คุณดาวนั่นแหละใจร้าย อยากรักคุณจีมากกว่าผมทำไม”
“หาว่าดาวใจร้ายเหรอ”
“ใจร้ายแต่ผมก็รักนะ ยิ่งร้ายยิ่งรักเลยล่ะ เดี๋ยวไปหาแม่ผมเลยแล้วกัน”
จบคำก็อุ้มแฟนสาวไปขึ้นรถ ก่อนจะบอกยิ้มๆ “เมื่อกี้คุณดาวบอกคุณจีว่าคำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ ผมจะทำให้คุณดาวเห็นว่าผมรักคุณและรอคุณดาวไม่ไหว ผมจะไปบอกคุณแม่ว่าผมจะแต่งงาน!”
เรื่องของเจตรกับดารากาจบลงด้วยดี ต่างจากสาธิตที่ยังง้อจีราวัจน์ไม่สำเร็จ แต่กระนั้นก็ไม่ท้อ พยายามเข้าใกล้ทุกทาง ไม่เว้นแม้แต่การปั้นตุ๊กตาดินเหนียวเป็นคู่กับของเธอที่เคยปั้นส่งไปให้จริยา
ปั้นเสร็จก็นำทั้งสองตัวไปวางตรงหน้าจีราวัจน์ พร้อมกับสัญญา “ต่อไปเราได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ผมสัญญาจะสร้างครอบครัวเราให้สมบูรณ์กว่าที่จีเคยมี
จีจะได้ไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียวในโลกอีกแล้ว...”
คำสัญญาของเขาทำให้จีราวัจน์หวั่นไหว หัวใจเต้นแรงจนแทบเก็บอาการไม่ไหว แต่ก็ยังใจแข็ง ไม่ยอมให้เขานอนร่วมห้อง สาธิตเลยต้องฉวยโอกาสตอนไฟในบ้านดับแอบเข้ามาเอง
จีราวัจน์พยายามทำใจให้สงบ ตีหน้านิ่งยื่นหมอนกับผ้าห่มให้เขานอนพื้น สาธิตไม่เกี่ยง แม้จะโอดครวญบ้างแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้นอนห้องเดียวกัน ดาราสาวเห็นเขาเงียบเลยข่มตาหลับแต่ก็ไม่สำเร็จ
สาธิตแกล้งเงียบไปแบบนั้นเอง ที่จริงแล้วเขาแอบส่องข้อมูลของจีราวัจน์บนอินเตอร์เน็ต
“ไอ้นักร้องแร็พคนนั้นมันเคยจีบจีอย่างในข่าวจริงไหม”
จีราวัจน์ไม่ตอบ เขาเลยต้องโผล่หน้ามาคาดคั้น
“โอย...จะมาเวิ่นเว้ออะไรตอนนี้”
“ก็เราไม่ยอมคุยกัน ผมอยากรู้จักจีเลยกูเกิลหา เป็นแฟนทั้งที รู้จักจีน้อยกว่าแฟนคลับได้ไง”
จีราวัจน์เขินแต่ยังเชิดหน้ากลบเกลื่อนไล่เขาไปนอน สาธิตไม่เซ้าซี้ ปล่อยให้เธอหลับถึงเช้าจึงรุกใหม่
“ธิตจะนับวันนี้เป็นวันแรกที่เราคบกัน เราจะได้มีวันครบรอบอย่างคนอื่นดีไหม วันนี้เราจะพูดกันดีๆ ยี่สิบสี่ชั่วโมง ถือว่าทดลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ได้ ถ้าจีถูกใจ เราแต่งงานกันนะ ธิตอยากอยู่กับจี ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระอีกแล้ว”
“ใครจะแต่ง...บ้า”
“อ้าว...ทำไมล่ะ อุตส่าห์คิดมาทั้งคืนแล้ว คิดก่อนค่อยตอบไม่ได้เหรอ...”
ooooooo
จีราวัจน์ใจอ่อนลงมากแล้ว ยิ่งสาธิตเอาอกเอาใจสารพัด ทั้งท่าทีเอาใจใส่และน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่ไม่เคยมาก่อน ยิ่งทำให้หวั่นไหวและยอมคุยกับเขาดีๆบ้าง ปียากุลโทร.หาญาติหนุ่มถามความคืบหน้า ยินดีมากที่เขาคงได้กลับบ้านเร็วๆนี้ เธอเลยจะช่วยเตรียมงานแถลงข่าวให้
ชยันต์ทึ่งมากกับการเปลี่ยนแปลงของปียากุล ไม่อยากเชื่อหูว่าเธอจะสนับสนุนให้สาธิตลงเอยกับจีราวัจน์ ผู้จัดละครจอมหึงเสียฟอร์มนิดๆ แถว่าทำทุกอย่างเพราะไม่อยากให้เขาเป็นข่าวฉาวกับจีราวัจน์อีก
ผู้กำกับหนุ่มเป็นปลื้ม ดีใจที่เธอมีเหตุผลและกลับมาเป็นคนเดิม เลยไม่รอช้าขอแต่งงานด้วยอีกครั้ง ปียากุลชอบใจมากแต่ก็ทำเป็นเล่นตัว ชยันต์เลยต้องง้อหนักเพราะอยากเป็นครอบครัวเหมือนเดิมสักที...
ปียากุลกับชยันต์น่าจะคืนดีกันได้ไม่ยาก แต่สาธิตกับจีราวัจน์ กว่าจะคืนดีได้ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย รวมทั้งเรื่องล่าสุด เมื่อทั้งสองต้องช่วยกันพาภรรยา
ช่างปั้นดินเหนียวไปคลอดที่โรงพยาบาล
สาธิตเห็นจีราวัจน์มีสีหน้าตระหนกและร้องไห้ เลยดึงตัวมากอดปลอบ สัญญาจะดูแลเธอใกล้ๆ ไม่ไปไหนไกล หรือให้เธอต้องเผชิญเรื่องแบบนี้ตามลำพัง ดาราสาวอบอุ่นใจมาก ยอมให้เขาพากลับไปโรงปั้น
“ตุ๊กตาพวกนี้ต้องบ่ม ต้องปั้น ต้องรอเวลา ต้องเผาไฟให้แกร่งขึ้นมา ก็เหมือนความรักของเรา ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนถึงจะมีวันนี้ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่า
มันจะคงอยู่ตลอดไป เพราะฉะนั้นต้องทะนุถนอมความรักของเราไว้ ยิ่งได้มันมายาก เรายิ่งต้องอดทน ประคับประคอง ใส่ใจกับมันในวันที่โอกาสยังมี”
“ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้อะไรมาโดยไม่ต้องเสียอะไร ทุกอย่างในชีวิตต้องแลกมาทั้งนั้น แม้แต่คุณ...คุณเป็นสิ่งดีๆสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่ฉันมี มันดีจนฉันกลัวว่ามันจะดีเกินไป ฉันไม่กล้าแต่งงาน เพราะกลัวว่าเขาจะเอาคุณคืนไป ทั้งแม่ ทั้งยายจันทร์ ไม่ว่าฉันรักใคร ฉันจะอยู่กับเขาไม่ได้ เข้าใจใช่ไหม...ฉันกลัว...กลัวว่าเขาจะเอาคุณคืนไป”
“ผมก็สูญเสียคนที่ผมรัก...ทั้งพ่อแม่ผม...และติว ทั้งๆที่ผมกำลังคุยกับติวเพียงแค่เสี้ยววินาที...เขาก็จากผมไป”
จีราวัจน์หน้าเสีย น้ำตาคลอเมื่อเขาพูดถึงติวดี สาธิตเลยต้องอธิบายเสียงอ่อน
“ที่ผมพูด...ผมไม่ได้รื้อฟื้นขึ้นมาโทษคุณ แต่ผมอยากบอกคุณว่าเวลาของเรา...มันไม่ได้มียืนยาวพอที่จะให้เราใช้ไปกับความเกลียด โกรธ และหนีหัวใจตัวเอง ตอนนี้คุณอาจเห็นผม...อีกห้านาทีคุณอาจไม่เห็นผมอีกก็ได้”
“เพราะอย่างนี้...ฉันถึงกลัว”
“ถ้ากลัว...ทำไมตอนนี้ที่ผมยืนตรงหน้าคุณ คุณถึงไม่เอื้อมมือมาจับผมไว้ ทำไมไม่กอดกันก่อนที่จะไม่มีวันได้กอด...ผมเคยติดกับความแค้นและทิฐิจนเกือบ
เสียคุณกับลูก วันนี้ผมไม่มีความแค้นและไม่มีทิฐิอีกแล้ว สิ่งเดียวและคำเดียวที่ผมมีคือผมรักคุณ จากนี้ที่ผมอยากดูแลและใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ไม่ใช่เพราะรับผิดชอบแต่เพราะรักคุณจากหัวใจ”
จีราวัจน์ปลื้มใจจนน้ำตาไหล สาธิตยิ้มบางๆก่อนจะถามว่ารักเขาบ้างไหม
“ก็เพราะฉันรักคุณ...รักมาก ฉันถึงกลัว แค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งฉันต้องเสียคุณไป ฉันก็แทบจะอยู่ไม่ได้”
“แต่ตอนนี้ วันนี้ วินาทีนี้ผมอยู่กับคุณ เราเลิกยึดติดและกลัวอนาคตเถอะจี เพราะมันไม่ทำให้เวลาในปัจจุบันของเรามีความสุขเลย สิ่งสำคัญที่เราควรคิดถึงตอนนี้คือคุณรักผม...ผมรักคุณเท่านั้นก็พอ”
พูดจบก็คุกเข่า ควักแหวนออกจากกระเป๋าเพื่อขอเธอแต่งงาน
“กฎหมายบังคับได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องหัวใจ...ผมใช้กฎหมายทำให้จียอมแต่งงานไม่ได้ ผมขอใช้ความรักและชีวิตทั้งหมด...ขอให้จีทิ้งความกลัว แล้วให้โอกาสใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้ชายใจร้อน ปากเสีย แต่รักจีคนเดียวคนนี้ได้ไหม”
จีราวัจน์ตื้นตันใจมาก โผกอดเขาแน่นแทนคำตอบตกลง สาธิตดีใจ พาเธอไปเดินเล่นก่อนจะถามว่ารักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ จีราวัจน์หน้าแดงไม่ยอมตอบ เขาเลยแหย่
“ไม่ตอบแบบนี้แสดงว่าแอบรักผมมานานแล้วใช่ไหม”
“ไม่จริง...คุณอย่ามาพูดเองเออเองสิ”
“งั้นก็บอกผมมาสิว่าแอบรักผมตั้งแต่เมื่อไหร่”
“จะรักตั้งแต่เมื่อไหร่ มันก็คือรักไม่ใช่เหรอ”
สาธิตดึงตัวเธอมากอดอีกครั้ง “ขอบคุณนะจี ขอบคุณที่รักผม ผมจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมกับคุณ เราจะดูลูกโตไปด้วยกัน จำไว้นะจี...ชีวิตที่เหลืออยู่ของผมมีไว้เพื่อรักคุณคนเดียว...”
ooooooo
-อวสาน-