icon member

คลื่นชีวิต

ตอนที่ 13

ภาพบาดตาบาดใจระหว่างจีราวัจน์กับชยันต์ทำให้สาธิตหัวเสีย โมโหหึงโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ทันสะระตะความคิดตัวเอง ก็ต้องมาปวดหัวเรื่องปียากุลที่หอบใบหย่ามาหาถึงโรงพยาบาล

“ทำไมจะทำอะไรไม่บอกพี่ ตอนนี้เปี๊ยกไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว เปี๊ยกไม่ต้องการพี่ชยันต์ แต่ลูกต้องการพ่อนะ”

“แต่ถ้าลูกเปี๊ยกต้องใช้พ่อร่วมกับเด็กคนอื่น เปี๊ยกยอมโกหกลูกว่าพ่อเขาตายไปแล้วดีกว่า”

“หมายความว่ายังไง”

“จีราวัจน์ท้องกับชยันต์!”

อาการมึนตึงของสาธิตทำให้จีราวัจน์น้อยใจมาก ทั้งที่เจอหน้ากันในโรงพยาบาลแต่เขาก็ผละหนี ชยันต์สงสารและเห็นใจดาราสาวมากจึงพยายามกล่อมให้เธอบอกเรื่องท้องกับสาธิต

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา”

“มันต้องรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย”

“จีต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าพี่ชยันต์อยากช่วยจี พี่จะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้!”

“จีรักมันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่ถือโอกาสเริ่มต้นกับมัน”

“พี่ก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักจี จีจะเอาเด็กคนนี้ไปผูกมัดเขาได้ยังไง มันเห็นแก่ตัวเกินไป”

“ไม่เห็นเกินไป มันนั่นแหละยิ่งต้องรับผิดชอบกับความมักง่ายของตัวเอง”

“จีขอร้อง...พี่อย่าทำให้จีรู้สึกสมเพชตัวเองมากไปกว่านี้ พี่อย่าซ้ำเติมจี ช่วยปิดเรื่องนี้เอาไว้ ถ้าพี่บอกเขา จีจะพาลูกหนีไปแล้วจะไม่มีใครได้เจออีกเลย”

“จี...แต่เด็กต้องมีพ่อ”

“จีมีวิธีรับมือกับเรื่องนี้ พี่อย่าลืมว่าจีเองก็ไม่เคยมีพ่อเหมือนกัน!”

จีราวัจน์ออกจากโรงพยาบาลหลังจากนั้น ดารากาวิ่งวุ่นดูแลไม่ห่างจนเจตรแอบน้อยใจเพราะแฟนสาวไม่ค่อยมีเวลาให้ แถมไม่ยอมบอกดาราสาวอีกต่างหากถึงสถานะคนรักระหว่างเขากับเธอ

ดารากาเข้าใจความรู้สึกแฟนหนุ่ม แต่เป็นห่วงความรู้สึกของจีราวัจน์มากกว่าที่เปราะบางเหลือเกินในระยะหลัง ไหนจะอาการทางกายอีกที่คลื่นไส้อาเจียนและอ่อนเพลียง่ายกว่าแต่ก่อนจนเธอเริ่มกังวล

สีหน้าสงสัยของเพื่อนรักทำให้จีราวัจน์ใจไม่ดี ไม่อยากบอกเรื่องท้องตอนนี้ เลยแกล้งพูดหาเหตุจะพาจริยาไปพักผ่อนที่อื่นสักพักหลังถ่ายละครจบ ดารากาจะตามไปด้วยแต่ดาราสาวก็ไม่ยอมให้ไป

ooooooo

การตายของสิทธาทำให้ทรัพย์สมบัติกลายเป็นของจริยาเกือบทั้งหมดเพราะเป็นสินสมรส แต่กระนั้น...คดีความติดสินบนของเจ้าพ่ออสังหาฯจอมหื่นก็ทำให้เกือบทุกอย่างถูกอายัด โชคดีที่จริยาโอนที่ดินของนวดีไว้ทัน ก่อนจะมอบให้จีราวัจน์นำไปคืนให้เจ้าของตัวจริง

สาธิตไม่รู้เรื่องที่ดินของนวดี หลังออกจากโรงพยาบาลก็หมกมุ่นกับคดีของสิทธา แต่ไม่ได้อยากเอาผิดจริยาเหมือนเคย แต่ยกหลักฐานที่เวทิตหามาได้มอบให้พิเชษไปดำเนินการตามกฎหมาย

พิเชษแปลกใจที่เพื่อนมีท่าทีอ่อนลง แต่ก็แอบโล่งใจเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายฝังใจกับอดีต

“ฉันเพิ่งเห็นว่าเวรกรรมมันมีจริงก็ตอนนี้” สาธิตรำพึงเบาๆ

“ไม่ใช่เวรกรรมหรอก คนที่เรียกร้องความยุติธรรมให้แกก็คือจีราวัจน์ วันที่เกิดเรื่องกับแก...ผู้หญิงคนนั้นไปคิดบัญชีกับไอ้สิทธา มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกว่ะที่เขามาตายวันเดียวกัน”

“นี่แกสงสัยว่าจีเป็นคนทำ”

“ฉันก็แค่สันนิษฐานว่าแม่เขากำลังปกป้องความผิดให้ลูกรึเปล่า เขาถึงยอมรับสารภาพ ไม่คิดจะสู้คดีขนาดนั้น”

“แกคิดว่าจีทำเพื่อล้างแค้นให้ฉัน”

“แกรู้จักเขาดีกว่าฉัน แกคิดว่าผู้หญิงคนนั้นกล้าทำเพื่อแกขนาดนั้นได้จริงรึเปล่า”

“ทำไมต้องทำขนาดนั้น”

“มันก็เหตุผลเดียวกันกับที่เขาพยายามรักษาชีวิตแกมาตลอดนั่นแหละ...”

จีราวัจน์ได้พาแม่ไปพักจริงๆ แต่จริยากลับไม่ยอมไปไหน นอกจากเข้าวัดเพื่อสงบจิตสงบใจ

“แม่อยากหาเวลาตั้งสติ ส่วนจีก็ควรตั้งต้นชีวิตใหม่ ถ้าศาลตัดสิน...จีต้องอยู่โดยไม่มีแม่ให้ได้”

“ไม่นะ หนูจะไม่ยอมให้แม่รับโทษเด็ดขาด เราต้องได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

“เผื่อใจเถอะนะ เราต้องยอมรับความจริงให้ได้ ถ้าแม่ต้องรับโทษจริงๆ จีกลับไปเริ่มต้นกับสาธิตเขาดีไหม”

“แม่ก็รู้ว่าหนูทำอะไรไว้กับแฟนเขา เรื่องของเราคงเป็นไปไม่ได้”

“แต่จีรักเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่บอกเขาว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นจีไม่ได้ตั้งใจ ถ้าไม่ใช่เพราะยานั่น...เรื่องก็คงไม่เกิด”

“ถ้าไม่ใช่เพราะยานั่น...ป่านนี้เขาก็คงได้แต่งงานกับแฟนเขา เราคงไม่ต้องมาเจอกัน ทุกอย่างมันถูกลิขิตให้เป็นความผิดพลาด ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนกัน”

“ถึงมันจะเป็นความสุขบนความทุกข์แต่มันก็คุ้มนะ ดูอย่างเราสองคนสิ ถ้าแม่ไม่เจอคดี...จะมีวันที่เราแม่ลูกได้พูดคุยกันดีๆแบบนี้ไหม ความทุกข์มันก็เป็นแค่บททดสอบชีวิต ถ้าเราข้ามผ่านมันอาจจะเจอรางวัลยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ก็ได้”

“แม่เคยคิดไหมว่าถ้าแม่ไม่มีหนู ชีวิตแม่อาจจะดีกว่านี้ก็ได้”

“แม่เคยคิดแต่ว่าถ้าชีวิตนี้ไม่มีจี แม่คงไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้ด้วยซ้ำ เพราะจี...แม่ถึงได้สู้และรู้ว่าจะต้องกัดฟันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ถ้าจีเป็นแม่คน จีจะเข้าใจว่าถึงมันจะลำบากแต่ลูกก็ทำให้ชีวิตของแม่มีความหมาย แม่ไม่เคยเสียใจที่ให้จีเกิดมา ลูกมีความหมายกับแม่มาก”

คำสารภาพจากใจทำให้จีราวัจน์ตื้นตันมาก โถมตัวกอดแม่แน่น

“หนูรักแม่ ภูมิใจในตัวแม่ หนูจะแกร่งให้ได้ครึ่งของแม่ค่ะ”

ooooooo

เจนจิราถือโอกาสดูแลสาธิตไม่ห่าง เมื่อออกจากโรงพยาบาลก็ตามเฝ้าที่บ้าน คอยจัดการทุกเรื่องรวมทั้งเรื่องส่วนตัว ทนายหนุ่มอึดอัดใจมากเพราะไม่ได้รู้สึกกับเธอมากไปกว่ารุ่นน้องที่เอ็นดู ร้อนถึงปียากุลที่แวะมาเยี่ยมญาติหนุ่มเพื่อปรับทุกข์เรื่องสามีต้องช่วยกันท่าให้

ปียากุลหน่ายใจมากที่เจนจิราตามติดญาติหนุ่ม แต่ก็ไม่คณามือ ไม่เหมือนเรื่องชยันต์ที่พยายามเท่าไหร่ เธอก็ลบเขาจากใจไม่ได้ เหมือนอย่างวันนี้ที่เธอคิดถึงเขาแทบคลั่งตอนเปิดขวดน้ำผึ้ง

ภาพในอดีตวนเวียนมาอีกครั้ง ปียากุลมักมีปัญหาเปิดขวดน้ำผึ้งไม่ได้เสมอ และชยันต์ก็จะเปิดให้ทุกครั้ง ต่างจากวันนี้ที่เขาไม่ได้อยู่ข้างๆเธอแล้ว สาธิตสงสารญาติสาว มากแต่ก็ปลอบใจไม่ได้มาก

“ถ้าชยันต์เห็นคงสมน้ำหน้า กะอีแค่นี้เปี๊ยกก็ไม่มีปัญญา แล้วเปี๊ยกจะอยู่โดยไม่มีเขาได้ยังไง เปี๊ยกกลัว...กลัวจะเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ไหว เขาไปมีเมียมีลูกใหม่ แล้วเปี๊ยกจะอยู่ยังไง”

“พี่อยู่นี่ เปี๊ยกยังมีพี่ เปี๊ยกไม่ต้องกลัวอะไร”

“เปี๊ยกทำไม่ได้หรอก แค่นี้เปี๊ยกก็ยังทำไม่ได้ ชาตินี้เปี๊ยกอยู่โดยไม่มีเขาไม่ได้ เขาเลวมาก...มาทำให้เปี๊ยกขาดเขาไม่ได้ แล้วเขาก็ไป เพิ่งรู้ว่าความผูกพันมันก็ฆ่ากันได้...จะมีไหมสักวินาทีที่เขายังไม่ลืมว่ามีอีกคนที่รักเขาอยู่ตรงนี้...”

จีราวัจน์นำโฉนดที่ดินไปคืน แต่นวดีกลับไม่ยอมรับเพราะเห็นว่ามันมีมูลค่ามากเกินไป

“ที่คุณน้าทำที่หลุดจำนองก็เพราะคุณน้าไม่มีลูกสาวมาแบ่งเบาภาระหนี้ก้อนนี้ จีเป็นคนพาเขาไปจากคุณน้า จีก็แค่ชดใช้ด้วยการทำหน้าที่นี้แทนลูกสาวคุณน้าเท่านั้น คุณน้าอยู่ต่อให้สบาย ไม่จำเป็นต้องย้ายออกไปไหน”

“แต่นี่มันมากเกินไป น้ารับไว้ไม่ได้ ถ้าหนูอยากชดเชย น้าขอบอกว่าสิ่งที่น้าอยากได้ไม่ใช่บ้านหรือที่หรอกนะ น้าอยากได้ลูกสาวมากกว่า ถ้าหนูมาเป็นลูกสาวน้า...มันก็คงจะชดเชยแทนติวได้”

“คุณน้าไม่รังเกียจจีเหรอคะ”

“ครอบครัวเราสองคนต่างก็ไม่เหลือใคร น้าเองก็เหงา จะได้มีลูกสาวคนใหม่...หนูมาเป็นลูกสาวแม่ดีไหม”

สถานการณ์ของจีราวัจน์ค่อยๆดีขึ้น นวดียอมเปิดใจและรับเธอเป็นลูกสาวอีกคน ต่างจากปียากุลที่ทำใจไม่ได้เรื่องชยันต์จนอยากหนีไปเมืองนอก เมื่อชยันต์รู้เรื่องโดยบังเอิญก็จะรั้งไว้ แต่ก็ไม่มีใครยอมร่วมมือแม้แต่พัฒนะ อดีตพ่อตาที่เคยเข้าข้างเขาทุกครั้งที่มีปัญหากับปียากุล

ooooooo

สาธิตตัดปัญหาเจนจิราตามติดด้วยการย้ายไปบ้านนวดี แต่กระนั้น...ทนายสาวรุ่นน้องก็ตามมาส่งจนได้ นวดีเห็นท่าทางอึดอัดใจของอดีตว่าที่ลูกเขยก็อดไม่ได้จะถอนใจยาว

“คนที่อยากเจอก็ไม่กล้ามา ส่วนคนที่ไม่อยากให้มาก็ไม่กล้าปฏิเสธเขาไป ไม่รู้จะปากแข็งไปถึงไหน”

แต่เพียงไม่นานหน้าตาคนปฏิเสธคนไม่ออกก็ยิ้มร่า เมื่อรู้จากเด็กๆในบ้านนวดีว่าจีราวัจน์อยู่บ้านอารี แต่เมื่อเขาไปถึงกลับต้องหน้าตึง เพราะชยันต์ดันอยู่ด้วย แถมหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานราวกับเป็นคู่รัก

ภาพบาดตาบาดใจทำให้สาธิตโมโหหึง ผละไปดื้อๆ จีราวัจน์มองตามด้วยความน้อยใจที่เขาไม่ทัก ชยันต์พอเดาอาการพ่อแง่แม่งอนของทั้งสองออก เลยคิดแผนเอาคืนทนายหนุ่มด้วยการตามไปพูดยั่วว่าจะเริ่มต้นใหม่กับจีราวัจน์

“ความรักมันบังตาจนทำให้พี่เห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้เลยรึไง”

“อย่ามาพาล ไอ้ที่แกทำกับจีนี่เรียกว่าใจกว้างมากเลยไอ้น้องชาย”

“พี่จะมาแดกดันผมทำไม”

“พอฉันมาเริ่มต้นกับจี แกก็รับไม่ได้...ทั้งที่แกก็มีคนอื่นอยู่ อาการแบบนี้หวงก้างใช่ไหม”

“ผมไม่ได้หวง พี่อยากทำอะไรก็ทำไป...แต่ผมขอเตือนว่าถ้าพี่ยังไม่กลับใจ พี่จะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต!”

“ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันมั่นใจว่ามีคนจะต้องเสียใจมากกว่าฉันอีก”

อาการไม่ยอมรับใจตัวเองของสาธิตกับจีราวัจน์ทำให้ทุกคนรอบข้างเวียนหัว โดยเฉพาะอารี นวดีและชยันต์ที่อยากให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน และทั้งหมดก็ไม่ต้องรอนาน เพราะเย็นวันเดียวกันนั้น สาธิตกับจีราวัจน์ก็เผชิญหน้ากันจนได้ ท่ามกลางธรรมชาติบ้านสวนสวยงาม

แม้จะตั้งใจพูดกับจีราวัจน์ดีๆ แต่เมื่อถูกเธอมึนตึงใส่ สาธิตก็อดประชดประชันไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เธอกับแม่แก้แค้นสิทธา เขาก็ไม่รู้ว่าสองแม่ลูกทำแบบนั้นเพื่ออะไร

“แม่ต้องติดคุกเพราะฉันถือว่าพวกเราชดใช้ให้คุณพอแล้วรึยัง...ทุกอย่างที่เราติดค้างกัน ขอให้ทุกอย่างจบแค่นี้ได้ไหม ชีวิตแฟนคุณกับชีวิตของแม่ฉัน มันพอจะทดแทนกันได้บ้างไหม...ฉันขอล่ะนะให้เราจบลงตรงนี้ได้ไหม”

สาธิตใจหายวาบ “จบหมายความว่ายังไง”

“เราสูญเสียกันมามากเกินไป ต่างคนต่างควรจะมีชีวิตใหม่ ให้เรื่องนี้เป็นคลื่นลูกสุดท้าย ให้มันพัดเราผ่านไป ฉันอยากเห็นคุณกลับมามีชีวิตที่ดี...ที่สมบูรณ์อย่างที่คุณเคยมีก่อนหน้าที่จะมาเจอฉัน อโหสิให้ฉันนะคุณสาธิต”

“ไม่มีผมแล้วชีวิตคุณจะดีกว่านี้ใช่ไหม”

“ยินดีที่ได้รู้จัก ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีนักแต่ฉันจะจำมันไว้ รักษาตัวให้ดี ถึงเวลาที่คุณควรจะมีความสุขซะที”

พูดจบก็ยื่นมือให้จับ แต่สาธิตก็ไม่ยอมจับด้วย จีราวัจน์สะเทือนใจมาก หมุนตัวหนี ก่อนจะหาข้ออ้างกลับมาที่บ้านสวนของนวดีอีกรอบเพื่อนำถาดขนมมาให้เด็กๆ นวดีชอบใจมากและตอบแทนด้วยเมี่ยงกลีบบัว สาธิตกลับมาทันเห็นเธอพอดีเลยตัดสินใจโพล่งออกไป

“อย่ามาที่นี่อีก ถ้าคุณบอกว่าต้องการให้ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากให้ผมมีความสุขเหมือนก่อนที่คุณจะเข้ามาในชีวิต งั้นคุณควรไปซะ ไปจากชีวิตทุกคนที่นี่ เพราะถ้าคุณยังอยู่ ผมก็ไม่มีวันลืมเหตุการณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้”

จีราวัจน์ช้ำใจมาก แต่ก็ตัดใจตอบรับ “ฉันเข้าใจแล้ว...”

ooooooo

นวดีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ไม่พอใจเลยที่สาธิตไล่จีราวัจน์แบบนั้น ยิ่งเห็นทนายหนุ่มนั่งดูข่าวเกี่ยวกับคดีของสิทธาอย่างสนอกสนใจ ยิ่งเข้าใจว่าเขายังผูกใจเจ็บดาราสาว

สาธิตหน้าเจื่อน รีบบอกว่าไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น แต่ที่สนใจเรื่องคดีเพราะสงสัยและอยากช่วยว่าความให้จริยา นวดีได้ยินดังนั้นก็ถอนใจโล่งอก ก่อนจะยอมเล่าเรื่องจีราวัจน์กับจริยาช่วยไถ่ค่าที่ติดจำนองให้แทนติวดี

“เขาช่วยน้าโดยที่น้าไม่เคยร้องขอด้วยซ้ำ จีบอกว่ามันเป็นหน้าที่ที่เขาจำเป็นต้องทำแทนติว”

สาธิตถึงกับอึ้ง ไม่คิดมาก่อนว่าจีราวัจน์จะยอมทำขนาดนี้

“น้าไม่รู้หรอกว่าความผิดที่เขาเคยทำกับบุญคุณที่เขาช่วยเรามันทดแทนกันได้ไหม รู้แต่ว่าตลอดเวลาที่ธิตคิดจะเอาผิดเขา เขากลับทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเรา ถ้าจะมีใครสักคนที่ยังไม่สำนึกในเรื่องนี้ ก็มีแต่ธิตนี่แหละที่ยังไม่เปิดใจ”

เรื่องเล่าจากนวดีทำให้สาธิตสำนึกได้ และเพื่อไถ่โทษ เขาเลยพยายามพูดและทำดีกับเธอทันทีที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้งตอนที่จีราวัจน์แวะเอาถาดเมี่ยงดอกบัวมาคืน ดาราสาวรู้สึกแปลกใจแต่ก็สงวนท่าทีไม่ยอมพูดด้วย แต่กระนั้นทนายหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้ หมายมั่นปั้นมือจะทำให้เธอยอมอภัยและเริ่มต้นใหม่กับเขาให้ได้

และสิ่งแรกที่สาธิตทำให้จีราวัจน์คือส่งทนายไปช่วยจริยาเรื่องคดีของสิทธา แต่อดีตคุณหญิงกลับปฏิเสธ

“ไปบอกเขานะ ถ้าเขาอยากจะช่วยจริงๆ ให้เขาช่วยจีดีกว่า ฉันไม่ได้ตกเป็นเหยื่อหรอก ฉันทำตัวเองทั้งนั้น คนที่ตกเป็นเหยื่อคือจีต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน...จีก็คงไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วยซ้ำ”

เจนจิราที่เป็นหนึ่งในทีมทนายของสาธิต อดถามไม่ได้ “คุณหมายถึงคดีแฟนพี่ธิตเหรอคะ”

“สาธิตไม่จำเป็นต้องแก้ต่างให้ฉัน แต่ช่วยทำความเข้าใจจีใหม่ ถ้าจีไม่ถูกวางยา...ทุกอย่างคงไม่เป็นอย่างนี้”

“วางยา...คุณจะบอกว่าพี่จีถูกวางยาตอนที่ขับรถคันนั้นเหรอคะ”

“ไอ้สิทธามันวางยาจี จีขับรถออกไปแบบไม่มีสติ สิทธาคือคนร้ายตัวจริงในคดีนี้ ส่วนจีก็แค่เหยื่ออีกคนเท่านั้น เพราะอย่างนั้นเราถึงได้ช่วยกันปกป้องความผิดให้จี เพราะรู้ดีว่าจีไม่ใช่คนผิดตัวจริงในคดีนี้”

เจนจิราถึงกับพูดไม่ออก ความจริงจากจริยาทำให้รู้ว่าเข้าใจจีราวัจน์ผิดมาตลอด แต่เพื่อความแน่ใจ ทนายสาวเลยตัดสินใจไปถามเรื่องราวทั้งหมดจากนวดี โดยเฉพาะเรื่องความฝังใจของเขาที่คิดว่าจีราวัจน์เป็นฆาตกร

“เรื่องนี้ฝังใจธิตมาก เขาคิดว่าเขาเป็นทนายความแท้ๆ แต่กลับเอาผิดคนที่ฆ่าแฟนตัวเองไม่ได้ เพราะอย่างนี้ธิตถึงเอาแต่มองหนูจีเขาแต่ในแง่ร้าย”

“แล้วคุณน้าทำไมถึงทำใจได้”

“เพราะน้ารู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ หนูจีไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าใคร ถ้าธิตยอมรับว่า จีทำไปโดยไม่ตั้งใจ เขาก็จะเห็นความดีของหนูจีอย่างที่น้าเห็น แล้วธิตก็จะไม่ปิดตัวเองอย่างที่เป็นอยู่...”

ooooooo

คำพูดของนวดีคาใจเจนจิราอย่างมาก แล้วก็ได้คำตอบเมื่อสะกดรอยตามสาธิตจนพบว่าเขาแอบจ้างเด็กๆในบ้านนวดีเก็บดอกบัวจะนำไปให้จีราวัจน์ที่บ้านอารี แต่ทั้งทนายหนุ่มกับทนายสาวก็ต้องตะลึงงันแทน เมื่อเห็นว่าจีราวัจน์ไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่มีชยันต์มานั่งปรับทุกข์ด้วย

จีราวัจน์ไม่รู้เรื่องว่ามีใครแอบมอง มัวเห็นใจชยันต์ที่ต้องหย่าขาดจากปียากุล

“เวลาจีเจ็บ...พี่ยังอยู่ข้างจี คอยปลอบจี แล้วทำไมเวลาพี่เจ็บ...พี่ถึงไม่ยอมให้จีอยู่ข้างๆ อย่าบอกนะว่าเป็นผู้ชายแล้วอ่อนแอต่อหน้าผู้หญิงไม่ได้...ผู้ชายก็มีหัวใจ และจีก็รู้ว่าตอนนี้หัวใจของผู้ชายคนนี้กำลังเจ็บมาก”

ชยันต์อึ้งไปอึดใจ น้ำตาไหลอย่างสุดกลั้นเพราะทนเก็บกดความเสียใจมานาน

“เปี๊ยกเขาจะไปเมืองนอกแล้วจี เขากำลังจะไปจากพี่จริงๆ”

จีราวัจน์สงสารผู้กำกับหนุ่มมาก ก้าวไปกอดปลอบ โดยไม่รู้เลยว่าสาธิตกับเจนจิราแอบมอง ทนายหนุ่มสะเทือนใจมาก ทิ้งดอกบัวที่เก็บมาฝากลงพื้น เจนจิราเห็นอาการนั้นก็มั่นใจว่าสาธิตต้องรู้สึกบางอย่างกับจีราวัจน์

“รักคนที่ฆ่าแฟนตัวเอง มันจะเป็นไปได้ยังไง”

ความจริงที่ค้นพบทำให้เจนจิราคิดหนัก ลังเลว่าควรบอกสาธิตเรื่องจีราวัจน์ถูกสิทธาวางยาหรือไม่ เพราะตระหนักดีว่าหากสาธิตรู้ความจริง จีราวัจน์ก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์และรักกับเขาได้...

หลังจากปลอบจนคลายความเศร้าใจลงบ้าง ชยันต์ก็ปรับอารมณ์เป็นเอาการเอางาน เขาเป็นห่วงจีราวัจน์มาก เร่งแก้บทและเช็กคิวทุกอย่างไม่ให้กระทบกระเทือนลูกในท้องของดาราสาว

จีราวัจน์รับปากจะระวังตัวให้ดี ก่อนจะตัดสินใจบอกความตั้งใจว่าจะลาออกจากวงการทันทีที่ถ่ายละครจบ ชยันต์ตกใจมาก แต่คงไม่เท่าสุกี้ที่เตรียมรับงานใหญ่ไว้แล้วหลังจบงานละคร

ดาราสาวไม่มีทางเลือกต้องสารภาพเรื่องตั้งท้อง สุกี้ช็อกมาก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธจัดเมื่อรู้ว่าพ่อของเด็กคือสาธิต ผู้จัดการคนดังอยากจะบุกไปเอาเรื่องและบอกความจริงแต่จีราวัจน์ก็ห้ามไว้

“อย่าไปหาเขา เขาไม่รู้ว่าจีท้อง และจีก็ไม่ต้องการให้เขารู้ ทุกอย่างที่เกิด...มันเกิดจากจี จีชดใช้ให้เขาแล้ว ลูกเป็นชีวิตบริสุทธิ์ เขาไม่เกี่ยวกับความเกลียดแค้นนี้ จีต้องการให้เขารู้แต่ว่าเขาเกิดมาจากความรัก และจีก็รักเขามาก”

“เหมือนที่จีรักพ่อของเขามากใช่ไหม”

คำถามของสุกี้แทงใจดำอย่างแรงจนจีราวัจน์ น้ำตาไหล

“ไม่เป็นไร...ถึงลูกจีไม่มีพ่อ แต่ยังมีคนที่ดีกว่าพ่อเขาเยอะแยะอยู่ข้างๆเขากับจี...อย่างน้อยก็พี่คนหนึ่ง จีไม่บอกเรื่องนี้กับผู้ชายคนนั้นก็ดี คนใจร้ายอย่างนั้นไม่ควรรู้ข่าวดีอย่างนี้ ปล่อยให้เขามีชีวิตกับความมืดเพราะหัวใจบอดต่อไป!”

ooooooo

หลังตกลงกันได้ สุกี้ก็ทำหน้าที่ผู้จัดการที่ดีด้วยการแจ้งพัฒนะว่าจีราวัจน์จะถอนตัวจากละครเรื่องถัดไปเพราะจะพาจริยาไปพักผ่อนและพักรักษาตัวจากอาการภูมิแพ้

“หมอแนะนำให้ไปรักษาตัวกับหมอที่ต่างประเทศสักพักครับ”

พัฒนะถอนใจยาว เดาสถานการณ์ได้ “สุกี้...ผมอยู่วงการนี้มานาน อยู่ตั้งแต่คุณยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าคุณ อยากเป็นผู้จัดการดารา แล้วคุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอว่านางเอกที่กำลังรุ่งแต่กลับจะออกจากวงการเพราะโรคภูมิแพ้”

สีหน้าและแววตาเอาจริงของพัฒนะทำให้สุกี้หน้าเสีย พึมพำเบาๆ

“เอาเป็นว่าสุกี้พูดไม่ได้ครับ”

“งั้นผมพูดแทนให้เอง...หนูจีท้องใช่ไหม”

ท่าทางอึกๆอักๆของสุกี้ทำให้พัฒนะได้คำตอบ และไม่รอช้าจะไปคาดคั้นความจริงจากชยันต์

“ไม่ใช่ครับ...ถึงผมจะเป็นสามีที่ไม่ดี แต่ผมเชื่อว่าผมมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าไอ้ธิตครับ”

พัฒนะถึงกับชะงัก หน้าถอดสี “แล้วแกเอาสาธิตมาเกี่ยวอะไรด้วย นี่แกอย่าบอกนะว่าสาธิต...แกอย่าโยนความผิดปัดความรับผิดชอบเหมือนที่แกทิ้งหลานฉันนะ!”

ชยันต์อ้าปากค้าง พัฒนะเลยเล่าเรื่องปียากุลตั้งท้อง พร้อมกับเร่งให้อดีตลูกเขยตามไปง้อลูกสาว ผู้กำกับหนุ่มไม่รอช้ารีบไปรั้งอดีตภรรยาไม่ให้ไปสนามบิน ปียากุลตะลึงมากที่ได้เจออดีตสามี

“นี่เกลียดกันขนาดจะไม่ให้ลูกมีพ่อเลยรึไง”

“ไปมีลูกกับคนอื่นแล้วจะมาสนทำไม ฉันไม่มีวันให้ลูกแบ่งพ่อกับใคร ถ้ามีพ่อของตัวเองไม่ได้ ก็อย่ามีดีกว่า!”

“แล้วใครบอกเปี๊ยกว่าผมมีลูกกับจี”

“ฉาวโฉ่ขนาดนี้ คิดว่าจะปิดกันมิดรึไง”

“ที่เปี๊ยกยอมหย่าก็เพราะจะเอาลูกไปเป็นของตัวเองคนเดียวใช่ไหม”

ปียากุลไม่ตอบ สะบัดหน้าหนีจะขึ้นรถไปสนามบิน ชยันต์รีบตามไปตะครุบตัว

“เลิกเอาแต่อารมณ์ซะทีได้ไหม”

“ไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลยนะ หย่าก็หย่าให้แล้วจะมาตอแยอะไรอีกนักหนา”

“เปี๊ยกจะใช้แต่อารมณ์มาตัดสินอนาคตลูกไม่ได้”

ขาดคำก็โยนกระเป๋าเดินทางลงข้างทางและแย่งหนังสือเดินทางของเธอมาฉีกทิ้ง

“จีไม่ได้ท้องกับผม!! เด็กในท้องนั่นมันลูกไอ้ธิต ที่ผมต้องไปรับผิดชอบจีก็เพราะพี่ชายตัวดีของเปี๊ยกนั่นแหละ!”

“รักกันมากจนต้องไปออกรับเป็นพ่อให้มัน เท่านี้ใช่ไหมที่คุณอยากบอกฉัน”

“ถ้าผมรู้ว่าเปี๊ยกท้องอยู่ผมก็ไม่ทิ้งเปี๊ยกหรอกนะ ผมไม่เคยมีอะไรกับจี...ที่ผมรักก็คือเปี๊ยกคนเดียวแค่นั้น เปี๊ยกจะพังชีวิตผมกี่ที ผมไม่ว่า แต่ลูกไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ผมไม่มีวันให้เขาต้องมารับกรรมแค่เพราะเราไม่เข้าใจกัน!”

ooooooo

คลื่นชีวิต

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด