icon member

คลื่นชีวิต

ตอนที่ 12

อุบัติเหตุของสาธิตกลายเป็นข่าวใหญ่วันเดียวกัน นั่นเอง ทุกคนที่รับรู้ถึงกับประสาทเสีย โดยเฉพาะจีราวัจน์ร่ำไห้ด้วยความสะเทือนใจอย่างหนักเพราะเป็นคนสุดท้ายที่คุยกับเขา

เจนจิราก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและเสียใจไม่แพ้กัน ทนายสาวรีบมาดูอาการสาธิตถึงโรงพยาบาล จนกระทั่งหมอ และพยาบาลพาเขาออกจากห้องผ่าตัด จีราวัจน์ก็มาถึง พร้อมกับคนอื่นๆ ทนายสาวลืมความโศกเศร้าชั่วขณะ โพล่งออกไปด้วยความโมโหปนคับแค้นใจ

“พี่จีก็รู้ไม่ใช่เหรอคะว่าที่พี่ธิตเป็นอย่างนี้เพราะนายสิทธา...พ่อเลี้ยงพี่จี เจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่แม่พี่จีเอาหลักฐานมาให้พี่ธิต มันเป็นแผนซ้อนแผนอะไรอีกรึเปล่า แต่ฝากบอกพ่อเลี้ยงพี่จีด้วยนะคะ ต่อให้เขาฆ่าพี่ธิต ก็ยังมีเจน ยังมีทีมทนายที่จะทำทุกอย่างเพื่อเอาผิดพ่อเลี้ยงพี่จี!”

เจตรพยายามห้ามเจนจิราไม่ให้โวยวาย แต่กลับต้องสูญเปล่า เพราะไม่ใช่น้องสาวที่ต้องระวัง แต่เป็นปียากุลที่โกรธจนตัวสั่นเมื่อได้ยินว่าสิทธาเป็นคนบงการเรื่องนี้ พัฒนะไม่รอช้าถลาไปห้ามลูกสาว แต่ก็ไม่ค่อยได้เรื่องนัก

“เปี๊ยกไม่เย็น! มันฆ่าคุณติว มันทำลายชีวิตเปี๊ยก แล้วยังจะฆ่าพี่ธิตอีก ทำไมจีราวัจน์! พวกฉันไปสร้างความเกลียดแค้นอะไรให้เธอ เธอถึงทำลายชีวิตพวกฉันไม่จบไม่สิ้น”

จีราวัจน์หน้าเสีย พยายามจะอธิบายความจริง แต่ปียากุลก็อารมณ์พุ่งปรี๊ดจนฉุดไม่อยู่เสียแล้ว

“ไม่ว่าพี่ธิตจะเป็นยังไง ฉันจะเอาเรื่องทั้งเธอ ทั้งพ่อเลี้ยงเธอให้ถึงที่สุด!”

ตวาดจบก็ทำท่าจะตบ แต่ชยันต์ก็มาขวางไว้ ทำให้ปียากุลยิ่งเดือด แหวลั่น

“รักมันหลงมันจนมองไม่เห็นเลยใช่ไหมว่ามันกับครอบครัวทำชั่วยังไงมั่ง หรือลืมไปแล้วว่าคนที่นอนปางตายในห้องผ่าตัดคือคนที่คุณบอกว่าเป็นน้องชาย!”

พัฒนะเห็นท่าไม่ดี สั่งลูกเขยพาดาราสาวกลับก่อน แต่จีราวัจน์ก็ขืนตัวไว้ “จีขอโทษที่จีสร้างความเจ็บปวดให้กับคนในครอบครัวของคุณ แต่ไม่ต้องห่วง ใครทำคุณสาธิต มันต้องได้รับโทษ...จีสัญญา!”

ooooooo

จีราวัจน์ผลุนผลันออกจากโรงพยาบาลตามลำพัง โดยทิ้งสุกี้ ดารากา เจตร และชยันต์ให้เฝ้าอาการของสาธิต โดยมีจุดมุ่งหมายจะไปเคลียร์กับแม่ แต่กลับต้องกรีดร้องเสียงหลงแทนเมื่อถูกลูกน้องของสิทธาจับตัวไปกลางทาง!

จริยาที่ทะเลาะกับลูกสาวคนเดียวทางโทรศัพท์ตกใจมาก เสียงร้องของอีกฝ่ายดังก้องในหัว ก่อนจะต้องโกรธจนหน้าแดงเมื่อสิทธาโทร.มาเย้ยหลังจากนั้นว่า

จีราวัจน์อยู่ในกำมือเขา ให้ส่งมอบหลักฐานทั้งหมดเพื่อแลกตัวคืน

จีราวัจน์ได้ยินดังนั้นก็พยายามหาทางหนี แต่ก็ถูกสิทธาขวางไว้ด้วยสีหน้าหื่นกระหาย

“อย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันฆ่าแกแน่!”

“อย่าพยายามเลยจีราวัจน์ เธอก็เห็นแล้วว่าขนาดไอ้ทนายคนรักของเธอยังทำอะไรฉันไม่ได้ ตอนนี้พะงาบๆ เป็นหมาโดนรถทับ รอฉันอยู่ในนี้...รอแม่เธอเอาหลักฐานมาคืนฉัน แล้วเราค่อยมาเจรจาว่าเธออยากเป็นเมียแบบไหน ของฉัน”

“แม่ไม่มีทางเอาหลักฐานมาให้แก ชีวิตฉันมันไม่มีค่าสำหรับแม่ขนาดนั้น”

ขาดคำ เสียงแตรรถของจริยาก็ดังขึ้น สิทธายิ้มร้าย ด้วยความสาสมใจ

“สงสัยแม่เธอเอาหลักฐานมาให้ฉันแล้วล่ะ รู้แล้วสินะว่าชีวิตเธอมีค่าสำหรับแม่ แต่น่าเสียดายที่รู้เมื่อสาย”

“ไอ้สารเลว...แกอย่าทำอะไรแม่ฉันนะ เพราะถึงแกหนีคุกได้ แต่แกไม่มีวันหนีความตายได้”

“แต่กว่าฉันจะตายก็คงต้องมีอีกหลายคนตายก่อน ...ทั้งไอ้ทนายสาธิต และรายต่อไปคือแม่เธอ!”

ระหว่างที่ศิริลักษณ์ขัดขวางจริยาไม่ให้พบสิทธา เจ้าพ่ออสังหาฯจอมหื่นก็ย่างสามขุมหาลูกเลี้ยงสาว

จีราวัจน์เบี่ยงตัวหนีก่อนจะตอบโต้อย่างไม่กลัวเกรง

“แล้วคิดว่าฉันจะยอมให้แกทำอะไรแม่ฉันเหรอ”

“เพราะฉันรู้ว่าเธอเป็นลูกกตัญญู ฉันถึงให้โอกาสเธอนี่ไง แค่เธอยอมเป็นเมียฉัน ทั้งเธอกับแม่ก็จะปลอดภัย”

“สิ่งเดียวที่ฉันยอมเป็นคือคนฆ่าแก!”

เสียงกรีดร้องของลูกสาวคนเดียวทำให้จริยาหน้าซีด รับรู้ได้ในวินาทีนั้นว่าตัวเองต้องฝ่าด่านของศิริลักษณ์ไปให้ได้ โดยไม่รู้เลยว่าจีราวัจน์กำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็คว้าแจกันแตกมาเป็นอาวุธ

“ฉันไม่ยอมให้แกฆ่าคนที่ฉันรักอีกแล้ว”

“เธอคิดจะฆ่าฉันด้วยไอ้ของแบบนี้เหรอ”

“ลองไหมล่ะ...ฉันจะเจาะหลอดลมแก ให้เลือดแก ค่อยๆออก ให้แกตายช้าๆ ให้แกทรมานให้สาสมกับที่แกทำลายชีวิตคุณติว ชีวิตคุณสาธิต ชีวิตฉัน ชีวิตแม่!”

จีราวัจน์คงจะฟาดแจกันแตกบนหน้าของพ่อเลี้ยงจอมหื่นแล้ว ถ้าเสียงร้องของจริยาจะไม่ดังจากนอกห้อง ดาราสาวตกใจมาก กลัวจับจิตว่าแม่จะเป็นอันตราย เปิดโอกาส ให้สิทธาถลาไปตะครุบตัวพร้อมกับหยิบปืนมาจ่อหัว!

แต่ไม่ทันที่สิทธาจะยิงลูกเลี้ยงสาว จริยาที่จัดการศิริลักษณ์ตายจมกองเลือดก็ฝ่าด่านบอดี้การ์ดหน้าห้องเข้าไปช่วยลูกสาวคนเดียว จีราวัจน์หลับตาปี๋เพราะคิดว่า ตายแน่ แต่ก็ต้องเบิกตาโพลงแทนเมื่อได้ยินเสียงปืนหลายนัด ร่างของสิทธาที่กองกับพื้น พร้อมการปรากฏตัว ของจริยา

“มันทำอะไรแกไม่ได้อีกแล้ว...ไม่ต้องกลัวนะ”

“แม่ทำแบบนี้ทำไม กลับมาช่วยจีทำไม”

“เพราะแกเป็นลูกฉันไง ฉันถึงทิ้งแกไปไม่ได้ แกรีบไปก่อนที่ตำรวจจะมาเถอะ”

“ไม่! หนูปล่อยให้แม่รับผิดชอบทุกอย่างคนเดียวไม่ได้ หนูจะบอกทุกคนว่าที่แม่ทำเพราะช่วยหนู”

“แม่ยอมแลกอนาคต แม่ซื้อชีวิตใหม่ให้จี อย่าเอาตัวเองมาแปดเปื้อนกับเรื่องนี้ ออกไป”

จริยาเร่งให้ลูกสาวออกจากที่เกิดเหตุ แต่จีราวัจน์ก็ไม่ขยับ โพล่งออกไปอย่างเหลืออด

“หยุดไล่หนูสักที แม่ยังไม่เห็นอีกเหรอ แม่ไล่หนูมาตลอดชีวิตแต่หนูไม่เคยไปไหน ขนาดนายสิทธา ทำลายชีวิตหนู หนูก็ไม่ไป เพราะสิ่งที่หนูต้องการที่สุด ในชีวิตไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง แต่หนูต้องการแม่!”

จริยาใจอ่อนยวบ น้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความสะเทือนใจสุดขีด

“อย่าไล่หนูเลยนะ ไม่ใช่แม่คนเดียวที่ทิ้งหนูไม่ได้ หนูก็ทิ้งแม่ไม่ได้เหมือนกัน ถึงแม่ไม่รักหนูแต่หนูรักแม่นะ”

น้ำตาและน้ำเสียงสั่นเครือของจีราวัจน์ ทำให้จริยาทนใจแข็งต่อไม่ไหว คว้าตัวมากอดเป็นครั้งแรก

“จี...แม่ขอโทษ ขอโทษที่บอกลูกช้าไป แต่ขอให้รู้ไว้ว่าแม่รักลูก...รักมากที่สุด”

ooooooo

จีราวัจน์ไปเป็นเพื่อนแม่ให้ปากคำที่สถานีตำรวจ เมื่อสุกี้ ดารากา และเจตรรู้เรื่องก็รีบไปรับพร้อมหลักฐานประกันตัวจริยา จีราวัจน์จะปักหลักอยู่กับแม่ด้วยความเป็นห่วง แต่อีกสามคนที่เหลือไม่ยอม ไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวฉาวโจมตีดาราสาวให้ต้องเจ็บปวดไปกว่านี้

เมื่อไม่มีที่ไป จีราวัจน์จึงกลับไปพักที่คอนโดและหลับไปโดยไม่รู้ตัวเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน พลันก็ได้สะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องของโรงพยาบาล พร้อมร่างของสาธิตที่ยังไม่ฟื้น ดาราสาวเอื้อมไปจับมือเขา

“คุณอย่าเป็นอะไรนะ ขอแค่คุณยังอยู่ให้ฉันได้รู้ว่าคุณสบายดี แล้วคุณจะต่อว่า จะโกรธจะเกลียดฉันก็ได้ทั้งนั้น...แต่อย่าทิ้งฉันไปแบบนี้ คุณอย่าทิ้งฉันไปนะ... ฉันขอร้อง”

เสียงร้องไห้ของเธอทำให้สาธิตรู้สึกตัว ลืมตาช้าๆ พร้อมกับพึมพำเสียงเบา

“ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอก ผมจะอยู่แก้แค้นคุณ ตอแยคุณ ลงโทษคุณ ผมจะไม่ไปจากคุณ...”

จีราวัจน์ยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นเขาฟื้น แต่เพียงไม่นาน ก็ต้องหน้าเจื่อนเมื่อเขาโวยลั่นที่ขยับขาไม่ได้!

เสียงร้องของสาธิตทำให้จีราวัจน์สะดุ้งตื่น รับรู้ ได้ในตอนนั้นว่าเรื่องของสาธิตเป็นแค่ฝันร้าย ดารากาที่ได้ยินเสียงร้องรีบวิ่งมาดู แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรัก

“ทำไมดาวถึงดูไม่ออกว่าจีรักคุณสาธิตมากขนาดนี้ ดาวขอโทษนะจี...ที่ดาวทิ้งให้จีต้องเจอกับอะไรมากมายคนเดียว ถ้าดาวกลับมาช้ากว่านี้ ดาวต้องไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่ ไม่ต้องห่วงนะจี คุณสาธิต เป็นคนดี เขาผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายมาเยอะ...ครั้งนี้เขาก็ต้องผ่านได้...”

คดีของจริยากลายเป็นข่าวใหญ่ในชั่วข้ามคืน เพราะผู้ตายไม่ใช่แค่ศิริลักษณ์สาวใช้ประจำบ้าน ยังมีสิทธาเจ้าพ่ออสังหาฯรายใหญ่ด้วย แน่นอนว่ามีการพาดพิงถึงจีราวัจน์ แต่สุกี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีจนดาราสาวไม่ต้องให้สัมภาษณ์

พิมกับลูกน้ำแค้นใจและคิดหาทางจะกำจัดจีราวัจน์ โดยไม่รู้เลยว่าดาราสาวไม่ได้ยี่หระ มัวกังวลที่จริยาไม่ยอมให้ประกันตัวและยืนยันจะไม่ยอมสู้คดี

“แม่ไม่ได้จงใจฆ่าเขา แม่มาปกป้องหนู”

“ถ้าสู้กันในศาลก็จะต้องถูกขุดคุ้ยประวัติขึ้นมา แม่ไม่อยากมีอะไรพาดพิงให้จีเสื่อมเสีย”

“หนูไม่กลัวหรอกค่ะ มันเป็นความจริงนี่คะ”

“แต่เรื่องนี้จะติดตัวจีไปจนตาย แม่อยากให้จีไปมีชีวิตใหม่ ไม่ใช่ต้องมีอดีตฉาวๆพวกนี้ติดตัวไป”

จีราวัจน์ร้องไห้ สะเทือนใจอย่างหนักที่แม่เสียสละเพื่อตนขนาดนี้ จริยาก็สภาพไม่ต่างกัน

“เชื่อแม่นะ...แม่รับผิดไปแล้วว่าแม่ทำเองคนเดียว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจี”

“มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าชีวิตใหม่ของหนูไม่เหลือใคร”

“รับสารภาพ แม่ก็จะได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เรายังพอมีโอกาสจะได้ออกไปอยู่ด้วยกัน”

“แบบนี้มันไม่ยุติธรรม”

“แต่มันคุ้มค่าที่จะได้เห็นจีเป็นอิสระ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ จีจะไม่ต้องมาเจออะไรเลวร้าย อย่าโทษตัวเอง จีมีสิทธิ์จะมีชีวิตที่ดีๆ และมีความสุขอย่างที่คนอื่นมีได้ แม่ซื้อความสุขให้จี จีอย่าทำให้การเสียสละครั้งนี้ของแม่ต้องสูญเปล่าเข้าใจไหม ต่อไปนี้จะต้องมีความสุขให้แม่ชื่นใจ ทุกอย่างที่แม่ทำลงไปมันถึงจะคุ้มค่า”

ooooooo

ปียากุลนั่งดูข่าวการตายของสิทธาด้วยความสังเวชใจ ก่อนจะตาลุกวาวเมื่อเห็นภาพชยันต์พยุงจีราวัจน์ออกจากโรงพัก พัฒนะเห็นสีหน้าลูกสาวก็พอเดาได้ ตั้งท่าจะพูดปลอบ แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว

“ชยันต์ไม่ไว้หน้าเปี๊ยกเลย ถึงได้ไปออกโรงปกป้องจีขนาดนี้”

“ก็ถ้าเปี๊ยกยืนยันจะไม่บอกชยันต์เรื่องลูก ทุกอย่างก็ต้องลงเอยแบบนี้ แต่ถ้ารู้...ชยันต์อาจจะกลับมา”

“เขาไม่มีสิทธิ์ในตัวลูกตั้งแต่ที่เขาทิ้งเปี๊ยกไปอยู่กับจีแล้วค่ะ เขาประกาศตัวออกสื่อขนาดนี้ เท่ากับเขาหักหน้าเปี๊ยกเต็มๆเลยนะคะ คงจะบีบให้เปี๊ยกหย่ากับเขาวันนี้พรุ่งนี้”

พูดจบก็ลุกพรวด อาการหน้ามืดก็เกิดขึ้นอีก พัฒนะ ถลาไปประคองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง กำชับให้กินยาแก้แพ้และยาบำรุงครรภ์ไม่ให้ขาด ปียากุลสะเทือนใจมาก สิ่งที่พ่อทำยิ่งตอกย้ำให้เธอคิดถึงชยันต์จับใจ

พัฒนะเองก็พอเดาอาการลูกสาวได้ เสนอตัวจะช่วยพูดกับชยันต์ แต่ก็ถูกเธอห้ามไว้

“ชยันต์เขาเลือกแล้วค่ะพ่อ ในเมื่อเขาไม่ต้องการเปี๊ยกกับลูก เปี๊ยกก็มีศักดิ์ศรีพอจะอยู่เองได้ สมัยนี้มีผู้หญิงตั้งเยอะตั้งแยะที่เขาเลี้ยงลูกคนเดียวได้ เปี๊ยกก็ต้องทำได้”

“ใครบอกว่าเปี๊ยกเลี้ยงลูกคนเดียว ถึงไม่มีพ่อของเจ้าตัวเล็ก แต่ยังมีพ่อของเจ้าตัวเปี๊ยกอยู่ทั้งคน พ่อเคยขุนแม่เปี๊ยกอ้วนขึ้นยี่สิบกว่ากิโลได้ เดี๋ยวพ่อจะขุนเปี๊ยกให้อ้วนขึ้นกว่าแม่ให้ดู”

ปียากุลโผกอดพ่อแน่น พัฒนะสงสารและเห็นใจลูกสาวมาก กระชับอ้อมแขน พร้อมปลอบเสียงอ่อน

“พ่อรู้ว่ามันยาก แต่เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน เปี๊ยกไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เปี๊ยกยังมีพ่อทั้งคนอยู่ตรงนี้...”

ไม่ใช่แค่ปียากุลที่ต้องจมกับความเสียใจ จีราวัจน์ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน หัวใจหนักอึ้ง กลุ้มใจทั้งเรื่องแม่และเรื่องสาธิตที่ยังไม่ฟื้น ดารากาเฝ้าดูแลไม่ห่าง สงสารเพื่อนรักจับใจที่กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะห่วงคนที่รักทั้งสอง

“จีกลัว...จีไม่กล้านอน จะให้จีนอนหลับลงได้ยังไง ในเมื่อรู้ว่ามีใครกำลังเดือดร้อนเพราะจี”

“ไม่เอาจี อย่าโทษตัวเองอย่างนี้”

“ทำไมชีวิตมันถึงยากอย่างนี้”

“รอเวลานะจี พรุ่งนี้มันต้องดีกว่าวันนี้”

จีราวัจน์พยายามทำใจให้คิดเช่นนั้น แต่ภาพบาดใจในวันต่อมาเมื่อเธอไปเยี่ยมสาธิตที่โรงพยาบาล เจนจิราเฝ้าอาการเขาไม่ห่างก็ทำให้เธอปวดใจมากจนต้องผละไปดื้อๆ โดยมีนวดีที่เพิ่งมาถึงมองตามด้วยความสงสัย

เจตรกับดารากามาถึงหลังจากนั้น นวดีเลยถามถึงจีราวัจน์ด้วยความเป็นห่วง เจนจิราที่ปักใจว่าดาราสาวไม่ได้หวังดีกับสาธิต อดโพล่งออกไปด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้

“แปลกดีที่พี่จีมีแก่ใจห่วงพี่ธิต”

ดารากาได้ยินก็ของขึ้น ตอกกลับเสียงเรียบว่าจีราวัจน์คือคนสุดท้ายที่ได้คุยกับสาธิต

“มันช็อกความรู้สึกของจีมาก เหมือนมีใครมาฆ่าคุณสาธิตต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาช่วยอะไรไม่ได้”

“พี่ธิตอยู่กับพี่จีเป็นคนสุดท้าย”

“คุณจีก็เลยรู้สึกติดค้างในใจตลอดหลายวันที่ผ่านมา” เจตรเสริมแฟนสาว

“จีคงไม่กล้าสู้หน้า เลยได้แต่แอบมาดูอาการอยู่ห่างๆ...”

ooooooo

เรื่องระหว่างสาธิตกับจีราวัจน์ยังเป็นปริศนาของเจนจิราและใครอีกหลายคน แต่คงไม่ใช่กับดารากา เพื่อนสาวผู้ใกล้ชิดและดูแลดาราสาวตลอด เจตรเข้าใจสถานการณ์ดี แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้เมื่อแฟนสาวหมาดๆไม่ยอมบอกเรื่องสถานภาพของเขากับเธอให้จีราวัจน์รู้

“ก็แล้วทำไมคุณจีจะรู้เรื่องเราไม่ได้”

“ไม่ใช่รู้ไม่ได้ แต่มันยังไม่ใช่เวลา ดาวไม่อยากให้จีรู้สึกว่าดาวหนีไปมีความสุขตอนที่จีกำลังเศร้า”

“โธ่...คุณดาวก็ห่วงแต่เพื่อนคุณ แล้วผมล่ะ”

“โสดมาได้ตั้งกี่ปี แค่นี้ทนไม่ได้ก็เว่อร์ไปแล้ว”

“โอเคๆ ผมไปอยู่แท่นแค่สามเดือน ต้องกินข้าวคนเดียวแค่เก้าสิบวัน ไม่ได้เจอคุณดาวแค่สองพันหนึ่งร้อยหกสิบชั่วโมง ไม่ได้ยินเสียงแค่หนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยนาทีแค่นั้นเอง...ไม่ทำให้ผมเหงาหรอกครับ”

“แล้วคุณเจตรอยากได้อะไรถึงจะทำให้คุณเจตรหายเหงา”

เจตรอมยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยื่นแก้มไปใกล้เธอ ดารากาหน้าแดงก่ำ รู้ดีว่าเขาต้องการอะไรแต่ก็แกล้งบ่ายเบี่ยงด้วยความเขิน เลยถูกวิศวกรหนุ่มเอาคืนด้วยการยื่นหน้าไปชนจมูกเธอเสียเอง

“แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว ผมไปก่อนนะ...”

เจตรกลับไปทำงานที่แท่นขุดเจาะน้ำมันหลายวันแล้ว สถานการณ์กลับสู่สภาพปกติ แต่ก็วุ่นวายไม่เลิก ทั้งเรื่องคดีของจริยาและเรื่องหึงหวงของปียากุล จีราวัจน์ก็เครียดมากเรื่องสาธิต ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้งานละคร หวังจะให้งานหนักช่วยให้ลืมเรื่องทุกข์ใจ แต่ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะเธอดันเป็นลมกลางกองถ่าย

ชยันต์ตกใจมาก รีบพาดาราสาวส่งโรงพยาบาล โดยมีสุกี้ตามติด จีราวัจน์ที่หน้ามืดบ่อยครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมาสังหรณ์ใจ แอบไปซื้อที่ตรวจครรภ์แต่ไม่ทันได้ใช้ หมอก็แจ้งข่าวร้ายเสียก่อนว่าเธอตั้งครรภ์!

จีราวัจน์เครียดมากและตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ชยันต์ก็แอบรู้จนได้ โดยไม่รู้เลยว่าระหว่างที่เขาตามจับผิดจีราวัจน์ ปียากุลก็มาฝากท้องที่โรงพยาบาลเดียวกันและได้ยินความลับนั้นด้วย

ปียากุลหน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างโกรธจัด และไม่รอช้าจะประกาศกร้าวต่อหน้าสามีทันทีที่เจอหน้ากันในห้องพักฟื้นของสาธิต

“พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าเจอกันที่เขต หย่ากันให้จบๆ ในเมื่อไม่มีใครรักกันแล้วก็ปล่อยกันไปสักที คุณจะได้ไปมีชีวิตของคุณ ส่วนเปี๊ยกจะได้เลิกเป็นควายให้คุณหลอกสักที”

ชยันต์ปวดใจมาก อยากจะอธิบายความจริงแต่ทิฐิและอคติของภรรยาจอมหึงก็ทำให้โพล่งออกไป

“คุณไม่เคยฟังผมเลยจริงๆสินะ ได้...พรุ่งนี้เจอกัน!”

ooooooo

คำตอบตกลงของชยันต์ทำให้ปียากุลแทบคลั่ง สาธิตฟื้นมาทันเห็นสภาพนั้นของญาติสาว อยากจะพูดปลอบแต่ก็พูดไม่ออก มัวเป็นห่วงจีราวัจน์ที่กำลังมีปัญหาเพราะคดีของจริยา

จีราวัจน์ก็เป็นห่วงสาธิตไม่ต่างกัน ทันทีที่รู้จากดารากาว่าเขาฟื้นแล้ว ก็อยากไปหาเขามาก

“สมองปกติดีแต่ยังเดินไม่ได้ จีอยากไปเยี่ยมเขาไหม”

“จีไม่กล้าสู้หน้าเขาหรอก เขาเจ็บเพราะจี เขาอาจจะโทษที่จีทำให้เขาเป็นอย่างนี้ แค่รู้ว่าเขาปลอดภัย จีก็ดีใจ”

แต่กระนั้นก็อดใจไม่ไหว แอบไปด้อมๆมองๆหน้าห้องเขา นวดีแอบเห็นเลยตัดสินใจพูดกับสาธิตตรงๆ

“จนขนาดนี้แล้วธิตยังอยากจะแก้แค้นคนบ้านนี้อีกรึไง”

“แค่สงสัยที่ภรรยาเขารับสารภาพง่ายๆ คนรักตัวเองอย่างนั้นทำไมไม่สู้คดี ต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ครับ”

“แล้วธิตคิดจะทำอะไร อย่าจองเวรจองกรรมกันอีกเลยนะ เกือบเอาชีวิตไปทิ้งยังไม่เข็ดอีกรึไง”

“ผมก็แค่สงสัย”

นวดีถอนใจยาว เตือนเสียงอ่อน “อุตส่าห์รอดมา น้าอยากให้ธิตมีชีวิตใหม่ อย่าผูกจิตอาฆาตครอบครัวหนูจีเขาอีกได้ไหม หนูจีเขาห่วงธิตมาก ธิตไม่รู้ตัวหรอกว่าเขารู้สึกผิดแค่ไหน เขามาเยี่ยมธิตตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวว่าธิตจะไม่ให้อภัยที่ครอบครัวเขาทำให้ธิตมีสภาพแบบนี้”

สาธิตซึ้งใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าจีราวัจน์จะห่วงเขา แต่ก็ยังเก็บอาการจนนวดีอ่อนใจ

“ถ้าไม่จมอยู่กับความโกรธ ธิตก็น่าจะรู้ว่าหนูจีเต็มใจชดใช้ให้ธิตแล้วทุกอย่าง ถ้าธิตลดทิฐิ ความโกรธความเกลียดลงบ้าง ธิตจะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย ขนาดหนูจีป่วยมารักษาตัวอยู่ที่นี่ เขายังแอบแวะมาดูอาการธิตเลยรู้ไหม น้าเจอเขาเมื่อกี้ เขาแอบมาดูอาการของธิตที่หน้าห้อง”

“เขามาเหรอครับ”

“น้าไม่ได้มาขอร้องให้หนูจี แค่อยากให้ธิตเปิดใจ ธิตจะได้ไม่ต้องถูกขังอยู่กับเรื่องเก่าๆอีกต่อไป ยิ่งตั้งกำแพง หัวใจธิตก็ยิ่งมืดบอด ปล่อยวางแล้วหันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะที”

ระหว่างที่สาธิตคิดหนักเรื่องจีราวัจน์ ปียากุลก็นั่งรอที่สำนักงานเขตด้วยความกระวนกระวายใจ สับสนอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ควรจะหย่ากับสามีหรือไม่ พัฒนะดูออก ตั้งท่าจะห้ามแต่ก็ถูกดักคอ

“ถ้าคุณพ่อจะห้ามเปี๊ยก...พอเถอะค่ะ”

“พ่อไม่ได้จะห้าม แต่พ่ออยากเตือน ถามตัวเองอีกทีว่านี่คือทางที่ทำให้ชีวิตเปี๊ยกมีความสุขจริงๆเหรอ”

“ไม่มีใครมีความสุขกับการหย่าหรอกค่ะคุณพ่อ แต่ที่หย่าเพราะมันเป็นความหวังสุดท้ายที่จะทำให้เราเป็นทุกข์น้อยลงเท่านั้น เปี๊ยกเป็นคนใจแคบค่ะพ่อ ถ้าต้องให้เปี๊ยกใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น เปี๊ยกขอเจ็บคนเดียวดีกว่า”

ooooooo

ชยันต์มาถึงสำนักงานเขตตามเวลานัดหมาย สีหน้าหนักใจไม่แพ้กัน อยากบอกและอธิบายความจริงแก่ภรรยาจอมหึง แต่ปียากุลก็ไม่ยอมฟัง ความหึงหวงทำให้เธอขาดสติและทิฐิจนมองไม่เห็นความเสียใจของเขา

ขั้นตอนการหย่าจบลงหลังจากนั้นไม่นาน ชยันต์ตามมาส่งและจะพูดบางอย่าง แต่ปียากุลก็ไม่เปิดโอกาส

“ลากันตรงนี้ ไม่มีเปี๊ยกในชีวิตแล้ว ขอให้คุณโชคดี”

“ถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดกัน”

“เผอิญเปี๊ยกไม่ได้เป็นคนใจกว้างอย่างนั้น”

“สักวันเราจะกลับมายิ้มให้กันได้ใหม่”

“แต่คงไม่ใช่ในชาตินี้!”

ปียากุลเชิดหน้าและผละไปอย่างทระนง แต่ทันทีที่อดีตสามีพ้นสายตาก็ทรุดตัวร้องไห้อย่างหมดแรง ไม่ต่างจากชยันต์ขมขื่นใจอย่างมากที่ชีวิตคู่ต้องจบแบบนี้จนต้องไประบายกับจีราวัจน์ที่โรงพยาบาล

“ชีวิตคนมันก็แปลกดี วันหนึ่งเจอ แล้ววันหนึ่งก็จาก ต่อให้รักกันมากก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้เราอยู่ด้วยกันได้”

ท่าทางเจ็บปวดของชยันต์ทำให้จีราวัจน์สงสารมาก ตัดสินใจก้าวไปโอบปลอบ โดยไม่รู้เลยว่าสาธิตที่เพิ่งคิดได้ว่าจะคืนดีกับเธอแอบเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และภาพบาดตาบาดใจระหว่างเธอกับชยันต์ก็ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าดาราสาวกับผู้กำกับหนุ่มกำลังแสดงความรักต่อกัน!

ooooooo

คลื่นชีวิต

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด