icon member

ขมิ้นกับปูน

ตอนที่ 13

หลังจากร้านอาหารเป็นรูปเป็นร่าง ปริกจะทำบุญเปิดร้าน จึงมาเรียนพระยาอภิบาลในเช้าวันนี้ แต่บิดากลับวางท่าเจ้ายศเจ้าอย่างใส่

“ถือเอานิยมนิยายอะไรกับพ่อ แม่ปริกพูดไว้นี่ มิให้พ่อเข้าไปวุ่น ประเดี๋ยวจะหาว่าพ่อทำเจ้ากี้เจ้าการ”

“ลูกอยากให้คุณพ่อเป็นประธาน เป็นขวัญสิริมงคลกับร้านอาหารของเราค่ะ”

พระยาอภิบาลรู้สึกดีที่ปริกให้เกียรติ แต่ยังปากแข็งแสร้งหยันใส่ “นั่นปะไร ทำอวดดีอวดเก่ง หญิงรึจะทำได้เสียทุกเรื่อง ลงท้ายก็เหมือนๆคล้ายๆเดิม พ่อมิรับคำเชิญ มีอะไรก็ไปทำ”

ปริกชะงัก แต่ยังคาดหวังว่าบิดาจะเปลี่ยนใจ หลังจากปริกเดินพ้นไป ปีบเข้ามาจากอีกทาง

“คุณพ่อคะ ลูกมากราบขอร้องเรื่องแม่ปัทมาค่ะ”

เพียงได้ยินชื่อนั้น พระยาอภิบาลเริ่มหงุดหงิดทันที “ทำไม มันก่อความกระไรให้เป็นเสนียด”

“ลูกทราบว่าคุณพ่อเมตตาแม่ปัท หวังใจให้แม่ปัท กลับไปเจอสามี แต่กลับเกิดเหตุเสียก่อน ลูกจะขอพาแม่ปัทไปส่งค่ะ”

“แม่ปีบใจจืดใจดำจะปล่อยให้มันกลับไปนอนตายนอกเรือนรึ มันริกล้าทำถึงขั้นนั้น หากปล่อยให้มันไปเผชิญชะตามันก็ต้องลงท้ายทำเช่นเดิม เก็บมันไว้เสียที่นี่ ถ้าผัวมันมารับก็ค่อยโยนมันไป”

“ลูกกราบขอบพระคุณคุณพ่อแทนแม่ปัทด้วยค่ะ หากคุณพ่อจะเมตตาเพิ่มเติม ลูกขอพาแม่ปัทออกมารับลมรับแดดนะคะ”

คำขอร้องของปีบเป็นผล เธอรีบไปที่ห้องปัทมา เห็นปารมีกำลังหวีผมให้ปัทมาอย่างบรรจง

“หลานอางามเหลือเกิน ออกไปข้างนอกคงมิอายใคร คุณปู่อนุญาตให้แม่ปัทออกจากห้องได้จ้ะ แม่ปัทต้องให้คำมั่นกับอาว่าจะไม่หนีไปอีก”

“ค่ะ ปัทจะอยู่ที่นี่ ปัทจะรอคุณธนากลับมารับค่ะ”

ปีบยิ้มพอใจ ปารมีสวมกอดพี่สาวด้วยความดีใจ

ooooooo

ธนารู้ความในใจของทานตะวันว่ารักเขา และเขาเองก็รักเธอ ส่วนปัทมานั้นธนาเหลือแค่ความสงสาร...ในภาวะที่ทั้งสองตกอยู่ในความเศร้าและเห็นใจซึ่งกันและกัน นำพาให้เกิดความเข้าอกเข้าใจกัน ธนาตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกกับทานตะวัน ไม่กลับไปเผชิญปัญหาที่เมืองไทยอีก

ในวันที่พวกปริกจัดทำบุญเลี้ยงพระเพื่อเป็นสิริมงคลกับร้าน เป็นครั้งแรกที่พระยาอภิบาลยอมออกมาเป็นประธานทำพิธีสงฆ์ ทันพันธุ์เข้ามาร่วมงาน ปารมีขอร้องไว้เพราะกลัวปู่ของตนจะรู้ความจริง แต่ทันพันธุ์ยืนยันขอมีส่วนร่วมทำบุญในครั้งนี้ และอุดหนุนการเปิดร้านอาหาร พระยาอภิบาลได้เจอทันพันธุ์ก็จำได้ พูดคุยทักทายกัน และถูกชะตาในตัวชายหนุ่มมากขึ้น

ทำนองเข้ามาในร้านหวังได้พบปีบ...ปีบหาทางหลบเลี่ยง แต่ทำนองก็หาโอกาสเข้าไปทักทายในฐานะเพื่อน ปีบจำต้องยอมคุยตามมารยาท แม้ภายในใจของทั้งสองจะรับรู้ได้ถึงไมตรีที่ดีต่อกัน ธารีรู้ว่าทำนองเพียรไปหาปีบก็ไม่พอใจ ทำนองยืนยันว่าเขารักเพียงเพื่อน ถึงแม้ธารีจะห้ามมิให้เขาไปเจอปีบ แต่ธารีไม่สามารถห้ามหัวใจของเขาได้ ที่เขายังคงรักปีบเสมอ

ธารีเสียใจและสั่งให้บิดาเลิกสนับสนุนการงานของพระวิจิตรและทำนุ และธารีประกาศจะใช้ชีวิตกับทำนองอย่างนี้ อยู่ด้วยกันตามหน้าที่ของสามีภรรยาแต่ไม่มีรักให้กัน ทำนองไม่รู้จะทำยังไง สะเทือนใจในการตัดสินใจผิดพลาดของตน

อรรถกลับเมืองไทย แฉความจริงว่าธนาจะแต่งงานกับทานตะวัน พระวิจิตรกลับยินดีในเรื่องนี้ อรรถยิ่งโกรธบุกไปบอกปัทมา ทันพันธุ์กลัวจะกระทบความรู้สึกของปัทมา จึงอาสาจะไปห้ามธนากับทานตะวัน แต่อรรถดื้อรั้นไปบอกปวีณาจนได้ เหตุนี้ทำให้ปวีณานำความไปเย้ยปัทมา

เมื่อรู้เรื่องทั้งหมด ปัทมาคลั่งโวยวายอาละวาดหนัก ด่าทอทานตะวันลั่นเรือน

“นังแพศยา มันรู้แก่ใจว่าคุณธนาอยากเรียนต่อ มันก็ทำแสร้งควงคุณอรรถไปเรียนต่อบ้าง มันทำทุกแผนให้ได้อยู่ใกล้เสมอคุณธนา คุณธนาก็ใจอ่อนเหลวเป๋วไปตามมัน ป่านนี้มันคงอ้อนออเซาะไม่เว้นทุกขณะ ไม่มีใครขวางคอให้สลด นังผู้หญิงหน้าด้าน นังเพื่อนทรยศ ฉันอยากจะฆ่ามัน ฆ่ามันทั้งสองคน”

“พี่ปัทคะ...”

ปารมีสวมกอดแต่ปัทมาผลักน้องสาวออกห่าง

“พวกแกออกไป ไม่มีใครรักฉัน ผู้ชายที่ฉันรักมากที่สุดก็ทิ้งฉัน พวกแกโกหก ตอหลดตอแหล ไม่มีใครรักฉันสักคน”

“ปัทฟังอาก่อน” ปีบขอร้อง แต่ปัทมาสวนทันควัน

“พอเถอะค่ะ คุณอาเองก็มิสมหวัง อย่าริสอนปัทค่ะ ปัทอยู่ได้ค่ะ นับแต่นี้ชีวิตเป็นของปัท ปัทมิใช่นกน้อยของใคร ปัทมีอิสระเสรี โบยบินอย่างใจ”

ทุกคนเศร้าใจ ทำนองชวนหลานชายสองคนกลับบ้าน ทันพันธุ์ห่วงปัทมาฝากปารมีดูแลเธอด้วย ตนจะพาอาธนา มาหาเธอให้ได้ ฝ่ายพระยาอภิบาลพอรู้เรื่องก็สั่งปวีณาไปเฝ้าพี่สาวสิ้นคิด อย่าให้มาผูกคอตายเป็นผีบนเรือน

ค่ำนั้น ปัทมาไม่กินข้าวในห้องเหมือนที่ผ่านมา เธอขอลงไปร่วมวงกับพวกอาและพูดจาดีมาก สำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง กราบขอโทษอาทุกคนที่เธอเคยก้าวร้าวและดื้อรั้น

“ช่างมันเถอะ อะไรที่ผ่านไป อาลืมสิ้นแล้ว”

“ปัทจะไม่ลืมบุญคุณที่คุณอาจำปายอมลำบากเป็นภาระส่งเสียให้ปัทได้เรียนหนังสือ”

“มิต้องคิดเป็นบุญคุณหรอก พวกอาเหน็ดเหนื่อยก็เพราะรัก...ปัทก็ต้องรักตัวเองให้มาก”

“ค่ะ คุณอาปีบขา...ปัทรู้ตัวว่าปัททำตัวไม่น่ารักเลย ปัทคอยเถียง ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณอา ลงท้ายชีวิตปัทถึงต้องลงเอยเช่นนี้ ปัทแจ้งใจแล้วค่ะ ว่าคุณอารักปัทมากเท่าไหน ปัทกราบขอโทษคุณอาทุกคน ด้วยนะคะ ปัทภูมิใจที่ได้เกิดเป็นหลานคุณอาค่ะ เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้ปัทเกิดเป็นหลานของคุณอาอีกนะคะ”

ปัทมาพูดไปยิ้มไปทั้งน้ำตา ปีบน้ำตาไหล จำปาก็กลั้นร้องไห้ไม่ได้ ปารมีร้องด้วย ดีใจที่ปัทมาขอโทษและสำนึกผิด ขณะที่ปริกปาดน้ำตาไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น พูดชวนขำขันว่า

“แม่ปัทชวนคุยอะไรกัน น้ำตาน้ำตกหยดลงแกงรสชาติเฝื่อนหมดแล้ว”

ทุกคนยิ้มและหัวเราะไปด้วยกันอย่างมีความสุข แล้วลงมือกินข้าวต่อ

ooooooo

ถึงแม้ปัทมาจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่พวกอาก็ยังไม่วางใจ สั่งบ่าวไปเก็บของมีคมทุกชนิดในห้องปัทมาให้หมด ป้องกันเธอทำร้ายตัวเอง

ปารมีดูแลปัทมาอย่างใกล้ชิดและคืนนี้ขอนอนกอดพี่สาว แต่จู่ๆปวีณาเข้ามาไล่ปารมีออกไปเพราะตัวเอง มีเรื่องจะคุยกับปัทมา

“พี่ณามีอะไรก็คุยมาเถอะค่ะ ปานขออยู่ด้วย”

“นังปาน นี่แกกล้าเถียงฉันเหรอ”

“ปานไปอาบน้ำเถอะ แล้วกลับมานอนกับพี่”

ปารมียังกังวลใจกลัวปวีณายั่วยุปัทมา แต่เมื่อเห็นปัทมาดูเข้มแข็งจึงยอมออกไป

เมื่ออยู่กันสองคน ปวีณายิ้มเย้ยแล้วบอกปัทมาว่า “ฉันแวะไปรังรัก...ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าบ้านของเพื่อนทรยศ ผัวพี่ไม่กลับมาแล้ว ฉันก็เลยไปช่วยขนของของพี่คืนมาให้ พี่จะได้มีของเอาไว้ดูต่างหน้า”

ปวีณาเปิดกระเป๋าหยิบภาพครอบครัวพระยาอภิบาลออกมาส่งให้ปัทมา ย้ำว่าพี่ควรจะรักและสำนึกให้มากว่านี่คือครอบครัวของพี่ จากนั้นหยิบชุดแต่งงานออกมา

“ฉันไม่คิดว่าจะเอามาหรอก พี่คงสะเทือนใจไม่น้อย แต่คิดอีกทีพี่คงอยากได้เพราะมันคือความใฝ่ฝันของพี่...เจ้าสาวแสนสวย เจ้าสาวที่ผัวทิ้ง ผัวที่ไปนอนกกกอดอยู่กับเพื่อนทรยศ ฉันขอคืนความฝันให้พี่”

ปัทมารับชุดนั้นมาและบอกน้องสาวอย่างใจเย็น “ออกไปได้แล้ว...ฉันจะนอน ฉันขอบใจนะที่เอาของมาให้”

“รีบนอนเถอะ พี่จะได้ตื่นมาพบกับโลกความจริง มันไม่สวยเหมือนในฝัน”

ปวีณายิ้มเย้ยสะใจก่อนเดินออกไป ปัทมามองชุดแต่งงานในมือ สะกดกลั้นความเสียใจไว้ภายในใจ...

ปารมีเปลี่ยนชุดเพื่อจะเข้าไปนอนกับปัทมา เดินมาเจอปวีณาสวนทางพอดี เธอถามดีๆว่าปัทมาอยู่ไหน อีกฝ่ายกลับตวัดเสียงแหลมใส่แทบสะดุ้ง

“พี่สาวอัปรีย์ของแกก็อยู่ในห้องน่ะสิ”

“พี่ณาไม่ควรปล่อยให้พี่ปัทอยู่คนเดียว”

“ถ้ามันอยากฆ่าตัวตายก็ปล่อยให้มันตายไปเถอะ”

ปารมีไม่พอใจรีบวิ่งไปที่ห้องปัทมา เวลานั้นปัทมา กำลังเปิดลิ้นชักหยิบขวดยาและมีดที่ซ่อนไว้ออกมา เธอเทยาใส่ฝ่ามือก่อนเอาใส่ปาก เสียงปารมีเคาะประตูห้องดังลั่นร่ำร้อง

“พี่ปัท...ปานเองค่ะ พี่ปัทเปิดประตูให้ปานด้วยค่ะ”

เงียบกริบ! ไม่มีเสียงตอบใดๆ ปารมีใจคอไม่ดีเคาะประตูระรัวแล้วหันซ้ายหันขวาร้องเรียกใครก็ได้มาช่วยเปิดประตูด้วย!

ปัทมาไม่สนใจเสียงภายนอก เธอเดินมานั่งบนเตียงนอนในชุดเจ้าสาวแสนสวย ยิ้มอย่างมีความสุข แววตา เลื่อนลอย ใช้มีดแหลมคมกรีดข้อมือตัวเองเลือดแดงฉาน!

ปวีณาเดินเข้ามามองปารมีที่ร่ำร้องลนลานก็พลอยตกใจ เข้าไปช่วยปารมีผลักประตู พระนิติรักษ์ ปริก จำปา และปีบวิ่งมามุมหนึ่ง โดยที่หวานวิ่งตามหลัง

พระนิติรักษ์พยายามผลักประตูแต่ไม่สำเร็จ จึงสั่งหวานให้พังประตูเดี๋ยวนี้

พระยาอภิบาลเดินตามเข้ามาอีกคน รับรู้ว่าปัทมาขังตัวเองในห้องก็เริ่มตกใจกลัว จนกระทั่งหวานพังประตูสำเร็จแล้วพระนิติรักษ์นำเข้าไปในห้อง ทุกคนตกใจสุดขีดกับภาพที่เห็น

ปัทมานอนจมกองเลือดบนเตียง ปารมีและปีบวิ่งตรงไปประคองปัทมาพลางร้องเสียงหลง ปวีณาตกใจ ไม่คิดว่าพี่สาวจะฆ่าตัวตายจริงๆ พระยาอภิบาลก้าวเข้ามา ในห้องเห็นสภาพหลานสาวก็หน้าซีดใจเสีย สั่งเร็วไว

“ไอ้หวาน...เอาไปส่งโรงพยาบาล”

หวานกับพระนิติรักษ์รีบช่วยอุ้มร่างปัทมาพาไปส่งโรงพยาบาล ปารมีร้องไห้น้ำตานองหน้าไม่คิดไม่ฝันว่าปัทมาจะฆ่าตัวตายอีกครั้ง ขณะที่พระยาอภิบาลตกใจร่างกายซวนเซแทบหมดแรง พยายามประคองตัวเองไว้

ooooooo

หมอช่วยชีวิตปัทมาทันเวลา เธอไม่ตายแต่ฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่นิ่งไม่พูดจากับใคร ทุกคนห่วงเธอมาก แม้แต่พระยาอภิบาลที่ชิงชังนักหนาก็กำชับกำชาลูกหลาน และบ่าวไพร่จับตาดูปัทมาไม่ให้คลาดสายตา

ขณะที่ปัทมายังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ปริกอัดอั้นไม่พอใจในความร้ายกาจของปวีณาถึงกับตบหน้าและตำหนิเธอเป็นต้นเหตุให้ปัทมาฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง แต่ปวีณาก็เถียงว่าตนไม่ได้ทำ ปัทมาต่างหากที่ทำร้ายตัวเอง

“แล้วใครกันที่คอยถาก แกชังพี่สาวแก อยากให้ตายไปเสียให้พ้นถึงจะสาใจแก”

“ณารับเต็มๆค่ะว่าณาเกลียดพี่ปัท แต่ณาไม่เคยคิดลุ้นให้พี่ปัททำถึงขั้นนี้”

“แต่ไหนแต่ไรแกมันลูกอีช่างฟ้อง ทำให้พี่น้องแตกคอ สักแต่เสนอหน้าเอาความดีความชอบ แล้วผลเป็นเช่นไร ใจคอแกทำด้วยอะไร ฉันอยากจะตีให้ตายคามือ”

ปริกทุบตีปวีณา จำปากับปีบห้ามไว้และสั่งสอนหลานสาวให้รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักอภัยเป็นใจที่ประเสริฐ...

คำสอนนั้นทำให้ปวีณารู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้ปัทมาฆ่าตัวตายแต่ไม่ยอมรับผิดในการกระทำทั้งหมด

แทนพงศ์กับทันพันธุ์ตกใจมากหลังทราบข่าวปัทมากินยาและกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย ต่างจากพระวิจิตรที่ไม่ยินดียินร้ายและไม่เห็นด้วยที่หลานชายและทำนองจะไปตามธนากลับมาแต่ทำทีเป็นเห็นใจปัทมา ลวงทุกคนว่าตนจะซื้อตั๋วเรือบินให้แทนพงศ์ไปรับตัวธนากลับมา

ทันพันธุ์มาเยี่ยมปัทมาที่โรงพยาบาลแต่ปารมียังไม่อยากให้เขาเจอพี่สาว เกรงเธอจะขุ่นมัวเพราะเขาเป็นหลานของธนา สองคนคุยกันนอกห้อง ขณะที่แทนพงศ์แยกไปจ่ายค่ารักษาให้ปัทมาแล้วเจอปวีณาโดยบังเอิญ

ปวีณาตั้งป้อมรังเกียจพวกจิตรการ ไม่ให้ก้าวก่ายนำเงินมาล้างความผิดบาป แทนพงศ์ไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่ถือเป็นความรับผิดชอบเพราะปัทมาเป็นญาติของพวกตน ปวีณาไม่ฟัง เอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ขับไล่เขาท่าเดียว จึงโดนชายหนุ่มตอกหน้าว่าเธอไม่มีวันเข้าใจ ความคิดคนอื่นได้ หากเธอยังก่ออิฐก่อกำแพงกั้นใจปิดล้อมตัวเอง

หญิงสาวเคืองขุ่น เดินตรงไปยังห้องปัทมา แทนพงศ์ นึกได้ว่าทันพันธุ์อยู่กับปารมีจึงก้าวตามไปขัดขวาง เป็นจังหวะที่ทันพันธุ์มอบผ้าเช็ดหน้าให้ปารมีหลังจากซับเหงื่อให้เธอ แล้วให้เก็บผ้าไว้ไม่ต้องคืน ปวีณาไม่ทันเห็นผ้าเช็ดหน้า แต่แค่นี้ก็เล่นงานปารมีเสียจนหน้าซีดหน้าเจื่อน

ปวีณาจะเข้าไปเยี่ยมปัทมาในห้องแต่ปารมีห้ามไว้ บอกว่าพี่ปัทยังไม่อยากเจอหน้าใคร นั่นยิ่งทำให้ปวีณาไม่พอใจที่ทุกคนเหมาว่าตนเป็นต้นเหตุให้ปัทมาฆ่าตัวตาย ดึงรั้งปารมีจนผ้าเช็ดหน้าหล่นแล้วถามว่าของใคร ปักอักษรภาษาอังกฤษตัว T

ปารมียอมรับว่าเป็นของทันพันธุ์ เท่านั้นเองปวีณา ตำหนิน้องสาวไม่ควรรับของของคนบ้านโน้น แล้วฉกผ้าเช็ดหน้าไปบอกว่าจะเอาไปคืนเขาเอง

ปวีณาแอบชอบทันพันธุ์ เมื่อกลับถึงบ้านจึงบรรจงปักตัว P บนผ้าเช็ดหน้าไปมอบให้เขาในวันถัดมา อ้างว่าเป็นการแสดงน้ำใจที่เขาให้ผ้าเช็ดหน้าแก่ปารมี แทนพงศ์เห็นการกระทำของปวีณาก็ตีความได้ว่าเธอชอบน้องชายของเขา

เมื่อแทนพงศ์บอกเรื่องนี้แก่ทันพันธุ์และยืนยันว่าอักษรตัว P ย่อมาจากปวีณา ทันพันธุ์ปฏิเสธทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ คนอย่างปวีณาไม่มีใจให้แก่พวกเรา ที่สำคัญเขาไม่ได้ชอบเธอ เขาชอบปารมีคนเดียว ถามพี่ชายว่าตนควรทำยังไง เอาผ้าเช็ดหน้านี้ไปคืนเธอดีไหม

“นายไม่ควรหักหาญน้ำใจ ปวีณาสู้เปิดใจยอมคุยกับนาย ฉันถือว่าเป็นข่าวดีที่ช่องว่างระหว่างพวกเรากับพวกเขาใกล้ชิดสนิทขึ้น”

“ผมไม่อยากให้เธอคิดเกินเลย หากมีโอกาสผมคงต้องแสดงตัวให้แจ้งชัดว่าผมมีใจให้ปารมี”

แทนพงศ์รับฟังความคิดของทันพันธุ์ก็เห็นด้วย ทำนองเข้ามาขัดจังหวะถามแทนพงศ์ได้ตั๋วเรือบินหรือยัง สองหนุ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที เพราะป่านนี้ยังไม่มีวี่แวว เมื่อทั้งหมดพากันไปถามพระวิจิตรก็บอกว่าจัดการให้แล้วพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้คงได้ตั๋วมา ทำนองรับฟังแต่ยังไม่วายสงสัยและไม่ไว้ใจบิดา

ooooooo

ปัทมากลับเรือนในสภาพเลื่อนลอย พระยาอภิบาล แสดงความห่วงใยด้วยการกำชับทุกคนช่วยกันดูแลอย่าให้คลาดสายตา เหตุนี้ทำให้ปารมีกล้าพอที่จะสนทนากับปู่เรื่องปัทมา

“ปานกราบขอบพระคุณคุณปู่ค่ะที่เมตตาห่วงใยพี่ปัท ดูแลมิให้พี่ปัทคิดกระทำการร้ายอีก ปานอยากกราบขอความเมตตาคุณปู่แสดงความรักให้พี่ปัทเห็นได้ชัด”

“ข้าก็รักห่วงของข้าอย่างนี้ จะให้ข้าโพนทะนาบอกใคร”

“พี่ปัทถวิลหารัก และขาดความศรัทธาในความรัก สิ้นแล้ว เราจึงต้องดูแลและพูดจาให้พี่ปัทเชื่อใจ มั่นใจว่ามีคนรักพี่ปัท เราจำต้องบอกรักพี่ปัทค่ะ”

“พวกเอ็งมีปากก็พูดไปสิ ใครโบกปูนปิดปากไว้รึ”

“คุณปู่คือผู้นำของพวกเรา คำพูดของคุณปู่ส่งผลต่อลูกหลาน คำมงคลและคำบอกรักจะทำให้พี่ปัทตระหนักรู้ และศรัทธาในรักกลับคืนมา”

“พอๆ ข้าจะนอน แกมิง่วงมิหง่าวก็ไปสิ ไปนั่งบอกว่ารักมัน”

พระยาอภิบาลเดินกลับเข้าห้อง ปารมีผิดหวังที่ปู่ปฏิเสธ แต่ยังหวังว่าคำพูดของเธอจะทำให้ปู่คิดได้

สิ่งที่ปารมีหวังมีเค้าลางเป็นจริง เพราะหลังจากฟังคำหลานสาวแล้วพระยาอภิบาลก็ย่องไปเมียงมองหน้าห้องพักปัทมาในเช้าวันถัดมา ปารมีแอบเห็นรู้สึกดี แล้วกระซิบบอกแก้วว่าคุณปู่มาบอกรักพี่ปัท

ปารมีชวนปัทมาออกนอกห้องไปร้านอาหาร แต่ปัทมานิ่งไม่ตอบ ปารมีจึงกำชับแก้วให้ดูแลหรือชวนพี่สาว ตนออกไปชมนกชมไม้แก้เบื่อก็ได้ ตนจะไปช่วยคุณอา ที่ร้านอาหาร แก้วรับคำแข็งขันจะจับตาดูเธอทุกฝีก้าวไม่ให้คลาดสายตา

อาการเลื่อนลอยของปัทมาทำให้จำปาอดเป็นห่วง ไม่ได้ กลัวจะไม่ปกติสติเลื่อนลอย แต่ปารมียังหวังว่าอีกไม่นานปัทมาจะครองสติได้ ความรักจากทุกคนและปู่ที่อ่อนลงมากจะทำให้เกิดปาฏิหาริย์ ปัทมากลับมาพบพานความสุขได้เหมือนเดิม

ooooooo

ในวันที่แทนพงศ์เตรียมตัวไปอเมริกา กลับกลายเป็นทำนองมาบอกว่าพระวิจิตรไม่ได้ซื้อตั๋วเรือบินให้ ทันพันธุ์ไม่พอใจที่ปู่จงใจขวางการรับตัวธนากลับมา จึงไปต่อว่าท่านที่กำลังจิบบรั่นดีฟังเพลงสบายใจ โดยมีทำนองกับแทนพงศ์ก้าวตามมาด้วย

“คุณปู่โกหกพวกผม คุณปู่ทำอย่างนี้หมายความว่าไงครับ”

“ใจเย็นๆหลานรัก เป็นหลานก็ให้เกียรติให้ความเคารพปู่บ้าง”

“คนที่ควรค่าแก่การให้เกียรตินับถือ คือคนที่รักษาคำสัตย์ครับ”

“ผมสืบทราบแล้วว่าคุณพ่อมิได้ดำเนินการใดๆเพื่อให้แทนพงศ์ไปรับตัวธนา”

“คุณปู่เตะถ่วงเรื่องนั้นมาตลอด คุณปู่ประสงค์สิ่งใดครับ”

พระวิจิตรถูกสามคนรุมก็ชักสีหน้าไม่พอใจ พูดออกไปตามตรงว่า

“ฉันไม่อยากให้พวกแกเสียเวลาเปล่า”

ทุกคนแปลกใจ พระวิจิตรหยิบจดหมายออกมาบอกว่า

“ธนาเขียนจดหมายมาถึงฉัน พวกแกอ่านสิ แล้วจะรู้ว่าปู่มิเป็นซาตานไปขวางทางรัก แต่ปู่ทำหน้าที่เป็นกามเทพแห่งความรัก”

ทำนองรับจดหมายมาอ่านอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วบอกหลานทั้งสองคนว่า

“ธนาจะแต่งงานกับทานตะวัน”

สองหนุ่มตกใจมาก พากันตำหนิธนาจนพระวิจิตรขุ่นเคือง แต่ไม่มีใครสนใจ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าธนาแต่งงานกับทานตะวันไม่ได้ เพราะปัทมาได้ชื่อว่าเป็นภรรยาโดยถูกต้อง

“ธนาแก้ปัญหานี้โดยขอให้คุณปัทมาลงลายมือชื่อยินยอมที่จะหย่า”

ได้ยินทำนองพูดเช่นนั้น แทนพงศ์กับทันพันธุ์ยิ่งตระหนกตกใจ

“นั่นหมายความว่าอาธนาเขียนจดหมายถึงคุณปัทมา”

ทันพันธุ์พูดโพล่ง ท่าทีร้อนรน และพากันกังวลใจไป กับทำนองและแทนพงศ์ กลัวปัทมาจะเสียใจหนักกว่าเดิม ในขณะที่พระวิจิตรกลับนิ่งเงียบ ไม่แสดงอาการใดๆ

ooooooo

ขมิ้นกับปูน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด