icon member

ตะวันเดือด

ตอนที่ 13

บนเส้นทางออกนอกภูพระกาฬ ศร กรณ์ และไกร พาจรัญขี่ม้ามาอย่างเร็ว แต่แล้วจู่ๆศรก็ตัดสินใจหยุดม้าขวางทางของจรัญไว้ บอกว่า

“เราไม่ไปแล้วพ่อเลี้ยง เราแยกกันตรงนี้”

จรัญซึ่งระแวงอยู่แล้ว บอกให้ศรหลีกทางให้ตน กรณ์แทรกเข้ามาพูดกวนๆว่า เชิญพ่อเลี้ยงตามสบายแต่ต้องทิ้งทรัพย์สินที่ขนมาไว้กับพวกตน

“ไอ้สารเลว นี่พวกเอ็งหักหลังข้างั้นเหรอ” จรัญด่า ชักปืนออกมา แต่ศรยกปืนขู่ไว้ก่อน บอกว่าตอนนี้เรามากันสุดทางแล้ว ขอให้เราแยกกันอย่างสันติเถอะ

ศรพูดเสร็จ กรณ์ก็ยกเท้ายันจรัญตกจากหลังม้า แล้วเข้าค้นเอาทรัพย์สินทั้งที่ตัวและที่กระเป๋าข้างอานม้าซึ่งมีกล่องเครื่องเพชรอยู่มากมาย จรัญยกให้โดยดีแต่เมื่อได้ของแล้วก็ไสหัวไปเสีย

“พวกเราไปแน่   แต่ต้องส่งพ่อเลี้ยงลงนรกเสียก่อน” ศรยกปืนเล็งจรัญ แต่ไม่ทันเหนี่ยวไกเสียงปืนปริศนาก็ดังขึ้น พวกมันทั้งสามหันมองตามเสียงปืน เห็นเดชายืนย้อนแสงอยู่ที่เนินเขา

กรณ์กับไกรชักม้าจะต่อสู้ เดชาสั่งอย่าขยับระยะแค่นี้ตนยิงหัวมันไม่พลาดแน่ กรณ์ไม่ฟังสั่งลุยสามต่อหนึ่ง แต่มันไม่ทันขยับก็ถูกเดชายิงบ่าจนผงะ พร้อมกับร้องท้า

“เอาเลย...ถ้าพวกเอ็งอยากวัดดวงกับข้า ถ้าคิดว่าไวกว่าเดชาคนนี้ละก็ ลงมือได้เลย”

ศรใช้ไม้อ่อน หว่านล้อมว่าพวกเราต่างก็ทำเพื่อผลประโยชน์เขาก็น่าจะเข้าใจ เดชาย้อนเยาะว่า

“แน่นอนไอ้ศร คนอย่างเอ็งข้ารู้จักดี พวกเอ็งเอาถุงเงินไป ส่วนเครื่องเพชรกับไอ้จรัญทิ้งไว้ที่นี่” ศรบอกไกรให้เอาถุงเงินแล้วรีบขึ้นม้า เดชาพูดส่งท้ายว่า “คราวนี้ข้าจะไว้ชีวิตเอ็งเพื่อเห็นแก่มิตรภาพเมื่อครั้งอดีต แต่ถ้ามีคราวหน้าอีกละก็ เอ็งตายแน่ไอ้ศร”

พวกศรพากันขี่ม้าพร้อมถุงเงินไปแล้ว เดชาหันมองจรัญถามว่าไม่แปลกใจใช่ไหม จรัญพูดอย่างเจ็บใจว่า “เอ็งเป็นคนฉลาดเดชา เสียอย่างเดียว เลี้ยงไม่เชื่อง”

“ไม่ต้องห่วงพ่อเลี้ยง ผมจะยังไม่ฆ่าพ่อเลี้ยงตอนนี้ แต่ผมจะใช้ชีวิตของพ่อเลี้ยงเป็นเครื่องเบิกทางกลับสู่ภูพระกาฬ” เดชาพูดอย่างผยอง

ooooooo

ขณะรานีทำแผลให้สาโรจน์อยู่ในป่าภูพระกาฬนั้น หลงขี่ม้ามาส่งเสบียง สาโรจน์ถามถึงสภาพในเมือง หลงบอกว่า เละไม่มีชิ้นดีทั้งคนเจ็บคนตายศพกองรวมกันสูงกว่ารถบรรทุกเสียอีก รานีถามว่าแล้วภูตะวันฆ่าศักดาหรือเปล่า หลงส่ายหน้า สาโรจน์ถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า

“นี่ตะวันก็ลงมือพลาดเหมือนกันเหรอ” พูดอย่างสงสัยว่า “เขาจะพลาดได้ยังไงในเมื่ออยู่ใกล้ศักดาขนาดนั้น ยกเว้นแต่...เขาจะยั้งมือเสียเอง” สาโรจน์หน้าเครียดขึ้นเมื่อพูดประโยคสุดท้าย

เวลาเดียวกัน ที่ห้องนอนศักดา เขาบอกยศว่า พลอยขวัญบอกว่าคนที่จับตัวเธอไปคือสาโรจน์ ยศไม่อยากเชื่อ เพราะสาโรจน์ไม่ใช่คนที่จะเอาคนอ่อนแอกว่าเป็นเครื่องมือ

ศักดาเชื่อว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญที่พลอยขวัญไปรู้แผนการของสาโรจน์เข้า บ่นว่างานนี้เมืองภูพระกาฬเกือบต้องพินาศเพราะความแค้นของสาโรจน์ที่ต้องการแก้แค้นให้ภูผา

ศักดาเชื่อว่างานนี้สาโรจน์ไม่ได้ลงมือคนเดียวแน่ ยศถามว่าพลอยขวัญหรือ ศักดาส่ายหน้าพูดแค่ว่า “ฉันสังหรณ์ใจว่า บางที คนคนนั้นอาจจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงก็ได้”

ขณะนั้นเอง สาลี่มาเคาะประตูบอกว่านายเสือมาแล้ว พลางหลีกทางให้ภูตะวันเข้าไป ศักดายิ้มรับอย่างเป็นมิตร บอกว่า ดูเหมือนเรามีเรื่องต้องพูดกันเป็นการส่วนตัว

ยศออกไปอย่างรู้หน้าที่ เมื่ออยู่กันตามลำพัง ศักดาพูดถึงตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นภูตะวันยกปืนเล็งเขาอยู่ ภูตะวันแก้ตัวว่าตนตกใจเสียงระเบิดเท่านั้น ศักดาผสมโรงว่าตนเองยังผวาเลย แล้วขอบใจที่เขาช่วยตนไว้

“คุณก็ช่วยผมไว้เหมือนกัน”ภูตะวันฝืนยิ้ม

“ฉันยอมรับว่า ก่อนหน้านั้นฉันเคยระแวงนาย แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”พูดแล้วกุมมือภูตะวันไว้ “นายคือเพื่อนแท้ของฉันนายเสือ ฉันอยากให้นายอยู่เคียงข้างฉันและไร่ฟ้ารุ่งตลอดไป”

ภูตะวันสบตาศักดา ศัตรูคู่แค้นที่เขาตามหาเพื่อหมายฆ่าอย่างสับสน...

ตกเย็นภูตะวันไปยืนมองพระอาทิตย์ตกดินที่หน้าถ้ำภูอุษา สิงห์ตามไปเจอพร้อมเหล้าขวดเล็กๆชวนดื่มตามประสาคนอกหักเหมือนกัน ภูตะวันรับไปดื่มดับกลุ้มทันที สิงห์เห็นหมดขวดก็ส่งให้อีกขวด

“นี่พกมากี่ขวดกันแน่วะ”ภูตะวันมองหน้าถาม

“ก็บอกแล้วไงว่าฉลอง...แด่ชัยชนะและหัวใจอันร้าวราน” ทั้งคู่ยกขวดเหล้าชูแล้วดื่มอั้กๆๆกะเมากันให้เต็มคราบ

ooooooo

เดชาจับจรัญมัดมือแล้วให้ขี่ม้าอีกตัว พากลับมาหาบุหลันที่จุดนัดพบที่ลานผาแถวประตูเมืองภูพระกาฬ พอจรัญเห็นบุหลันก็พูดอย่างแค้นใจว่า นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มากชู้อยู่แถวนี้นี่เอง

บุหลันตรงเข้าเหวี่ยงหมัดใส่จนจรัญหน้าหงาย บอกเดชาว่าตนจะฆ่าจรัญพลางขอปืน

“อย่านะบุหลัน เราจะฆ่ามันไม่ได้ ถ้ายังอยากกลับไปที่ภูพระกาฬเราต้องส่งตัวมันให้ศักดา”บุหลันถามว่าจะกลับไปทำไมอีกเราไม่เหลืออะไรที่นั่นแล้ว จรัญแทรกขึ้นว่าสู้ไปตั้งตัวที่อื่นดีกว่า

“ฟังฉันนะบุหลัน เราต้องกลับไปที่ภูพระกาฬ”บุหลันถามว่าทำไม“เพราะมันเป็นของเรา จริงอยู่ เราไปตั้งต้นที่อื่นได้ ไปทำไร่ไปทำมาค้าขาย แต่เพื่ออะไรล่ะบุหลัน ในเมื่อทุกอย่างที่เป็นของเรามันอยู่ในภูพระกาฬ ทรัพย์สินของไอ้จรัญที่มันปล้นมาจากครอบครัวของเธอ เธอไม่อยากได้มันแล้วหรือ ไร่ฟ้ารุ่งกับข่าวลือเรื่องสายแร่พลอยนั่น เธอไม่อยากรู้คำตอบเหรอว่ามันมีจริงรึเปล่า”

บุหลันถามว่าเขามีวิธีหรือ ติงว่าเราต้องไปนับหนึ่งกันใหม่เลยนะ เดชาขอโอกาสตนอีกครั้ง รับรองว่า คราวนี้ตนไม่พลาดแน่

ooooooo

คืนนี้ พลอยขวัญนั่งซึมอยู่ที่ห้องรับแขกเรือนใหญ่ไร่ฟ้ารุ่ง คิดถึงคำพูดของสาโรจน์ที่ว่า “ศักดาเป็นฆาตกร มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเธอ” คิดแล้วก็สับสน จนเพชรรุ้งเข้ามาเธอตัดสินใจคุย

“ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามพี่ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนว่าจะต้องพูดความจริง” เมื่อเพชรรุ้งพยักหน้าพลอยขวัญถามว่า “พ่อแม่ของฉันเป็นใคร”

เพชรรุ้งติงว่าแต่ก่อนไม่เคยเห็นถามเรื่องนี้ พลอยขวัญบอกว่าตนเคยถามพ่อแต่พ่อก็โกหกตนมาตลอด “ฉันรู้ ทุกคนก็รู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกพ่อ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงต้องปกปิดเรื่องนี้”

ในที่สุดเพชรรุ้งจึงเล่าให้ฟังว่า “ลุงภูผากับป้าอุษาเป็นเพื่อนรักของพ่อ และเป็นเจ้าของไร่ฟ้ารุ่ง ทั้งสองคนถูกพวกโจรฆ่าตายตอนที่ขวัญลืมตาดูโลก”

“แค่นั้นเองเหรอ พี่รู้แค่นั้นจริงๆ เหรอ”

“ยังมีอีกอย่างหนึ่ง...พลอยขวัญมีพี่ชายแท้ๆ ชื่อว่าตะวัน สมัยที่พี่ยังเด็ก เขาเป็นเพื่อนรักของพี่ เป็นคนที่พี่ไว้ใจมากที่สุด แต่หลังจากเกิดเรื่องเขาก็หายสาบสูญไป”

“ตะวัน...พี่ตะวัน...” พลอยขวัญพึมพำอย่างสังหรณ์ใจ แล้วเธอก็ตัดสินใจไปที่หน้าเรือนพักการ์ดเจอสิงห์กับภูตะวัน เดินเมากลับมาพอดี เธอเข้าไปหาภูตะวันบอกว่ามีเรื่องจะพูดด้วย สิงห์จึงแยกตัวไปอย่างเซ็งๆ

พลอยขวัญเริ่มด้วยการบอกภูตะวันว่า มีเรื่องหนึ่งที่ตนไม่ได้บอกให้พ่อรู้ คือตนเห็นเขากับรานีอยู่กับมือปืนที่ชื่อสาโรจน์ ย้ำขู่ภูตะวันว่า ถ้าตนรายงานเรื่องนี้พ่อต้องสงสัยเขาแน่ๆ แล้วถามว่า

“บอกฉันหน่อยได้ไหมนายเสือ ตกลงนายรู้เห็นเป็นใจกับสาโรจน์หรือเปล่า”

ภูตะวันบอกว่าตนไม่รู้จักคนชื่อสาโรจน์ พลอยขวัญย้ำว่าตนต้องการความจริง ภูตะวันยืนยันว่าตนพูดความจริง เธอจ้องอย่างจับผิดก่อนบอกว่า

“นอกจากนายสิงห์ก็มีแต่นายเท่านั้นที่ดีกับฉันมากที่สุด แต่นายสิงห์ทำไปก็เพราะรักฉัน ส่วนนาย...นายทำเพื่ออะไร”

เมื่อภูตะวันบอกว่าเพราะเธอเป็นเจ้านาย พลอยขวัญไม่เชื่อ ดักคอว่าเขาดีเกินกว่านั้น เพราะเวลาที่เขาช่วยตนนั้นไม่เคยแตะน้องต้องตัวตนเลย ถามว่า ทำไม ภูตะวันบอกว่าตนชอบเธอเหมือนกัน แต่ตนคงไม่กล้าทำแบบสิงห์

พลอยขวัญลองใจเขาด้วยการอนุญาตให้เขาจูบ ให้เขากอด หรือทำอะไรก็ได้เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้โกหก พลางเดินเข้าหา เบียดตัวเข้าไป แต่ถูกภูตะวันดันตัวออกไปบอกว่าเขาไม่ต้องการแบบนั้น

“นายมีเรื่องปกปิดฉันนายเสือ ความลับของนาย สักวัน ฉันต้องรู้ให้ได้” พูดแล้วผละออกไป

สิงห์มองอยู่เขานึกว่าพลอยขวัญผละไปอย่างคนรักที่งอนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจที่พลอยขวัญยังหลงภูตะวันไม่เลิก แล้วดื่มต่ออย่างยอมเมาตายเพื่อดับกลุ้ม

ooooooo

วันต่อมา บุหลัน เดชา และจรัญ พี่พักอยู่แถวลานผาประตูเมือง บุหลันปลุกจรัญให้ตื่นเพราะได้เวลาเดินทางแล้ว จรัญถามว่าจะพาตนไปไหน เดชาเดินเข้ามาตอบแทนบุหลันว่า

“ไร่ฟ้ารุ่ง คุณศักดากำลังรอแกอยู่” จรัญติงว่านั่นมันแดนประหารชัดๆ “สำหรับแกคงใช่ แต่สำหรับฉัน มันคือขุมทรัพย์”

ขณะที่เฮียเส็งกำลังดูแก้วที่นอนหลับพักฟื้นอยู่บนเตียงด้วยความเวทนาว่าไม่รู้เวรกรรมอะไรถึงต้องมาโดนลูกหลงกับเขาด้วย สมใจเห็นด้วยเป็นห่วงว่าขืนให้แก้วอยู่อย่างนี้ต่อไป คงต้องตายเข้าสักวัน

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงชาวบ้านตะโกน “ฆ่ามัน...ฆ่ามัน...” อื้ออึงอยู่ข้างนอก เฮียเส็งลุกไปดูจึงเห็นว่า ชาวบ้านกำลังฮือกันเข้ามาขับไล่ สาปแช่งจรัญที่ถูกมัดมือให้เดินตามเดชากับบุหลันที่ขี่ม้าเข้ามาในเมือง เดชาเห็นสมใจก็ตะโกนสั่งความว่า

“ฝากไปบอกคุณศักดาด้วยว่า เดชาทำงานสำเร็จแล้ว ขอให้รักษาคำพูดด้วย”

เวลาเดียวกันนั้น ณรงค์กับเรียวนั่งรถจากไร่ฟ้ารุ่งมุ่งสู่เมืองภูพระกาฬ เรียวสบถอย่างแค้นใจว่า

“ไอ้เดชามันร้ายจริงๆ ปล่อยให้เรากับจรัญสู้กันแทบตาย เสร็จแล้วก็ชุบมือเปิบ”

“คุณศักดารับปากว่าจะให้มันกลับมาอยู่ที่ไร่ฟ้ารุ่ง เราคงต้องปล่อยมันไปก่อน ไว้เรื่องเงียบเมื่อไหร่แล้วค่อยจัดการฆ่ามันเสีย” ณรงค์แววตาเหี้ยม เจ้าเล่ห์

เมื่อเดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอภูพระกาฬ ณรงค์มองจรัญที่ถูกขังอยู่นิดหนึ่งแล้วจึงเดินไปหาเดชา พูดทันทีว่า “ถึงคุณศักดาจะยกโทษให้แก แต่ฉันไม่ สักวันฉันต้องเล่นงานแกแน่”

เดชาหว่านล้อมว่าเรื่องมันแล้วไปแล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า แต่ณรงค์ไม่แยแส เดชายิ้มเหมือนจะรู้ทันแล้วเดินไปคว้ากล่องเครื่องเพชรที่บุหลันกำลังหยิบดูอย่างชื่นชม เอามาให้เดชาทั้งกล่องบอกว่า

“แทนคำขอโทษและเพื่อยืนยันถึงความภักดีที่ผมจะให้คุณนับจากนี้”

ณรงค์ลังเลอึดใจแล้วถามว่าต้องการอะไร เดชาพูดเบาลงว่า “ภูพระกาฬต้องการผู้รักษากฎหมายคนใหม่” ณรงค์ดักคอว่าอย่าบอกนะว่าอยากกลับตัว “เปล่า...แต่ผมจะช่วยคุณตามหาขุมทรัพย์ต่างหาก สายแร่พลอยในไร่ฟ้ารุ่ง คุณไม่อยากรู้เหรอว่ามันอยู่ที่ไหน”

แค่นั้นเอง ณรงค์ก็เงียบไป จรัญมองทั้งสองแล้วหัวเราะออกมากับพฤติกรรมเจ้าเล่ห์แสนกลของเดชา

ooooooo

ส่วนที่ไร้ฟ้ารุ่ง สิงห์ สมใจ พร และภูตะวัน พากัน มาพบศักดาเมื่อรู้ข่าวจากเดชา สิงห์บอกศักดาว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้เดชากลับมาอยู่ที่นี่ พรเห็นด้วยเพราะเดชาเป็นตัวปัญหา ส่วนสมใจเชื่อว่าเดชามาอยู่ที่นี่ต้องก่อปัญหาแน่ๆ

“คนอย่างเดชาอยู่ที่ไหนก็มีแต่หายนะ” ภูตะวันแสดงความเห็นเมื่อศักดาถาม

“ฉันเข้าใจพวกนาย แต่ว่าเดชาไม่ได้คิดจะมาทำงานที่ไร่ฟ้ารุ่ง เขาแค่อยากกลับมาอยู่บ้านเขาอยากอยู่ใกล้นายยศพ่อของเขา ซึ่งฉันไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน”

ภูตะวันพูดอย่างไม่พอใจว่าเดี๋ยวก็คงได้เห็น ถูกศักดาตัดบทอย่างแข็งกร้าวจนภูตะวันต้องเงียบไปว่า

“ไร่ฟ้ารุ่งเป็นของฉัน ฉันตัดสินใจแล้ว”

ooooooo

ขณะที่สาโรจน์กับรานีกบดานอยู่ริมลำธารในป่านั้น รานีขอร้องสาโรจน์ว่าให้ทิ้งทุกอย่างแล้วไปจากที่นี่เสีย ไปอยู่ด้วยกันเยี่ยงสามีภรรยาอย่างสงบ

“ฉันไม่อยากหนีอีกแล้วรานี ฉันจะสู้กับศัตรูของฉัน จนกว่าพวกมันจะพินาศ” สาโรจน์มุ่งมั่นมาก

ทันใดนั้นเอง ภูตะวันมาถึง เพื่อจะบอกสาโรจน์ว่า พลอยขวัญรู้แล้วว่าสาโรจน์กับรานีติดต่อกันแต่เธอไม่ได้บอกให้ใครรู้ สาโรจน์เป็นห่วงภูตะวันว่าจะถูกจับจ้องไปด้วย ภูตะวันจึงเสนอว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะหยุดแผนการไว้แค่นี้ คือปล่อยศักดาไปก่อน

สาโรจน์ขอเหตุผล ภูตะวันอ้างว่าจรัญถูกจับแล้วอีกไม่นานณรงค์ต้องประหารแน่ จากนั้นพวกทหารก็คงไปจากที่นี่ บางทีถึงตอนนั้น...

“แกพูดผิดแล้วตะวัน” สาโรจน์ขัดขึ้นทันที “ถ้าณรงค์กำจัดศักดาได้เมื่อไหร่ เป้าหมายต่อไปก็คือการแต่งงานของคุณหนูเพชรรุ้ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ไร่ฟ้ารุ่งก็จะตกเป็นของมัน...ตะวัน ฉันไม่อยากทายหรอกนะว่าทำไมแกถึงลังเล แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อน อย่าให้งานใหญ่ต้องพังเพราะผู้หญิง”

ภูตะวันอึ้งไปกับคำพูดและสายตาจับผิดของสาโรจน์ เขามองหน้ารานีเห็นเธอหลบตา เขาเดาได้ทันทีว่า สาโรจน์รู้เรื่องระหว่างเขากับเพชรรุ้งแล้ว...

ooooooo

พลอยขวัญเป็นห่วงศักดาที่ถูกมือปืนลอบยิง แต่ไม่กล้าบอกกลัวภูตะวันจะเดือดร้อน เมื่อปรารภกับเพชรรุ้ง พี่สาวจึงอาสาจะสืบเรื่องนี้ให้ หลังจากคิดความสัมพันธ์ของสาโรจน์ รานี และภูตะวันแล้ว เพชรรุ้งได้แต่ภาวนาด้วยความหวั่นใจว่า ขออย่าให้เป็นนายเสือเลย

ส่วนเรียวก็ถูกณรงค์ใช้ให้ไปเค้นจากรานีว่าใครเป็นคนช่วยสาโรจน์ไว้ ซึ่งก็เป็นเวลาที่รานีกำลังเดินทางกลับเข้าเมืองภูพระกาฬกับภูตะวัน

เรียวตรงไปที่วิไลบาร์เจอหลง ที่กำลังทำแผลตัวเองที่ถูกดาวกระจายของเรียวอยู่มันตะปบคอหอยจนหลงหมดสติ ภูตะวันมาส่งรานีที่หน้าบาร์พอดี ส่งแล้วเขาขี่ม้ากลับไป เมื่อรานีเดินเข้าไปในร้าน เจอหลงนอนหมดสติอยู่ ขณะกำลังงงนั่นเอง ถูกเรียวถือปืนออกมา ตะคอกถามว่าสาโรจน์อยู่ไหน

“สาโรจน์ไหน ฉันไม่รู้จัก” รานีปฏิเสธ ตาก็มองไปที่กรรไกรสำหรับทำแผลที่วางอยู่ที่แถวนั้น

เพชรรุ้งที่จะไปสืบเรื่องมือปืนที่รานีช่วยไว้ ออกมาเจอภูตะวัน เธอบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะไปปรึกษารานี ภูตะวันชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นสายตาเพชรรุ้งมองตนอย่างจับผิด

ในร้านวิไลบาร์ เรียวกำลังคุกคามรานีอย่างหนัก มันยกปืนเดินเข้าหา รานีพุ่งเข้าหยิบกรรไกรแทงแขนมันแล้วแย่งปืนไป ทำให้ปืนลั่นขึ้น ภูตะวันได้ยินเสียงปืนรีบควบม้ากลับมา เพชรรุ้งตามมาติดๆ

ภูตะวันมาเจอเรียวกำลังจ่อปืนใส่รานี เขาพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างเตะปืนจากมือเรียวแล้วชกหน้ามันหลายหมัด แต่พอมันตั้งตัวได้ก็จับภูตะวันทุ่มลงกับพื้นกระโจนขึ้นคล่อม ภูตะวันชักมีดออกมาจ่อถูกเรียวคว้าไว้

ขณะกำลังยื้อยุดกันนั่นเอง เพชรรุ้งขึ้นนกจ่อใส่เรียว สั่งเข้ม

“คุณเรียว ถ้าคุณไม่เลิกคลั่งละก็ ฉันยิงแน่!”

ooooooo

บุหลันที่ฝืนใจมาอยู่ที่ไร่ฟ้ารุ่งกับเดชาหงุดหงิดมากเมื่อไม่ได้รับการปรนนิบัติเยี่ยงเจ้านาย กอปรกับโมโหเดชาที่เอาหีบเครื่องเพชรมอบให้ณรงค์ไปหมด ทำให้ทะเลาะกับเดชากระทั่งด่าเดชาว่าไม่ได้เรื่อง

เดชาถูกด่าก็โกรธจะตบ บุหลันขู่ว่าถ้าลงมือกับตนเมื่อไรตนจะไปจากที่นี่ทันที ด่าเดชาว่าโง่เอาเครื่องเพชรไปแลกกับตำแหน่งผู้ช่วยนายอำเภอ ถ้าเราหนีไปด้วยกันป่านนี้คงได้เสวยสุขกันแล้ว

ทั้งคู่ด่าทอกันอย่างรุนแรง บุหลันสะบัดเดินออกไป เดชารีบตามเพราะยังต้องอาศัยบุหลันอยู่ เจอยศเข้าที่บันได ยศตำหนิเดชาว่าไม่ควรพาผู้หญิงคนนี้มาที่นี่ ผู้หญิงที่หักหลังผัวตัวเองจะไว้ใจได้ยังไง

“ผมจัดการได้น่าพ่อ” เดชาเถียง

“เนี่ยหรอวิธีจัดการของแก แกหลงนังนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วเดชา” ยศด่าเตือนสติ

บุหลันเดินตุปัดตุป่องผ่านแคมป์ทหาร ถูกพวกทหารร้องแซวเป่าปากกันเปี๊ยวป๊าว ณรงค์โผล่มาดูเห็นรูปร่างเย้ายวนของบุหลันก็สนใจ แต่ไม่ทันทำอะไรทหารก็มาบอกว่าศักดาเชิญไปพบที่เรือนใหญ่เสียก่อน

ooooooo

ที่ห้องรับแขกเรือนใหญ่ไร่ฟ้ารุ่ง ศักดากำลังสอบถามภูตะวัน เพชรรุ้ง เรียว และรานีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ เรียวบอกว่าตนสงสัยว่ารานีจะสมรู้ร่วมคิดกับมือสังหารที่ชื่อสาโรจน์

รานีปฏิเสธกระทั่งสาบานว่าตนแค่หิ้วข้าวหิ้วน้ำไปส่งให้เขาเฉยๆ ยศดักคอว่าสภาพหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เธอควรจะแจ้งพวกตนมากกว่า รานีตอบอ้อนๆว่า “แหม...ก็รานีเสียดายลูกค้านี่”

“แก้ตัวง่ายไปหน่อยมั้งคุณรานี ในเมื่อคนของผมเห็นคุณกับลูกน้องพาสาโรจน์หนีไปตอนเกิดเหตุ”เสียงณรงค์แทรกเข้ามา รานีถามว่ามีหลักฐานหรือว่าเห็นด้วยตาตัวเอง เรียวอ้างว่าลูกน้องของเธอมีแผลที่เกิดจากดาวกระจายของตน

รานีทำหน้าสมเพชถามว่า ในเมืองภูพระกาฬตอนนี้มีใครบ้างที่ไม่ได้แผลไม่เจอลูกหลง แต่ณรงค์ก็ยังมองรานีอย่างไม่ไว้ใจ ภูตะวันจึงรับรองว่า รานีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมือสังหาร ตนขอเอาชีวิตเป็นประกัน ณรงค์ไม่เชื่อ เพชรรุ้งจึงพูดอย่างกล้าหาญว่า “ถ้างั้นฉันขอยืนยันด้วยอีกคน” ทำให้ยศตกใจ เธอหันไปบอกณรงค์ว่า

“นายเสือช่วยชีวิตพ่อฉันเอาไว้ ฉันสมควรเชื่อใจเขา”

เมื่อกลับถึงไร่ฟ้ารุ่ง ณรงค์สบถกับเรียวด้วยความแค้นใจว่า “ตกลงนังเพชรรุ้งมันเห็นฉันเป็นคู่หมั้นหรือเห็นไอ้เสือเป็นคู่หมั้นกันแน่ ทำแบบนี้มันฉีกหน้ากันชัดๆ”

เรียวปลอบให้ใจเย็นๆ เพราะใกล้วันแต่งงานแล้ว เสนอณรงค์ว่า เราต้องใช้คนอื่นให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะเพื่อนใหม่ของเรา

“แกหมายถึงเดชา”ณรงค์ตาวาวขึ้นมา

ooooooo

จากที่สิงห์ได้แสดงความจงรักภักดีและปกป้องเธอจากอันตราย ทำให้พลอยขวัญรู้สึกดีๆกับเขาขึ้นมาก คืนนี้เธอออกไปเจอสิงห์อยู่เวรเฝ้ายาม จึงอาสาจะอยู่เป็นเพื่อนเขา พูดติดตลกอย่างมีความสุขว่า

“จะอยู่จนยันสว่าง พรุ่งนี้เราจะดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน...”

คืนเดียวกันนี้ เพชรรุ้งก็ไปปาหน้าต่างห้องพักภูตะวัน พอเขาโผล่มาดู เธอก็ขี่ม้าผละไป ภูตะวันตามไปจนเจอเธอที่หน้าถ้ำภูอุษา ภูตะวันมาใกล้ๆเรียก “คุณเพชรรุ้ง” เธอบอกเขาว่า คืนนี้จะพูดกับเขาในฐานะเพื่อน ฉะนั้นขอให้เรียกตนว่าเพชรรุ้งเฉยๆ

เพชรรุ้งบอกภูตะวันว่า ที่ตนออกหน้ารับประกันเขานั้นไม่ได้แปลว่าเชื่อใจเขา ตรงกันข้ามตนก็สงสัยเขาพอๆกับคนอื่น ทำไปก็แค่ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยเสี่ยงชีวิตปกป้องตนกับพ่อจะเป็นคนร้ายเท่านั้น

ภูตะวันถามว่าเธอจะให้เขาทำอะไร เพชรรุ้งตอบทันทีว่าไปจากที่นี่เสีย เพราะถ้าตนสืบได้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับฆาตกร ตนนี่แหละจะฆ่าเขาด้วยมือ แต่พอภูตะวันชักมีดออกมาใส่มือเธอ ดันหน้าอกตัวเองเข้าที่ปลายมีด เธอกลับชักมีดหนี ร้องห้ามเสียงประหม่า

“อย่า...อย่านะ! ฉันบอกให้หยุด! นายจะบีบฉันทำไม นายก็รู้ว่าฉันคิดอะไรกับนาย แล้วทำไมต้องทรมานฉันแบบนี้ ทำไมนายไม่ไปจากที่นี่ ทำไมนายไม่ไปจากชีวิตฉัน” เพชรรุ้งร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น “ฉันไม่อยากเห็นนาย เลิกทำลายชีวิตฉันเสียทีนายเสือ”

ภูตะวันมองเธออย่างน้อยใจ ทิ้งหางตามองเธออย่างเจ็บแค้นแล้วขึ้นม้าควบไปทันที ส่วนเพชรรุ้ง พอภูตะวันไปจริงๆก็อดใจหายไม่ได้

เวลาเดียวกันนั้น พลอยขวัญอยู่กับสิงห์ เธอเห็นดาวตก สิงห์บอกว่าคนโบราณถือว่าดาวตกที่ไหน จะมีคนตายที่นั่น แต่พลอยขวัญเถียงว่า เขาให้อธิษฐานต่างหาก สิงห์ถามว่าอธิษฐานอะไร

“ก็ขอให้ความรักสมหวังไง” พูดแล้วพลอยขวัญหลับตาพนมมืออธิษฐาน สิงห์เลยทำบ้าง

ooooooo

ความเสียใจ เจ็บใจ ทำให้ภูตะวันขี่ม้าไปแถวเวิ้งน้ำ ดื่มอย่างหนักจนเมาแทบไม่ได้สติ แม้จะเมาทั้งคืนแต่ในห้วงนึกคิด ภูตะวันก็ยังเห็นแต่เพชรรุ้ง จนทนไม่ได้ชักปืนออกมายิงจนหมดลูกโม่ แล้วทรุดลงนอนร้องไห้กับผืนทรายอย่างเจ็บปวด...

ที่ปากทางเข้าไร่ฟ้ารุ่ง พลอยขวัญอยู่กับสิงห์จนเช้าจริงๆ เธอตื่นขึ้นมาเห็นเสื้อหนาวของสิงห์คลุมกายตัวเองอยู่ เธอลุกขึ้นจากหนุนตักเขา มองสิงห์อย่างรู้สึกดีกับการที่ได้อยู่กับเขามาทั้งคืน...

ฝ่ายรานี รับห่อของจากเฮียเส็งที่โรงแรมสันติภาพเตรียมออกเดินทาง เฮียเส็งบอกว่านี่คือเสบียงอาหารกับยาแก้ อักเสบ เป็นยาฝรั่งรับรองกินไม่เกินเจ็ดวันแผลแห้งสนิท

ส่วนที่ว่าการอำเภอ วันนี้เดชาตั้งหน้าตั้งตากางแผนที่ของภูพระกาฬมาสำรวจค้นตำแหน่งของสายแร่พลอย จรัญอยู่ในห้องขัง พูดอย่างสมเพชว่า ภูพระกาฬนี่ต้องคำสาปจริงๆ เจ้าหน้าที่มาปกครองแต่ละคนเขี้ยวลากดินทั้งนั้น
ทันใดนั้น ภูตะวันเดินเมาๆขึ้นมา ตรงไปที่ห้องขังจรัญ เดชารีบขวางไว้ถามว่าจะทำอะไร

“แกมันชาติชั่วไอ้จรัญ แกมันสมควรตาย” ภูตะวันด่า จรัญบอกว่าไม่ต้องรีบ ถึงยังไงณรงค์ก็ไม่ปล่อยตนไว้หรอก “ฉันต้องฆ่าแกด้วยมือฉันมันถึงจะสาสมกับความเลวที่แกเคยทำไว้กับครอบครัวฉัน”

เดชามองภูตะวันอย่างเอะใจ พอภูตะวันง้างนกจะยิงจรัญจริงๆ เดชาก็ชักปืนออกมาแล้วปราดเข้าไปทุบท้ายทอยจนภูตะวันสลบ เดชามองร่างภูตะวัน คำรามเบาๆ

“ไอ้เสือ ถ้าแกไม่ใช่คนโปรดคุณศักดาละก็ แกตายแน่”

เมื่อรู้ไปถึงศักดากับยศ ยศตั้งข้อสังเกตว่าภูตะวันทำเหมือนเจ็บแค้นจรัญมาก ดูเหมือนจะเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย เกรงว่าจรัญจะอยู่ไม่ถึงวันพิพากษา

“ถ้างั้นก็ส่งนายสิงห์ไปเสริมทัพอีกแรงแล้วกัน เผื่อมีคนของเราที่แค้นไอ้จรัญเหมือนนายเสืออีกจะได้คอยห้าม” ศักดาสั่ง

ooooooo

บุหลันทำตัวเป็นคุณนายเดินกรีดกรายไปโน่นมานี่ วันนี้เข้าครัวไปเจอสาลี่กับพลอยขวัญก็หางตาใส่ทั้งสองมองดูและพูดกันอย่างหมั่นไส้ บุหลันได้ยินเดิน เข้ามาถามพลอยขวัญอย่างหาเรื่องว่า มีธุระอะไรกับตนหรือเปล่า

“มีแน่ ถ้าเธอยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไป เธอต้องช่วยสาลี่ ทำงาน” พลอยขวัญสั่ง บุหลันโต้ว่าตนไม่ใช่ลูกจ้าง “งั้นก็ไสหัวไปซะ เชิญ!”

“ใช่ ถ้าคิดว่าไปรอด” สาลี่ลอยหน้าผสมโรง

ดังนั้น การเสิร์ฟอาหารที่แคมป์ทหารวันนี้ สาลี่ไปแจกอาหารบุหลันจึงไปช่วย สาลี่ส่งจานที่เป็นของณรงค์ให้บุหลันไปเสิร์ฟ บุหลันนวยนาดไปทันที ณรงค์มองทรวดทรงองค์เอว บุหลันอย่างพอใจ บอกบุหลันว่าตนรู้สึกเมื่อยไหล่ให้ช่วยนวดให้หน่อย

บุหลันมองปราดเดียวก็รู้ว่าณรงค์ต้องการอะไร ตอบไปอย่างรู้ทันว่าไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ของฟรีไม่มี ณรงค์จึงหยิบกล่องใส่เครื่องเพชรของจรัญออกมาให้ดู

“ว่ามาเลยคนสวย เธออยากไถ่อะไรกลับไปก่อน” บุหลันหยิบสร้อยเส้นโตขึ้นมา ณรงค์เอาสร้อยไปช่วยใส่ให้ที่คอฉวยโอกาสจูบสยิว กระซิบ “ฉันรู้ว่าไอ้เดชามันเก่ง แต่มีอยู่เรื่องนึงที่ฉันเก่งกว่ามัน”

ooooooo

บนที่ว่าการอำเภอ จรัญนอนหลับอยู่ในห้องขัง หูแว่วเสียงใครขุดอะไรอยู่ข้างนอกจึงปีนไปดูที่ช่องระบายอากาศ เห็นถาวรกำลังขุดหาอะไรอยู่ พอตะโกนถาม ถาวรหันมายกมือไหว้ถามว่าสบายดีหรือ

จรัญโมโหบอกว่าให้ลองมาติดคุกดูบ้างสิ ถามว่าขุดอะไรอยู่ ถาวรจึงบอกว่าหาสมบัติเก่าเก็บเพราะคิดว่าเร็วๆ นี้ตนคงต้องเผ่นไปจากภูพระกาฬ จรัญสบช่องถามอ่อยว่าแล้วจะพอใช้หรือ เพราะย้ายถิ่นฐานแบบนี้ต้องใช้จ่ายเยอะ
จอมงกนกรู้อย่างถาวร เลยย้อนถามว่าพ่อเลี้ยงมีข้อเสนออะไรหรือ

“เอ็งไปตามหาไอ้ก้อน แล้วบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า...ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”

ถาวรไปหาก้อนตามที่จรัญบอก มันซ่อนตัวอยู่ในป่าหากินประทังชีวิตไปตามประสา พอมันเห็นคนขี่ม้ามาแต่ไกลก็ยกปืนเล็งแล้วยิงทันที ถูกถาวรที่สะโพก แล้วถือปืนรี่เข้าไปหา จึงรู้ว่าที่แท้คือถาวรนั่นเอง ถาวรบอกว่า “พ่อเลี้ยงจรัญให้ฉันมาส่งข่าว” ก้อนจึงลดปืนลง

ฝ่ายนายพลเรืองฤทธิ์ เมื่อรู้จากธนาว่าพ่อเลี้ยงจรัญ ถูกจับตัวได้แต่สาโรจน์ยังไม่ตาย ได้ข่าวว่าบาดเจ็บก็สั่งการ

“ไอ้สาโรจน์ ไอ้แมวเก้าชีวิต...โทรเลขไปบอกณรงค์ มะรืนนี้ฉันจะไปที่ภูพระกาฬ เพื่อแขวนคอไอ้จรัญ แล้วก็จะได้สะสางกับไอ้สาโรจน์เสียที!”

ooooooo

ภูตะวันเมาจนครองสติไม่อยู่จะไปฆ่าจรัญที่อำเภอ ถูกเดชาเล่นงานจนหมดสติ รู้สึกตัวอีกทีก็นอนหมดสภาพอยู่ที่ห้องพักตัวเองแล้ว ถามสาลี่ที่คอยดูแลอยู่ว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

พอสาลี่เล่าให้ฟังว่าเขาเมาหนักแล้วยังจะไปฆ่าจรัญด้วย ภูตะวันถามว่าแล้วศักดารู้หรือเปล่า

“โอ๊ย...อย่าว่าแต่คุณศักดาเลยคุณ คนอื่นเขาก็รู้กันทั้งบางแล้ว ทุกคนสงสัยเหมือนกันหมดว่าคุณไปแค้นไอ้จรัญตอนไหน”

คำบอกเล่าของสาลี่ ทำให้ภูตะวันเริ่มกังวล...เขาตัดสินใจจะไปแก้ตัวกับศักดา ลงมาเจอเพชรรุ้งเข้า พอรู้ว่าเขาจะไปหาศักดา เธอตัดบทว่า

“ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าละก็ ไม่จำเป็น ใครๆ เขาก็รู้ว่านายเมาจนหมดสภาพ”

ภูตะวันพยายามจะชี้แจง แต่ถูกณรงค์แทรกเข้ามาถามเพชรรุ้งว่ามีอะไรจะให้ตนช่วยไหม แล้วมองไปทาง
ภูตะวันพูดปรามๆว่า “หวังว่านายเสือคงไม่ได้รบกวนคุณ”

เพชรรุ้งตัดบทว่านายเสือเพิ่งสร่างเมาพูดไม่รู้เรื่องไล่ให้กลับไปพักดีกว่าอย่าให้ตนต้องรำคาญมากไปกว่านี้เลย แล้วถามณรงค์ว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า

“ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณ เป็นการส่วนตัว” ณรงค์บอกเพชรรุ้งแล้วมองไปทางภูตะวันเชิงไล่

เพชรรุ้งจึงชวนไปคุยกันทางโน้นดีกว่า แล้วเดินไปกับณรงค์ ระหว่างนั้น เรียวมองภูตะวันอย่างหาเรื่อง พอภูตะวันจะเดินไปมันก็ก้าวไปขวางไว้ พูดท้า

“ที่เราสู้กันคราวก่อน ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ฉันหวังว่าคงมีโอกาสทดสอบฝีมือกับนายอีกครั้ง”

“ไม่ต้องห่วง แกมีโอกาสแน่” ภูตะวันตอบอย่างท้าทายแล้วเบี่ยงตัวไป

ooooooo

ณรงค์บอกเพชรรุ้งว่า คุณพ่อเขาโทรเลขมาบอกว่าจะเดินทางมาถึงภูพระกาฬวันพรุ่งนี้ ท่านจะมาธุระเรื่องงานแต่งงานของเรา เพราะท่านเห็นว่าเราน่าจะหมั้นกันให้ถูกต้องตามประเพณี ถามว่าเธอเห็นด้วยไหม

เพชรรุ้งฟังนิ่งๆ บอกว่าเรื่องนี้ต้องถามคุณพ่อ ณรงค์ตัดพ้อว่าดูท่าทางเธอไม่ดีใจเอาเสียเลย

“ฉันเคยบอกคุณไปแล้วว่า ทำไมฉันถึงยอมแต่งงานกับคุณ” พูดแล้วเพชรรุ้งจะเดินหนี ถูกณรงค์คว้าตัวไว้ พูดอย่างมีอารมณ์ว่า

“อย่าเล่นตัวให้มากนักคุณเพชรรุ้ง เพราะถ้าถึงเวลาผมเอาคืนเมื่อไหร่คุณคงรับไม่ไหวแน่”

เพชรรุ้งมองหน้าถามว่านี่หรือคือคำพูดของว่าที่เจ้าบ่าว ณรงค์แก้ตัวว่าตนเป็นคนโผงผาง พูดเหน็บว่า “ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกับนายเสือชู้รักของคุณ รู้ไว้ด้วยนะเพชรรุ้ง ถ้าผมได้ครองไร่ฟ้ารุ่งเมื่อไรคนแรกที่ผมจะเฉดหัวไปจากที่นี่ก็คือมัน!”

เพชรรุ้งมองณรงค์อย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนขวานผ่าซากขนาดนี้

ฝ่ายภูตะวันเดินกลับเรือนพักการ์ด เจอสมใจมาปรึกษาว่าอยากรับเจ้าแก้วเด็กขัดรองเท้าไว้เลี้ยง เพราะขืนปล่อยให้เร่ร่อนอยู่อย่างนี้ไม่เป็นโจรก็ต้องถูกฆ่าตายสักวัน

ภูตะวันเห็นด้วยรับปากว่าจะคุยกับศักดาให้ พรท้วงติงว่าจะดีหรือ

“ฉันเองก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันนะพร ฉันว่าสมใจเขาทำถูกแล้วล่ะ” ภูตะวันยืนยัน พรยังลังเล แต่สมใจฟังแล้วยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ...

ooooooo

สิงห์ที่ศักดาส่งมาเสริมกำลังคุมจรัญที่อำเภอนั้น เล่นไพ่กับพวกทหารที่มาเฝ้าจรัญอย่างเพลิดเพลินแต่เล่นแพ้ทหารจนเงินเกือบหมดหน้าตัก จนสุดท้ายจรัญที่ดูอยู่ในห้องขังแอบส่งสัญญาณให้ว่าไพ่ของทหารเป็นอะไรจนสิงห์ทิ้งไพ่เทหมดหน้าตัก

ปรากฏว่ากวาดมาได้เกลี้ยง ทหารมองจรัญอย่างระแวงแต่จรัญทำลอยหน้าผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ทหารจึงเล่นกันต่อ แต่สิงห์ไปซื้อเหล้ามาสมนาคุณจรัญขวดหนึ่งพอจรัญขอบใจ สิงห์บอกว่าไม่ต้องขอบใจหรอกตนแค่ไม่อยากเป็นหนี้คนอย่างเขาเท่านั้น

ระหว่างที่พวกทหารนั่งเล่นไพ่กันนั้น ก้อนกับถาวรมาซ่อนตัวอยู่ที่หลืบมุมตึก ถาวรทำท่าจะหลบไปก้อนไม่ยอมบังคับให้ต้องช่วยตนก่อน ถาวรอ้างว่าพ่อเลี้ยงให้ตนไปส่งข่าวเฉยๆไม่ได้ให้ลงมือด้วย

“พ่อเลี้ยงอยู่ในคุกแล้วจะจ่ายเงินให้แกได้ยังไง หรือว่าแกไม่อยากได้” ก้อนย้อนถาม ทำให้ถาวรลังเล ระหว่างนั้นเดชาเดินมาที่อำเภอ ก้อนตาลุกพึมพำ “ไอ้เดชา นี่มันยังไม่ตายอีกเหรอวะ”

ถาวรบอกว่าก็เดชาคนนี้แหละที่ไปจับตัวพ่อเลี้ยงจรัญมาตอนที่พ่อเลี้ยงหนีออกนอกเมือง

“ไอ้ทรยศ วันนี้กูต้องฆ่ามึงให้ได้” ก้อนคำราม

ooooooo

เดชาเดินขึ้นที่ว่าการอำเภอ เห็นพวกทหารเล่นไพ่กันอยู่ก็ด่าว่าใครอนุญาตให้เล่นการพนันบนนี้ สิงห์ไกล่เกลี่ยว่าหยวนๆ เถอะเล่นแค่นี้เรื่องขี้ผง ถูกเดชาตวาดว่าตอนนี้ตนดูแลที่นี่ไม่ใช่สิงห์

“เฮอะ...ไอ้คางคกขึ้นวอเอ๊ย ทำเป็นกร่าง” จรัญด่าออกมาจากห้องขัง เดชามองขวับ สิงห์รีบบอกว่าผู้ต้องหาพูดไม่ใช่ตน เดชาปราดเข้าไปจะเล่นงานจรัญ

ทันใดนั้นเสียงปืนแผดขึ้นกระสุนทะลวงเข้ามาถูกข้าวของกระจุย

พวกทหารที่เล่นไพ่อยู่แตกฮือขึ้น ตะโกนกันให้จับตัวคนร้ายมาให้ได้ เดชาห้ามไว้เกรงจะเป็นกับดักสั่งทหารให้กลับเข้าข้างใน เชื่อว่าต้องมีคนบุกมาช่วยจรัญแน่

เดชาพูดไม่ทันขาดคำ ก้อนก็โผล่เข้ามายิงใส่เดชาทันที ก้อนคำรามพร้อมเสียงปืน

“ไอ้เดชา มึงตาย!!”

เดชาและสิงห์รวมทั้งพวกทหารพากันหลบหาที่กำบัง ในขณะที่ก้อนเดินเข้ามาพลางสาดกระสุนอย่างบ้าคลั่ง

เดชาตะโกนสั่งทหารให้สะกัดก้อนไว้อย่าให้เข้ามา ระหว่างนั้นจรัญเอาขวดเหล้าที่สิงห์ซื้อมาให้ตีขวดแตกเป็นปากฉลามแล้วคว้าคอเดชาล็อกไว้ เอาขวดปากฉลามจ่อ ขู่สิงห์ให้ทิ้งปืน ไม่งั้นเดชาเลือดพุ่งแน่

เมื่อก้อนบุกขึ้นมา จรัญบอกที่เก็บกุญแจห้องขัง ก้อนไปคว้ามาไขกุญแจ จรัญทิ้งขวดปากฉลามแล้วแย่งปืนเดชาไป ส่วนสิงห์ก็ถูกก้อนถือปืนคุมเชิงอยู่

จรัญจะฆ่าเดชา แต่เดชาขอร้องอย่าฆ่าตนเลย จังหวะนั้นสิงห์ฉวยโอกาสโผเข้าแย่งปืนจากก้อนแล้วยิงใส่จรัญแต่ไม่ถูก เดชาสบโอกาสนั้นวิ่งหนีออกไป ส่วนสิงห์ต่อสู้กับก้อน ถูกก้อนเอาพานท้ายปืนฟาดหัวสลบแล้วรีบพาจรัญหนี เพราะทหารคงใกล้มาถึงแล้ว

ooooooo

ก้อนกับจรัญวิ่งมาขี่ม้าควบไปอย่างเร็ว โดยไม่รู้ว่าเดชาเล็งปืนตามหลังไปอย่างอาฆาตแค้น

จรัญกับก้อนขี่ม้าตามกันไป มองจากข้างหลังร่างเกือบซ้อนเป็นร่างเดียวกัน เดชาตัดสินใจยิงตามหลังไป จรัญชักปืนจะยิงตอบโต้แต่ก้อนบอกให้รีบหนีไปก่อนอย่าไปสนใจมัน ระหว่างนั้นเดชายังยิงตามจนกระสุนหมดแต่ทั้งสองคนยังคงขี่ม้าไปอย่างไม่สะดุดชะงักเลย

เมื่อออกมาจากภูพระกาฬแล้ว จรัญขี่ม้าเหยาะๆนำก้อนมาช้าๆกล่าวอาฆาตเดชาว่าถ้าตนกลับไปภูพระกาฬเมื่อไรจะเด็ดหัวมันเป็นคนแรก บอกว่าถึงเวลานั้นก้อนต้องช่วยตนรับรองว่าตนต้องกลับมายิ่งใหญ่ในภูพระกาฬได้อีกครั้ง

เห็นก้อนเงียบจึงชักม้าหันกลับมาดู เห็นก้อนโงนเงนแล้วร่วงจากหลังม้า พอลงมาดูจึงรู้ว่าก้อนถูกยิงที่แผ่นหลังเป็นรูหลายนัด จรัญถามอย่างตกใจว่าถูกยิงทำไมไม่บอกแต่แรก

“พ่อเลี้ยงไม่ต้องห่วงฉัน หนีไป...ที่พักของฉันอยู่ทางทิศเหนือ อย่ากลับมาที่ภูพระกาฬ ที่นี่ไม่มีใครที่พ่อเลี้ยงไว้ใจได้อีกแล้ว”

จรัญตกใจ เสียใจ พยายามเรียกก้อนไม่ให้ตาย แต่ก็ยื้อไว้ไม่ได้ ก้อนบอกเป็นคำสุดท้ายว่า...

“พี่...ฉันไม่เคยทรยศพี่นะ พี่จรัญ...”

จรัญเสียใจมาก เวลานี้เขารู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนตัวคนเดียวในโลก แผดเสียงร้องออกมาไม่เป็นภาษา แต่ความแค้นกลับยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

สุดท้าย จรัญเปลี่ยนเสื้อผ้ากับก้อน ให้ก้อนใส่เสื้อผ้าของตนและตัวเองเอาของก้อนมาใส่ จากนั้นเอาร่างก้อนไปหย่อนลงที่หน้าผา บอกร่างที่ไร้วิญญาณของลูกน้องที่ซื่อสัตย์ว่า

“ช่วยงานข้าอีกครั้งนะไอ้น้องชาย ครั้งสุดท้าย...” แล้วหันกลับมองไปทางภูพระกาฬกัดฟันพูด “กูจะกลับมา กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด กูจะสาปภูพระกาฬให้กลายเป็นขุมนรก กูสาบาน กูขอสาบาน!!”

ooooooo

ถาวรหนีกระเซอะกระเซิงไปที่โรงแรมสันติ-ภาพ อ้อนวอนเฮียเส็งให้ช่วยตนด้วย ครู่เดียวทหารก็ตามมากระชากตัวถาวรไป เฮียเส็งถามว่าทำไมต้องลงมือกันด้วย ถาวรเป็นถึงผู้ช่วยนายอำเภอแท้ๆ

ทหารบอกว่าถาวรพยายามชิงตัวพ่อเลี้ยงจรัญต้องโดนลงโทษ ถาวรชี้แจงลนลานว่า เพราะพ่อเลี้ยงเอาเงินฟาดหัวตนเลยต้องทำแบบนี้ ทหารไม่ฟังเสียงสั่งให้ลากตัวไปท่ามกลางเสียงถาวรร้องขอให้เถ้าแก่ช่วยตนด้วย ครกได้แต่มองตามอย่างสมเพช พึมพำปลงๆ

“เฮ้อ กินสินบาทคาดสินบน สุดท้ายกรรมตามสนองจนได้” เฮียเส็งถามว่าสงสารเหรอ ครกหันมองตอบเสียงหนักๆ “สมน้ำหน้า” เฮียเส็งฟังแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ooooooo

นายพลเรืองฤทธิ์ตัดสินใจที่จะไปลุยจับสาโรจน์ด้วยตัวเองที่ภูพระกาฬ วันนี้เขานั่งดื่มที่บ้านคิดทบทวนถึงอดีตที่แตกหักกับสาโรจน์ ต้นเหตุจากที่เขาสั่งให้สาโรจน์ไปปราบคนที่เขาบอกว่าเป็น “กบฏ” แต่สาโรจน์กลับเห็นว่าพวกเขาเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์แต่ถูกทางการยัดข้อหาให้เพื่อกำจัดพวกเขาแล้วยึดครองที่ดินแถบนั้น

“แล้วมันกงการอะไรของแก แกมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ฉัน ในเมื่อฉันมีอำนาจ ฉันจะทำอะไรก็ได้ ฉันเป็นเจ้านายของแก” พูดแล้วเดินเข้าหาพูดใส่หน้า “แกคือทหารของฉันสาโรจน์ แกต้องทำตามที่ฉันสั่ง!”

“ผมเป็นทหาร แต่ท่านเป็นโจร” สาโรจน์สวนไปอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วผละไป เรืองฤทธิ์คำรามเรียกอย่างไม่พอใจ

และเมื่อสาโรจน์ลาออกจากราชการแล้ว เขากับเรืองฤทธิ์ก็กลายเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจยอมกันได้!

เรืองฤทธิ์ดื่มจนหลับไปปล่อยแก้วเหล้าหลุดมือแตก ธนาเข้ามาถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาตั้งสติบอกว่าแค่เผลอหลับไป แล้วถามว่า องครักษ์ที่จะติดตามตนไปคราวนี้เป็นทีมเดิมหรือเปล่า

ธนาบอกว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้ทั้งนั้น แต่เรืองฤทธิ์ย้ำขอคนที่มีฝีมือ คนที่เป็นนักฆ่าเพราะตนสังหรณ์ใจว่า เที่ยวนี้ตนอาจได้เจอกับสหายเก่าบางคน แววตาของเรืองฤทธิ์มีแววตึงเครียดจนธนารู้สึกแปลกใจ

ooooooo

วันนี้ขณะที่สมใจพาแก้วจะเอาไปอยู่ไร่ฟ้ารุ่งนั้น เจอพรวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าถาวรกำลังจะถูกแขวนคอ สมใจรีบไปบริเวณแคมป์ทหารในไร่ฟ้ารุ่งทันที เห็นถาวรกำลังอ้อนวอนณรงค์อย่าฆ่าตนเลยตนผิดไปแล้ว ณรงค์บอกว่าที่จริงคนที่ต้องถูกแขวนคอคือพ่อเลี้ยงจรัญแต่เมื่อถาวรปล่อยพ่อเลี้ยงไปเลยต้องถูกแขวนคอแทน

สมใจวิ่งเข้าไปขอร้องณรงค์อย่าถึงกับประหารถาวรเลย พรก็เสนอว่าอย่างน้อยเราต้องบอกศักดาก่อน ณรงค์ตวาดว่าไม่จำเป็นเพราะตอนนี้ตนเป็นคนดูแลที่นี่ย่อมมีสิทธิ์ตัดสินใจได้ทุกเรื่อง

“คุณณรงค์ ที่นี่เป็นบ้านฉัน ไม่ใช่ลานประหาร”เพชรรุ้งแหวกกลุ่มทหารเข้าไปพูดกับณรงค์ พลอยขวัญตามมาเสริมว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป เขาไม่มีสิทธิ์อะไรมาตั้งศาลเตี้ย

เมื่อณรงค์ยืนกรานต้องแขวนคอถาวรเพราะสถานการณ์แบบนี้ต้องปกครองด้วยความเด็ดขาด ภูตะวันจึงแทรกเข้าไปพูดในฐานะหัวหน้าการ์ดว่าถ้าณรงค์จะลงโทษใครอย่างน้อยก็ต้องถามตนบ้าง

เจอภูตะวันมาขวางเช่นนี้ ณรงค์ของขึ้นทันที ถามว่า ที่นี่ใครใหญ่กว่ากัน ภูตะวันเลยท้าดวลกันดีกว่า ถ้าเขาชนะตนจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ณรงค์มองอย่างดูถูกแต่เมื่อภูตะวันบอกว่าเขาควรให้โอกาสคนอื่นบ้าง ณรงค์จึงพูดอย่างผยองว่า

“ก็ได้ ฉันจะฆ่ามัน ส่วนนายหาทางช่วยมัน” แล้วสั่งการ “แขวนคอ!!”

ณรงค์ท้าภูตะวันว่าถ้าเขาใช้กระสุนนัดเดียวยิงเชือกที่แขวนคอถาวรขาดก็ถือว่าชนะ จะยอมปล่อยถาวรไป แต่ถ้ามากกว่าหนึ่งนัด “ฉันจะระเบิดสมองนาย!”

แม้จะเครียดแต่ภูตะวันก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ แต่พอเขายิงจริงๆกระสุนกินเชือกไปไม่ถึงครึ่ง ทุกคนหน้าเสีย ณรงค์สรุปทันทีว่า “นายแพ้ฉันแล้วนายเสือ”

แต่พริบตานั้น ความร้อนจากกระสุนทำให้เชือกลุกไหม้จนขาด ร่างถาวรร่วงลงมา สมใจดีใจมากรีบเข้าไปดูถาวรว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ณรงค์ไม่ยอมแพ้ชักปืนจะยิงถาวร ภูตะวันห้ามไม่ทัน ถาวรถูกยิงที่หัวเข่าพับลงไปร้องลั่น สมใจ หันไปถามณรงค์อย่างแค้นใจว่า “คุณณรงค์ คุณทำแบบนี้ทำไม”

“คุณณรงค์ คุณผิดคำพูด” เพชรรุ้งประณาม

“ผมเปล่า โทษตายละเว้นได้ แต่โทษเป็นไม่มีทางละเว้น” ณรงค์ตอบหน้าด้านๆแล้วพูดกับภูตะวัน “นายคงไม่โกรธฉันนะนายเสือ”

ooooooo

ตะวันเดือด

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด