ตอนที่ 12
แสนตัดสินใจจะไปช่วยเพื่อนทำงานวิจัยที่เชียงราย เพื่อหนีใจตัวเอง เขาหอบกระเป๋าใบโตออกมา ทุกคนในบ้านแปลกใจ แสนบอกหนานปิงและสินว่า ตนได้เตรียมปุ๋ยชีวภาพและไหลลอตใหม่พร้อมน้ำยาสมุนไพรไล่แมลงไว้ให้แล้ว สินอดถามไม่ได้
“ฉันถามจริงๆ ที่แกจะไปเนี่ย เพราะหนูอันยาใช่ไหม” สินมองลูกชายอย่างคาดคั้น ปุ๊กลุกทำงานบ้านอยู่ไม่ห่าง พอรู้ว่าแสนจะไม่อยู่รีบเข้ามาฟัง สินต่อว่าลูกชาย “แค่หนูอันยาอยู่ที่นี่แกถึงกับจะต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเลยเหรอ งั้นแกจะให้พวกฉันทำยังไงฮะ แกบอกมาสิ”
“ทุกคนไม่เห็นต้องทำอะไร ผมก็แค่จะไปช่วยงานวิจัยของเพื่อน”
ฟองคำเข้าใจความรู้สึกลูกชาย จึงปรามสามีอย่าใช้อารมณ์ สินโวย การทำแบบนี้เท่ากับว่าพวกตนผิดที่ให้อันยาอยู่ที่นี่ แสนตัดบทไม่มีใครผิด ตนไปไม่นานจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
“ไอ้แสน แกเป็นลูกฉัน ต่อให้จบด็อกเตอร์มาจากไหน แค่อ้าปากฉันก็รู้นิสัยแกอยู่ดี เวลาที่แกไม่พอใจแต่ไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร แกก็จะเป็นฝ่ายไปเสียเอง... ทำไม กะอีแค่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่ มันจะเป็นอะไรนักหนา”
อันยาเดินมาพร้อมสิงห์พอดี แสนอัดอั้นกับคำพูดของพ่อ จึงโต้ตอบ “ก็แล้วก่อนหน้านั้นทำไมถึงไม่มีใครถามผมบ้าง เรื่องที่จะให้เขามาอยู่ที่นี่ ผม... ก็พยายามจะอดทน...มากที่สุดแล้ว”
“หนูอันเขาก็พยายามจะชดใช้ไถ่โทษให้ทุกอย่าง แสน...ลูกให้อภัยเขาไม่ได้จริงๆ เหรอ” ฟองคำถามลูกชายอย่างอ่อนโยน อันยาซึ่งยืนฟังอยู่บีบมือตัวเองแน่นอย่างบีบคั้น
“ผมอาจจะอภัยให้เขาก็ได้ แต่ไม่ใช่วันนี้ ตอนนี้ และต่อให้ผมให้อภัยเขาได้ มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผมไม่มีทางจะเชื่อใจผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ไม่มีวัน” แสนเผยความในใจ
“อย่างนี้นี่เอง!” อันยาโพล่งออกมา ทุกคนตกใจหันมามอง “เข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว ว่าคุณไม่มีวันเลิกเกลียดฉัน...ที่ผ่านมา บางคนเรียกฉันว่าคนทรยศ บางคนก็เรียกว่านังมาร บางคนว่าฉันชั่ว ว่าฉันเลว แต่คุณรู้ไหม ไม่มีคำไหนที่มันฆ่าฉันได้ เท่ากับคำพูดเมื่อกี้นี้ของคุณ” อันยาน้ำตาแตกอย่างปวดร้าว “ฉันมันบ้า โง่เพ้อไปเอง หลงคิดว่าที่คุณดีกับฉันคงเพราะคุณเริ่มจะให้อภัย คุณคงมองเห็นความตั้งใจของฉันบ้าง แต่จริงๆ แล้ว...คุณก็แค่สมเพชฉัน ทำไม คนที่เคยทำผิด สำนึกผิดไม่ได้หรือยังไง คุณมีหัวใจ โดนทำร้าย เจ็บปวดกับเรื่องที่ผ่านมา แต่ว่าฉันสบายดีใช่ไหม...คุณมองฉันสิคุณแสน คุณว่าฉันสบายดีรึเปล่า”
แสนมองอันยารู้สึกปวดร้าวไม่ต่างจากเธอ แต่ก็กัดฟันตอบออกไป “คุณก็ยังสบายดีกว่าอีกหลายคนที่เขาต้องลำบากเพราะการกระทำของคุณ”
อันยาช็อกแทบทรุด ไม่นึกว่าแสนจะย้อนมาแบบนี้ ฟองคำปรามลูกชายพูดแรงเกินไป อันยาถามเสียงสั่น ว่าเกลียดตนมากขนาดนี้เชียวหรือ
“ผมก็ไม่ได้อยากจะทำร้ายความรู้สึกคุณ ถ้าหากว่าคุณไม่มายุ่งกับผมก่อน ถ้าคุณยอมรับในสิ่งที่ผมบอก ว่าเราอย่าพบอย่าเจอกันอีก มันก็หมดปัญหาไปนานแล้ว”
“ใช่ ปัญหามันหมดสำหรับคุณ แต่สิ่งที่คุณพูด ว่าอย่าพบอย่าเจอกัน พูดไม่ให้ฉันเจอคุณนั่นแหละปัญหาใหญ่ของฉัน มันเป็นเรื่องที่ฉันยอมไม่ได้...” อันยาสะอื้นใจแทบขาด
“ไอ้แสน นี่แกต้องให้เขาทำยังไง มันถึงจะสาแก่ใจแก ฮะ” สิงห์โมโหแทน
“อย่าว่าเขาเลยค่ะ อย่าให้ฉันต้องเป็นคนเลวกว่านี้ คุณแสน...ตกลงค่ะ ฉันยอมแล้ว เรา...อย่าพบอย่าเจอกัน... อีก” อันยากลั้นความปวดร้าวที่สุดในหัวใจ น้ำตาพร่าไหลเต็มสองตาเดินไป
ทั้งหนานปิง สิน ฟองคำและสิงห์ ใจหายด้วยความสงสารอันยา แม้แต่ปุ๊กลุกยังสะเทือนใจ... สิงห์ทนความเย็นชาของน้องชายไม่ไหว ต่อว่า
“แสน แกพูดเกินไปแล้วนะ แกอยากให้เขารู้สึกผิดไปจนวันตายรึไง บ้านเราไม่เคยมีคนใจดำแบบนี้”
แสนยังนิ่งเฉย สินเห็นด้วยกับหลานชายเกรงอันยาจะคิดสั้น แสนบอกพ่อว่า ตนไม่อยากให้อันยาต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไป ฟองคำพยักหน้าพอเข้าใจลูกชาย แต่อดติงไม่ได้
“ทำเพื่อไล่เขาไป แต่เราต้องเป็นคนใจร้ายสำหรับเขาตลอดไป มันดีแล้วเหรอแสน...พ่ออุ๊ยช่วยกล่อมหลานชายหน่อยเถอะ”
หนานปิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “ไม่ต้องไปกล่อมมันหรอก ถ้ามันโง่ ปฏิเสธความรู้สึกของตัวมันเอง เดี๋ยววันนึงมันก็จะรู้สึก...เหมือนกับที่ฉันเองก็เคยเป็น” หนานปิงสะท้อนใจกับเรื่องในอดีต “ฉันน่ะไม่ห่วงหนูอันยาเลย เพราะว่าเขาได้ทำทุกอย่างแล้ว ไอ้แสนต่างหากที่น่าเป็นห่วง แกจำคำของพ่ออุ๊ยไว้ ไม่มีเกราะ รั้วหรือกำแพงอันไหน กั้นคนเราออกจากหัวใจของตัวเองได้ ถ้าแกหนีไปครั้งนี้ แกเองนั่นแหละ ที่จะต้องเป็นฝ่ายเสียใจ”
แสนฟังแล้วต้องข่มใจนิ่ง ท่ามกลางความรู้สึกปั่นป่วนมากมายภายในใจ
ooooooo
อันยาวิ่งมาหยุดร้องไห้ ทรมานกับแผลใจที่เพิ่งได้รับมา เธอร้องจนเหนื่อยตาบวมช้ำ แล้วจึงกดมือถือหาลดาแต่ไม่มีคนรับสาย มีแต่ให้ฝากข้อความ เธอจึงปรับเสียงไม่ให้สั่นกลั้นสะอื้น
“คุณย่าคะ อันจะกลับไปหาคุณย่า...อันจะกลับบ้านเราแล้วนะคะ”...
ในขณะที่ฟองคำยืนส่งแสนพร้อมให้กล่องอาหารไปฝากเพื่อนและให้เขาเก็บไว้ทานเองด้วย แสนซาบซึ้งถามแม่ไม่โกรธตนใช่ไหม ฟองคำตอบลูกชาย
“แสนโตแล้ว มีสิทธิ์คิดตัดสินใจเอง เออ แม่ฝากเอาน้ำสตรอว์เบอร์รี่พวกนี้ไปให้เด็กๆที่โรงเรียนด้วยนะ ไหนๆก็เป็นทางผ่านของเราอยู่แล้ว”
แสนรับคำ ไหว้ลาแม่ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป...สิงห์เข้ามาบ่นว่าแสนใจแข็งจนหยดสุดท้าย ฟองคำติงทำไม ไม่ออกมาส่งน้อง สิงห์ว่าหมั่นไส้ แล้วเลยบอกว่าตนกับหนานปิงและสินจะเข้าหมู่บ้านไปประชุมเรื่องพัฒนาทางน้ำ ฝากฟองคำดูแลอันยาด้วย ฟองคำพยักหน้ารับ
ระหว่างนั้น อันยาเก็บข้าวของเตรียมจะไปจากไร่ เธอลากกระเป๋าออกมายืนมองแปลงสตรอว์เบอร์รี่ที่เหี่ยวเฉาอย่างอาลัย น้ำตาซึมไหล หันเดินจากมา กดโทรศัพท์เรียกรถให้มารับ แต่ไม่มีรถว่างในตอนนี้ ต้องรอจนเย็น พลันเห็นปุ๊กลุกเดินตัวเกร็งเข้ามาหา อันยารีบออกตัว ไม่ว่างจะทะเลาะด้วย แต่ท่าทางปุ๊กลุกไม่ปกติ สีหน้าเหมือนเจ็บปวด พยายามบอกว่า
“ช่วย...ด้วย...ฉันปวดท้อง แล้ว แล้วมันก็มีน้ำอะไรไม่รู้ออกมา...”
อันยาเห็นน้ำเดินไหลมาตามขาปุ๊กลุกก็ตกใจมาก รีบพาเธอไปหาฟองคำ ฟองคำรู้ว่าจะคลอดก็ตกใจเพราะไม่มีใครอยู่ที่ไร่เลย ปุ๊กลุกเริ่มคร่ำครวญเรียกหาแสน ทำไมทิ้งลูกเมีย ฟองคำบอกอันยาว่ามีโรงพยาบาลอยู่ในตัวอำเภอ ห่างจากที่นี่สามสิบกิโลต้องลงเขาไป อันยาหน้าเหวอถามพอมีรถให้ตนขับพาปุ๊กลุกไปไหม ปุ๊กลุกร้องลั่นจะไม่ยอมไปกลัวอันยาแค้นและทำร้ายตนกับลูก ไม่มีใครสนใจคำพูดของเธอ ฟองคำบอกอันยาว่ามีรถแต่เป็นเกียร์กระปุก อันยาอึ้งเพราะไม่ได้ขับรถแบบนี้มาสิบกว่าปีแล้ว แต่เพราะความจำเป็น เธอต้องพาปุ๊กลุกไปโรงพยาบาลให้ได้
อันยาตัดสินใจขับรถอย่างทุลักทุเล ปุ๊กลุกซึ่งนอนอยู่เบาะข้างๆโวยวายไปตลอดทางฟาดงวงฟาดงา หาว่าอันยามีแผนจะทำร้ายตนกับลูก...ฟองคำนึกได้รีบโทรศัพท์ไปดักแสนที่โรงเรียนที่ให้เขาแวะเอาน้ำสตรอว์เบอร์รี่ไปให้...รถที่อันยาขับระหว่างทางเกิดตกหล่มล้อหลังติด เธอพยายามเร่งเครื่องก็ไม่ได้ผล ปุ๊กลุกร้องโอดโอยด้วยความปวดท้อง อันยาลงจากรถมาดูว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดเห็นรถแล่นมาไกลๆเธอตัดสินใจวิ่งเข้าไปขวางหน้ารถ
ปรากฏว่าเป็นแสน เขาลงจากรถมาต่อว่า ทำแบบนี้มันอันตราย แต่อันยากลับยิ้มดีใจเหมือนพระมาโปรด...อันยาประคองปุ๊กลุกนั่งที่เบาะหลัง แสนขับรถไปพลางบอกอันยาว่า
“พอดีผมต้องแวะเอาของไปให้ที่โรงเรียน ตชด. แม่โทร.ไปบอกที่นั่นไว้ก่อน ผมถึงรู้เรื่องปุ๊กลุก เดี๋ยวจะมีคนจากโรงเรียนมาเอารถขึ้นให้ นี่ผมรีบมาก่อน”
“พี่แสน...เป็นบุญของปุ๊กลุกจริงๆ แม่เนี่ยขับรถนรกแตกมาก ปุ๊กลุกนึกว่าเราสองคนแม่ลูกจะไม่ได้เห็นหน้าพี่แสนอีกแล้ว”
“นี่! ไม่รู้จักบุญคุณไม่ว่า แต่อย่าใส่ไฟมากได้ไหม” อันยาเหลืออด
ปุ๊กลุกโอดโอยที่มาดุ ทั้งที่ตนเจ็บท้องอยู่ อันยาเข่นเขี้ยวน่าจะทิ้งไว้ข้างทาง พลันปุ๊กลุกร้องลั่นเพราะความปวด อันยาตกใจเผลอปลอบใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว อดทนหน่อย
ooooooo
เมื่อถึงโรงพยาบาล ปุ๊กลุกโวยวายไล่อันยาไปห่างๆ ตนจะให้แสนซึ่งเป็นพ่อของลูกจัดการทุกอย่างให้ อันยาถามไม่คิดจะบอกที่บ้านรับรู้บ้างหรือ อย่างน้อยก็แม่ตัวเอง
ปุ๊กลุกเหมือนโดนจี้ใจ เอ็ดตะโร “หยุดเลยนะ นังตัวดี! ไม่ต้องมาทำเป็นหวังดี ที่ฉันเป็นอย่างนี้มันเพราะใครล่ะ”
อันยางงว่าปุ๊กลุกพูดอะไร เข้าใจว่าไม่ชอบตน แต่ตอนนี้ให้คิดถึงลูก ห่วงลูกก่อน ปุ๊กลุกกลับขว้างปาข้าวของใส่อันยา ไล่ให้ออกไป โทษเพราะอันยาที่ทำให้ตนเป็นแบบนี้ อันยาไม่เข้าใจ ถามทำไมปุ๊กลุกถึงโกรธเกลียดตนมากขนาดนี้
“แก! ยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ” ปุ๊กลุกเหมือนถูกปลุกความแค้นขึ้นมา
ขณะที่แสนยืนรออยู่หน้าห้องคลอดอย่างลังเลจะเข้าไปดีหรือไม่ดี...ปุ๊กลุกสติหลุดกราดเกรี้ยวใส่อันยา “นังผู้หญิงใจแตก แกมีผู้ชายเข้ามาในห้อง เพราะความเหลวแหลกของแก ฉันถึงต้องมาเป็นอย่างนี้ เพราะแก แกคนเดียว”
“ปุ๊กลุก! เธอว่าฉันทำไม ฉันไปทำอะไรให้”
“ไม่ต้องมาทำใสซื่อไม่รู้เรื่อง จริงๆแล้วมันเป็นแผนแกใช่ไหม แกจงใจเรียกไอ้กล้ามใหญ่นั่นให้มันมาทำมิดีมิร้ายฉัน แก! แกอยากจะเขี่ยฉันให้พ้นทาง แกมันนังงูพิษ”
อันยายิ่งงง ครุ่นคิด นึกได้ว่าเช้าวันนั้น ตนกลับมาที่คอนโด สวนกับรถทวยเทพที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว และเธอก็ไม่พบปุ๊กลุกในห้อง “หรือว่าคืนนั้น...เธออยู่กับทวยเทพงั้นเหรอ”
ปุ๊กลุกช็อกที่อันยารู้ อันยาคาดคั้นว่าทวยเทพเป็นพ่อเด็กใช่ไหม ปุ๊กลุกร้องไห้โฮส่ายหน้า ร้องว่าแสนคนเดียวเท่านั้นที่เป็นพ่อของลูก
“ปุ๊กลุก นี่มันเรื่องใหญ่มากนะ เธอสองคนไปสนิทกันตอนไหน ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ฉันไม่ได้สนิท มัน...มันเมา มัน...เพราะแก เพราะแก ฉันถึงต้องมารับเคราะห์ ฉันเกลียดมัน! ทั้งๆที่ฉันเรียกพี่แสนมาหา ทำไม ทำไม...”
อันยาไม่อยากเชื่อว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งๆที่ทวยเทพก็รู้ว่าปุ๊กลุกท้อง ปุ๊กลุกตวาดไม่ให้เอ่ยชื่อทวยเทพอีก ตนรักแสนคนเดียว ตนเฝ้ารักเขามาตลอด หวังจะเป็นเจ้าสาวของเขา ปุ๊กลุกเอาแต่ฟูมฟายไม่ให้อันยามาพรากพ่อพรากลูก แสนต้องดูแลตนกับลูก ต้องรับผิดชอบอันยามึนงงเดินโซเซออกมาเมื่อได้รู้ความจริง ตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาคนๆหนึ่งที่จะสยบเรื่องนี้ได้
พอเดินจะมาหาแสน อันยาต้องตะลึงเพราะเห็นโกมลกำลังต่อว่าเขา เสียงแสนปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรปุ๊กลุกเลย โกมลกราดเกรี้ยวหาว่าแสนไม่ใช่ลูกผู้ชาย อันยารีบวิ่งเข้ามา โกมลเห็นยิ่งเยาะหยัน เรียกอันยาว่า...นังเมียน้อย อันยาถึงกับปรี๊ด ตนเนี่ยนะเมียน้อย
“ก็ลูกสาวข้ามีลูกกับมัน แต่แกมาทีหลัง ก็ต้องเป็นเมียน้อยน่ะสิ...นังปุ๊กลุกน่ะ มันยอมปริปาก ยอมบอกว่าแกเป็นพ่อของลูกมัน โทร.เรียกให้ฉันมาจัดการให้แกรับผิดชอบมัน”
“ไม่จริง! ฉันยืนยันได้ เพราะฉันอยู่กับคุณแสนตอนเกิดเรื่อง ส่วนปุ๊กลุกเขาอยู่ที่คอนโดของฉันกับผู้ชายคนอื่น...”
“อันยา นี่คุณรู้เหรอว่าพ่อเด็กเป็นใคร!”
“ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้...”
โกมลโวยวายหาว่าแสนรวมหัวกับอันยาปัดความรับผิดชอบ ตนจะแจ้งความเอาแสนเข้าคุก อันยาโต้กลับ เอาตัวเองให้รอดจากคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่นก่อนดีกว่า โกมลปรี๊ดแค้นสุดๆ
“แก! แกหักหลังฉัน แล้วยังส่งคนมาตลบหลังฉัน ทุกอย่างที่ฉันสร้างมาทั้งชีวิต มันพังก็เพราะพวกแก”
โกมลจะเข้าทำร้ายอันยาแสนเข้าขวางขอร้องอย่าใช้ความรุนแรง ความจริงทุกอย่างเขาก็รู้แล้ว แต่โกมลไม่เชื่อ
“ฉันไม่เชื่อ เพราะแกสองคนทำให้ฉันย่อยยับ พวกแกจะต้องชดใช้”
“เป็นถึงกำนันทำได้แค่นี้เองเหรอ เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ลูกสาวถึงเอาแต่ใจจนผิดพลาด แล้วที่ต้องลำบาก ก็เพราะใช้ตำแหน่งหน้าที่อิทธิพลไปเอาเปรียบคนอื่น ทำผิดเองแล้วจะโทษใคร” อันยาโต้กลับอย่างรุนแรงทำเอาโกมลแค้นสุดๆที่โดนจี้ใจดำ
“นังนี่ หยุดเดี๋ยวนี้!” โกมลชักปืนออกมา
แสนตกใจหันเข้ากอดเอาตัวปกป้องอันยา เสียงปืนดังเปรี้ยง...สักพัก แสนทรุดฮวบลงในอ้อมกอดอันยา เธอร้องเรียกเขาลั่น ใจอันยาหายวาบน้ำตาไหลพรั่งพรู โกมลยืนหน้าซีดไม่คิดว่าแสนจะห่วงอันยาขนาดนี้ แสนพยายามพูดกับโกมลอย่างอ่อนแรง
“อย่า...คุณ...ยังเริ่มใหม่ได้ ถ้าหยุด...ตอนนี้...เราทำร้ายกันมามาก...เพราะผมขัดผลประโยชน์ของคุณ แต่...คุณเป็นตาคนแล้ว มีคนรอให้คุณเป็นเสาหลักของเขา อย่า...ทำผิดอีก ถ้าคุณรักพวกเขา ลูกสาวคุณ หลานของคุณ...ก็ให้มันจบแค่นี้...เถอะ”
โกมลยืนถือปืนมือสั่นระริก รปภ.สองคนเข้ารวบตัว เขาปล่อยให้ถูกจับกุมอย่างง่ายดาย
“ด็อกเตอร์!” อันยาร้องไห้โฮขอให้แสนหยุดพูด “คุณแสน ทำไม...ทำไมถึงโง่แบบนี้ คุณช่วยฉันทำไม” อันยากอดแสนไว้แน่นดุจใจจะขาด...
หน้าห้องผ่าตัด อันยาในสภาพเสื้อเปรอะเปื้อนเลือด น้ำตานองหน้า เดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวายใจภาพเหตุการณ์ตอนแสนช่วยชีวิตเธอหลายครั้งผ่านเข้ามาในหัว ยิ่งทำให้เธอร้าวรานใจอย่างมาก
ครอบครัวแสนเดินทางมาถึง แต่ละคนสีหน้าไม่สู้ดี ฟองคำถามหาแสนกับพยาบาล เธอบอกว่าแสนยังได้รับการผ่าตัดอยู่ หนานปิงกับสินแย่งกันถามถึงอาการ พยาบาลตอบว่า ยังไม่พ้นขีดอันตราย ทุกคนแทบจะเป็นลม สิงห์มองไปเห็นอันยานั่งเหม่อลอยอยู่ก็ร้องเรียก ฟองคำปรี่เข้าหาอันยา ถามมันเกิดอะไรขึ้น อันยาร้องไห้โฮอีกครั้ง
“พ่ออุ๊ย คุณลุงคุณป้า คุณสิงห์...เพราะฉันไม่ดีเอง ฉันทำให้คุณแสนเดือดร้อน เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะฉันฮือ...”
ทุกคนมองสภาพอันยาที่เหมือนคนไร้สติ สิงห์พยายามถามทำไมแสนถึงถูกยิง
“กำนัน...กำนันโกมลมาที่นี่ เขาเป็นพ่อของปุ๊กลุก เป็นคนที่เคยขัดผลประโยชน์กับคุณแสนสมัยที่ทำงานอยู่เพียงพอดี ฉันเคยร่วมมือกับเขา แต่ตอนหลังฉันให้คนไปหาหลักฐานความผิดเขา เพื่อให้คุณแสนพ้นผิดเขาแค้น ก็เลย...ฉันไม่รู้จริงๆว่ากำนันพกปืนมาด้วย พอรู้ตัวอีกที คุณแสนก็เข้ามารับกระสุนแทน...ฉันขอโทษนะคะขอโทษ...ขอโทษ ฮือ...” อันยาพนมมือไหว้ พร่ำขอโทษใจแทบขาด
ครอบครัวแสนไม่ทันพูดอะไร พยาบาลเดินมาบอกอันยาว่า มีคนมารอพบ อันยาชะงักงงงันว่าใครกันมาหาตนที่นี่...อันยาเดินมาที่มุมหนึ่ง พบลดากับคิมหันต์ เธอดีใจ โผกอดย่าด้วยต้องการที่พึ่งทางใจอยู่พอดี ลดาปลอบหลานสาวที่กำลังทุกข์ใจว่า แสนเป็นคนดี ตนสวดมนต์ให้พระคุ้มครองเขา ความดีที่เขาทำต้องคุ้มครองเขาด้วย
ooooooo