จากกระแสสารสกัดกัญชารักษาโรค ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีการซื้อขายกัญชาอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายในรูปแบบของสารสกัด กัญชาแบบต้นสด และกัญชาแบบตากแห้ง โดยอ้างว่าเป็นการซื้อขายเพื่อรักษาโรค ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันว่า ในปัจจุบัน "กัญชา" มีการอนุญาตให้ซื้อขายกันอย่างถูกกฎหมายแล้วหรือไม่

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า กัญชายังถือเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง การซื้อขายไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยที่ผู้ใดต้องการครอบครองเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ต้องแจ้งขออนุญาตครอบครองกับทางสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ภายในวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบว่า การซื้อขายกัญชาทางโซเชียลมีเดีย พบในหลายช่องทางเช่น ทางทวิตเตอร์ อินสตาแกรม โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊ก ซึ่งจะมีรูปแบบโพสต์เชิญชวนให้เข้ากลุ่มไลน์เพื่อไปพูดคุยกันอีกที ทำให้จุดนี้เป็นเรื่องยากในการตรวจสอบและจับกุม ที่ผ่านมาทาง ป.ป.ส. มีการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวนมาก รวมไปถึงการล่อซื้อ โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นการขายในรูปแบบของสารสกัดน้ำมันมะพร้าว โดยร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ในการตรวจสารปนเปื้อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการส่งตรวจพิสูจน์

...

ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบ 2 ส่วน คือเดิมจะตรวจหาเฉพาะสารเสพติด THC, CBD แต่ภายหลังมีการตรวจหาสารปนเปื้อนด้วย เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ประชาชนทราบว่าสินค้าที่ขายกันอยู่นั้นมีสารสกัดจากกัญชา หรือ มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ฉะนั้นในส่วนของการตรวจหาสารปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นปรอท แคดเมียม ตะกั่ว สารหนู จะส่งให้ทางกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ช่วยในการตรวจยืนยันอีกครั้ง ซึ่งหลายกรณีที่นำมาตรวจพบว่าเป็นสารเสพติด

นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อหรือขายกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากกัญชายังมีความผิดฐานครอบครองและจำหน่าย โดยมีบทลงโทษ คือ หากจำหน่ายในปริมาณที่ไม่ถึง 10 กิโลกรัม จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำนวนตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป คุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับ 200,000-1,500,000 บาท ส่วนครอบครองมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 1386 ตลอด 24 ชม. หรือทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สามารถติดตามผลการดำเนินงานที่แจ้งไปได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลผู้แจ้งจะรั่วไหล.