เปิดอกคุยกับ "มาร์ค" จากพรรคท่าพระจันทร์ อะเวเก้น เจ้าของความคิดกัญชาเสรีที่ "ลานปรีดี"
นายณฐนภ ศรัทธาธรรม หรือ มาร์ค อดีตผู้สมัครอุปนายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และแกนนำพรรคท่าพระจันทร์ อะเวเก้น หรือ Thaprachan Awaken เปิดเผยกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ว่า นโยบายกัญชาเสรีของตนเน้นในเรื่องการสูบ เนื่องจากตนเล็งเห็นประโยชน์ของกัญชา เช่นการรักษาโรคที่หลายประเทศยอมรับ
สำหรับข้อดีข้อเสียนั้น ตนคิดว่าควรจะเป็นหน้าที่ของสังคม และคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน นิสิตนักศึกษา ที่ควรหารือ ร่วมแก้ไข และช่วยกันผลักดันให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่ถูกกฎหมาย โดยนโยบายของตนที่จะมีการตั้งกองทุน และปลูกกัญชาที่ลานปรีดี จากนั้นจะให้นักศึกษาหมุนเวียนกันเข้ามาดูแล เมื่อกัญชาทำรายได้ก็จะนำเงินเข้ากองทุน และมีการจ่ายปันผลให้กับนักศึกษา
นายณฐนภ กล่าวอีกว่า ที่เลือกนโยบายกัญชาเสรีเป็นจุดขายของพรรค เพราะต้องการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ทางพรรคกล้าทำเรื่องที่แตกต่าง ซึ่งเรื่องนี้ในประเทศไทยยังไม่ยอมรับ ต่างจากต่างประเทศที่ใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย
ส่วนเหตุผลที่เลือกลานปรีดีเป็นลานปลูกกัญชานั้น ในอดีตหลายกิจกรรมที่ผ่านมาเคยใช้ลานปรีดีเป็นลานการแสดงออกทางความคิดและสร้างสรรค์ ซึ่งเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันกิจกรรมเหล่านั้นค่อยๆ เงียบหาย และปิดตัวลง
...
ส่วนในแง่เชิงสัญญะมองว่า ลานนี้เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพ ประชาธิปไตย ปรีดี พนมยงค์ มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่มาจากการเปิดกว้างและการแสดงความคิดเห็น การถกเถียงกันด้วยเหตุผลไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นพรรคหน้าใหม่ ฐานคะแนนเสียงยังมีไม่มากเท่าพรรคเดิมที่เคยลงเลือกตั้งมาก่อน และคิดว่านโยบายยังไม่กระตุ้น หรือสร้างความรู้สึกร่วมให้นักศึกษาเห็นถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ ทำให้พรรคพ่ายการเลือกตั้งครั้งนี้ไป แต่ถือว่าการที่พรรคได้รับคะแนนเสียงมากเท่านี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายกัญชาเสรีที่ช่วยกระตุ้นความสนใจแก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
"ผมกล้าพูดว่า การลงสมัครครั้งนี้สามารถปลุกกระแสท่าพระจันทร์ขึ้นมาอีกที ที่ผ่านมาแต่ละพรรคมีการเสนอนโยบายที่น้อยมาก การที่เรากล้าเสนอนโยบายนี้ ทำให้พรรค 2 พรรคใหญ่กล้าที่จะแอ็กทีฟในเรื่องนโยบายแข่งกับเราด้วย ผมว่าสิ่งที่เราแพ้มันส่งผลบวก เพราะว่าท่าพระจันทร์จากที่ไม่มีการขับเคลื่อนทางนโยบาย 2 พรรคใหญ่เขาก็เกิดการแอ็กทีฟในการขับเคลื่อน ซึ่งมันก็ส่งผลดี ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะในการแข่งขันมันก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสูงสุดแก่นักศึกษาทุกคน".