สังคมไทยและในหลายๆ ประเทศเกือบทั่วโลก ยังคงเกิดการปะทะกันทางความคิด ถกเถียงกันถึงข้อดีและข้อเสีย โดยเฉพาะความถูกต้องเรื่องศีลธรรมว่า สมควรให้อาชีพโสเภณี หรือหญิงขายบริการทางเพศ เป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศตนดีหรือไม่

แต่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน ดูเหมือนเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นข้อถกเถียง และไร้ข้อสรุปของนานาประเทศส่วนใหญ่ ขณะที่ปัจจุบัน มีเพียง 15 ประเทศเท่านั้น อาทิ ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนนด์ ออสเตรเลีย บราซิล และเดนมาร์ก ที่มีการออกกฎหมายให้การขายบริการทางเพศเป็นอาชีพอย่างถูกต้อง เพื่อหวังกำกับดูแลธุรกิจนี้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการดูแลเรื่อง สุขภาพและสวัสดิการต่างๆ ที่หญิงขายบริการควรจะได้รับ 

และหนึ่งในสถานขายบริการทางเพศ หรือย่านโคมแดง (Red Light District) โด่งดังที่สุดในโลก ที่รัฐบาลอนุญาตให้มีการขายบริการทางเพศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็คือ ย่าน ‘De Wallen’ (เด วอลเลน) ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่บรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม จะต้องจัดโปรแกรมมาเดินชมย่านนี้กันสักครั้ง

...

*‘นางงามตู้กระจก’ รอลูกค้าแบบเปิดเผย

ตามรายงานของเว็บไซต์ dutchreview ระบุว่า การค้าประเวณีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ย่านโคมแดง เด วอลเลน ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งหญิงสาวขายบริการมานั่งโชว์รอลูกค้า ริมหน้ากระจกริมคลองสายเล็กๆ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังที่สุดในเนเธอร์แลนด์ นอกเหนือจากคอฟฟีช็อป เนื่องจากการอนุญาตให้ขายบริการทางเพศอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่นี่ เป็นสิ่งที่ในประเทศของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่มี

แล้วทำไม ‘sex tourism’ ยังมีความสำคัญมากขนาดนี้ และทำไมจึงกลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่า ธุรกิจขายบริการทางเพศในอัมสเตอร์ดัม ในปี 2010 สร้างเม็ดเงินถึงประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,200 ล้านบาท แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ธุรกิจขายบริการทางเพศในเนเธอร์แลนด์อย่างถูกต้องปฏิบัติได้จริงหรือไม่ หรือว่ายังเป็นธุรกิจค้ากามที่สกปรกเหมือนเดิม?

*โสเภณีกว่าครึ่ง โดนหลอกให้มาขายบริการ

ข้อมูลจาก humanityaction ระบุว่า มีผู้หญิงโสเภณีในเนเธอร์แลนด์ ประมาณ 20,000 คน (ตามข้อมูลในปี 2010) ในจำนวนนี้ 40% ทำงานขายบริการในกรุงอัมสเตอร์ดัม และมีเพียง 5% เท่านั้น ที่ทำงานอยู่ในห้องกระจก 370 ตู้ หรือไนต์คลับที่มีหญิงขายบริการทางเพศ ในย่านโคมแดงของกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่มีอยู่ 3 แห่ง แต่ย่าน เด วอลเลน ซึ่งแสงไฟนีออนสีแดงจากห้องกระจกยามราตรีเรื่อเรืองไปทั่วถนนเลียบริมคลองสายนี้ ถือเป็นย่านโคมแดงที่โด่งดังที่สุด

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 มาแล้ว โสเภณี ถือเป็นอาชีพที่ถูกจัดให้เป็นแรงงานอิสระในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งหญิงสาวอายุตั้งแต่ 21 ปีที่เลือกทำอาชีพนี้ ต้องไปขึ้นทะเบียนที่สำนักงานหอการค้า และจ่ายภาษี เพื่อจะได้สามารถทำงานมีบัตรประจำตัวสำหรับประกอบอาชีพโสเภณีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม หญิงที่มาประกอบอาชีพขายบริการในย่านโคมแดง รวมทั้งในเนเธอร์แลนด์ ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ใช่หญิงสาวชาวดัตช์ หรือสาวเนเธอร์แลนด์ แต่เป็นหญิงที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาจากประเทศยุโรปที่ยากจน อย่าง โรมาเนีย และบัลแกเรีย

ขณะที่ตามข้อมูลจาก สารานุกรมวิกิพีเดีย ระบุว่าในช่วงทศวรรษ 1970 หญิงสาวที่มาขายบริการในเนเธอร์แลนด์ ส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย ส่วนช่วงทศวรรษ 1980 มาจากประเทศแถบลาตินอเมริกา และแคริบเบียน และเมื่อมาถึงช่วงกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย ก็มีหญิงสาวจากยุโรปตอนกลางและตะวันออกมาทำงานขายบริการในเนเธอร์แลนด์ ในขณะที่มีหญิงดัตช์เลือกทำงานนี้เพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงขณะนี้ ถึงแม้เนเธอร์แลนด์ได้ออกกฎหมายให้อาชีพโสเภณีเป็นอาชีพถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่ไม่ใช่หญิงสาวที่เลือกประกอบอาชีพนี้ทุกคน จะมาทำงานขายบริการด้วยความสมัครใจหรือเต็มใจ เพราะจำนวนกว่าครึ่ง ถูกหลอกลวง และตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์

...

*ชะตากรรม สาวขายบริการย่านโคมแดงเด วอลเลน

humanityaction เผยว่า ขณะนี้ ราคาค่าเช่าห้องตู้กระจกสำหรับขายบริการทางเพศย่านโคมแดงใน เด วอลเลน ขณะนี้สูงขึ้น อยู่ที่ประมาณ 90-150 ยูโร (ราว 3,000-5,000 บาท) ต่อกะละ 8 ชั่วโมง ซึ่งวันหนึ่ง มีหญิงขายบริการเช่าห้องกระจกวันละ 3 กะ ทำให้หญิงขายบริการเหล่านี้จำเป็นต้องรับแขกให้ได้ถึงอย่างน้อย 4-5 คนต่อวัน เพื่อจะได้มีเงินพอสำหรับค่าเช่าห้อง

นอกจากนั้น พวกเธอเหล่านี้ยังต้องจ่ายค่าเช่าหน้าต่างเป็นเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย เป็นเวลา 6 หรือ 7 วัน มิเช่นนั้น ก็จะเสี่ยงต่อการสูญเสียลูกค้าให้กับหญิงสาวคู่แข่ง

*ปัญหาลักลอบค้ามนุษย์สูงขึ้น

เว็บไซต์ foreignpolicy รายงานถึงปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ว่า นับตั้งแต่เนเธอร์แลนด์อนุญาตให้อาชีพขายบริการทางเพศเป็นอาชีพอิสระที่ถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2000 หรือพ.ศ.2543 ปรากฏว่า ทางการเนเธอร์แลนด์ต้องต่อสู้กับปัญหาลักลอบค้ามนุษย์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งเกิดคดีอาญาในรูปแบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรธุรกิจขายบริการทางเพศก็สูงขึ้นด้วย

แต่กระนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ปัจจุบันล้มเหลวในการเชื่อมโยง ธุรกิจขายบริการทางเพศ เป็นเหตุของการที่มีคดีอาญาในประเทศสูงขึ้น ขณะที่ ด้านทางการกรุงอัมสเตอร์ดัมได้มีการออกแผนพัฒนาชุมชนเมือง ภายใต้ชื่อโปรเจกต์ 1012 (Project 1012) เพื่อหาทางจัดระเบียบ และควบคุมคดีอาญาในย่านโคมแดง เด วอลเลน

โดยมีการจำกัดให้มีการขายบริการบนถนนแค่ 2 สาย คือ Oude Nieuwstraat and Oudezijds Achterburgwal รวมทั้ง ได้ปิดคอฟฟีช็อป (Coffee Shops) จำนวนมาก และปิดกระจกหน้าต่างของหญิงขายบริการไปแล้ว 112 ตู้ ซึ่งส่งผลให้หญิงโสเภณีจำนวนมากหันไปทำงานขายบริการอย่างผิดกฎหมาย หรือเดินทางไปขายตัวที่กรุงบรัสเซลส์ ในประเทศเบลเยียม

...

*นายกเล็กเตรียมปฏิรูปย่านโคมแดง ป้องกันค้ามนุษย์

นางแฟม ฮอลเซอมา นายกเทศมนตรีหญิงของกรุงอัมสเตอร์ดัม และอดีตหัวหน้าพรรคกรีนของเนเธอร์แลนด์ เตรียมผลักดันแผนปฏิรูปย่านเด วอลเลน ครั้งใหญ่ เพื่อหวังกวาดล้างการค้าประเวณีที่ผิดกฎหมายและต้องการลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ล้นเกินอัมสเตอร์ดัมให้ออกไป

นายกเทศมนตรีอัมสเตอร์ดัม ต้องการมีนโยบายห้ามค้าบริการทางเพศในย่านโคมแดง เพื่อกำจัดปัญหาการค้ามนุษย์เนื่องจากขณะนี้มีผู้หญิงทั้งถูกบังคับหรือมาทำงานอาชีพนี้เองด้วยความสมัครใจ ลักลอบค้าประเวณีที่ผิดกฎหมายมากขึ้น รวมทั้งไม่มีใบอนุญาตค้าประเวณี ส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวต่างชาติที่ถูกหลอกให้มาขายตัว

แน่นอนว่า แนวความคิดดังกล่าวของนายกเทศมนตรีอัมสเตอร์ดัมกำลังถูกต่อต้านคัดค้านจากผู้คนที่ประกอบธุรกิจนี้ ส่วนการปฏิรูป-จัดระเบียบย่านโคมแดง เด วอลเลน จะสำเร็จหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

อ่านเพิ่มเติม รายงานพิเศษ "ขายตัว แต่ไม่ขายใจ"

...