การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน หนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเป็น Net Zero Tourism ที่คนไทย และทั่วโลกต่างผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และลดภาวะโลกร้อนที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน สามารถเริ่มต้นกันได้อย่างไร และต้องคำนึงถึงอะไรเป็นสำคัญบ้าง
ภาวะโลกร้อน ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดก๊าซเรือนกระจกลอยขึ้นไปสู่อากาศ เป็นปัญหาหลักในปัจจุบัน ทำให้โลกของเรามีสภาพอากาศแปรปรวนไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสถานที่ท่องเที่ยว และอาจจะทำให้แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ เสื่อมโทรม และไม่สวยงามอย่างเคย
จากการเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ทำให้คนต้องสำนึกรัก กลับมารับผิดชอบกับแหล่งท่องเที่ยว จนเกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ที่มีความหมายต่อการคงอยู่ของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ด้วยการเน้นสร้างจิตสำนึกให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
วิธีการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการหมุนเวียนพลังงาน ในการรักษาแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ให้สวยงาม และน่าท่องเที่ยวตามเดิม ในปัจจุบันยังมีการส่งเสริมการจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบ Net Zero Tourism ที่ผลักดันการฟื้นคืนสภาพอากาศอันบริสุทธิ์ให้แก่พื้นที่ท่องเที่ยว ลดภาวะโลกร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อโลก และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ได้โดยตรง ซึ่งทั้ง 2 การจัดการนี้เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของไทย และของโลกร่วมกัน ที่ส่งผลบวกในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
...
การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนจึงเป็นหนึ่งกิจกรรมสำคัญบนเส้นทางสู่การท่องเที่ยวแบบ Net Zero Tourism ที่ผลักดันให้นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกิดความสำนึกรักสิ่งแวดล้อม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อลดผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อน ด้วยการช่วยกันปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ในทุกๆ กิจกรรม
การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน วิธีที่นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการควรคำนึงมีอะไรบ้าง
- ปลูกจิตสำนึกรักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้ตนเอง
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในความยั่งยืน คือ ความรัก เคารพต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ปลูกฝังความตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดจากธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้กับตนเอง โดยนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบแนวคิดต่อกิจกรรมการท่องเที่ยว และลงมือป้องกันสิ่งที่เป็นผลกระทบนี้
- ผู้ประกอบการ ควรสร้างความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการ
ความมีจิตสำนึกรักในธรรมชาตินี้เป็นสิ่งสำคัญ และเราควรปลูกฝังจิตสำนึกนี้ เพื่อเป็นกฎ และกติกาให้ผู้เดินทางมาท่องเที่ยว มีส่วนร่วม และหนึ่งในการทำกิจกรรมการอนุรักษ์นี้ไปด้วยกัน ด้วยการให้ความรู้ บอกข้อดี และข้อเสีย ในการกระทำนั้นๆ ที่สามารถส่งผลกระทบได้เป็นวงกว้าง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่นักท่องเที่ยว
- เลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
เลือกหาวิธีการที่ทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ เช่น การใช้โซลาร์เซลล์, รถยนต์ EV, ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่าย และลดการเผาไหม้ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างพลังงานสะอาดที่เข้ามาทดแทน เป็นส่วนหนึ่งในที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้
- คืนสิ่งแวดล้อม สู่พื้นที่เดิม
กิจกรรม และการสันทนาการในเส้นทางท่องเที่ยว ต้องมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่แล้วไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว สามารถช่วยเติมเต็มส่วนที่ถูกทำลายไป ให้มีการฟื้นฟูกลับมาให้ดีดังเดิมได้ เช่น นักท่องเที่ยวต้องช่วยกันบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อมเดิมให้ดีขึ้น ด้วยการไม่ทำลายเพิ่มเติม หรือผู้ประกอบการควรเติมออกซิเจนทดแทนด้วยการ การปลูกป่า ปลูกต้นไม้ หรือจัดกิจกรรมทดแทนในส่วนที่เสียไปให้กลับมาฟื้นฟูได้อย่างเดิม
...
- พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นการต่อยอดการคืนสิ่งแวดล้อมให้กลับมาสู่พื้นที่เดิมได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นการลดการปล่อยก๊าซ และของเสียต่างๆ สู่ชั้นบรรยากาศ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น กิจกรรมการปลูกป่า, การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว, ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และลดการใช้รถยนต์ ให้เป็นการปั่นจักรยานแทน เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยรักษาระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
- เน้นหลักการ Reuse Reduce Recycle
หลักการ 3R เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญต่อการช่วยรักษา และดำรงอยู่ของสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น สามารถทำได้ง่ายๆ คือ Reduce การลดปริมาณขยะ ปริมาณมลพิษที่มาจากพลาสติก สิ่งของที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง และไม่สามารถนำมาสร้างผลประโยชน์ต่อได้, Reuse การนำของทิ้ง หรือเสียให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการนำมาใช้ประโยชน์ใหม่ หรือจะเป็นสิ่งของที่สามารถใช้ได้หลายๆ ครั้งโดยไม่ต้องทิ้งเป็นเศษขยะ หรือ Recycle การเปลี่ยนสิ่งที่เก่า ที่ไร้ประโยชน์ นำกลับมาสร้างเป็นสิ่งของใหม่ และมีประโยชน์มากขึ้นจากเดิม
- เก็บคาร์บอนเครดิตเพื่อความยั่งยืน
การเก็บจำนวนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก สู่ชั้นบรรยากาศโลกที่มาจากบุคคล หรือองค์กร เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผู้ประกอบการยุคใหม่นิยมทำกัน เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิต และอุตสาหกรรมนั้นๆ ในการหันมาเน้นพลังงานสีเขียว หรือพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยบุคคล หรือองค์กรนั้นจะได้รับคาร์บอนเครดิตที่สามารถนำไปซื้อ และขายเครดิตให้กับองค์กรที่ปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนเกินกำหนดเพื่อปรับสมดุลกับเครดิตที่มีอยู่ ที่นำไปสู่การเป็นองค์กรที่มีค่า Net Zero (คาร์บอนเป็นศูนย์) ตามเกณฑ์ที่กำหนด
...
- สนับสนุนพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน
สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะผ่านการอบรมให้เป็นธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่นอกจากจะรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรม และประเพณีอันดีแล้ว พื้นที่เหล่านี้ยังมีการจัดการกับสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม และเป็นระเบียบชัดเจน โดยการช่วยอุดหนุนแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนเหล่านี้สามารถ ช่วยสร้างธุรกิจท่องเที่ยวที่ผสานประโยชน์กับชุมชนในด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นพลังแรงใจในการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวต่อไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาอัตลักษณ์ และวัฒนธรรมชุมชนไว้ได้
ข้อมูล : 7GreensThailand
ภาพ : istock