"ทักษิณ ชินวัตร" ตอบรับเป็นประธานที่ปรึกษา ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่

"ทักษิณ ชินวัตร" ตอบรับเป็นประธานที่ปรึกษา ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่

ไทยรัฐออนไลน์

22 มี.ค. 2568 17:13 น.

"ทักษิณ ชินวัตร" ตอบรับเป็นประธานที่ปรึกษา "สุชัย" หากได้รับความไว้วางใจจากสมาคมกีฬาในการเลือกตั้งวันที่ 25 มี.ค.นี้

วันที่ 22 มี.ค. 68 อดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" ตอบรับเป็นประธานที่ปรึกษาของประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่ หาก "บิ๊กสุชัย" สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ได้รับเลือกเป็นประธาน เชื่อว่าจะทำให้โครงการต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมและก่อเกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬาและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลโดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝง

หลังจาก "บิ๊กสุชัย" นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หนึ่งในแคนดิเดตชิงเก้าอี้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เปิดนโยบายหลักหากได้รับเลือกเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย ในการเลือกตั้งวันที่ 25 มี.ค.นี้ ด้วยการตั้ง "กองทุนช่วยเหลือสมาคมกีฬา" เบื้องต้น 100 ล้านบาท สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาสมาคมกีฬาเป็นอย่างมากแล้ว

ล่าสุด "บิ๊กสุชัย" เปิดเผยว่า เพื่อให้การทำงานระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมไปถึงสมาคมกีฬา และภาครัฐบาล เดินหน้าพัฒนาทางด้านกีฬาอย่างเป็นรูปธรรมในทิศทางเดียวกัน และการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จระดับนานาชาติในอนาคต ตนได้เรียนเชิญท่านทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานที่ปรึกษาของประธานคณะกรรมการโอลิมปิค หากตนได้รับเลือกเป็นประธาน ซึ่งท่านก็ตอบรับเรียบร้อยแล้ว


"ผมมีความตั้งใจจะเข้ามาทำงาน อยากจะพัฒนาวงการกีฬาไทยในทุกระบบให้มีความทันสมัย และประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมากที่สุด โดยเฉพาะการผลักดันให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ในปี 2038 หลังจากไม่ได้จัดมานาน การที่ได้ท่านทักษิณตอบรับมาเป็นประธานที่ปรึกษา เชื่อว่าจะให้โครงการต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และก่อเกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬาและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝง"


นายสุชัย กล่าวอีกว่า การเสนอตัวเข้ารับการเลือกตั้งเป็นประธานโอลิมปิกไทยในครั้งนี้ ตนมีความพร้อมในการอาสาทำงานให้กับวงการกีฬา เพื่อให้มีความทันสมัย และจะเดินหน้าสนับสนุนคนในวงการกีฬาแบบไม่มีความแตกแยก และไม่มีการนำการเมือง หรือ รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงชี้นำใด ๆ แต่เป็นความร่วมมือกัน เพื่อนำพาวงการกีฬาไทยสู่ความเป็นอินเตอร์ และยกระดับการพัฒนาวงการกีฬาอย่างแท้จริง

"ผมไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวกับเรื่องกีฬา ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ที่ผมทำงานอยู่เบื้องหลังของกีฬามาตลอด" นายสุชัย กล่าวทิ้งท้าย.

เราใช้คุ้กกี้ 

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookie Policy)

รับทราบ