"ทันตแพทยสภา" ยันไม่นิ่งนอนใจ เร่งประสานตำรวจรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับชายคลั่ง มีประวัติป่วยจิตเวช-ใช้กัญชาเกินขนาด บุกทำร้ายเจ้าหน้าที่คลินิกทำฟันโคราช พร้อมเตือนคนในพื้นที่ให้ระมัดระวัง

จากกรณีที่ตัวแทนชมรมทันตแพทย์จังหวัดนครราชสีมา พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัว "ชาวเยอรมัน" คลั่ง ที่อาละวาดคลินิกทำฟันหลายแห่งในพื้นที่อำเภอเมือง มาดำเนินคดี หลังบุกทำร้าย-กัดปาก "ทันตแพทย์สาว" โดยพบว่ามีประวัติรักษาทางจิตเวชมาก่อน ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (จี้ ตร. ตามตัว "ชาวเยอรมัน" คลั่ง ทำร้าย-กัดปากหมอฟัน อาละวาดคลินิกทั่วโคราช)

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก Thai Dental Council ได้โพสต์ประกาศแจ้งเตือนสมาชิกทันตแพทยสภา คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชน ระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานว่า มีผู้ป่วยเพศชายซึ่งมีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช แต่ขาดยา และใช้กัญชาเกินขนาด ได้เข้าไปตามคลินิกทันตกรรมหลายแห่ง ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดเหตุในเขตจังหวัดนครราชสีมา โดยบุคคลดังกล่าวทำทีว่าเข้ารับการรักษาทางทันตกรรม แต่ขณะทำการรักษา กลับมีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ คุกคาม และทำร้ายร่างกายทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ในคลินิก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวจนบางรายไม่กล้าปฏิบัติงาน

ทันตแพทยสภาขอแจ้งเตือนสมาชิก คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและใกล้เคียง ให้เพิ่มความระมัดระวังบุคคลดังกล่าว

ทันทีที่ได้รับรายงาน ตัวแทนกรรมการทันตแพทยสภา ได้แก่ ทพ.วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน และ พ.ต.ทพ.อนวัช สถิตเดชกุญชร ได้เข้าพบ พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีการรวบรวมหลักฐานและอยู่ระหว่างดำเนินการออกหมายจับ

...

ทันตแพทยสภาขอขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสื่อมวลชน ที่ให้ความช่วยเหลือในการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสมาชิกทันตแพทยสภา บุคลากรในคลินิกทันตกรรม และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

ในนามทันตแพทยสภา เรามิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ และพร้อมยืนเคียงข้างสมาชิกและพี่น้องประชาชนเสมอ หากท่านใดพบเห็นชาวต่างชาติลักษณะดังที่กล่าวมา ขอให้แจ้งมาที่ทันตแพทยสภา

ล่าสุดวันที่ 18 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เจ้าของคดี ดำเนินการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อส่งให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาออกหมายจับชาวต่างชาติรายนี้แล้ว

โดยแหล่งข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ซึ่งรับแจ้งคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 67 และได้มีการแจ้งข้อหากับชายชาวต่างชาติรายดังกล่าว 3 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายร่างกาย บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ โดยพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อหาไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน

ส่วนกรณีที่ไปก่อเหตุซ้ำอีก 2 ครั้ง ในคลินิกทันตกรรม พื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา และได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ปรากฏว่าทั้ง 2 กรณีผู้เสียหายไม่ประสงค์เอาความ เพราะเห็นว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิต จึงไม่ได้มีการออกหมายเรียก ซึ่งล่าสุดทราบว่าภรรยาของชายชาวต่างชาติดังกล่าว ได้หนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรีแล้ว เพราะทนต่อพฤติกรรมของสามีไม่ไหว

อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thai Dental Council