“อนุทิน” นำทีมราชสีห์ บวงสรวงการรื้อถอนเสาธงชาติ ปรับปรุงภูมิทัศน์กระทรวงมหาดไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์เกาะกรุงรัตนโกสินทร์
วันที่ 18 มีนาคม 2568 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการรื้อถอนเสาธงชาติ กระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์กระทรวงมหาดไทย ณ บริเวณลานหน้าพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ด้านหน้าอาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร และข้าราชการ ร่วมประกอบพิธี
การรื้อถอนเสาธงชาติในครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากรให้ทำการรื้อถอน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ของกระทรวงมหาดไทยให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สอดรับกับสถาปัตยกรรมของสถานที่ในพื้นที่บริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิ อาคารศาลาว่าการกลาโหม อาคารกรมแผนที่ทหาร (เดิม) อาคารกระทรวงการต่างประเทศ หลังเดิม (พระราชวังสราญรมย์) และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยได้ทำการติดตั้งเสาประดับธงชาติและประดับธงชาติไทยผืนใหม่ บริเวณจั่วด้านหน้าอาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2511 ในวาระ 186 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานด้านหน้าอาคาร เกิดความสง่างาม และเป็นอีกหนึ่ง Landmark สถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวผู้เดินทางสัญจรบริเวณถนนอัษฎางค์นิยมบันทึกภาพ โดยเสาธงชาติไทยที่รื้อถอนในครั้งนี้ จะได้เชิญไปติดตั้งที่วิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อไป
...
“นายอนุทิน ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนคนไทยมีความรักเทิดทูนในสถาบันหลักและภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติ ผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ที่เป็นสถานที่สำคัญแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่ความรักและภูมิใจในสถาบันหลักแล้ว ยังเป็นการหลอมรวมใจให้คนไทยเกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน อันเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยทุกคนร่วมภาคภูมิใจ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับประวัติความเป็นมาของพื้นที่บริเวณอาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของวังเจ้านาย 3 วังด้วยกัน โดยประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 26 เรื่อง ตำนานวังเก่า ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บันทึกไว้ว่า
วังที่ 1 วังริมสะพานช้างโรงสี วังใต้ สร้างพระราชทานพระองค์เจ้าเนียมเสด็จอยู่มาจนสิ้น
วังที่ 2 วังถนนเฟื่องนคร วังเหนือ เป็นที่วังกรมขุนภูวนัยนฤเบนทราธิบาล เสด็จประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5
วังที่ 3 วังถนนเฟื่องนคร วังใต้ เป็นที่ประทับของกรมขุนเจริญผลพูนสวัสดิ์
และต่อมาในปี 2465 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้รวมกระทรวงนครบาลเข้ากับกระทรวงมหาดไทย และภายหลังเมื่อมีการยกเลิกระบบมณฑลเทศาภิบาล และมีการตรา พ.ร.บ.การบริหารราชการส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2476 จึงได้ย้ายที่ทำการศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย จากศาลาลูกขุนในพระบรมมหาราชวังมายังศาลาว่าการนครบาล และใช้เป็นที่ทำการของกระทรวงมหาดไทยตราบจนถึงปัจจุบัน