ชาวบ้านก็ไม่รู้จัก "เจ้าอาวาสวัดป่า" แจงละเอียดไม่รู้จัก "เด็กเชื่อมจิต" พร้อมลั่นเป็นพระบ้านนอก ไม่ได้เล่นโซเชียล ไม่รู้ว่าใครดีหรือไม่ดี

จากกรณีที่มีภาพ เด็กเชื่อมจิต เดินทางไปทำกิจกรรมที่ลานธรรมสิริ ห้วยสายบาตร วัดป่ารัตนพรชัย บ้านดอนมันน้ำ ต.หวาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โดยมีคนที่ศรัทธามาต้อนรับ และบางคนก็ได้ก้มกราบ กระทั่งกลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลอีกครั้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (กลับมาแล้ว เด็กชายเชื่อมจิต สวมชุดไทย เดินให้ชาวบ้านก้มกราบ)

ล่าสุด วันที่ 18 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดป่าในพื้นที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นวัดที่ได้มีการพิธีฉลองพรรษาธร องค์เพชรภัทรนาคานาคราช เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเด็กชาย 9 ขวบ แต่งกายด้วยชุดไทย เดินผ่านกลุ่มคนที่กราบไหว้ ซึ่งสังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่

จากการสอบถามเด็กวัด กล่าวว่า ในวันนั้นทางวัดไม่ได้จัดเตรียมอะไรเลย ทางเจ้าภาพได้นำมาเองทั้งหมด เครื่องเสียง โรงทาน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ตรวจที่นำรถบัสมา แม้กระทั่งเต็นท์ที่มากางในงานก็ทางเจ้าภาพเป็นคนติดต่อมายังไม่เก็บจนตอนนี้ พญานาคที่มาปั้นให้ก็ทางเจ้าภาพติดต่อกับช่างให้มาปั้นเองทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ

โดยในวันนั้นเขามาทำพิธีแล้วก็เอาป้ายที่เป็นหินมาติดตั้งและทำพิธี ไม่เกินเที่ยงของวันนั้นก็เดินทางออกจากวัดโดยบอกว่าจะไปทำบุญวัดต่อไป เท่าที่เห็นเจ้าภาพรายนี้มาทำบุญก็ได้มาบูรณะปรับปรุงห้องน้ำเพิ่มอีกแค่นั้น โดยทางวัดก็ไม่ทราบหรอกว่าจะมีเด็กเชื่อมจิตมา เพราะไม่มีใครรู้จัก ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่ได้ออกมาร่วมงาน

...

"เจ้าอาวาส" แจงละเอียดไม่รู้จัก "เด็กเชื่อมจิต" ยืนยันไม่รู้เรื่องกราบไหว้เด็ก

ทางด้าน พระครูสุภัทรธรรมโกศล หรือ หลวงพ่อดำ อายธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่ารัตนพรชัย บ.ดอนมันน้ำ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏเป็นการทำพิธีที่วัด โดยทางเจ้าภาพได้มีการถวายพญานาคที่ชื่อว่า องค์เพชรภัทรนาคานาคราช โดยมีคนมาติดต่อขอสร้าง ทางวัดก็เลยให้สร้าง เขามาทำเองทั้งหมด ตอนที่จะมาสร้างพญานาคองค์นี้ก็ได้มีการขออนุญาต แต่ทางวัดไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็เหมือนกับวัดทั่วๆ ไป ใครมาขอสร้างเราก็ให้สร้าง เพราะคิดว่าเขามีศรัทธามาสร้างให้

ส่วนวันที่มาถวาย ก็มีตำรวจมีเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้มีพิธีอะไรมาก ถวายแล้วก็ไปไหว้พระพุทธรูป โดยในงานพิธีตัวอาตมาไม่ได้มาเข้าร่วม เป็นไปตามขนบธรรมเนียมพระวัดป่า ก็จะไม่ได้มาวุ่นวายกับพิธีการอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ทุกเรื่องเขาจัดการกันเอง พิธีการต่างๆ ก็เป็นคนของเขา ไม่ได้เกี่ยวกับทางวัด แม้แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้มาวุ่นวาย เพราะชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าเขามาจากไหน ชาวบ้านจะมาก็ตอนที่ทำโรงทาน มารับของแจกโรงทานแค่นั้น

สำหรับพิธีกรรมต่างๆ ชาวบ้านไม่ได้ร่วม เป็นคนของเขาเองทั้งหมด พอข่าวออกไปหลวงตาก็ตกใจ กลัวว่าวัดจะเสียหาย เพราะสร้างวัดมา 32 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย ลูกศิษย์ลูกหาโทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น หลวงตาก็ตอบไปว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะถ้ารู้ก็จะไม่ให้สร้าง ถ้ามีปัญหาก็จะทุบทิ้งให้หมด ต่อจากนี้ไม่ว่ากลุ่มใดหรือใครจะมาขอสร้างอะไร ทางวัดก็จะไม่ให้สร้างแล้ว เข็ด

"เจ้าอาวาส" แจงละเอียดไม่รู้จัก "เด็กเชื่อมจิต" ยืนยันไม่รู้เรื่องกราบไหว้เด็ก

ขณะที่ ทางสำนักพุทธฯ มหาสารคาม ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทางวัดไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ทางหลวงตาก็ตอบไปว่า เขามาขอสร้างก็คิดว่าเป็นโยมทั่วๆ ไป มาขอสร้างโบสถ์สร้างศาลา มาขอทำนั่นทำนี่ เราก็ต้องให้ ไม่คิดว่าจะมีปัญหา เพราะวัดเป็นที่รองรับทุกเรื่องอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะไม่ให้สร้างแล้ว จะปิดวัดแล้วถ้ายุ่งยากมาก ซึ่งทางสำนักพุทธก็ได้บอกกับหลวงตาว่า ให้ระงับไว้ก่อนทุกเรื่อง ใครมาขอทำอะไรก็ให้หยุดซะก่อน ถ้ากลุ่มนี้เข้ามาขอสร้างอะไรอีก ก็ขอให้หยุดซะก่อน หลวงตาอยู่มา 32 ปีไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ พูดตรงๆ ก็คืออาตมาคือพระบ้านนอก ไม่ได้เล่นโซเชียล ไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นใครดีหรือไม่ดี

ส่วนรูปปั้นต่างๆ ภายในวัด อาทิ ถ้ำพระอุปคุตปราบมาร ก็เป็นความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ว่าเวลาเราจะทำอะไรก็ต้องมีพระอุปคุตไว้คุ้มครอง ให้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง มีพระเจ้าชัยวรมันที่เป็นองค์อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งก็มีญาติโยมมาจัดสร้างให้

สำหรับเรื่องที่ไปกราบไหว้เด็ก อาตมามองว่าไม่ถูกต้องที่จะให้คนแก่คนเฒ่าไปกราบไหว้ แต่ว่าพูดไม่ได้เพราะเป็นกลุ่มของเขา แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ก็จะว่าอยู่ว่ามันไม่ใช่ อันนี้เป็นคนของเขาทั้งหมด จะไปว่าอะไรเขาได้ ความเชื่อของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ในภาพก็มีแต่คนของเขา ชาวบ้านไม่ได้ไปร่วม

...

ทั้งนี้ อาตมาบวชมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ครูบาอาจารย์สอนว่า คำพูดทุกคำก็คือลม อะไรจะหนีความจริงไม่ได้ ความจริงมันอยู่ที่ตัวเราก็เลยเป็นกำลังใจให้กับตัวเรา พระเป็นที่รองรับของทุกเรื่อง หมู หมา แมว เอามาปล่อย พระก็ต้องเลี้ยง คนชั่วคนเลวเข้ามาขอพักพิงก็ต้องให้พักพิง พูดง่ายๆ วัดเป็นที่หล่อหลอมคน ทุกคนต้องพึ่งวัด เพราะวัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายของทุกคน.