การได้ใช้เวลาในอวกาศ ได้ชมทิวทัศน์ของโลกในมุมที่ต่างออกไป เป็นประสบการณ์ที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝัน แต่ร่างกายมนุษย์วิวัฒนาการมาให้ทำงานภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก การไปอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักจึงอาจส่งผลกระทบที่อาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะหายดี

นายบุตช์ วิลมอร์ กับ น.ส.สุนี วิลเลียมส์ 2 นักบินอวกาศของนาซา เดินทางกลับถึงโลกแล้วในวันอังคารที่ 18 มี.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากภารกิจของพวกเขาในการทดลองยาน “สตาร์ไลเนอร์” ของบริษัท โบอิ้ง ซึ่งควรใช้เวลาเพียง 8 วัน กลับทำให้พวกเขาต้องติดอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) นานกว่า 9 เดือน และตอนนี้การฟื้นตัวของพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“จนถึงตอนนี้ อวกาศคือสภาพแวดล้อมสุดขั้วที่สุดที่มนุษย์เคยเผชิญ และเราไม่ได้วิวัฒนาการมาเพื่อรับมือกับสภาพสุดขั้วแบบนั้น” ศ.เดเมียน เบลีย์ ผู้ศึกษาด้านสรีรวิทยาของมนุษย์ ที่มหาวิทยาลัยเซาท์เวลส์ กล่าว

การเข้าสู่อวกาศเปลี่ยนแปลงร่างกายมนุษย์ และจากปากคำของนักบินอวกาศ ความรู้สึกในตอนแรกนั้นมันยอดมาก

“มันรู้สึกเหมือนกับวันหยุดเลย” ทิม พีค นักบินอวกาศที่เคยขึ้นสู่ ISS ในปี 2558 กล่าว “หัวใจ กล้ามเนื้อและกระดูกของคุณมีเวลาสบายๆ คุณลอยไปลอยมาในสถานีอวกาศในสภาพแวดล้อมไร้น้ำหนักอันแสนวิเศษ”

ลองจินตนาการว่าคุณนอนเอ้อระเหยอยู่บนเตียงนานหลายสัปดาห์โดยไม่ลุกขึ้นมา คุณจะเห็นภาพมากขึ้น และนี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ตรวจสอบผลกระทบจากสภาพไร้น้ำหนัก

ผลกระทบต่อกล้ามเนื้อ

หากเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อ มีเพียง 2 กรณีคือ ใช้มัน หรือเสียมันไป ตามปกติแล้ว แค่การยืนเฉยๆ คุณก็ต้องใช้กล้ามเนื้อทั่วร่างเพื่อพยุงร่างกายให้ตั้งตรง แต่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสภาวะเกือบไร้น้ำหนักบนสถานีอวกาศนานาชาติ

...

ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมีความหมายน้อยลงเมื่ออยู่ในสภาพที่ทุกอย่างไร้น้ำหนัก กล้ามเนื้อจึงค่อยๆ ฝ่อลง

ทำให้แก่เร็ว

เวลาอยู่ในอวกาศ หัวใจและหลอดเลือดในร่างกายมนุษย์ก็มีช่วงเวลาสบายๆ เช่นกัน เพราะมันไม่ต้องออกแรงปั๊มเลือดสู้กับแรงดึงดูดของโลกแล้ว และนั่นทำให้มันอ่อนแอลง

กระดูกก็เช่นกัน มันเปราะบางมากขึ้น เพราะตามปกติ การแตกตัวของเซลล์กระดูกเก่าเพื่อสร้างกระดูกใหม่ ควรมีความสมดุลกัน แต่สมดุลนี้เสียไปเมื่อไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านและการตอบสนองจากการทำงานภายใต้แรงดึงดูด

“ทุกๆ เดือน กระดูกกับกล้ามเนื้อของพวกเขาจะฝ่อลงราว 1% มันทำให้แก่ตัวเร็วขึ้น” ศ.เบลีย์กล่าว

สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเจนเมื่อกลับมาอยู่บนโลก มีคลิปวิดีโอมากมายที่แสดงให้เห็นว่า นักบินอวกาศที่เพิ่งเดินทางกลับถึงโลก จำเป็นต้องมีคนช่วยพยุงออกจากแคปซูล และต้องนอนเปล

อยู่ในอวกาศ 9 เดือน ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร?

และนี่คือเหตุผลที่นักบินที่จะขึ้นสู่อวกาศจะต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด นอกจากนั้น พวกเขาจะต้องออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมงเป็นกิจวัตร ทั้งด้วยการวิ่งบนลู่วิ่ง, ปั่นจักรยาน และยกน้ำหนัก เพื่อรักษาสุขภาพของกระดูกและกล้ามเนื้อเอาไว้ให้มากที่สุด

ตอนนี้ บุตช์กับสุนีจะต้องเริ่มเข้าคอร์สออกกำลังกายอย่างเข้มข้นเพื่อนำการทำงานของร่างกายที่เสียไปกลับคืนมา ซึ่ง ดร.เฮเลน ชาร์แมน ชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ขึ้นสู่อวกาศกล่าวว่า การฟื้นฟูอาจใช้เวลา 2-3 เดือน เพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อกลับมา

ส่วนมวลกระดูกอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัว แต่ถึงจะฟื้นตัวกลับมาแล้ว ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในกระดูกที่เราสร้างขึ้นใหม่หลังจากกลับสู่โลก ที่อาจจะไม่มีวันกลับมาเป็นปกติโดยสมบูรณ์

ผลกระทบต่อร่างกาย

อวกาศไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับกระดูกและกล้ามเนื้อ แต่ส่งผลกับร่างกายทั้งหมด แม้แต่แบคทีเรียมีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเราอย่าง “ไมโครไบโอม” (microbiome) ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง

ของเหลวในร่างกายก็เปลี่ยนไปในสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก แทนที่มันจะไหลลงข้างล่างไปยังขาเหมือนตอนอยู่บนโลก ของเหลวกลับไหลไปที่หน้าอกกับใบหน้า ทำให้หน้าบวม ซึ่งนี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้เป็นอย่างแรกเมื่อมนุษย์ไปอยู่ในอวกาศ

แต่ภาวะนี้ก็อาจทำให้สมองบวมได้ด้วยเช่นกัน และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในลูกตา ไม่ว่าจะเป็นเส้นประสาทตา, จอประสาทตา หรือกระทั่งรูปทรงของดวงตา นำไปสู่การมองเห็นไม่ชัด และอาจกลายเป็นความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืนได้

รู้สึกมึนงง

สภาพแรงดึงดูดต่ำยังบิดเบือนระบบการทรงตัวของมนุษย์ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย และสัมผัสว่าด้านไหนคือการตั้งขึ้น แต่ในอวกาศ ไม่มีทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน ทำให้ระบบนี้รวนเวลานักบินอวกาศกลับคืนสู่โลก

นายทิม พีค กล่าวว่า “ช่วงเวลาเบื้องต้นในการหยุดความรู้สึกมึนหัว, ฟื้นฟูสมดุลร่างกาย และทำให้สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ อาจใช้เวลาเพียง 2-3 วัน” แต่ “2-3 วันแรกที่กลับมาถึงโลกนั่นแหละที่อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการลงโทษ”

...

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc