ลี เชา คี เจ้าพ่อธุรกิจและมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของฮ่องกง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยร่ำรวยที่สุดในทวีปเอเชีย เสียชีวิตแล้วขณะมีอายุได้ 97 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายลี เชา คี นักธุรกิจใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้งบริษัท “เฮนเดอร์สัน แลนด์” และหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดบนเกาะฮ่องกง ถึงแก่กรรมแล้วในวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. 2568 ขณะมีอายุได้ 97 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดแต่อย่างใด
นายลี หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “ลุงสี่” เนื่องจากเป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจค้าเงินและทองในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน
เขาย้ายไปอยู่ฮ่องกงตอนอายุ 20 ปี และก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองชื่อว่า “เฮนเดอร์สัน แลนด์” ในปี 1963 และดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารเป็นเวลานานกว่า 40 ปี จนกระทั่งเกษียณอายุในเดือนพฤษภาคม 2562 และลูกชายทั้ง 2 คนของเขาได้แก่ ปีเตอร์ กับ มาร์ติน ลี ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารบริษัทร่วมกัน
ในปี 2539 นายลีเคยถูกยกเป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย และมีทรัพย์สินมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก แต่ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายลีมีทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขาเป็นผู้ร่ำรวยที่สุดอันดับ 2 ของฮ่องกง และอันดับ 63 ของโลก
นายลีก็เหมือนเช่นตระกูลนักธุรกิจใหญ่อื่นๆ ในฮ่องกง อาณาจักรธุรกิจของเขาขยายไปไกลกว่าแค่อสังหาริมทรัพย์ โดยมีหุ้นส่วนในบริษัทมากมายตั้งแต่ด้านพลังงาน ไปจนถึงค้าปลีก และการขนส่ง นอกจากนั้นเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่หลายคน
นายลียังแตกต่างจากเศรษฐีรุ่นใหม่ของฮ่องกง ที่มักเก็บตัวเงียบไม่ออกมาเคลื่อนไหวให้เป็นจุดสนใจ แต่นายลีออกมาพูดถึงปัญหาสังคมหลายอย่าง รวมถึงเคยเรียกร้องไม่ให้คนหนุ่มสาวแต่งงานเร็ว หากยังไม่มีรายได้ที่มั่นคง รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการมีลูกจะทำให้ตั้งตัวยาก
...
ลุงสี่ผู้นี้ยังเป็นที่รู้จักเรื่องความใจบุญ โดยเขาบริจาคทรัพย์สินไปหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว ทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ โดยในปี 2561 เขาให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ หากดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเพิ่มขึ้นจนแตะ 30,000 จุด
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna