ผู้เสียชีวิตในเมียนมาจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง เพิ่มขึ้นจนมากกว่า 3,000 ศพแล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ความเสี่ยงเกิดโรคระบาดกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์กรช่วยเหลือหลายกลุ่มออกมาเตือนในวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย. 2568 ว่า อากาศร้อนจัดกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก อาจทำให้เกิดโรคระบาดในหมู่ชาวเมียนมาที่รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยพวกเขายังคงต้องตั้งแคมป์หลับนอนกลางแจ้งมาจนถึงตอนนี้
เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.7 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นเมื่อ 28 มี.ค. สร้างความเสียหายไปทั่วประเทศเมียนมา สิ่งปลูกสร้างมากมาย รวมถึงบ้านและโรงพยาบาล ถูกทำลายหรือเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่บางชุมชนได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวจนทำให้ชาวบ้านไม่มีทั้งที่อยู่ อาหาร และน้ำใช้
รัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,085 ศพแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4,715 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 341 คน
ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่าความเสี่ยงที่โรคอย่างอหิวาตกโรคกับโรคอื่นๆ จะระบาดในชุมชนที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากที่สุด อย่างเช่น ภาคมัณฑะเลย์ กับภาคสะกาย และกรุงเนปิดอว์ กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเขาได้เตรียมเสบียงยังชีพ รวมถึงถุงนอนมูลค่ารวม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อส่งให้เมียนมาแล้ว
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงเกิดโรคระบาดเพิ่มขึ้นมาจากการที่ศูนย์พยาบาลต่างๆ ในพื้นที่แผ่นดินไหว ได้รับความเสียหายไปกว่าครึ่ง โรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองมัณฑะเลย์และกรุงเนปิดอว์ถูกทำลาย จนต้องเปิดเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย
ขณะเดียวกัน ผู้คนต้องตั้งแคมป์กลางแจ้งท่ามกลางอากาศร้อน 38 องศาเซลเซียส เพราะพวกเขาไม่กล้ากลับเข้าไปในบ้าน เนื่องจากยังมีโอกาสเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา
...
ดร.เอเลนา วูโอโล รองผู้อำนวยการของ WHO สาขาเมียนมากล่าวว่า วิกฤตระยะยาวอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในเมียนมา อาจทำให้เกิดโรคระบาดหลายอย่าง ทั้งโรคผิวหนัง, มาลาเรีย และไข้เลือดออก แต่อหิวาตกโรค ยังคงเป็นโรคที่พวกเขากังวลเป็นพิเศษ เพราะมันเคยระบาดในมัณฑะเลย์มาแล้วเมื่อปีก่อน
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เนื่องจากพยากรณ์อากาศทำนายว่า จะมีฝนตกนอกฤดูกาลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. ไปจนถึงวันที่ 11 เม.ย. ทำให้ความเสี่ยงเกิดการระบาดของโรคที่มีน้ำเป็นพาหะในหมู่ประชาชนที่ต้องอาศัยอยู่กลางแจ้งเพิ่มสูงขึ้นได้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna