กลุ่มมือปืนสวมชุดลายพราง บุกเข้ามากราดยิงฝูงชนกลางงานคอนเสิร์ต จัดขึ้นที่โครคัส ซิตี้ ฮอลล์ (Crocus City Hall) ย่านครัสโนกอสค์ (Krasnogorsk) ชานกรุงมอสโกของรัสเซีย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 23 มี.ค. 2567 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 115 ศพ บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก สร้างความสะเทือนขวัญให้กับคนทั่วโลก และเหมือนเป็นการท้าทายวลาดิเมียร์ ปูติน หลังเพิ่งคว้าชัยชนะศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีรัสเซียต่ออีก 6 ปี เป็นการครองอำนาจผู้นำรัสเซียที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 200 ปี แซงหน้า โจเซฟ สตาลิน และทำให้ปูติน มีข้ออ้างว่าคนรัสเซียส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนนโยบายต่อต้านชาติตะวันตก และส่งทหารรุกรานยูเครน
เหตุก่อการร้ายคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างกระหายเลือดเป็นจำนวนมาก และขว้างระเบิดเพลิงใส่ฝูงชน จนเกิดไฟไหม้รุนแรงไปทั่วอาคารแสดงคอนเสิร์ต และในเวลาต่อมามีการอ้างว่ากลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอซิส (ISIS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุครั้งนี้ ผ่านแอปพลิเคชันแชตเทเลแกรม (Telegram) แต่จะจริงเท็จอย่างไรต้องมีการตรวจสอบ เพราะมีกระแสว่าสื่อท้องถิ่นในรัสเซียรายงานว่าข้อความนั้นเป็นของปลอม ขณะศูนย์ประสานงานภัยพิบัติยูโร-แอตแลนติก รายงานว่าทางการรัสเซียสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 ราย พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล Ak-12 ขนาด 5.45 มม.
...
ด้านสหรัฐฯ อ้างข่าวกรองยืนยันคำกล่าวอ้างของกลุ่มไอซิสมีแผนจะโจมตีในครั้งนี้ และเดือน พ.ย.ปีที่แล้วมีข้าวกรองว่ากลุ่มไอซิสต้องการจะโจมตีรัสเซีย ทำให้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนพลเมืองของตัวเองในรัสเซียให้หลีกเลี่ยงการรวมตัว โดยเฉพาะการชมคอนเสิร์ต ส่วนโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยืนยันยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่เชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังให้เกิดประเด็นพุ่งเป้ามายังยูเครน
กราดยิงรัสเซีย กระตุ้นให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่
จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นในขณะที่รัสเซียยังคงรุกรานยูเครนไม่จบไม่สิ้น ทำให้ชาวโลกบางส่วนผวาจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะอาจมีเบื้องหลังบางอย่างในการก่อการร้ายครั้งนี้ แม้มีการอ้างว่ากลุ่มไอซิสออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน ท่ามกลางการประณามของผู้นำทั่วโลกและแสดงความเสียใจต่อเหตุสูญเสียที่เกิดขึ้น จากการวิเคราะห์ของ "ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู" ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มองว่า ชาติตะวันตกได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้าได้เตือนไปแล้วว่ากลุ่มไอซิสมีเป้าโจมตีรัสเซีย ก็มีเหตุมาจากรัสเซียเคยถล่มกลุ่มกบฏในซีเรีย อยู่ทางตอนเหนือของเมืองอะเลปโป ทำให้กลุ่มไอซิสต้องหาจังหวะแก้แค้นโจมตีรัสเซีย
แต่กลับมีการโยงว่ามีความเป็นไปได้น้อยว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นฝีมือกลุ่มไอซิส และรัสเซียก็อ้างว่าไม่เชื่อว่ากลุ่มไอซิสกระทำการก่อการร้าย จนคนเกรงว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 คงไม่ใช่ และเป็นไปไม่ได้ เพราะไอซิสก็เป็นศัตรูกับชาติตะวันตกเช่นกัน แม้ไม่มีหลักฐานว่าฝ่ายใดกันแน่อยู่เบื้องหลังการกระทำก่อการร้ายกับรัสเซียก็ตาม คงไม่เป็นเหตุให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จะยิ่งทำให้ฝ่ายชาติตะวันตกได้รับผลกระทบหนักมากกว่านี้ คงไม่มีชาติใดทำอย่างนั้นอยู่แล้ว และรัสเซียก็ต้องระวัง
...
“กลุ่มก่อการร้ายในครั้งนี้ น่าจะฝังตัวอยู่ในรัสเซีย หลังรัสเซียเคยปราบกบฎในซีเรียอย่างรุนแรง พวกนี้อาจรอจังหวะก่อเหตุ แต่ก็ไม่มีข้อมูลยืนยันออกมา และไม่น่าเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะต่างฝ่ายต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ ถ้าเป็นพวกยูเครนก่อเหตุ ก็มีความเป็นไปได้ เพราะในรัสเซียมีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายยูเครน อาศัยอยู่ ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่ง และไม่ช้าไม่นานก็จะเกิดเหตุก่อการร้ายอีก ตราบใดที่รัสเซียยังรุกรานยูเครน ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่คิดหรือว่าคนยูเครน เป็นพวกชาตินิยม ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นการคาดการณ์ จะต้องมีหลักฐานใครอยู่เบื้องหลังก่อการร้าย”
ระวังคนยูเครนเจ็บช้ำ สู้ซึ่งๆ หน้าไม่ได้ ต้องเล่นทีเผลอ
อีกกรณีหากชาติตะวันตกปลอมเป็นกลุ่มไอซิส ก่อเหตุก่อการร้ายก็ไม่น่าจะสุ่มเสี่ยงกระทำ เพราะอย่างไรแล้วรัสเซียก็จับได้อยู่แล้ว อีกทั้งไม่มีหลักฐานมีการปลอมเทเลแกรมของกลุ่มไอซิสว่าเป็นอย่างไร คิดว่าชาติตะวันตกไม่กล้าทำอย่างนี้ แม้ว่าฝรั่งเศส เยอรมนี จะมีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นต่อรัสเซีย แต่คงไม่น่าทำ ขณะที่ยูเครนก็ต้องพยายามปกป้องบ้านเมืองของตัวเองจากการรุกรานของรัสเซีย คงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ก็ได้ จนต้องออกมาปฏิเสธ แต่ในระยะยาวอาจเป็นไปได้ ถ้ายังถูกรัสเซียรุกรานไปเรื่อยๆ และชาติตะวันตกก็ไม่สนับสนุนอาวุธให้เพียงพอ
...
“เมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำให้คนยูเครนเจ็บช้ำน้ำใจ เมื่อต่อสู้ซึ่งๆ หน้าไม่ได้ ก็จะเกิดเหตุการณ์เหมือนตะวันออกกลาง ไม่มีทางอื่น จะต้องเล่นทีเผลอในการก่อการร้าย และรัสเซียจะปกป้องตลอดคงไม่ได้ จะต้องตระหนักในเรื่องนี้ เพราะข่าวกรองมีทั้งถูกและผิด การที่สหรัฐฯ มาอ้างตอนนี้ว่ารู้ล่วงหน้าเป็นเพราะอะไร และก่อนหน้านั้นได้เตือนหรือไม่ หากรัสเซียรุกรานยูเครนมากขึ้น ก็อาจจะเห็นการตอบโต้อะไรบางอย่างก็ได้เป็นส่ิงที่น่าคิด”.